นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุการณ์มีคนใช้อาวุธปืนทำร้ายผู้อื่นจนเสียชีวิต 2 รายในช่วงระยะเวลาไล่เลี่ยกันในพื้นที่ จ.ภูเก็ต รายแรกคือนายวิสุทธิ์ ตั้งวิทยาภรณ์ เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์อินไซด์ภูเก็ต เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา และอีกรายเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์ถือเป็นคดีอุจฉกรรจ์และสะเทือนขวัญค่อนข้างมาก ซึ่งตนก็ได้มอบนโยบายและสั่งการไปยังรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตให้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจของสถานีตำรวจภูธรต่างๆ ทุกสถานีเพิ่มความเข้มและความถี่ในการตั้งจุดตรวจต่างๆ เพื่อป้องกันและป้องปรามเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นอีก ซึ่งหากกำลังไม่เพียงพอก็ขอให้ประสานมายังจังหวัดเพื่อสนธิกำลังร่วมกับทางฝ่ายปกครอง ชุดเฉพาะกิจจังหวัดและกำลังอาสาสมัคร ซึ่งพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
“ในเรื่องอาวุธปืนได้กำชับไปยังนายอำเภอทุกอำเภอให้ตรวจสอบรายละเอียดของผู้ที่มาขออนุญาตอาวุธปืนร้ายแรง ทั้งในเรื่องฐานะความเป็นอยู่และพฤติกรรม เพื่อเป็นการตรวจทานและป้องกันในเบื้องต้น จากรายงานที่ได้รับ พบว่าในปีที่ผ่านมามีการออกใบอนุญาตอาวุธปืนน้อยมาก ส่วนอาวุธปืนที่มีการนำเข้ามาจากพื้นที่อื่น ก็ต้องอาศัยการตรวจสอบของด่านตรวจต่างๆ โดยเฉพาะด่านตรวจภูเก็ตที่บริเวณท่าฉัตรไชย ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.ท่าฉัตรไชย นับเป็นด่านแรกในการเดินทางเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต รวมไปถึงความเข้มงวดในการตรวจตราสถานประกอบการบันเทิงต่างๆ ตามคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย เชื่อว่าหากมีการเพิ่มความถี่ในการตั้งจุดตรวจหรือตรวจตราสถานที่ซึ่งล่อแหลมต่างๆ มากขึ้น ก็จะเป็นการช่วยป้องปรามและลดการกระทำความรุนแรงหรือการใช้อาวุธได้ในระดับหนึ่ง”
อย่างไรก็ตามนายตรี กล่าวด้วยว่า นอกจากเหตุอุจฉกรรจ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่แล้ว ขณะนี้ก็มีคำเตือนเรื่องการก่อการร้ายซึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่กรุงเทพมหานคร แต่เราก็ไม่ประมาท ซึ่งก็ได้สั่งการไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบแล้วไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครองในการติดตามในเรื่องอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเราเป็นเมืองท่องเที่ยว และมีชาวต่างชาติจากหลากหลายเชื้อชาติเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในระยะนี้กลุ่มตะวันออกกลางก็เข้ามาเป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งจะต้องมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะโรงแรมที่พักซึ่งมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวยุโรปซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเข้าพักเป็นจำนวนมาก ก็ได้ประสานและกำชับไปยังผู้ประกอบการได้เพิ่มความระมัดระวังในการตรวจสอบและเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะหากเกิดเหตุร้ายขึ้นเพียงหนึ่งหรือสองจุดก็จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตได้
ส่วนความคืบหน้ากรณียิงนายวิสุทธิ์ ตั้งวิทยากรณ์นั้น นายตรี กล่าวว่า เนื่องจากเป็นคดีอุจฉกรรจ์และมีการก่อเหตุในช่วงกลางวันซึ่งมีคนพลุกพล่าน ฉะนั้นหากจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นของประชาชนและนักท่องเที่ยวว่ามาภูเก็ตแล้วปลอดภัยก็จะต้องจับกุมคนร้ายมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว ซึ่งก็เชื่อว่าน่าจะสามารถจับตัวคนร้ายมาลงโทษได้ในเร็วๆ นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น