จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ตร.ท่าฉัตรไชย รวบเจ้าหน้าที่ขนสัมภาระสนามบิน

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2553 มี่ห้องประชุม สภ.ท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง ภูเก็ต พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย พร้อมด้วยร.ต.อ.สราวุธ ชูประสิทธิ์ สวป.สภ.ท่าฉัตรไชย และชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายฮาเส็ม ขะมิโดย อายุ 18 ปี อยู่ที่ 20 ม. 6 ต.ท่าประดู่ อ.นาทวี จ.สงขลา และนายสันติ โต๊ะหล้าหวี อายุ 24 ปี อยู่ที่ 224/3 ม. 4 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยของกลาง โทรศัพท์มือถือจำนวน 8 เครื่อง ฮาร์ดิสนอก 1 ตัว แว่นตา 1 อัน นาฬิกา 3 เรือน กล่องถ่ายรูป 1 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้ในขณะที่ทำงานอยู่ในสนามบิน โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเขตท่าอากาศยาน หรือรับของโจร

ทั้งนี้พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ ได้กล่าวว่า ด้วยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของสายการบินไทย ว่าผู้โดยสารซึ่งเป็นชาวออสเตรเลีย ชื่อนายเบร็ท ดริ๊งวอเตอร์ ที่โดยสารเครื่องบินเที่ยวบินที่ 216 เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 53 จากจังหวัดภูเก็ต ไปลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อไปถึงสุวรรณภูมิ ได้ตรวจสอบกระเป๋าเดินทางที่โหลดมาใต้ท้องเครื่อง พบว่าโทรศัพท์ไอโพนและโทรศัพท์โนเกียได้หายไป ขอให้ติดตามตรวจสอบผู้กระทำความผิดมาลงโทษด้วย จากนั้นก็ได้สั่งการณ์ให้เจ้าหน้าที่ชุมสืบสวน พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ก็ได้ตรวจสอบตารางการปฏิบัติหน้าที่ ทราบว่าในวันดังกล่าว มีนายฮาเส็ม ขะมิโดย อายุ 18 ปี และนายสันติ โต๊ะหล้าหวี อายุ 24 ปี เป็นผู้รับผิดชอบขนถ่ายสัมภาระ จึงได้เรียกตัวบุคคลทั้ง 2 มาสอบถาม

และจากการสอบสวนก็ได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นเจ้าหน้าที่ขนถ่ายสัมภาระของผู้โดยสาร จากสายพานเคาร์เตอร์เช็คอิน เพื่อใส่ตู้ก่อนที่จะนำขึ้นเครื่อง และในระหว่างนั้นก็ได้มองหากระเป๋าที่พอจะปิดออกโดยที่กระเป๋าไม่ได้เสีย พร้อมทั้งให้มือคลำกระเป๋าของผู้เสียหาย เมื่อพบว่ามีสิ่งของภายในกระเป๋าก็จะเปิดดู ว่าเป็นทรัพย์สินมีค่าหรือไม่ เมื่อพบเห็นสิ่งของมีค่า ก็จะหยิบออกมา ก่อนที่จะนำกระเป๋าขึ้นเครื่องต่อไป ส่วนของผู้เสียหายรายนี้ ได้หยิบโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง โดยแบ่งกันคนละเครื่อง

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ไปตรวจค้นภายในห้องพัก ซึ่งเป็นห้องเช่านายฮาเส็ม เจ้าหน้าที่พบโทรศัพท์ไอโพน 3 จี ที่เก็บซุกซ่อนไว้ในกางเกงยีนส์ที่แขวนภายในบ้านของนายฮาเล็ม จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ไปตรวจค้นห้องพักของนายสันติ เจ้าหน้าที่พบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกียอีกจำนวน 1 เครื่องที่เตียงนอนของนายสันติฯ ตรงตามที่ผู้เสียหายแจ้งไว้ นอกจากนี้ภายในบ้านเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบโทรศัพท์มือถือ ฮาร์ดิสก์แบบพกพา แว่นตาแบรนด์เนม นาฬิกาและโทรศัพท์มือถืออีกหลายรายการ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ตรวจยึดไว้ทำการตรวจสอบและนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบส่วนเพื่อดำเนินคดีตากฎหมายต่อไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น