เมื่อเช้าวันที่ 9 มีนาคม 2555 ที่อาคารศาลาประชาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต อ.เมือง ภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัครรับการเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต หลังจากได้เปิดรับสมัครมาตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2555 โดยมีนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ อดีตนายกอบจ.ภูเก็ตเดินทางมาสมัครเพียงรายเดียว
โดยในวันนี้ นายวิสุทธิ์ สันติกุล อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต 2 สมัยที่ผ่านมา ได้เดินทางมาพร้อมกับนายวรรณกร พัฒนประกร พร้อมด้วยเอกสารการสมัคร แต่ก็ไม่ได้เดินทางเข้าไปยังบริเวณซึ่งจัดให้เป็นสถานที่รับสมัคร เพียงแต่เดินมานั้นอยู่บริเวณโต๊ะที่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งจัดให้เป็นโต๊ะสำหรับผู้สื่อข่าว ซึ่งทางผู้สื่อข่าวก็ได้สอบถาม ซึ่งนายวิสุทธิ์ ก็ได้แต่เพียงบอกว่ารอเวลา และเอกสารบางอย่างที่ยังไม่ครบ จึงยังไม่เข้าไปสมัครก่อน
จนกระทั่งเวลา 09.55 น.ภายหลังนายวิสุทธิ์ ได้รับโทรศัพท์ นายวิสุทธิ์ก็ได้แถลงข่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองที่เดินทางมาวันนี้จะมาสมัครรับการเลือกตั้งเป็นนายกอบจ.ภูเก็ต ซึ่งจากที่ดูมา 8 ปี จากเดิมในฐานะเป็นรองนายกอบจ.ภูเก็ต เมื่อ 2 สมัยที่แล้ว หรือ 8 ปีที่ผ่านมา โดยในขณะนั้นอบจ. มีงบประมาณ 400 ล้าน จนปัจจุบันมีเกือบ 1,000 ล้าน ก็ยังพบปัญหาเดิมๆ ในพื้นที่อยู่ เช่น ปัญหาการจราจร ซึ่งน่าจะมีการดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนกว่านี้ โดยการทำป้ายชี้ให้เห็นทางลัด หรือมีการตัดถนนสายใหม่ เชื่อมทางเบี่ยง ทางเลี่ยงให้มากขึ้น เพื่อแก้ปัญหารถติด นอกจากนั้นยังมีเรื่องของการประสานหาผู้สนับสนุนทีม เอฟซี ฟุตบอลภูเก็ต ด้วยการหากลุ่มภาคเอกชนที่มีความสนใจเข้ามาช่วยดูแล ซึ่งจะเป็นการช่วยส่งเสริมในการท่องเที่ยวได้ อีกทั้งจะยังมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่นต่างๆ ให้เทียบเท่ากับแหล่งท่องเที่ยวหลักที่ได้รับความนิยม เรื่องของการท่องเที่ยว เรื่องของโรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนอยากจะเข้าไปทำ โดยอบจ.จะต้องมีนโยบายที่ชัดเจนและรองรับคนทุกกกลุ่ม ไม่เลือกเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และการจ้างผู้บริหารก็ควรที่จะมาจากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ไม่จำเป็นต้องจ้าง
นายวิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า รู้สึกขอบคุณผู้ที่สนับสนุนและอยากให้ตนลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การ บริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ แต่ก็ต้องฝากขอโทษไปยังผู้สนับสนุนทุกฝ่าย ซึ่งตนไม่อยากลงแข่งขันในสนามที่มองว่าไม่แฟร์ ซึ่งการลาออกของอดีตนายก ไม่สมเหตุสมผล และมีการจัดการเลือกตั้งที่เร็วเกินไป ซึ่งไม่เป็นธรรมสำหรับคู่แข่ง อีกทั้งตนไม่สามารถที่จะออกไปพบปะกับพี่น้องประชาชนเพื่อเสนอนโยบายได้ทั่วจังหวัดภายในเวลาเพียงแค่ 20 วันที่กำหนดได้ และหากผู้ที่ได้รับเลือกเป็นนายกสนใจที่จะนำนโยบายของตนไปใช้หรือไปต่อยอดก็ได้ ตนก็ยินดี นอกจากนี้ยังต้องขอขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุนในการเลือกตั้งครั้งนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น