เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2555 ที่ห้องประชุม สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ สมาชิกวุฒิสภา สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา พร้อมคณะได้ร่วมกันแถลงข่าว ภายหลังลงตรวจสอบการก่อสร้างโครงการอาคารที่พักอาศัยข้าราชการตำรวจ (แฟลต) ของ สภ.ถลาง สภ.ทุ่งทอง และสภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งมีบริษัท พีซีซีดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้รับเหมาภายหลังจากที่ได้รับการร้องเรียนจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ว่า
โครงการดังกล่าวไม่มีความคืบหน้า สร้างความเดือดร้อนให้กับข้าราชการตำรวจซึ่งไม่มีที่พักอาศัย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับโครงการเดียวกันนี้ และโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจภูธรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในพื้นที่ต่างๆ ว่า มีปัญหาและพบข้อบกพร่องหลายอย่าง โดยเฉพาะความไม่ได้มาตรฐานของวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง รวมทั้งยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ หรือมีปริมาณงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งๆ ที่ใกล้หมดระยะเวลาตามสัญญา
พล.ต.ท. มาโนช กล่าวว่า การลงตรวจสอบพื้นที่ในครั้งนี้เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากข้าราชการตำรวจเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจทดแทน จำนวน 396 แห่งทั่วประเทศ และโครงการอาคารที่พักอาศัยข้าราชการตำรวจ (แฟลต) จำนวน163 แห่ง งบประมาณรวม 8,000 กว่าล้านบาท ซึ่งได้มีการดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งได้เคยมีการตั้งกะทู้ถามรัฐบาลไปแล้ว และหลังจากนั้นไม่นานทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ก็ได้ทำหนังสือร้องเรียนมายังคณะกรรมาธิการฯ ใช้ช่วยตรวจสอบการก่อสร้างในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 ด้วย เนื่องจากมีการก่อสร้างอาคารที่พัก 8 แห่งและอาคารสถานีตำรวจอีก 26 แห่ง งบก่อสร้างรวมประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า บางพื้นที่ผู้รับเหมาทิ้งงานไปแล้ว สังเกตได้จากอาคารที่ปล่อยทิ้งร้างไม่มีการก่อสร้างเพิ่มเติม และไม่มีที่พักของคนงาน หรือที่เหลืออยู่ก็เพียง 2-3 คน ซึ่งไม่น่าแล้วเสร็จตามสัญญาที่กำหนดไว้
“ความเดือดร้อนของข้าราชการตำรวจนั้นต้องแยกเป็น กรณีการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจทดแทน ซึ่งบางส่วนได้มีการรื้อถอนอาคารที่ทำการเดิมไปแล้ว แต่ปรากฏว่าบางแห่งมีเพียงการตอกเสาเข็มค้างไว้ บางแห่งก็ก่อสร้างไปเพียงบางส่วนแล้วทิ้งค้างไว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงานไม่มีสถานที่ในการปฏิบัติงาน ต้องไปใช้โรงจอดรถ เต็นท์ หรือบ้านพักมาทำเป็นที่ทำการชั่วคราว ขณะที่ประชาชนซึ่งไปติดต่อราชการก็ไม่ได้รับความสะดวก นอกจากนี้ยังมีในส่วนของผู้ต้องหาที่ถูกคุมขัง ซึ่งต้องนำไปควบคุมตัวไว้ในรถรับส่งผู้ต้องขัง ขณะที่เรื่องของอาคารพักอาศัย ซึ่งเมื่อการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ก็ทำให้ข้าราชการที่ไม่มีที่พักต้องไปเช่าที่พักและได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากในบางพื้นที่มีค่าเช่าก็สูงมาก เช่น ป่าตอง เป็นต้น”
พล.ต.ท.มาโนช ยังกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีกลุ่มของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจรับงาน หรือบรรดาผู้บังคับการ ผู้กำกับการของกองอำนวยการกองบัญชาการต่างๆ ซึ่งไม่ได้มีความรู้เรื่องการก่อสร้างเลย แต่ต้องมารับผิดชอบในการตรวจรับงาน ซึ่งเกรงว่าเมื่อเกิดปัญหาขึ้นเนื่องจากอาคารที่ก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานก็จะมีความผิดตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.มาโนช กล่าวอีกว่า ขั้นตอนการดำเนินการหลังจากนี้ จะต้องสอบสวนต่อไปอีกว่าในสัญญาจ้างมีการว่าจ้างกันอย่างไร เท่าที่พบเบื้องต้นคือ ห้ามไม่มีให้มีการรับเหมาช่วงต่อ แต่ปรากฏว่ามีการรับเหมาช่วงต่อให้ผู้รับเหมาในพื้นที่ทำอีกทอดหนึ่ง เมื่อผู้รับเหมาในพื้นที่ทำประสบปัญหาขาดทุน เพราะเงินที่ได้รับมาต้องถูกตัดทอนลงไปบางส่วน ทำให้ขาดทุนและต้องทิ้งงาน แม้ว่าขณะนี้ในบางพื้นที่จะมีการขยายเวลาก่อสร้างออกไป แต่เท่าที่ได้ลงพื้นที่พบว่ามีปัญหาค่อนข้างมาก เพราะบางพื้นที่ยังไม่ได้รับมอบพื้นที่ให้กับผู้รับเหมา เนื่องจากแบบแปลนไม่เหมาะกับสภาพพื้นที่
นอกจากนี้ พล.ต.ท.มาโนช กล่าวด้วยว่า จากการตรวจหากพบว่ามีการทุจริตก็จะส่งเรื่องไปยังวุฒิสภา เพื่อให้ลงความเห็นและส่งเรื่องไปยังสำนักงาน ปปช.ต่อไป ส่วนเรื่องวัสดุก่อสร้างและตัวอาคารจะได้มาตรฐานหรือไม่นั้นก็จะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ตรวจสอบ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (15 มี.ค.55) ก็จะได้เชิญในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาชี้แจง รวมถึงจะต้องฟังข้อมูลจากผู้รับจ้างด้วย จากนั้นจึงจะได้ประมวลข้อมูลเสนอต่อวุฒิสภา และสอบถามการดำเนินการของรัฐบาลต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น