เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 พ.ต.ท.จงเสริม ปรีชา สารวัตรเวรสภ.กะทู้ อ.กะทู้ ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้เกิดเหตุรถทัวร์บรรทุกนักท่องเที่ยวเบรกแตก เสียหลักพุ่งชนบ้านเรือนประชาชนและทรัพย์สินอื่นๆ ได้รับความเสียหายจำนวนมาก เหตุเกิดบริเวณหมู่บ้านทรัพย์สมนาม ซอยวายคิงห์ด้อม ถนนพระพิศิษฐ์กรณีย์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้งได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต เจ้าหน้าที่ศูนย์นเรนทร รพ.วชิระภูเก็ต รพ.ป่าตอง รพ.กรุงเทพภูเก็ต และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองป่าตอง
ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณหน้าอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น บ้านเลขที่ 24/13 ซึ่งเป็นบ้านพักของนางวรรณา ดอกดิน อายุ 37 ปี ถูกรถทัวร์ขนาดใหญ่หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 30-2616 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนรั้วและตัวบ้านได้รับความเสียหาย ในขณะที่ด้านหน้ารถทัวร์คันดังกล่าวพังยับเยิน นอกจากนี้ยังมีรถจักรยานยนต์ 2 คัน และรถยนต์กระบะอีก 1 คันได้รับความเสียหายด้วย โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวมุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า รถทัวร์คันดังกล่าว ซึ่งนำนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวน 19 คน พร้อมด้วยไกด์นำเที่ยวคนไทย ทราบชื่อภายหลัง คือ นายบุญฤทธิ์ แดนเชวงพันธ์ อายุ 34 ปี ขับมาจากตัวเมืองภูเก็ต เพื่อมาชมบรรยากาศของป่าตองในยามค่ำคืน ขณะที่ลงจากเขาป่าตองได้เลี้ยวซ้ายบริเวณสามแยกหน้าวัดสุวรรณคีรีวงค์ รถเกิดเบรกแตกคนขับไม่สามารถบังคับรถได้ ทำให้เสียหลักและพุ่งชนรถจักรยานยนต์ 2 คัน และรถยนต์กระบะ 1 คัน ก่อนที่จะพุ่งเข้าชนตัวบ้านหลังดังกล่าวได้รับความเสียหาย ขณะที่นักท่องเที่ยวซึ่งอยู่ภายในรถต่างหวีดร้องด้วยความตกใจ โดยทุกคนปลอดภัยดี ยกเว้นนักท่องเที่ยวหญิง 2 คน ซึ่งมีอาการช๊อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเจ้าหน้าที่ได้นำส่งโรงพยาบาลป่าตอง ส่วนนักท่องเที่ยวที่เหลือทางบริษัทฯ ได้นำรถตู้จำนวน 2 คัน มารับกลับไปยังที่พักโรงแรมรอยัล ภูเก็ตซิตี้ในตัวเมืองภูเก็ต ด้านคนขับรถได้หลบหนีไปในขณะที่กำลังชุลมุน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ส่วนของรถทัวร์คันเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองป่าตอง ได้นำรถลากออกมา ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 30 นาที เนื่องจากตัวรถเบียดกับเสาไฟฟ้า และต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นซอยคับแคบและตัวรถติดกับเสาไฟฟ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น