จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2555

สหภาพแรงงานลากูน่า บีช ยื่นหนังสือจังหวัด



เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2555 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ภายหลังจากประชุมคณะอนุกรรมการอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 1/2555 นายวิเชียร ตนุมาตร ประธานสหภาพแรงงานลากูน่า บีช รีสอร์ท ภูเก็ต ได้ยื่นหนังสือถึงนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผ่านทาง น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีบริษัท ลากูน่า บีช คลับ จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงแรมลากูน่า บีช รีสอร์ท ภูเก็ต ได้แจ้งว่าจะมีการปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงาน เพื่อส่งมอบกิจการให้กับผู้ลงทุนรายใหม่ซึ่งจะมีการปิดเพื่อปรับปรุงโรงแรมชั่วคราว ด้วยเกรงว่าจะไม่ได้รับความธรรมในเรื่องของการทำงานและค่าตอบแทน

ทั้งนี้หลังจากรับหนังสือดังกล่าว น.ส.สมหมาย กล่าวว่า คงต้องขอไปดูในรายละเอียดว่าเป็นเช่นไร และจะได้มอบหมายให้ทางสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว เพื่อหาแนวทางในการดำเนินการดูแลและแก้ไขต่อไป

ด้านนายวิเชียร ตนุมาตร ประธานสหภาพแรงงานลากูน่า บีช รีสอร์ท ภูเก็ต กล่าวถึงเหตุที่ยื่นหนังสือร้องเรียน ว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ทางโรงแรมได้มีประกาศแบบฟ้าฝ่าในการที่จะเลิกจ้างพนักงานทั้งหมดจำนวนประมาณ 350 คน โดยได้แจ้งว่าจะทำการปิดกิจการ และจะต้องส่งมอบกิจการโรงแรมลากูน่าฯ ให้แก่ผู้ลงทุนใหม่ โดยการบริการของบริษัทฯแก่ลูกค้าจะสิ้นสุดในวันที่ 8 พฤษภาคม 2555 นี้ เหลือเฉพาะงานดูแลซ่อมบำรุงทรัพย์สิน และการสะสางงานให้เสร็จ เมื่อบริษัทฯ ปิดลงแล้ว ผู้ลงทุนใหม่ก็จะเข้ามาทำการปรับปรุง และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณไตรมาสแรกของปี 2556 ทางบริษัทฯ ได้ประสานกับผู้ลงทุนใหม่ให้พิจารณาใบสมัครของพนักงานเดิมที่ยื่นต่อบริษัทใหม่เป็นลำดับแรก ทางบริษัทฯ ยังแจ้งด้วยว่าจะมีการจ่ายค่าชดเชยให้แก่พนักงานที่ถูกเลิกจ้างอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงค่าจ้างและเงินใดๆ ที่พนักงานมีสิทธิได้รับตามระเบียบของบริษัทฯ นอกจากนี้ในระหว่างรอการปิดตัวก็จะมีการพิจารณาเพื่อให้โบนัสพิเศษจากผลการทำงานให้กับพนักงานเป็นระยะเวลา 1 เดือนด้วย

ด้วยสหภาพฯ เห็นว่าการเลิกจ้างดังกล่าวไม่เป็นธรรมกับพนักงานส่วนใหญ่ซึ่งทำงานมากับทางโรงแรมกว่า 20 ปี และนายจ้างไม่มีการหาทางออกในการบริหารจัดการกับทุกฝ่ายโดยเฉพาะองค์กรที่ดูแลลูกจ้างหรือสหภาพแรงงานฯ เป็นการตัดสินใจและใช้อำนาจในการบริหารฝ่ายเดียว เพราะตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 2541 มาตรา 13 บอกว่า กรณีที่กิจการใดมีการเปลี่ยนแปลงตัวนายจ้างเนื่องจากการโอน รับมรดกหรือด้วยประกาอื่นใด หรือกรฯนายจ้างเป็นนิติบุคคลและมีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง โอน หรือควบกับนิติบุคคลใดๆ สิทธิต่างๆ ที่ลูกจ้างมีต่อนายจ้างเดิมเช่นใดให้ลูกจ้างมีสิทธิเช่นนั้นต่อไป และในส่วนของสหภาพแรงงานฯ เองก็มีข้อตกลงการจ้างร่วมกับบริษัทลากูน่า บีช คลับ จำกัด เมื่อปี 2553 ข้อเรียกร้องที่ 21 กรณีบริษัทมีการถ่ายโอนหรือขายกิจการให้แก่นายจ้างใหม่และจะต้องระบุในสัญญาให้นายจ้างใหม่รับสวัสดิการพนักงานทุกอย่างต่อเนื่องทันที ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 2541มาตรา 13 นอกจากนี้ยังไม่ให้ความสำคัญที่จะปฏิบัติตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ 2518 ด้วย

ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมถูกต้องแก่ทุกฝ่ายตามระบบทั้งหลักนิติรัฐและรัฐศาสตร์ในการบริหารจัดการทางสหภาพฯ จึงขอให้ทางจังหวัดเข้าไปช่วยดูแลเพื่อความถูกต้องและเป็นธรรมต่อเหตุการณที่เกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นเกรงว่าหลังจากวันที่ 8 พฤษภาคม 2555 ไปแล้วจะมีลูกจ้างในกลุ่มนี้ตกงานอย่างแน่นอน นายวิเชียรกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น