จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ราชนาวีไทย 1 ยังนำลิ่วในรุ่นไออาร์ซีสอง



เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 54 ที่บริเวณชายหาดกะตะ และบริเวณโดยรอบ ได้มีการแข่งขันวันที่สี่ ในมหกรรมภูเก็ตคิงส์คัพ รีกัตต้า ครั้งที่ 25 หลังจากได้หยุดไป 1 วัน และวันนี้ยิ่งทวีความสนุกสนานเร้าใจทั้งในและนอกสนามแข่ง โดยการชิงชัยบนผืนน้ำมีการขับเคี่ยวกันอย่างหนักในทุกรุ่น แต่ผู้นำส่วนใหญ่ยังคงเกาะอันดับบนตารางเหนียวแน่น ทำให้มีบางรุ่นเท่านั้นที่เห็นผู้นำหน้าใหม่ปรากฏบนตารางผลการแข่งขันในวันนี้
สำหรับการแข่งขันในรุ่นไออาร์ซี 2 (IRC 2) พันจ่าเอกวิวัฒน์ พูนพัฒน์ ก็ไม่ทำให้แฟนชาวไทยผิดหวัง นำเรือราชนาวีไทย 1 เข้าเป็นอันดับหนึ่งของวันอีกครั้ง จี้ตามมาด้วยเรือ Foxy Lady5 ของบิล เบรมเนอร์ ส่วนที่สามของวันตกเป็นของเรือจากรัสเซีย Ruby Tuesday โดยอาร์บูซอฟ อังเดร ทั้งนี้พันจ่าเอกวิวัฒน์ เล่าถึงการแข่งขันวันนี้ว่า “ตอนแรก เรือ Foxy Lady5 วิ่งไล่เลี่ยฉิวเฉียดมากับเราตลอด แต่คาดว่าพวกเขาคงผิดพลาดตอนแล่นตามทางลม ทำให้เราทิ้งห่างมาได้ในช่วงนั้น ซึ่งที่ผ่านมา ทีมราชนาวี 1 เคยครองแชมป์มาแล้วหลายสมัย ซึ่งตอนนี้ผมมั่นใจกว่า 80% แล้วว่า ปีนี้เราไม่พลาดตำแหน่งผู้ชนะเลิศประเภทคะแนนรวมแน่นอน!”
เรือ Karasu ของยาซูโอะ นานาโมริ ในรุ่นไออาร์ซี 1 (IRC 1) โชว์ฟอร์มร้อนแรงเป็นวันที่สาม คว้าอันดับหนึ่งในตารางไปครองอีกวัน นับว่าทีมจากญี่ปุ่นมาแรงมากในปีนี้ ส่วนอันดับสองเปลี่ยนมือมาเป็นทีม Walawala 2 ของสตีฟ แมนนิ่งแต่อันดับสามยังคงเป็นเรือ EFG Mandrake ของนิค เบิร์นส์ และเฟร็ด คินมอนธ์ เจ้าเก่า
รุ่นไออาร์ซี ซีโร่ (IRC Zero) เรือ Team Premier ของฮานส์ ไวเมอร์ ยังรั้งอันดับหนึ่งบนตาราง ตามมาด้วยทีม HiFi ของนีล ไพรด์ ที่ขยับขึ้นมาเป็นอันดับสองในวันนี้ เบียด แซม ชาน จากฮ่องกง ในเรือ Freefire 52 ตกเป็นอันดับสาม
เรือผู้เข้าแข่งขันรุ่นไฟร์ฟลาย 850 (Firefly 850 Sports) ยังคงไล่บี้คะแนนกันเช่นเดียวกับเมื่อวาน ทำให้อันดับหนึ่งและสองยังคงตกเป็นของเรือ Voodoo ของฮานส์ ราห์มานน์ และ เรือ Moto Inzi ของโรเจอร์ คิงดอน ตามลำดับ โดยมีนีล แอร์ นำเรือ Frog พุ่งตามมาเป็นที่สามของวัน
ในรุ่นมัลติฮัลล์ (Multihull) แม้ในช่วงวันแรกๆ จะทำผลงานได้ไม่เข้าตากรรมการ แต่ทั้งการแข่งวันที่สามและวันที่สี่นี้ อลัน คาร์วาร์ดีน ยังคงวาดลีลาได้ไม่มีแผ่ว พาเรือ Sidewinder คว้าอันดับหนึ่งไปครองอีกครั้ง ส่วนที่สองได้แก่เรือ Fantasia จากออสเตรเลีย โดยเรือ Da Vinci ของมิค โคลแมน ตกเป็นอันดับสามของวันนี้
ตำแหน่งผู้นำในรุ่นครูซิ่ง คลาส (Cruizing Class) มีการเปลี่ยนมือเช่นกัน โดยกลายเป็นเรือ Astraeus ของวิลเลี่ยม แซ็กส์ ที่คว้าที่หนึ่งในวันนี้ โดยเรือ Linda ของแจ็ค คริสเตนเซน จากสหรัฐอเมริกา ยังคงรั้งอันดับสองเหมือนเมื่อวาน ส่วนเรือ Odin ของร็อบ วิลเลียมส์ ตกจากที่หนึ่งเมื่อวานมารั้งที่สามวันนี้
สำหรับการแข่งขันรุ่นพรีเมียร์ (Premier) เรือ Titania of Cowes ของริชาร์ด บ็อบส์ หลุดตำแหน่งผู้นำเมื่อวานมาเป็นอันดับสองในวันนี้ โดยมีเรือ Baby Tonga Strongbow ปีเตอร์ เซอร์เรนสัน จากออสเตรเลีย ไต่อันดับขึ้นมาเป็นผู้นำได้สำเร็จในวันนี้ โดยอันดับสามเป็น Xena เรือจากฮ่องกงโดยปีเตอร์ ฟอร์ซิธ และ จิง ลี
ส่วนรุ่นแบร์โบ๊ต ชาร์เตอร์ (Bareboat Charter) ชาร์เตอร์ ไมค์ คริสป์ ยังคงนำเรือ Venture ยึดหัวหาดผู้นำกลุ่มได้อีกวัน ตามมาด้วยเรือจากออสเตรเลียเพื่อนร่วมชาติอย่าง Bourgeois Tag ของไมเคิล ฟิลลิปส์ และจี้ตามมาติดๆ ด้วยเรือสัญชาติรัสเซีย Sandy Ann ของมิเกิล โกเบลคอฟ
 

: Photography by Guy Nowell :
: Photography by Phuket King's Cup Regatta :


ปิดการฝึกอบรมผู้กำกับลูกเสือสามัญ



เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2554 ที่ค่ายลูกเสือจังหวัดภูเก็ต นายประวิต นวลนิรันดร์ ผู้อำนวยการฝึก เป็นประธานในพิธีปิดงานฝึกอบรมผู้กำกับลูกเสือสามัญ BTC รุ่นที่ 6 พร้อมมอบประกาศณียบัตร ให้กับครูโรงเรียนในสังกัดเทศบาลผู้รับการอบรม จำนวน 49 คน เพื่อเป็นการพัฒนาบุคลากร ด้านลูกเสือ และเป็นการสนองตอบนโยบายด้านการส่งเสริมกิจการลูกเสือของเทศบาลนครภูเก็ตให้เป็นรูปธรรม
ทั้งนี้กิจกรรมลูกเสือเป็นวิชาที่โรงเรียนต้องจัดการเรียนการสอนในชั้นประถมศึกษา ซึ่งอยู่ในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ทุกโรงเรียนที่จะต้องมีการสอนวิชาลูกเสือ เพื่อช่วยให้นักเรียนมีระเบียบ วินัย มีความสามัคคี มีความรับผิดชอบตนเอง และมีสัมมาคารวะ การพัฒนากิจการลูกเสือ ผู้บังคับบัญชาลูกเสือจึงเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ ที่จะทำให้การเรียนการสอนประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของกิจการลูกเสือได้
เทศบาลนครภูเก็ตในฐานะรับผิดชอบด้านการจัดการศึกษา เห็นว่ากิจกรรมการฝึกอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือสามัญ (BTC) จะช่วยสร้างเสริมประสบการณ์ให้แก่พนักงานครูที่เข้ารับการอบรมได้เป็นอย่างมาก จึงได้จัดให้มีการฝึกอบรมวิชาดังกล่าวให้กับพนักงานครูในสังกัดเทศบาลนครภูเก็ต ขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 9 ธันวาคม 2554 ซึ่งการฝึกอบรมในครั้งนี้ เทศบาลนครภูเก็ตได้เชิญวิทยากรที่มีความรู้ ความ สามารถทางด้านวิชาลูกเสือเป็นอย่างดี มาทำการฝึกอบรม และทบทวนความรู้ด้านวิชาลูกเสือให้กับพนักงานครูที่เป็นผู้บังคับบัญชาลูกเสือ เพื่อที่จะได้นำความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอดให้กับลูกเสือในโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครภูเก็ต และพัฒนาคุณวุฒิด้านลูกเสือให้กับพนักงานครูให้สูงขึ้น 

ลงเสาเอกบ้านเทิดไท้องค์ราชัน 84 พรรษา



เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2554 บริเวณบ้านเลขที่ 31 ซอยต้นโพธิ์ ถนนภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เป็นประธานในการประกอบพิธีลงเสาเอกบ้านท้องถิ่นไทยเทิดไท้องค์ราชัน 84 พรรษา ซึ่งทางเทศบาลนครภูเก็ตจัดสร้างขึ้น เป็นบ้านชั้นเดียว 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก และ 1 ห้องครัว เพื่อมอบให้กับนางบุปผา ณ ถลาง อายุ 76 ปี อดีต อสม.รุ่นแรกของเทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งผ่านการคัดเลือกให้เป็นผู้ได้รับมอบบ้านท้องถิ่นไทย เทิดไท้องค์ราชัน 84 พรรษา เนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจริญพระชนมายุครบ 7 รอบ 84 พรรษา โดยมีคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาฯ ข้าราชการ พนักงานเทศบาลภูเก็ต ตัวแทนอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เทศบาลนครภูเก็ต ผู้นำชุมชน ตลอดจน นางบุปผา ณ ถลาง และบุตรชาย 2 คน ร่วมพิธีด้วย โดยจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 1 เดือน
นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทย ได้อนุมัติให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกับสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ดำเนินกิจกรรม โครงการบ้านท้องถิ่นไทย เทิดไท้องค์ราชัน 84 พรรษา เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชน ร่วมกันเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมายุครบ 84 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2554 โดยสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อสร้างที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ และผู้ยากจนให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง
พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์โครงการในลักษณะการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และเชิญชวนประชาชนผู้นำ ศาสนา หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา ภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน ผู้นำหมู่บ้าน ผู้นำชุมชนเข้าร่วมดำเนินโครงการกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความ สำคัญในการพิจารณากลั่นกรองคัดเลือกคนที่จะได้รับความช่วยเหลือให้มีบ้านอยู่อาศัย ต้องให้ได้บุคคลที่ สังคมยอมรับว่าเป็นคนดี โดยคัดเลือกจากการมีส่วนร่วมของประชาชนในชุมชน เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตลอดจนเพื่อให้ประชาชนสำนึกในความสำคัญของสถาบันพระ มหากษัตริย์และร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชน
สำหรับเทศบาลนครภูเก็ตได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการมาพิจารณาหาผู้เหมาะสม ปรากฏว่า คณะกรรมการฯ ได้คัดเลือก นางบุปผา ณ ถลาง ซึ่งเป็นราษฎรชุมชนซอยต้นโพธิ์ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต เป็นบุตรของนายเจิง และนางตอด ภูมิลำเนาเดิมเป็นคนจังหวัดลำปาง ไม่มีอาชีพ ปัจจุบันเดินไม่ได้ สามีประกอบอาชีพประมง รายได้ไม่แน่นอน มีบุตร 2 คน แต่ละคนมีงานทำแต่รายได้ไม่เพียงพอ โดยคุณสมบัติที่ทำให้ผ่านการคัดเลือก เนื่องจากเป็นผู้ที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนบ้าน ช่วยเหลือสังคมเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของชุมชนและเทศบาล เป็นบุคคลที่ขยันขันแข็งในการประกอบอาชีพ และมีความอดทนต่อสู้ความยากลำบาก นางสาวสมใจกล่าว

ส่งท้ายปีเก่ากับพนาสนธิ์กรุ๊ป


ส่งท้ายปีเก่ากับพนาสนธิ์กรุ๊ป
บริษัทใน เครือพนาสนธิ์ กรุ๊ป มอบของขวัญส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ จองบ้านพร้อมอยู่ ของในเครือพนาสนธิ์กรุ๊ป โปรโมชั่นพิเศษก่อนใคร พร้อมรับแคมเปญพิเศษ แจกแหลก !!! ทองคำหนัก 2 บาท (*เงื่อนไขของบริษัท) ในการออกบูธสัญจร ณ ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ต โซนพาวเวอร์บาย ชั้น 2 ระหว่างวันที่ 22 – 28 ธันวาคม 2554 โทรศัพท์ 076 – 217 849  
พนาสนธิ์ คุ้มค่า น่าอยู่ www. phanason.com

เตรียมงานเมืองลุงสังสรรค์ ปี 54



เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 8 ธันวาคม2554 พ.ต.อ.โชติ ชิดไชย ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ในฐานะที่ปรึกษาสมาคมชาวเมืองลุงภูเก็ต พร้อมด้วยนายสัจจพล ทองสม นายกสมาคมชาวเมืองลุงภูเก็ต ร้อยตรียศวันต์ รักษ์นวลละออง ผู้ช่วยสัสดีจังหวัดภูเก็ต ประธานจัดงานเมืองลุงสังสรรค์ปี 2554 นางประนอม แก้วปราง ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะแก้ว เลขานุการการจัดงานฯ ร่วมแถลงข่าวการจัดงานเมืองสังสรรค์เมืองลุง ปี 2554 ซึ่งกำหนดให้มีขึ้นในวันที่ 23 ธันวาคม 2554 ที่บริเวณเวทีกลางสะพานหิน โดยมีนายสาธิต กลิ่นภักดี ท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต นายมานิตย์ อักษรกุล ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต นางศึกษาวดี จันทร์ชู อุปนายกสมาคมชาวเมืองลุงภูเก็ต และสมาชิกสมาคมชาวเมืองลุงภูเก็ต และสื่อมวลชนจังหวัดภูเก็ต ร่วมที่ร้านอาหารภูเก็ตซีฟู้ด เขตเทศบาลนครภูเก็ต
ร้อยตรียศวันต์ กล่าวว่า การจัดงานเมืองลุงสังสรรค์ ปี 2554 เพื่อร่วมพบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนทัศนคติของชาวเมืองลุงที่อาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ต อีกทั้งยังเป็นการสร้างความรัก ความสามัคคี และความสามานฉันท์ของชาวเมืองลุงในจังหวัดภูเก็ต เพื่อนำเงินรายได้เป็นทุนการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาสในจังหวัดพัทลุงและภูเก็ต และยังเฉียดเงินรายได้ส่วนหนึ่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ภัยแห้ง ภัยหนาว และภัยอื่นๆ รวมถึงการรวมพลังของชาวเมืองลุงในจังหวัดภูเก็ตในการร่วมสร้างสรรค์กิจกรรมที่เป็นสาธารณกุศลให้ เกิดขึ้นแก่สังคมและประเทศไทย
สำหรับกิจกรรมภายในงานพบกับมโนราห์สมพงษ์น้อยดาวรุ่ง มโนราห์ประมวลศิลป์ นักร้องเพลงเพื่อชีวิตชื่อดังภาคใต้ และศิลปินพื้นบ้าน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกหลายรายการ และชาวเมืองลุงที่มาร่วมงานมีโอกาสลุ้นหางบัตรรับรางวัลรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ และรางวัลอื่นๆอีกมากมาย เป็นของขวัญปีใหม่กลับบ้านด้วย ในวันที่ 23 ธ.ค.บริเวณเวทีกลางสะพานหินภูเก็ต


อบรมลูกเสือชั้นความรู้เบื้องต้น



เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2554 ที่ค่ายลูกเสือจังหวัดภูเก็ต นายกวี ตันสุคตานนท์ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เป็นประธานในพิธีการฝึกอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือสามัญ ชั้นความรู้เบื้องต้น (BTC) โดยมีคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งมีครูโรงเรียนในสังกัดเทศบาลจำนวน 49 คน เข้ารับการอบรมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาบุคลากร ด้านลูกเสือ และเป็นการสนองตอบนโยบายด้านการส่งเสริมกิจการลูกเสือของเทศบาลนครภูเก็ตให้เป็นรูปธรรม
ทั้งนี้นายกวี ตันสุคตานนท์ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ได้กล่าวว่า กิจกรรมลูกเสือเป็นอีกวิชาหนึ่งที่โรงเรียนต้องจัดการเรียนการสอนในชั้นประถมศึกษา ซึ่งอยู่ในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ทุกโรงเรียนที่จะต้องมีการสอนวิชาลูกเสือ เพื่อช่วยให้นักเรียนมีระเบียบ วินัย มีความสามัคคี มีความรับผิดชอบตนเอง และมีสัมมาคารวะ การพัฒนากิจการลูกเสือ ผู้บังคับบัญชาลูกเสือจึงเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ ที่จะทำให้การเรียนการสอนประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของกิจการลูกเสือได้
เทศบาลนครภูเก็ตในฐานะรับผิดชอบด้านการจัดการศึกษา เห็นว่ากิจกรรมการฝึกอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือสามัญ (BTC) จะช่วยสร้างเสริมประสบการณ์ให้แก่พนักงานครูที่เข้ารับการอบรมได้เป็นอย่างมาก จึงได้จัดให้มีการฝึกอบรมวิชาดังกล่าวให้กับพนักงานครูในสังกัดเทศบาลนครภูเก็ต ขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 9 ธันวาคม 2554 ซึ่งการฝึกอบรมในครั้งนี้ เทศบาลนครภูเก็ตได้เชิญวิทยากรที่มีความรู้ ความ สามารถทางด้านวิชาลูกเสือเป็นอย่างดี มาทำการฝึกอบรม และทบทวนความรู้ด้านวิชาลูกเสือให้กับพนักงานครูที่เป็นผู้บังคับบัญชาลูกเสือ เพื่อที่จะได้นำความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอดให้กับลูกเสือในโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครภูเก็ต และพัฒนาคุณวุฒิด้านลูกเสือให้กับพนักงานครูให้สูงขึ้น
 

วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ขยายความร่วมมือท่องเที่ยวไทย –อินโด



เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2554 ที่โรงแรม รอยัลภูเก็ตซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต สถานกงสุลอินโดนีเซีย ประจำจังหวัดสงขลา ร่วมกับชมรมบริการท่องเที่ยวไทยภาคใต้ และสมาคมการท่องเที่ยวอินโดนีเซีย จัดสัมมนา ความร่วมมือทางการท่องเที่ยวระหว่างไทย – อินโดนีเซีย ขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศ โดยมีผู้ประกอบการนำเที่ยวจากบริษัทต่างๆ ของทั้งสองประเทศเข้าร่วม
นายเฮรู วิจักโสโน กงสุลใหญ่อินโดนีเซีย ประจำจังหวัดสงขลา กล่าวว่า สำหรับการมาจัดสัมมนาครั้งนี้เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนระหว่าง 2 ประเทศในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน โดยชาวอินโดนีเซียส่วนใหญ่ ชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติในเมืองไทย อาหารไทย ศิลปวัฒนธรรม รวมไปถึงการช้อปปิ้ง
ทั้งนี้ประเทศไทยกับประเทศอินโดนีเซียมีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันในด้านวัฒนธรรมมาแต่โบราณ นับตั้งแต่ อาณาจักรศรีวิชัย และมีความสัมพันธ์ทางการทูตมากว่า 61 ปี จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพมหานคร ทางรัฐบาลอินโดนีเซียได้มอบเงิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผ่านทางสถานทูตไทย ในกรุงจาการ์ตาเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย นายเฮรู วิจักโสโนกล่าว
ขณะที่นายสมเกียรติ สังข์ขาว สุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น จึงมีความปลอดภัยและพร้อมที่จะรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่ว โลก ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวและเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดิน ทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการแก้ปัญหาต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวด้วย โดยที่ผ่านมาก็มีนักท่องเที่ยวจากประเทศอินโดนีเซียที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากระยะทางที่ไม่ไกลนัก จึงทำให้สามารถเดินทางเข้ามาได้สะดวก 





ทน.ภูเก็ตปลูกต้นไม้ เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา



เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2554 ที่บริเวณริมคลองบางใหญ่ สวนสาธารณะสะพานหิน อ.เมือง ภูเก็ต นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวภูเก็ต ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ ลดภาวะโลกร้อน เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษาภายใต้โครงการ Phuket Low-carbon City เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยปลูกต้นจามจุรี จำนวน 100 ต้น
ทั้งนี้นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ได้กล่าวว่า ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น หรือที่เรียกว่า สภาวะโลกร้อน ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีผลกระทบกับวิถีชีวิตมนุษย์ อาทิ เกิดความแห้งแล้ง มีไฟไหม้ป่า ฝนตกไม่ตรงตามฤดูกาล อากาศหนาว เป็นต้น ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการตัดไม้ทำลายป่าของมนุษย์ ดังนั้นประเทศต่างๆ ทั่วโลก จึงได้ร่วมมือกันป้องกันและแก้ไขภาวะโลกร้อน ที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นอย่างมาก หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจึงได้ทำการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้กันเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สามารถช่วยธรรมชาติกลับคืนมามีความสมดุลเพิ่มมากขึ้น
เทศบาลนครภูเก็ตโดยกลุ่มงานสิ่งแวดล้อม สำนักการช่าง จึงได้จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ ลดภาวะโลกร้อน เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ภายใต้โครงการ Phuket Low-carbon City เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยปลูกต้นจามจุรี จำนวน ๑๐๐ ต้น ณ บริเวณริมคลองบางใหญ่ สวนสาธารณะสะพานหิน เพื่อสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมชาชินีนาถ ในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในการช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจก ปรับปรุงคุณภาพอากาศ และลดอุณหภูมิในเขตชุมชนเมืองของเทศบาลนครภูเก็ตต่อไป




แม่เด็กหญิงร้องสื่อหลังลูกสาวหาย 3 วัน



เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2554 นางสำรวย แสนทวีสุข อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/173 หมู่ 1 ตำบลวิชิต อ.เมืองภูเก็ต ร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ว่า ลูกสาว ชื่อ ด.ญ.สมัชญา ญาณปัญญา ชื่อเล่นน้องปิ่น อายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6/1 โรงเรียนอบจ.บ้านตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต อาศัยอยู่กับบิดาและปู่ย่า ที่บ้านเลขที่ 22 /24 หมู่ 1 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เนื่องจากพ่อแม่แยกกันอยู่ ได้หายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา และไม่มีการติดต่อกลับมาเลย
นางสำรวย กล่าวว่า ในวันดังกล่าว ลูกสาวไม่ได้ไปโรงเรียน โดยบอกกับปู่ว่ามีธุระ และได้ไปเล่นอินเตอร์เน็ตที่ร้านอินเทอร์เน็ตแห่งหนึ่งบริเวณปากซอยหล่อโรง อ.เมืองภูเก็ต จากนั้นก็หายตัวไป ซึ่งก็ได้ไปสอบถามเพื่อนสนิทของลูกสาวที่โรงเรียนก็ไม่มีใครทราบว่าหายไปไหน ทราบแต่ว่าในวันที่ 6 ลูกสาวไปเล่นเฟสบุ๊ค ที่ร้านอินเทอร์เน็ต เพราะรู้จักสนิทสนมกับเด็กภายในร้าน ตนจึงไปสอบถามเจ้าของและพนักงานร้านดังกล่าว ก็ไม่มีผู้ใด และทางร้านยังได้เปิดกล้องวงจรปิดให้ดู เห็นลูกสาวมาเล่นเน็ตที่ร้านจริง มีการเข้า-ออกจากร้าน 2-3 ครั้ง โดยภาพครั้งสุดท้ายที่น้องปิ่นเดินออกจากร้านไม่พบว่ามีอาการรีบร้อนหรือพิรุธแต่อย่างใด
นางสำรวย ยังระบุด้วยว่า ปกติลูกสาวชอบเล่นเฟสบุ๊คใช้ชื่อว่า Pinnee smile หลังจากลูกสาวหายตัวไป ได้ไปแจ้งความกับตำรวจที่ สภ.เมืองภูเก็ต แต่ก็ยังไม่ได้เบาะแส ขณะที่ญาติได้นำวันเดือนปีเกิดลูกสาว ไปให้หมอดูตรวจดวงชะตา หมอดูบอกว่าไปเที่ยวกับหญิงสาวเป็นทอมมีเงิน ส่วนหมอดูอีกคนบอกว่า ไปกับชายวัย 40 ปีที่เป็นเพื่อนบ้านมีอาชีพเป็นม้าทรงศาลเจ้าแห่งหนึ่ง และได้ไปสอบถามแล้วไม่พบพิรุธ จึงเชื่อว่าลูกสาวอาจจะมีคนลักพาตัวไป จึงขอวิงวอนตำรวจที่ทำคดีช่วยติดตามตัวเพื่อให้ลูกสาวได้กลับมาโดยเร็ว



ทน.ภูเก็ตจัดแข่งขันกีฬาประเพณี



เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2554 ที่สนามฟุตบอลภูเก็ตซ๊อคเกอร์ อารีน่า นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาประเพณี เชื่อมความความสามัคคี ระหว่างภาครัฐและเอกชน 6 ชมรม โดยมีคณะผู้บริหาร สมาชิกเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ และสมาชิกของชมรมต่างๆ ประกอบด้วย ชมรมตลาดสดสาธารณะ1 – 2, ร้านเสริมสวย, ชมรมร้านอาหาร, ชมรมแผงลอย, ผู้ประกอบการค้าบนลานเอนกประสงค์สะพานหิน เข้าร่วมการแข่งขันและเชียร์ เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ได้กล่าวว่า ตามที่เทศบาลนครภูเก็ตมีนโยบายเพื่อส่งเสริมเยาวชนให้เล่นกีฬา เพื่อพัฒนาร่างกาย จิตใจ และส่งเสริมให้ประชาชนได้ออกกำลังกาย และห่างไกลยาเสพติด ฝ่ายกิจกรรมเด็กและเยาวชน สำนักการศึกษา จึงได้จัดทำโครงการแข่งขันกีฬาประเพณีเชื่อมความสามัคคีระหว่างเทศบาลนครภูเก็ต และหน่วยงานภาคเอกชน 6 ชมรม เพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร โดยชมรมต่างๆ ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเชื่อมสามัคคี ประกอบด้วย คณะผู้บริหารและพนักงานเทศบาลนครภูเก็ต, ชมรมตลาดสดสาธารณะ1 – 2, ร้านเสริมสวย, ชมรมร้านอาหาร, ชมรมแผงลอย, ผู้ประกอบการค้าบนลานเอนกประสงค์สะพานหิน
สำหรับกีฬาที่จะแข่งขันมี 4 ประเภท คือ ฟุตบอล 7 คน ผู้บริหารเทศบาล – ชมรมผู้ประกอบการหญิง 6 ชมรม ฟุตบอลวัยรุ่น 7 คน ฟุตบอลอาวุโส 7 คน และกีฬาพื้นบ้าน เช่น ชักเย่อผสม ชาย 10 คน – หญิง 10 คน วิ่งผลัดกระสอบ ชาย – หญิง 8 x 50 เมตร วิ่งผลัดซุปเปอร์แมน ชาย – หญิง 8 x 50 เมตร ปิดตาตีหม้อ ชาย –หญิง และวิ่งผลัดหนีบขวดน้ำผสม ชาย – หญิง 4 x 25 เมตร โดยเทศบาลนครภูเก็ตคาดหวังว่า การจัดการแข่งขันกีฬา เชื่อมความสามัคคีในครั้งนี้จะก่อให้เกิดความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างประชาชน หน่วยงาน ชมรมต่างๆ และเทศบาล อันจะนำไปสู่การให้ความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านต่างๆ ของประชาชนในเขตเทศบาลนครภูเก็ตให้ดียิ่งขึ้นต่อไป