เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2555 ร.ต.อ.สากล ไกรนรา ร้อยเวร สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ในขบวนคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฏรเฉี่ยวชนกันเอง บริเวณตรงข้ามร้านภูเก็ตอะไหล่ยนต์ ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 (บายพาส) ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมีรถยนต์เก๋งประจำตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตถูกชนท้ายได้รับความเสียหายเล็กน้อย หลังจากได้รับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดยที่เกิดซึ่งอยู่ห่างจาก สี่แยกสัญญาณไฟจราจรโลตัส ประมาณ 500 เมตร พบรถยนต์เก๋งโตโยต้าแคมรี่สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน กจ 9893 ภูเก็ต ตรวจสอบพบร่องรอยถูกชนที่กันชนด้านหลังเสียหายเล็กน้อย ห่างออกไปเล็กน้อยพบรถยนต์เก๋งฮอนด้าซิตี้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กพ 1213 ภูเก็ต จอดอยู่ ทราบว่ายังมีรถอีกคันซึ่งเป็นรถโตโยต้า ฟอร์จูเนอร์ หมายเลขทะเบียน 2354 ภูเก็ต ซึ่งไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุเนื่องจากได้ขับตามขบวนต่อไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุรถยนต์เก๋งโตโยต้าแคมรี่คันดังกล่าว ขับโดยนายสมศักดิ์ แสงแก้ว อายุ 35 ปี ปลัดอำเภอ เลขานุการนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รอง ผู้ว่าฯ ได้ขับร่วมอยู่ในขบวนของคณะกรรมาธิการฯ โดยมีนายสมเกียรติ นั่งอยู่ภายในรถด้วย เพื่อมุ่งหน้าไปยัง ต.กะทู้ อ.กะทู้ ไปตรวจสอบพื้นที่ที่มีการบุกรุกบริเวณป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีรถยนต์เก๋งฮอนด้าคันดังกล่าว มีนายบรรเจิด หนูแก้ว อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135/1 หมู่ 4 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นคนขับและไม่ใช่รถในขบวนได้ขับแซงเข้ามาอยู่ในขบวนตั้งแต่บริเวณหน้าโบ๊ทลากูน ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุ รถขบวนชะลอความเร็วทำให้มีคันดังกล่าวชนกับรถของรองผู้ว่าฯ และถูกรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำ ซึ่งเป็นของนายวินัย ชิดเชี่ยว กำนันตำบลกะรน ที่ขับร่วมตามมาในขบวนด้วย เบรกไม่ทันชนท้ายรถยนต์เก๋งฮอนด้าคันดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เรียกคนขับรถทั้ง 3 คันมาสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป
ขณะที่นายสมเกียรติ สังข์สุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังเกิดเหตุว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางไปรับคณะกรรมาธิการฯ ดังกล่าวจากท่าอากาศยานภูเก็ต โดยมีรถในขบวนประมาณกว่า 10 คัน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุในระหว่างรถขบวนชะลอความเร็ว เนื่องจากด้านหน้ามีการล้างถนน และใกล้ถึงทางแยกตัดเข้าถนนพระภูเก็จแก้วมุ่งหน้าสู่พื้นที่เทือกเขากมลา หมู่ 1 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ระหว่างนั้นก็ถูกรถยนต์เก๋งที่ขับตามหลังมากระแทกเข้าบริเวณท้ายรถ ทำให้รถได้รับความเสียหายเล็กน้อย ส่วนตนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น