จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ทรภ.3 พร้อมยิงสลุตหลวง ใน 5 ธันวามหาราช



เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2554 บริเวณเขาหน้ายักษ์ ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา พล.ร.ท.ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วยพล.ร.ต.พรชัย ปิ่นทอง เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 ได้ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติการในการซ้อมยิงสลุตหลวง ตามอนุมัติของ พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้กองทหาร 3 เหล่าทัพ ได้แก่ กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ จัดพิธียิงสลุตหลวงพร้อมกันทั่วประเทศ โดยมีกำหนดพิธีให้ตรงกับงานพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม ณ มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
โดยการซ้อมยิงสลุตหลวงจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม 54 ทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้กำหนดจัดพิธียิงสลุตหลวงที่ฐานทัพเรือพังงา โดยจัดหมู่เรือออกเดินทางไปประกอบพิธีในทะเล โดยได้กำหนดหมู่เรือจำนวน 6 ลำ ได้แก่ เรือหลวงตาปี เป็นเรือนำในการยิงสลุต เรือหลวงคำรณสินธุ เป็นเรือติดตั้งพระบรมฉายาลักษณ์ ส่วนเรือหลวงหัวหิน เรือหลวงมันนอก เรือหลวงริ้น และเรือตรวจการ 220 เป็นเรือติดตามขบวน โดยการยิงสลุตหลวงในครั้งนี้จะทำการยิง จำนวน 21 นัด
สำหรับการยิงปืนสลุต ซึ่งมาจากภาษาลาตินว่า Salutio เป็นแบบอย่างของการทำความเคารพต่อผู้ใหญ่ หรือประมุขของรัฐ การยิงจะใช้ปืนใหญ่ ส่วนสาเหตุการยิงสลุต 21 นัด ประเทศอังกฤษเป็นชาติแรกที่ได้วางกฎเอาไว้ ให้ชาติที่อ่อนแอกว่าทำความเคารพตนก่อน การยิงสลุต 21 นัด ถือเป็นสากลว่าแสดงความเคารพแก่ชาติและผู้เป็นประมุขของชาติ ในประเทศไทยเรียกว่า “สลุตหลวง”
สำหรับหลักเกณฑ์การยิงสลุตปัจจุบันพอสรุปได้ว่า ถ้าเป็นงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา งานพระราชพิธีฉัตรมงคล หรือวันพระราชสมภพสมเด็จพระบรมราชินีหรือสมเด็จพระยุพราช รวมถึงงานต้อนรับพระมหากษัตริย์ หรือประมุขแห่งรัฐ ยิงสลุตจำนวน 21 นัด ถ้าเป็นระดับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม(ที่เป็นทหาร) ผู้บัญชาการทหารเรือ จอมพลเรือ และเอกอัครราชทูต ยิงสลุต 19 นัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม(ที่เป็นพลเรือน) พลเรือเอก และเอกอัครราชทูตพิเศษ ยิงสลุต ๑๗ นัด
พลเรือโท และอัครราชทูต ยิงสลุต 15 นัด พลเรือตรี และราชทูต ยิงสลุต 13 นัด (สามเหล่าทัพยศเท่ากัน ยิงสลุตเท่ากัน) อุปทูตยิงสลุต 11 นัด กงสุลใหญ่ ยิงสลุต 9 นัดเป็นต้น


ติวเข้มพยาบาลภูเก็ต พร้อมมอบโล่ปฏิบัติงานดีเด่น



เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2554 ที่ห้องจามจุรี 1 ที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการเรื่อง “กฎหมายวิชาชีพและแนวทางการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย” ซึ่งทางสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขาภาคใต้ เขต 1 จังหวัดภูเก็ต จัดขึ้น และเป็นหนึ่งในกิจกรรมของงานวันพยาบาลแห่งชาติ ประจำปี 2554 เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะในการปฏิบัติงานของสมาชิก ซึ่งเป็นพยาบาลในจังหวัดภูเก็ต โอกาสเดียวกันนี้ยังได้มีการมอบโล่เชิดชูเกียรติ ให้แก่พยาบาลที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นทั้งภาครัฐและเอกชนด้วย
นางสุธิดา ฉั่วดำรงกุล รองอุปนายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขาภาคใต้ เขต 1 จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยวันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันพยาบาลแห่งชาติ และเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ดังนั้นเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์สำเร็จการ ศึกษาวิชาชีพการพยาบาล ทรงเสียสละอุทิศพระวรกาย พระสติปัญญาและพระราชทรัพย์ เพื่อสร้างเสริมพัฒนาการแพทย์ การพยาบาล ทรงพระกรณียกิจในการพัฒนาสุขภาพอนามัย และคุณภาพชีวิตของประชาชนตลอดพระชนชีพ จึงได้มีการจัดงานวันพยาบาลแห่งชาติประจำปีขึ้นดังกล่าว
“วิชาชีพพยาบาลเป็นวิชาชีพที่ให้บริการการรักษาพยาบาลผู้ป่วย มีความเกี่ยวพันกับชีวิต ความปลอดภัย และสิทธิความเป็นบุคคล สมาคมฯ จึงได้จัดการประชุมวิชาการดังกล่าวขึ้นเพื่อให้พยาบาลมีความรู้ ความเข้าใจ ในการนำไปใช้ประกอบการปฏิบัติงาน และลดความเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องได้”นางสุธิดากล่าว
สำหรับกิจกรรมเนื่องในวันพยาบาลแห่งชาติของจังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา ได้มีการประกอบพิธีวางพุ่มดอกไม้สดเพื่อถวายสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี บริเวณพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต กิจกรรมเลี้ยงอาหารกลางวันและกิจกรรมสังสรรค์ให้กับผู้สูงอายุ ณ บ้านพักคนชรา ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
และในวันนี้เป็นการจัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านวิชาการ และมอบโล่เชิดชูเกียรติแก่พยาบาลที่มีผลงานการปฏิบัติงานดีเด่น ทั้งภาครัฐ และเอกชน จำนวน 9 คน แบ่งเป็น รางวัลพยาบาลดีเด่น ด้านบริการพยาบาล จำนวน 6 คน ได้แก่ นางกาญจนา เครือณรงค์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ จากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต น.ส.เยาวเรศ สร้อยสน พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ จากโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต นางรัชนีกร สุทิน พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ จากโรงพยาบาลถลาง น.ส.กอบแก้ว บุญสิริ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ จากโรงพยาบาลสิริโรจน์ น.ส.ภชฤณ จั่นนิธิ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ จากโรงพยาบาลป่าตอง น.ส.กลอยใจ เจนจบทิพย์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ จากโรงพยาบาลมิชชั่นภูเก็ต
รางวัลพยาบาลดีเด่นด้านบริการพยาบาลในชุมชน จำนวน 2 คน ได้แก่ น.ส.นิตยา ปัญจมีดิถี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ จากศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลนครภูเก็ต นางจิตรา โรมินทร์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลศรีสุนทร และรางวัลพยาบาลดีเด่นด้านสนับสนุนวิชาการ จำนวน 1 คน ได้แก่ ดร.สุวรรณา หล่อโลหการ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต

คนเหล็กกว่า 1000 ร่วมแข่งไอรอนแมน 70.3



เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2554 ที่เต็นท์งานแสดงสินค้าไตรกีฬา ศูนย์กลางการแข่งขันชิงแชมป์ไอรอนแมน 70.3 ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค ครั้งที่ 2 ทางเข้าโรงแรมลากูน่า บีช รีสอร์ท ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต ร่วมกับนางสาววรรณประภา สุขสมบูรณ์ รองผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต นายประเสริฐ ตันหรรษ์ ผู้จัดการ สำนักงานขายจังหวัดภูเก็ต บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) และนายไมเคิล ไอลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลากูน่า รีสอร์ท แอนด์ โฮเท็ล จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวการจัดแข่งขันชิงแชมป์ไอรอนแมน 70.3 ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค ครั้งที่ 2 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม นี้ โดยกิจกรรมดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่างจังหวัดภูเก็ต สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) สมาพันธ์ไตรกีฬาโลก และบริษัทลากูน่า รีสอร์ท แอนด์ โฮเท็ล จำกัด (มหาชน) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตผ่านทางกิจกรรมกีฬา และส่งเสริมให้มีการเล่นกีฬาไตรกีฬาอย่างแพร่หลายใน ประเทศไทยมากขึ้น
การแข่งขันชิงแชมป์ไอรอนแมน 70.3 ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค ประกอบด้วย การว่ายน้ำ 1.9 กิโลเมตร การปั่นจักรยาน ระยะทาง 90 กิโลเมตร และวิ่งระยะทาง 20.1 กิโลเมตร โดยมีผู้ตอบรับเข้าร่วมแข่งขันรวม 1,054 คน เป็นนักไตรกีฬาอาชีพชาย 19 คน นักไตรกีฬาอาชีพหญิง 15 คน และการแข่งขันประเภททีม 21 ทีม ทำให้มีจำนวนรวม 1,117 คน จาก 58 ประเทศทั่วโลก ในขณะที่ปี 2553 ที่ผ่านมา มีจำนวนนักกีฬา 812 คนจาก 51 ประเทศ แบ่งเป็น การแข่งขันประเภทเดี่ยว 764 คน ประเภททีม 16 คน มีนักกีฬาจำนวน 125 คน ทั้งนักไตรกีฬาอาชีพและประเภทกลุ่มอายุ โดยนักไตรกีฬามืออาชีพที่น่าจับตามองในปีนี้ คือ คริส ลีโต จากประเทศสหรัฐอเมริกา ฟาริส อัลซาลทัน จากประเทศเยอรมัน นางสาวเบลินดา แกรนด์เจอร์ จากประเทศออสเตรเลีย นางสาวนาคาซา แบตแมน จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นางสาวเอมมา เคท ลิดบูรี่ จากประเทศออกเตรเลีย เป็นต้น
ทั้งนี้มีเงินรางวัลรวมประมาณ 75,000 เหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็นผู้ชนะเลิศทั้งชายและหญิง อันดับ หนึ่ง สองและสาม จะได้รับเงินรางวัล 12,000, 8,000 และ 5,500 เหรียญสหรัฐ ฯ ตามลำดับ และในครั้งนี้แชมป์เก่าอย่าง ทิม โอดอนเนลล์ จากสหรัฐอเมริกา และแคโรไลน์ สเตฟเฟ่น จากสวิสเซอร์แลนด์ ร่วมลงชิงชัยด้วย นอกจากนี้แมสซิโม่ ซิกาน่า จากอิตาลี และรอดกา โวดิโควา จากสาธารณรัฐเช็ก แชมป์การแข่งขันลากูน่า ภูเก็ตไตรกีฬา ครั้งที่ 18 ปี 2554 ซึ่งแข่งไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ลงแข่งต่อด้วย
อย่างไรก็ตามการแข่งขันชิงแชมป์ไอรอนแมน 70.3 ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2553 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเหตุที่ลากูน่าภูเก็ต ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันดังกล่าว เป็นผลมาจากความสำเร็จของการแข่งขัน ลากูน่า ภูเก็ต ไตรกีฬา ที่จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน และปีนี้นับเป็นปีที่ 2 ของการแข่งขันชิงแชมป์ไอรอนแมน 70.3 ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค

ประมงร่วมกับราไวย์ ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ



เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 54 ที่สวนสาธารณะหนองน้ำในหาน หมู่ที่ 1 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชมพรรษา 5 ธันวามหาราช ประจำปี 2554 ซึ่งทางเทศบาลตำบลราไวย์ ร่วมกับสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ตจัดขึ้น โดยมีนายบุญศุภภะ ตัณฑัยย์ ที่ปรึกษาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต (ส.ส.) นายกะวิ สารณาคมน์กุล ประมงจังหวัดภูเก็ต นายราเชน พันทรกิจ ปลัดเทศบาลตำบลราไวย์ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการเทศบาลตำบลราไวย์และสังกัดสำนักงานประมงจังหวัด นายอรุณ โสฬส หัวหน้ากลุ่มพัฒนาราไวย์ และคณะ ตลอดจนหน่วยงาน องค์กรเอกชน เด็กนักเรียน เยาวชน ประชาชนและนักท่องเที่ยว เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการร่วมกันทำความสะอาดเก็บขยะบริเวณชายหาดในหานด้วย
นายกะวิ สารณาคมน์กุล ประมงจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า พันธุ์สัตว์น้ำที่นำมาปล่อยในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งภูเก็ต ได้แก่ พันธุ์กุ้งทะเล 1,800,000 ตัว และพันธุ์ปลากะพงขาว 10,000 ตัว ทั้งนี้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนพรรษา 5 ธันวาคม 2554 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในบริเวณหนองน้ำในหาน ให้มีความอุดมสมบูรณ์ มั่นคง และเป็นการเพิ่มผลผลิตเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ให้มีความอยู่ดีมีสุข ภายใต้หลักเศรษฐกิจพอเพียง และเพื่อเป็นการปลูกฝังสร้างจิตสำนึก ให้เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ การบริหารจัดการใช้ประโยชน์ของทรัพยากรสัตว์น้ำ และสิ่งแวดล้อมในบริเวณหนองน้ำในหานให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างยั่งยืน โดยชุมชนมีส่วนร่วม
ขณะที่นายราเชน พันทรกิจ ปลัดเทศบาลตำบลราไวย์ กล่าวว่า ทางเทศบาลตำบลราไวย์ ร่วมกับสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต จัดงานปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และยังเป็นการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ ในพื้นที่หนองน้ำในหานให้มีผลผลิตสัตว์น้ำเพิ่มขึ้น ทำให้ชาวบ้านบริเวณนี้ สามารถจับสัตว์น้ำมาบริโภค หรือเสริมรายได้ให้กับครอบครัว และยังเป็นการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำให้คงอยู่ตลอดไป

เทศกาลดนตรี “ภูเก็ตดนตรีโลก”



เมื่อคืนวันที่ 2 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา บริเวณเวทีกลางสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงานเทศกาล “ภูเก็ตดนตรีโลก เฉลิมพระเกียรติฯ (Phuket Worl Musiq Festival) ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต เทศบาลนครภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดขึ้น โดยมีนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต นางสาวสมใจ สุวรรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ผู้บริหารและสมาชิกสภา อบจ. ผู้บริหารและสมาชิกสภาเทศบาลนครภูเก็ต ตลอดจนข้าราชการ พี่น้องประชาชนชาวภูเก็ต และนักท่องเที่ยวร่วมชมเป็นจำนวนมาก
โดยงานดังกล่าวจะจัดไปจนถึงวันที่ 5 ธันวาคมนี้ เริ่มตั้งแต่เวลา 17.30 น. ถึงเที่ยงคืน นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการพ่อแห่งความรัก (The father of love) ออกร้านจำหน่ายอาหารและกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
นายไพบูลย์ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการจัดเทศกาลภูเก็ตดนตรีโลก เฉลิมพระเกียรติฯนั้น เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 7 รอบ 84 พรรษา ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยเทศกาลดนตรี วัฒนธรรม สะท้อนวิสัยทัศน์และอัจฉริยภาพของพระองค์ท่านผ่านดนตรี ผ่านเรื่องราวความจงรักภักดีของปวงชนชาวไทย เป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต โดยการนำเสนอผ่านเวทีดนตรีโลกให้ชาวต่างชาติได้รู้จักจังหวัดภูเก็ตมากยิ่งขึ้น
เพื่อนำเสนอสุดยอดศิลปวัฒนธรรมและดนตรีของภูเก็ต ภาคใต้และภาคอื่นๆของไทยและของโลก ซึ่งจะทำให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนดนตรีและวัฒนธรรมไร้พรมแดน เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนชาวภูเก็ตได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ประยุกต์ และสร้างสรรค์วัฒนธรรมของตนเองและเชื่อมกับวัฒนธรรมของภาคอื่นของไทย รวมถึงการเชื่อมกับวัฒนธรรมประเทศต่างๆ เพื่อพัฒนาทุนทางวัฒนธรรมจากหญ้าสู่สากลและเผยแพร่ตำนานของจังหวัดภูเก็ต ของภาคใต้ ของไทยให้ชาวโลกได้ชื่นชม กระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เศรษฐกิจของชาวภูเก็ตและชาวไทย ขยายภาพพจน์ของจังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งจัดงานนานาชาติที่เป็นทั้งศิลปวัฒนธรรมและการค้า รวมถึงเชื่อมกับผลงานตามนโยบายและโครงการต่างๆ ที่ผู้นำท้องถิ่นได้วางแผนพัฒนาไว้ รวมทั้งยังขยายภาพพจน์ของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพแห่งงานดนตรีและวัฒนธรรมไร้พรมแดนด้วย
สำหรับศิลปินที่มาร่วมแสดงในงานมีทั้งศิลปินชาวไทยอาทิ ลานนา คัมมินส์, โกไข่นายสน, ขุนอิน of Beat Siam, ตลกหน้าม่าน, ซอ the SIS และศิลปินจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นดนตรี Gnawa จากมอร็อคโค จากอเมริกา เป็นต้น และที่สำคัญ คือ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 ซึ่งจะมีการประกอบพิธีวางพานพุ่ม จุดเทียนชัยถวายพระพร ต่อด้วยแสดงพิเศษชุด Father of Love “พ่อแห่งความรัก” นำโดยศิลปินแห่งชาติ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ จิระนันท์ พิตรปรีชา กวีซีไรต์ และการร่วมถวายพระพรของสถานทูตและศิลปินนานาชาติ สนใจสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ www.phuketworldmusiq.com


งาน World AIDS Day



ด้วยทุกวันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี ถือเป็น วันเอดส์โลก โรงพยาบาลสิริโรจน์ Phuket International Hospital และหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน ได้จัดงาน World AIDS Day ทางโรงพยาบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่ ร่วมกันออกบูธ ประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ความรู้ แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ในวันที่ 1 – 2 ธันวาคม 2554 ณ ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง นอกจากการออกบูธประชาสัมพันธ์แล้ว ภายในงานยังมีการแสดง กิจกรรมมากมายจากหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งการ เดินขบวนรณรงค์ในคืนวันที่ 1 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา บรรยากาศภายในซอยบางลาเป็นไปอย่างคึกคัก ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเป็นอย่างมา

ศรีสุนทรทำความสะอาดถวายเป็นพระราชกุศล



เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2554 ที่บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าว-ศรีสุนทร ตลอดจนบริเวณพื้นที่โดยรอบและใกล้เคียง ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง ภูเก็ต เทศบาลตำบลศรีสุนทร นำโดยนางสมใจ ทองสมบัติ ปลัดเทศบาลตำบลศรีสุนทร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนและพนักงานเทศบาลฯ ร่วมกับศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.อ.ถลาง) เรือนจำบางโจ ชมรมผู้สูงอายุตำบลศรีสุนทร จัดกิจกรรมทำความสะอาดเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554
นางสมใจ ทองสมบัติ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุนทร กล่าวว่า ด้วยวันที่ 5 ธันวาคม นับเป็นวันมหามงคลที่สำคัญยิ่งของพสกนิกรประชาชนชาวไทยทั่วทั้งประเทศ เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุด ทรงประกอบพระราชกรณียกิจอันทำให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทยอย่างล้นหลามอีกทั้งพระองค์ทรงห่วงใยและทรงให้ความช่วยพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด
ดังนั้นจึงมีการจัดกิจกรรมดังกล่าว เป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์อันดีงามของจังหวัด สร้างจิตสำนึกในการรักษาความสะอาดปูชนียสถาน สถานที่สาธารณะและก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนทั้งในด้านสวัสดิภาพความปลอดภัยและสุขอนามัยและที่สำคัญเป็นแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวามหารา

วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2554

คลื่นซัดเรือใบที่แข่นคิงส์คัพรีกัสต้าเกยตื้น



เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2554 ที่บริเวณชายหาดหน้าอ่าวกะตะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทหารเรือทัพเรือภาคที่ 3 และเจ้าหน้าที่บีชการ์ดองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ช่วยกันผลักดันเรือใบ จำนวนประมาณ 5 ลำ ซึ่งถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้น บริเวณชายหาดเนื่องจากคลื่นลมแรง และมีฝนตกลงมาอย่างหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา (1 ธ.ค.54) โดยเรือดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเรือที่รอการเข้าร่วมการแข่งขันเรือใบในรายการ ภูเก็ต คิงส์คัพรีกัตต้า ครั้งที่ 25 กำหนดจัดในระหว่างวันที่ 3 – 10 ธันวาคมนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ที่บริเวณหาดกะตะ จังหวัดภูเก็ต
ทั้งนี้เรือที่ถูกคลื่นซัดเข้ามานั้นเดิมได้จอดทิ้งสมออยู่ห่างจากชายฝั่ง และถูกคลื่นซัดเข้ามาเกย ทำให้เรือได้รับความเสียหายบางส่วน และเจ้าหน้าที่สามารถช่วยกันทั้งดันและลากลงทะเลได้สำเร็จ แม้ว่าจะดำเนินการไปด้วยความยากลำบากเพราะคลื่นยังมีกำลังแรงและสูงอยู่ ทั้งนี้ทางเจ้าของเรือและคณะกรรมการแข่งขันคาดว่าจะซ่อมทันเข้าร่วมการแข่งขัน
สำหรับการแข่งขันเรือใบภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าที่จะเริ่มทำการแข่งขันในวันที่ 4-5 ธันวาคมนี้ ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันมั่นใจว่ายังทำการแข่งขันได้ เนื่องจากได้ตรวจสอบสภาพอากาศแล้วพบว่าไม่มีปัญหาในการแข่งขัน แม้นว่าในวันนี้ (2 ธ.ค. 54) ยังมีฝนตกอยู่ก็ตาม แต่ไม่มากนัก โดยในปีนี้มีเรือใบตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันมากกว่า 170 ลำ พร้อมนักกีฬาจากทั่วโลก 35 ประเทศมากกว่า 1,000 คน




“บิ๊กซี”ทุ่มกว่า 125 ล.เปิดสาขาเทพกระษัตรี



เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2554 นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการห้างสรรพสินค้า “บิ๊กซี มาร์เก็ต เทพกระษัตรี “ อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากที่ได้ทดลองเปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีนายวีระพงษ์ ไวทยะวงศ์สกุล ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต นายอินทพล อินทรครรชิต ผู้ช่วยรองประธานฝ่ายบริหารสาขาย่อย บิ๊กซี มาร์เก็ต บริษัท บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) นายมูซา รุ่งโรจน์ ผู้จัดการสาขาเทพกระษัตรี บริษัท บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และผู้ประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าร่วมเป็นเกียรติ
นายกุฎาธาร นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า สำหรับบิ๊กซี มาร์เก็ต สาขาเทพกระษัตรี เป็นสาขาที่ 2 ของภาคใต้ และเป็นสาขาที่ 12 ของประเทศที่เปิดให้บริการในรูปแบบบิ๊กซีมาร์เก็ต ใช้งบประมาณในการลงทุนกว่า 125 ล้านบาท มีพื้นที่ให้บริการประมาณ 3670 ตารางเมตร และมีพื้นที่ขายประมาณ 25,000 ตารางกิโลเมตร มีสินค้าให้บริการกว่า 15,000 รายการ ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง เสื้อผ้า เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าเทคโนโลยีและอื่นๆ นอจากนี้ยังมีพื้นที่รองรับการจอดรถได้ประมาณ 130 คัน
“เหตุที่เลือกเปิดสาขาเทพกระษัตรี ซึ่งใกล้กับมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต เนื่องจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นชุมชนที่พักอาศัยของชาวไทยและต่างชาติเป็นจำนวนมาก และยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เนื่องจากติดกับถนนสายหลักในการเข้า-ออกเมืองภูเก็ตทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการมีความสะดวกในการสัญจรไปมา และการจับจ่ายหาซื้อสินค้าเครื่องใช้ประจำวันของผู้บริโภค จึงมั่นใจว่าบิ๊กซี มาร์เก็ต เทพกระษัตรี จะเป็นแหล่งจับจ่ายแห่งใหม่ที่สร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับชาวภูเก็ต เนื่องจากราคาสินค้าที่จำหน่ายนั้นเป็นราคาเดียวกับสินค้าในบิ๊กซี ซูเปอร์มาร์เก็ต”
นายกุฎาธาร กล่าวด้วยว่า นอกจากจะเป็นแหล่งจับจ่ายสินค้าแห่งใหม่แล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างงานให้กับชุมชนท้องถิ่น เพราะมีพนักงานประจำที่อยู่ในท้องถิ่นกว่า 90 อัตรา ทั้งที่เริ่มงานใหม่จำนวน 82 อัตรา และย้ายมาจากจังหวัดอื่นๆ กลับมาประจำที่ภูเก็ตอีก 8 อัตรา
อย่างไรก็ตามในช่วงของการฉลองเปิดสาขาใหม่ได้มีการจัดแคมเปญ “จัดเต็มด้วยใจ ให้คนสำคัญ” เพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้า ผ่านสินค้าราคาพิเศษมากมาย ในระหว่างวันที่ 2-5 ธันวาคมนี้ เมื่อซื้อสินค้าครบ 600 บาทผ่านบัตรสมาชิกบิ๊กการ์ด ลูกค้าจะได้รับคูปองส่วนลดเงินสดมูลค่า 30 บาททันที เพื่อใช้ในการจับจ่ายครั้งต่อไป