จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

โชว์ศักยภาพช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล



เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2555 ที่บริเวณชายหาดหน้ากองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ต.วิชิต อ.เมือง ภูเก็ต พล.ร.ท.ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นประธานเปิดการฝึกซ้อมการบรรเทาสาธารณภัยทางทะเลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รองผบ.ทรภ.3 ผู้แทนจากศูนย์นเรนทร มูลนิธิต่างๆ และหน่วยงานใน ศรชล.เขต 3 ตัวแทนจากองค์กรต่างๆ ประชาชนและนักเรียน เข้าร่วมชมการฝึกซ้อมในครั้งนี้ นอกจากนั้นยังได้จัดให้มีการปล่อยเต่าทะเลคืนสู่ธรรมชาติ
จำนวน 129 ตัว ตามโครงการชกมวยช่วยเต่าด้วย


พล.ร.ท.ธราธร ขจิตสุวรรณ ผบ.ทรภ.3 ได้กล่าวว่า พื้นที่รับผิดชอบของทัพเรือภาคที่ 3 ตลอดแนวชายฝั่ง ทะเลอันดามัน ตั้งแต่จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ความยาวประมาณ 300 ไมล์ทะเล และภายใน พื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ ประมาณ 30,000 ตารางไมล์ทะเล โดยมีภารกิจกลักในภาวะปกติคือการให้ความปลอดภัยกับประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการที่ได้ดำเนินกิจกรรมที่มีความเกี่ยวเนื่องทางทะเล โดยมีการจัดเรือ อากาศยานออกลาดตระเวน ครอบคลุมพื้นที่ตลอดเวลา รวมทั้งการปฏิบัติงานของศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเล ในพื้นที่ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของการท่องเที่ยวทะเลชายฝั่งทะเลอันดามัน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและปลอดภัย ส่งผลดีให้เกิดกับประเทศชาติ 


สำหรับจังหวัดภูเก็ตนั้นถือว่าเป็นยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางทะเลเป็นหัวใจที่สำคัญ เนื่องจากสภาภูมิประเทศที่เป็นเกาะ มีชายหาดที่สวยงาม ทำให้เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นจำนวนมาก ดังนั้นปัจจัยหนึ่งที่จะสร้างความเชื่อมั่น ให้กับนักท่องเที่ยวได้คือเรื่องความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งหน่วยที่ทำหน้าที่ในเรื่องดังกล่าว จะต้องมีความพร้อมทั้งบุคคล และอาวุธยุทโธปกรณ์ สามารถปฏิบัติการได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ 


พล.ร.ท.ธราธร ยังกล่าวอีกว่า ทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะที่เป็นหน่วยหลักในการดำเนินการช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัยทางทะเล จึงได้ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต อปท.ต่างๆ ศูนย์นเรนทร มูลนิธิต่างๆ จัดให้มีการฝึกซ้อม การบรรเทาสาธารณภัยทางทะเลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตขึ้น และหลังจากนี้จะขยายผลดำเนินการไปยังจังหวัดอื่น ในพื้นที่ครบทั้ง 6 จังหวัดอันดามัน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของกำลังพล ยุทโธปกรณ์ ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงานร่วมกันในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทางทะเลในสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมทั้งจะเป็นแนวทางในการประสานการปฏิบัติงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อหาข้อขัดข้องและข้อปรับปรุงที่จะทำให้การปฏิบัติร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ซึ่งจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นกับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งและเกาะแก่งต่างๆ ผู้ประกอบกิจการทางทะเล และนักท่องเที่ยว 


พล.ร.ท. ธราธร กล่าวอีกว่า ด้วยศักยภาพการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ผ่านมาโดยทางเฮลิคอปเตอร์ โดยในขณะนี้ทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้เปิดลานจอด ฮ.ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวไปแล้วหลายแห่ง เช่นที่จังหวัดระนอง เกาะสุรินทร์ เกาะสิมิลัน จ.พังงา และเกาะราชา จ.ภูเก็ต ซึ่งหลังจากเปิดลอนจอด ฮ.ที่เกาะราชาได้เพียงวันเดียว ทางทรภ.3 ก็ได้นำเครื่องไปลงเพื่อให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ประสบอุบัติเหตุจมน้ำ และนำตัวกลับมารักษาได้อย่างทันท่วงที ส่วนพื้นที่ที่มีความจำเป็นจะต้องจัดสร้างลาน ฮ เพิ่มอีก 1 แห่ง คือที่เกาะพีพี แต่ขณะนี้ติดปัญหาเรื่องของสถานที่ที่ยังไม่ได้ จริงๆ แล้วพื้นที่จุดนี้มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีลานจอด ฮ. เพื่อให้สามารถช่วยเหลือนักท่องเที่ยวกรณีเกิดเหตุได้อย่างทันท่วงที เพราะที่ผ่านมาในพื้นที่ดังกล่าวมีเหตุที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวบ่อยครั้ง ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการหารือเรื่องของสถานที่ ถ้าได้มาก็พร้อมที่จะดำเนินการทันทีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวได้เพิ่มมากขึ้น 


ด้านพล.ร.ต.พรชัย ปิ่นทอง เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการฝึกซ้อมในครั้งนี้ได้กล่าวว่า สำหรับการฝึกซ้อมครั้งนี้ได้กำหนดสถานการณ์การฝึกไว้ 3 สถานการณ์ โดยเริ่มจาก การลำเลียงผู้ป่วยด้วยเฮลิคอปเตอร์จากเกาะราชาใหญ่ เพื่อแสดงถึงความสำคัญที่ได้มีการจัดสร้างลานเกาะราชาใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น จะสามารถดำเนินการได้ทันทีและรวดเร็ว 


จากนั้นจะเป็นสถานการณ์การเรือสินค้าชนกับเรือท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวที่อยู่บนเรือท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ และได้กระโดดลงทะเลลอยคออยู่เป็นจำนวนมาก ทางทรภ.3 ได้รับแจ้ง ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมเรือยางเข้าทำการช่วยเหลือ พร้อมทั้งได้สนธิกำลังจากหน่วยงานต่างๆ พร้อมทั้งได้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้น เพื่อคัดกรองผู้ประสบภัย ก่อนนำผู้ป่วยที่อาการสาหัสส่งรพ.ต่อไป 


และสถานการณ์สุดท้าย จะเป็นสถานการณ์ที่เกิดจากภัยธรรมชาติ หรือภัยที่มนุษย์ได้ก่อขึ้น และมีความจำเป็นที่จะต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย โดยมีการอพยพประชาชนขึ้นไปยังเรือหลวงมันนอก และเรือหลวงมันใน ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบก เพื่ออพยพประชาชนไปยังจุดที่ปลอดภัยต่อไป 





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น