จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ปราชญ์สัญจรทบทวนบทบาทสร้างความเป็นธรรมท้องถิ่น

ปราชญ์สัญจรทบทวนบทบาทสร้างความเป็นธรรมท้องถิ่น 


เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2561 ห้องประชุมแคแสด สำนักงานบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ร่วมกับ สำนักธรรมศาสตร์และการเมืองราชบัณฑิตยสภา จัดเสวนาวิชาการราชบัณฑิตสัญจร หัวข้อ “บทบาทของมหาวิทยาลัยราชภัฏในการสร้างความเป็นธรรม” โดยมีนายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน 


พร้อมด้วยผศ.ดร.หิรัญ ประสารการ รักษาราชการแทนอธิการบดี ม.ราชภัฏภูเก็ต ดร.อดุล นาคะโร ประธานกรรมการสำนักงานบัณฑิตศึกษา ตลอดจน คณะผู้บริหาร บุคลากร นักวิชาการ และตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วม ณ ในการนี้ได้รับเกียรติจากราชบัณฑิต 3 ท่าน ได้แก่ ศ.ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ศ.ดร.ผาสุก พงษ์ไพจิตร และ ศ.ดร.สมบูรณ์ สุขสำราญ (นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต) เป็นวิทยากรแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 


ผศ.ดร.หิรัญ ประสารการ รักษาราชการแทนอธิการบดี กล่าวว่า “การประชุมวิชาการในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และข้อมูลทางวิชาการที่สามารถนำไปพัฒนาท้องถิ่นและประเทศ รวมทั้งขยายเครือข่ายวิชาการด้านการพัฒนาท้องถิ่นและประเทศ ระหว่างราชบัณฑิตยสภา สถาบันการศึกษา และหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน อีกทั้ง มหาวิทยาลัยมีความตระหนักถึงการสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนองค์กรทุกระดับในท้องถิ่น 


นอกจากนั้นการได้แลกเปลี่ยนมุมมองในหัวข้อ ‘บทบาทของมหาวิทยาลัยราชภัฏในการสร้างความเป็นธรรม’ ระหว่างราชบัณฑิต ซึ่งเป็นผู้มีความรู้เปรียบเสมือน ‘นักปราชญ์’ ของประเทศ และบุคลากรของมหาวิทยาลัย ถือเป็นการทบทวนตนเองและมองถึงแนวทางพิเศษอื่นๆ ที่จะสามารถดำเนินงานเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในท้องถิ่น สอดคล้องกับบริบททางสังคม โดยใช้เครื่องมือที่มหาวิทยาลัยมีคือการบริการวิชาการแก่ท้องถิ่น 


ด้วยศาสตร์และศิลป์ทุกแขนงที่มี นำไปสนับสนุน วิพากษ์ และบริการองค์ความรู้ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของท้องถิ่น ชุมชน และประชาชนทุกระดับ อาทิเช่น ประเด็นเรื่องเศรษฐกิจการท่องเที่ยว สิทธิและเสรีภาพของพลเมืองชั้นสอง การเข้าถึงบริการทางการศึกษา สวัสดิการของผู้สูงอายุ ฯลฯ ซึ่งเวทีวิชาการในครั้งนี้ได้มีการแลกเปลี่ยนมุมมองที่หลากหลายและสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเล็งเห็นถึงช่องทางและโอกาสจากการแนะนำของราชบัณฑิตและนักวิชาการ เพื่อนำไปกำหนดนโยบายในมิติใหม่ๆ ในอนาคต” 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น