เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2555 ที่บริเวณหาดแหลมสิงห์ ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) นำโดยพ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการสำนักงาน ป.ป.ท. พร้อมคณะ ได้เข้าตรวจสอบที่ดินบริเวณหาดแหลมสิงห์ ต.กมลา หลังจากได้มีตัวแทนชาวบ้านซึ่งประกอบอาชีพอยู่บริเวณหาดดังกล่าว จำนวนประมาณ 100 คน นำโดยนายสมนึก ก่อแก้วและนายเสริมสิทธิ์ ลิพอนเขตต์ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียน เพื่อขอให้ทำการตรวจสอบกรณีเจ้าของที่ดินปิดทางขึ้น-ลงชายหาด และมีการออกเอกสารสิทธิทับลำรางสาธารณะ
นายสมนึก ก่อแก้ว ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า การยื่นหนังสือร้องเรียน เนื่องจากตนและชาวบ้าน ที่ประกอบอาชีพอยู่บริเวณดังกล่าว รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ขึ้น-ลงชายหาดแหลมสิงห์ ในแต่ละวันจะมีจำนวนประมาณ 500-700 คน ได้รับความเดือดร้อนจากการที่มีผู้มาปิดปากทางขึ้นลงชายหาดดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านได้ใช้กันมาเป็นเวลานานแล้ว รวมทั้งอยากให้มีการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิทับลำรางสาธารณะบริเวณดังกล่าวด้วย
“ตนได้ทำมาหากินอยู่ในพื้นที่มากว่า 30 ปี ก่อนหน้านี้ชาวบ้านสามารถขึ้นลงชายหาดและใช้น้ำลำรางสาธารณประโยชน์ได้อย่างอิสระ แต่หลังจากที่มีการออกโฉนดให้กับนายทุนเมื่อในปี พ.ศ.2553 และเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ที่ผ่านมา ก็ได้มีการดำเนินการปรับพื้นที่และล้อมรั้วตามแนวถนนและปิดทางขึ้นลงหาดแหลมสิงห์ ซึ่งหากปล่อยไปเช่นนี้ชาวบ้านหรือนักท่องเที่ยวก็ไม่สามารถที่จะลงไปเล่นน้ำบริเวณชายหาดแหลมสิงห์ได้อีก และจะกลายเป็นชายหาดส่วนตัว จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า การเข้ามาตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินของ ป.ป.ท.นั้น มี 2 ประเด็น คือ การตรวจสอบข้าราชการที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ และการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ที่มีภูมิประเทศติดป่าเขา ซึ่งไม่น่าจะออกเอกสารได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบจำนวนมากกว่า 10 แปลง เนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ และมีมูลค่ามหาศาล โดยในกรณีของหาดแหลมสิงห์นั้นก็จะได้ทำการตรวจสอบที่มาที่ไปของโฉนด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ รวมทั้งจะได้ตรวจสอบด้วยว่าเป็นความบกพร่องของใคร กรณีที่มีการออกเอกสารสิทธิในที่ลำรางสาธารณะซึ่งประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน
นอกจากนี้ ในวันเดียวกันทาง เลขาฯ สำนักงาน ป.ป.ท. ได้ตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลนคลองบางชีเหล้า - ท่าจีน บ้านกู้กู หมู่ 3 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งมีชาวบ้านร้องเรียนว่า นายทุนได้ทำการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนไปประมาณ 70 ไร่ และได้มีการออกโฉนดไปแล้วจำนวนหนึ่ง โดยกล่าวภายหลังการลงพื้นที่แปลงดังกล่าว ว่า เบื้องต้นจากสายตาพบว่าเป็นป่าชายเลนเต็มแปลงตลอดแนวและน้ำทะเลท่วมถึง ปัจจุบันเป็นป่าชายเลนเสื่อมโทรมบางส่วน เนื่องจากมีการขุดลอกเป็นลำคลองและยังเป็นป่าชายเลนสมบูรณ์บางส่วน เนื่องจากมีป่าโกงกางขึ้นตามธรรมชาติ โดยไม่มีการทำประโยชน์ใดๆ ซึ่งก็จะได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น