เมื่อคืนวันที่ 13 มกราคม 2555 ร.ต.อ.ธีระศักดิ์ บุญแสง ร้อยเวร สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ตได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้ากะหลิมซอย 6 – 7 ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ หลังรับแจ้งก็ได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว ผกก.พ.ต.ท.กิตติพงษ์ คล้ายแก้ว รอง.ผกก.สส.เจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ภูเก็ตและหน่วยกู้ชีพมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต
ที่เกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณถนนเลียบชายหาดกะหลิม ซึ่งเป็นถนนสายรอบเกาะ ที่จะเดินทางจากหาดป่าตอง ไปยังหาดกมลา เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางถึง พบร่างชายนอนจมกองเลือดหายใจรวยรินอยู่บริเวณพื้นถนนข้างรถ จยย.ฮอนด้าดรีม สีน้ำเงิน-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนที่ล้มคว่ำอยู่ จากนั้นหน่วยกู้ชีพพยายามปั้มหัวใจ พร้อมนำส่ง รพ.ป่าตอง แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือ นายจักรกฤต หนูทัด อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม.เข้าที่บริเวณหลังจำนวน 6 นัดกระสุนทะลุหน้าอก ด้านหน้ามีรอย 7 แผล บริเวณแขนอีกจำนวนหนึ่ง รวมประมาณ 21 แผลบริเวณที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด 11 มม.ตกอยู่ที่พื้นจำนวน 11 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายจักรกฤตขี่รถ จยย.คันดังกล่าวเพื่อกลับเข้าบ้านพักภายในกะหลิม ซอย 8 ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางเปลี่ยว ได้มีชายฉกรรจ์ 2 คน ซึ่งขี่รถ จยย.ไม่ทราบยี่ห้อ-สีและทะเบียนขี่ตามมาจากด้านหลัง จากนั้นคนซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืนออกมาจ่อยิงระยะ กระชั้นชิดเข้าที่บริเวณหลัง ทำให้รถ จยย.ของนายจักรกฤตล้มคว่ำทันที และคนร้ายได้ขี่รถ จยย.หลบหนีไปทางหาดกมลา ต.กมลา อ.กะทู้ ทั้งนี้ในแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่านายจักรกฤตและพวกได้เข้าครอบครองที่ดินบริเวณกะหลิมซอย 7-8 ถ.พระบารมี ต.ป่าตองโดยปรปักษ์ ซึ่งเป็นของเครือญาติอดีตนักการเมืองระดับประเทศและเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงตั้งอยู่ตรงข้ามชายหาดกะหลิม ห่างกันเพียงถนนกั้น มีมูลค่านับพันล้านบาท โดยนายจักรกฤตและพวกได้อ้างกรรมสิทธิ์ในการเข้าครอบครองมานานหลายสิบปี จนกระทั่งเมื่อหลายปีก่อนเจ้าของเอกสารสิทธิ์ได้ร้องต่อศาลเพื่อขอสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินแปลงดังกล่าว โดยทางจังหวัด-ฝ่ายปกครอง-อำเภอกะทู้และเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมรถแบคโฮได้เข้ารื้อสิ่งปลูกสร้างตามอำนาจของศาล แต่นายจักรกฤตและพวกได้ร้องต่อศาลเพื่อเรียกร้องค่ารื้อถอนและค่าเสียหายจากการรื้อถอนในครั้งนั้น โดยเรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลจังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่ไม่ได้ตัดออก เช่น ปัญหาส่วนตัว หนี้สิน ชู้สาว เป็นต้น
ขณะที่พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว ผกก.สภ.กะทู้ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า จากการสอบสวนพบว่าคนร้ายน่าจะมีการติดตามความเคลื่อนไหวของนายจักรกฤตมาโดยตลอด และเมื่อได้โอกาสจึงใช้อาวุธยิงในระยะกระชั้นชิด ส่วนของสาเหตุนั้นเบื้องต้นน่าจะมาจากเรื่องความขัดแย้งส่วนตัวและผลประโยชน์ ล่าสุดทราบว่ามีผู้มาทวงถามเงินที่หยิบยืมมาเพื่อใช้ในการสร้างห้องเช่าเพิ่มเติม ส่วนประเด็นเรื่องของที่ดินซึ่งนายจักรกฤตและพวกเข้าไปบุกรุกจับจองของเครือญาตินักการเมืองรายหนึ่งน่าจะมีน้ำหนักค่อนข้างน้อย เพราะขณะนี้เรื่องอยู่ในกระบวนการของศาลมาเป็นเวลาประมาณร่วม 2 ปีแล้ว ที่ผ่านมาก็เป็นการดำเนินการไปตามกระบวนการของศาล และศาลมีการนัดไกล่เกลี่ยกันอีกครั้งในวันที่ 19 มกราคมที่จะถึงนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น