เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2555 ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต พนักงานคานเรือ “รัตนชัยคานเรือ” เลขที่ 60/58 ม.7 ถนนท่าเรือใหม่ ต.รัษฎา และชาวบ้านท่าเรือใหม่ ประมาณ 20 คน นำโดยนางสาวปองจิต เกตุรัตน์ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายประพันธ์ ขันธ์พระแสง ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต หลังได้รับความเดือดร้อนจากโรงงานปลาป่นของแพแสงอรุณส่งกลิ่นเหม็นรบกวน
ทั้งนี้นางสาวปองจิต กล่าวว่า ตนและชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นจากการต้มปลา นอกจากนี้ยังมีละอองน้ำที่ ออกมาจากปล่องควันพร้อมด้วยขี้เขม่าการเผาไม้ฟืนของโรงงานปลาป่นของแพแสงอรุณ ซึ่งเกิดจากการจัดการที่ไม่สมบูรณ์และไม่ถูกสุขลักษณะ นอกจากนี้ยังมีชาวต่างชาติที่นำเรือยอร์ช เรือใบ ไปซ่อมบำรุงที่คานเรือ ก็ได้ทำหนังสือร้องเรียนพร้อมทั้งตำหนิแนบมากับหนังสือร้องเรียนดังกล่าวด้วย เหตุดังกล่าวจึงเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อการท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ต
อย่างไรก็ตามชาวบ้านไม่สามารถที่จะทนต่อกลิ่นเหม็นได้ เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนมานานนับปีแล้ว ซึ่งปัจจุบันมีกลิ่นเหม็นทุกวัน และมีความรุนแรงกว่าอดีตที่ผ่านมา บางครั้งทำให้ลูกค้าของคานเรือ พนักงานที่ทำงานที่คานเรือเกิดอาการคลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ บางคนโดนละอองน้ำที่ออกมาจากปล่องควันเกิดอาการคันทั้งตัว เป็นผดผื่น และบางครั้งบนดาดฟ้าเรือยอร์ชและใบเรือหรือตัวเรือที่โดนละอองน้ำจากปล่องควันจะเป็นจุดสีเหลืองๆ คล้ายสนิมจากเหล็กล้างไม่ออก และกลิ่นเน่าเหม็นจะฝังลึกในเนื้อผ้าทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นเหม็น และเท่าที่สังเกตดูลูกค้าชาวต่างชาติที่เคยนำเรือยอร์ชและเรือใบมาเข้าซ่อมที่คานเรือจะไม่นำเรือมาซ่อมที่คานเรือดังกล่าวอีก ทำให้ผู้ที่ทำงานอยู่ที่คานเรือได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
จึงได้เข้ามาร้องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแนบหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวนี้ช่วยแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน โดยขอให้ทางโรงงานปลาป่นแก้ไขปัญหาเรื่องการส่งกลิ่นเหม็นรบกวนดังกล่าวให้หมด
ทางด้านนายประพันธ์ ขันธ์พระแสง ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวกับผู้ที่มายื่นหนังสือว่า ทางจังหวัดจะมีการตั้งคณะกรรมการโดยมีหน่วยงานเกี่ยวข้องลงไปดูแลตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งจะเป็นวันเวลาใดนั้นจะแจ้งให้ทางชาวบ้านทราบอีกครั้ง จากนั้นช่สบ้านก็ได้แยกย้ายกันกลับบ้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น