“กะตะ – กะรน – สวรรค์บนดิน”

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 54 ที่ ห้องแกรนบอลรูม โรงแรมฮิลตันภูเก็ต อาเคเดียรีสอร์ทแอนด์สปา ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต และพันธมิตรจากธนาคารซีไอเอ็มบี ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกสิกรไทย ได้ร่วมกันออนไลน์วีดีโอโฆษณา หากกะตะ กะรน ขึ้นบนยูทูบ พร้อมทั้งแถลงข่าวโครงการ “กะตะกะรน-สวรรค์บนดิน” โดยมีผู้คณะผู้บริหารเทศบาลตำบลกะรน ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวตำบลกะรน เข้าร่วม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน ได้กล่าวว่า ชุมชนกะตะ – กะรน เดิมเป็นชุมชนเล็กๆ ที่แวดล้อมไปด้วยความสุข ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และความสวยงามของธรรมชาติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกะตะกะรนเริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวส่งผลให้มีการเดินทางเข้ามาของผู้คนจำนวนมาก ส่งผลให้มีธุรกิจเกิดขึ้นและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งคนในพื้นที่และชาวต่างชาติ แต่เป็นการพัฒนาแบบไร้ทิศทางขาดการควบคุมทำให้มีปัญหาต่างๆเกิดขึ้นมากมาย และเริ่มที่จะส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติ เรื่องของวิถีชีวิต โดยปัจจุบันนี้ในพื้นที่กะตะกะรน มีห้องพักเกิดขึ้นแล้วกว่า 10,000 ห้อง

และเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวทางชุมชนกะตะกะรน จึงได้จัดตั้งคณะกรรมการจัดการท่องเที่ยวขึ้นมา เพื่อปกป้องดูแลทรัพยากรธรรมชาติด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ เพราะถ้ายังปล่อยให้มีการเติบโตเป็นไปแบบไร้ทิศทางต่อไปอาจจะทำให้การท่องเที่ยวของกะตะกะรนวิกฤตได้ ซึ่งรวมไปถึงภาคส่วนชองชุมชนจึงได้ร่วมกันคิดโครงการต่างๆ 12 โครงการ ในการดำเนินการเพื่อให้กะตะกะรน เป็นสวรรค์บนดินของนักท่องเที่ยว และคนในพื้นที่ ตามสโลแกน “เมืองน่าอยู่ ชุมชนมั่นคง เศรษฐกิจมั่งคั่ง และสิ่งแวดล้อมยั่งยืน” โดยโครงการที่เริ่มดำเนินการแล้วในวันนี้ คือ โครงการ “กะตะกะรน-สู่โลกกว้าง” ด้วยการจัดทำโปสการ์ดจำนวน 1 ล้านฉบับสำหรับแจกจ่ายให้กับนักท่องเที่ยวเพื่อถ่ายทอดความงดงามของกะตะกะรนในมุมต่างๆส่งออกไปทั่วโลก เพื่อให้ดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่เข้ามาในพื้นที่ในอนาคต โดยโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไอเอ็มบี และธนาคารไทยพาณิชย์

สำหรับโครงการอื่น ๆ ที่ทางคณะกรรมการร่วมกันกำหนดขึ้นเพื่อให้กะตะกะรนเป็นสวรรค์บนดินประกอบด้วย โครงการกะตะกะรนสะอาดทั้งปีโดยการจัดเจ้าหน้าที่ดูแลและเก็บขยะบริเวณชายหาดและพื้นที่อื่นให้สะอาดอยู่ตอลดเวลา โครงการสวนชายเลหาดกะตะ – กะรนถวายแม่ของแผ่นดิน โครงการป้ายปลอดมลพิษทางสายตาโดยการดำเนินการจัดระเบียบป้ายโฆษณาในพื้นที่ โครงการปลอดมลพิษทางเสียงทั้งเสียงจากสถานบันเทิง เสียงจากรถโฆษณาและเสียงอื่นที่ไม่พึงประสงค์ โครงการรักษ์ทะเลกะตะ – กะรน โครงการคืนชีวิตสู่ทะเล โครงการจราจรปลอดภัย โครงการเมืองสวยด้วยมือเรา โครงการพัฒนากะรนปาร์ค โครงการอัธยาศัยที่ดีของเจ้าของบ้าน และโครงการนักท่องเที่ยวกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย

อบจ.ภูเก็ต จัดงานวันผู้สูงอายุ ประจำปี 2554

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2554 ที่โรงแรมเมโทรโพลภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงานวันผู้สูงอายุจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2554 ณ โดยมีนางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย สมาชิกวุฒิสภา จ.ภูเก็ต นางเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ จ.ภูเก็ต คณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และผู้สูงอายุจากพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วม

นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า ผู้สูงอายุเป็นบุคคลสำคัญของครอบครัว เป็นผู้ที่ได้เลี้ยงดูบุตรหลานมาจนเติบใหญ่ เป็นผู้ที่มีความปรารถนาดีอยากเห็นลูกหลานเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ยอมแบกรับความลำบากเพื่อส่งเสริมให้ลูกหลานมีอนาคตที่ดี ดังนั้นผู้สูงอายุจึงเป็นผู้ทรงวัยวุฒิที่คงคุณงามความดี และเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับลูกหลาน ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตได้เห็นความสำคัญในเรื่องดังกล่าว จึงได้จัดงานวันผู้สูงอายุขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งก่อให้เกิดการรวมกลุ่มที่เข้มแข็งและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้สูงอายุ ให้ความรู้ด้านการส่งเสริมการป้องกันและดูแลสุขภาพ พร้อมทั้งให้บุตรหลานและผู้อาวุโสน้อยได้แสดงมุทิตาจิตต่อผู้สูงอายุและส่งเสริมความอบอุ่นให้เกิดขึ้นในครอบครัว รวมถึงเป็นการยกย่องเชิดชูผู้สูงอายุที่ทำคุณประโยชน์ต่อชุมชน และสังคมกระตุ้นให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุและเพื่อเป็นการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมไทย

ประกอบกับปัจจุบันรัฐบาลได้กำหนดให้มีการเตรียมความพร้อมสังคมไทย สู่สังคมผู้สูงอายุเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และมีการจัดทำแผนผู้สูงอายุ (ฉบับที่ 2)พ.ศ.2545 – 2564 ไว้เพื่อเป็นหลักประกันและสร้างความมั่นคงให้กับผู้สูงอายุ สำหรับองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตมีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 ในการสังคมสงเคราะห์และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา และผู้ด้อยโอกาส ประกอบกับนโยบายขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้มุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต

โดยการจัดงานครั้งนี้มีพิธีมอบเกียรติบัตรสำหรับผู้สูงอายุดีเด่น พิธีรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ การบรรยายพิเศษในหัวข้อ หัวร่อต่ออายุ “สูงค่า สูงวัย ใส่ใจสุขภาพ” โดย นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา และกิจกรรมการแสดงบนเวที ซึ่งบรรยากาศภายในงานได้สร้างความอบอุ่นเป็นอย่างมาก

มอบ “บ้านน้ำใจ 13” ที่ภูเก็ต

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2554 ที่บ้านเลขที่ 44/2 หมู่ 2 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง ภูเก็ต นายประเสริฐ บุญเรือง รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานเปิดและมอบ “บ้านน้ำใจ 13” โดยมีนายมานิตย์ อักษรกุล ประธานคณะกรรมการการอาชีวะศึกษาจังหวัดภูเก็ต นายธำรง ตันติวิรัชกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุนทร นายกิตติศักดิ์ โสตรักษา กำนันตำบลศรีสุนทร ตลอดจนคณะอาจารย์วิทยาลัยเทคนิคภูเก็ต วิทยาลัยอาชีวะศึกษาภูเก็ต และประชาชนในตำบลศรีสุนทร ร่วมเป็นเกียรติในครั้งนี้

นายประเสริฐ บุญเรือง รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า ด้วยกระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำโครงการสร้างบ้านน้ำใจให้นักเรียน โดยการสร้างบ้านให้กับนักศึกษาที่ยากจน ซึ่งการก่อสร้างดำเนินการโดยนักศึกษา และครู วิทยาลัยเทคนิคภูเก็ต ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณการก่อสร้างจากผู้อุปถัมภ์ภายใต้การประสานงานจากวิทยาลัยในอาชีวศึกษาจังหวัดภูเก็ต อันประกอบด้วย วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต วิทยาลัยเทคนิคภูเก็ต วิทยาลัยสารพัดช่างภูเก็ต องค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุนทร รวมทั้งผู้สนับสนุนอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านอีกจำนวนมาก ซึ่งทางกรมอาชีวะก็ต้องขอขอบคุณ ผู้ที่ให้การสนับสนุน และในโอกาสเดียวกันนี้ยังได้มอบเกียรติบัตรให้กับผู้สนับสนุน เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณด้วย

สำหรับ บ้านน้ำใจ หลังนี้ เป็นบ้านที่จัดสร้างให้นักเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ให้แก่นางสาวจารุวรรณ โทนา นักเรียนระดับชั้น ปวช.2 สาขางานการขาย วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต นับเป็นบ้านหลังที่ 13 ของกระทรวงศึกษาธิการที่ได้ดำเนินการส่งมอบตามโครงการโดยนำร่องในปีนี้จำนวน 84 เพื่อให้สอดคล้องกับวโรกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระชนมพรรษา 84 พรรษา ซึ้งครอบคลุมทั้งนักเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน โดยเปิดโอกาสให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุนงบประมาณการก่อสร้างเป็นการกุศลถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พัฒนาภาวะผู้นำด้วย “นพลักษณ์” รุ่นที่ 2

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2554 ที่ห้องประชุมแววราไวย์ โรงแรมเมโทรโพลภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีปิดการฝึกอบรม และมอบวุฒิบัตร โครงการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต หลักสูตร การพัฒนาภาวะผู้นำด้วย “นพลักษณ์” ศาสตร์แห่งการพัฒนาตนเองและการวิเคราะห์ “คน” รุ่นที่ 2 ของชมรมบริหารงานบุคคลจังหวัดภูเก็ต

สำหรับการฝึกอบรม หลักสูตร การพัฒนาภาวะผู้นำด้วย “นพลักษณ์” ศาสตร์แห่งการพัฒนาตนเองและการวิเคราะห์ “คน” รุ่นที่ 2 เป็นการจัดการอบรมตามโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายบางส่วนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ที่ประสงค์จะให้รายได้ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตที่ได้รับจากการนำส่งค่าธรรมเนียมบำรุง อบจ.ภูเก็ต จากผู้พักในโรงแรม ได้กลับไปสู่ผู้ที่มีส่วนในการจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต โดยใช้เวลาในการฝึกอบรม จำนวน 2 วัน ซึ่งมีผู้ผ่านการฝึกอบรม จำนวนทั้งสิ้น 50 คน

นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่การฝึกอบรมครั้งนี้ได้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ซึ่งวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม เพื่อพัฒนาภาวะผู้นำ เพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการและวิธีการจัดการงานบุคคลอยู่เสมอ โดยการใช้หลัก “นพลักษณ์” เป็นศาสตร์แห่งการวิเคราะห์คนอย่างละเอียดลึกซึ้ง ร่วมกับจิตวิทยาสมัยใหม่อันจะช่วยให้ผู้บริหารสามารถวิเคราะห์ ทำความเข้าใจบุคลิกลักษณะ และอุปนิสัยของคน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเรื่องการคัดเลือกบุคลากรด้านการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและการพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพในการบริการที่ดีอยู่เสมอ หากเป้าหมายนี้ได้บรรลุผลอย่างแท้จริง จะส่งผลให้การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีจุดขายที่สำคัญคือ การให้บริการที่เป็นเยี่ยม สามารถแข่งขันกับประเทศที่เป็นคู่แข่งทางการท่องเที่ยวและยืนอยู่ในตลาดการท่องเที่ยวโลกได้ แต่การฝึกอบรมครั้งนี้จะไม่เกิดผล หากมิได้นำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน และที่สำคัญ คือ องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ที่มีความประสงค์จะนำรายได้ที่ได้รับจากการนำส่งค่าธรรมเนียมบำรุง อบจ.ภูเก็ต จากผู้เข้าพักในโรงแรม ได้กลับไปสร้างประโยชน์แก่ผู้ที่มีส่วนร่วมในการจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตด้วย ทั้งนี้การที่จะบริหารงานให้บรรลุตามเป้าหมายดังกล่าวได้ ผู้บริหารก็ควรจะต้องเป็นผู้ที่มีความพร้อมที่จะปฏิบัติงาน ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถในการใช้คน การบริหารงาน และการบริหารเวลาได้อย่างดี

ตร.น้ำปล่อยแถวดูแลความปลอดภัยทางน้ำ

เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2554 ที่บริเวณท่าเทียบเรือรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต พ.ต.อ. วิสูตรเกษมณี รองผู้บังคับการตำรวจน้ำ เป็นประธานปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำและตำรวจท่องเที่ยว รวมทั้งตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต เพื่อออกปฏิบัติงานปราบปรามอาชญากรรม ดูแลความปลอดภัยช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวทางทะเลในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตามโครงการ “ท่องเที่ยวปลอดภัย ไว้ใจตำรวจน้ำ”

โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจภูธร ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยบริเวณท่าเทียบเรือ และความปลอดภัยในทะเล รวมทั้งตรวจสอบใบอนุญาตผู้ประกอบการเรือโดยสาร และตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ก่อนที่จะนำนักท่องเที่ยวเดินทางออกจากท่าเทียบเรือเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมีความปลอดภัยสูงสุด

พ.ต.อ.วิสูตร เกษมณี รองผู้บังคับการตำรวจน้ำ กล่าวว่า ภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญมีนักท่องเที่ยวความสนใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางทะเล ฉะนั้นการดูแลความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยทางเรือถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ

โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากกว่าช่วงปกติ ตำรวจน้ำจึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ซึ่งรวมถึงจังหวัดพังงาและจังหวัดกระบี่ เพื่อปราบปรามอาชญากรรม ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากอุบัติเหตุทางน้ำ รวมทั้งคอยอำนวยความ สะดวกให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวด้วย อย่างไรก็ตามผู้ที่ประสบเหตุหรือปัญหาอาชญากรรมทางทะเลสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน HOTLINE หมายเลข 1196

สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภูเก็ต จัดรดน้ำผู้สูงอายุ

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2554 ที่สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ภูเก็ต สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายวรรณเกียรติ ทับทิมแสง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันผู้สูงอายุ ประจำปี 2554 ซึ่งเป็นการจัดติดต่อกันเป็นปีที่ 7 โดยจัดให้มีการรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ ซึ่งเชิญมาจากศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุภูเก็ต บ้านป่าคลอก จำนวน 12 คน พร้อมกันนี้ยังได้พาเยี่ยมสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ และรับประทานอาหารว่างร่วมกันด้วย

นายวรรณเกียรติ กล่าวว่า ด้วยสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ภูเก็ต เป็นหน่วยงานภาครัฐ มีภารกิจหลัก คือ ส่งเสริมเผยแพร่ความรู้แก่นักเรียน นักศึกษา และเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวไทยและต่างชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมสังคมและให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ ให้รู้จักความกตัญญูรู้คุณของบุพการี การมีน้ำใจต่อสังคม การอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้อื่น และความเห็นอกเห็นใจต่อสังคมมากขึ้น ส่งเสริมการท่องเที่ยวของครอบครัว ลดช่องว่างระหว่างวัย ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภูเก็ต ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

พ่อเมืองภูเก็ตห่วงการสร้างบ้านบนภูเขา

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2554 ที่ห้องประชุม หอทะเบียนที่ดิน 2459 สำนักที่ดินจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 2/2554 เพื่อพิจารณารายละเอียดโครงการที่มีการนำเสนอเพื่อขอรับการจัดสรรที่ดิน การขออนุญาตแก้ไขแผนผังโครงการและวิธีการจัดสรรที่ดิน การจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร การถอนสัญญาค้ำประกันการจัดทำสาธารณณูปโภค และการร้องเรียนความเดือนร้อนที่ได้รับจากการซื้อบ้านในโครงการจัดสรร โดยมีคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วม

นายตรี กล่าวก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ว่า เนื่องจากปัจจุบันได้เกิดภัยธรรมชาติขึ้นตลอดเวลา และนำมาซึ่งความสูญเสียเป็นจำนวนมาก เห็นได้จากหลายพื้นที่ทั้งภายในประเทศ เช่น น้ำท่วมและดินถล่มในหลายจังหวัดของภาคใต้ เป็นต้น และในต่างประเทศ เช่น นิวซีแลนด์ พม่า ญี่ปุ่น เป็นต้น ดังนั้นจึงอยากฝากคณะกรรมการฯ ในการพิจารณาอนุญาตจัดสรรโครงการ โดยเฉพาะที่ตั้งอยู่บริเวณบนภูเขาหรือเนินเขาซึ่งจะต้องมีการเปิดหน้าดินเพื่อทำการก่อสร้าง ฉะนั้นต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องของดินสไลด์ เพราะหากเกิดเหตุขึ้นก็จะสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางกระทรวงมหาดไทยและรัฐบาลให้ความสำคัญและแสดงความห่วงใยเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งนี้ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบเรื่องของการจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร 2 โครงการ ได้แก่ บริษัท ภูเก็ต เฮริเทจ โฮม จำกัด ผู้จัดสรรที่ดินโครงการ เดอะ เฮริเทจ และบริษัท สิทธารมย์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด โครงการที่ได้รับการอนุญาตจัดสรรเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา จำนวน 6 โครงการ ได้แก่ โครงการพนาสนธิ์ซิตี้ เทพอนุสรณ์ โครงการบ้านจอมทองถลาง โครงการสามกองพาร์ค โครงการบ้านฉลองสุข โครงการบ้านพร้อมพันธ์ป่าคลอก และโครงการรัษฎาโฮม 2

นอกจากนี้ยังได้พิจารณาโครงการที่ขออนุญาตจัดสรรที่ดินจำนวน 5 โครงการ ได้แก่ โครงการธารทอง วิลล่า เจ้าฟ้าของบริษัท สินสยามเคหะการ จำกัด, โครงการฉลอง มิราเคิ้ล เลควิว ของบริษัท ฉลอง มิราเคิ้ล เลควิว จำกัด ซึ่งอนุญาตแบบมีเงื่อนไข,โครงการชนกานต์-บ่อแร่ ของบริษัท ชนกานต์บ้านและที่ดิน จำกัด, โครงการไพร์มเพลส ภูเก็ต-อนุสาวรีย์ 4 ของบริษัท ธนาสิริ พร๊อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด, โครงการสบาย วิลเลจ กะทู้ ของบริษัท แปลน เอสเตท จำกัด ทั้งนี้ได้ให้ความเห็นชอบเปลี่ยนแปลงแก้ไขแผนผังโครงการและวิธีการจัดสรรที่ดิน ครั้งที่ 1 ของบริษัท เดชอนัญการาจ จำกัด ชื่อโครงการอนัญดา ฉลอง ฮาร์เบอร์ เอสเตท และบริษัท สกุลเกียรติ แลนด์ จำกัด ชื่อโครงการ บางทองเลคไซด์ ขณะเดียวกันไม่ให้ความเห็นชอบการขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขแผนผังโครงการและวิธีการจัดสรรที่ดิน ครั้งที่ 1ของบริษัท แมกซ์ แอสเซ็ท จำกัด ชื่อโครงการ เดอะวัลเลย์ 2

สาวภูเก็ตเจ๋ง คว้าสุดยอดนักชงกาแฟสูตรพิเศษ

ที่หอประชุมมหิศร อาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ (SCB Park) กรุงเทพมหานคร ได้จัดให้มีการแข่งขัน “Thailand Indy Barista Championship ครั้งที่ 3 รอบ Champ of The Champ” (ไทยแลนด์ อินดี้ บาริสต้า แชมป์เปี้ยนชิพ ครั้งที่ 3 รอบ แชมป์ ออฟ เดอะ แชมป์) ในงาน Thailand Asian Coffee & Tea 2011 เพื่อค้นหาสุดยอดนักชงกาแฟแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้นายกิจจา วงศ์วารี กรรมการบริหาร บริษัทในเครืออโรม่า กรุ๊ป ผู้นำด้านธุรกิจกาแฟคั่วบดครบวงจร ที่ดำเนินกิจการมานานกว่า 50 ปี ได้กล่าวว่า ได้ร่วมกับ บริษัท กรีนสปอต จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่มน้ำนมถั่วเหลืองไวตามิลค์ จัดการแข่งขัน “Thailand Indy Barista Championship ครั้งที่ 3 รอบ Champ of The Champ” (ไทยแลนด์ อินดี้ บาริสต้า แชมป์เปี้ยนชิพ ครั้งที่ 3 รอบ แชมป์ ออฟ เดอะ แชมป์) ในงาน Thailand Asian Coffee & Tea 2011 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาสุดยอดนักชงกาแฟหรือบาริสต้า ที่ประกอบอาชีพเปิดร้านกาแฟแบบอิสระที่มีอยู่กว่า 80,000 ร้านค้าทั่วประเทศ ได้มีเวทีในการแข่งขันเพื่อพัฒนาฝีมือการชงกาแฟให้มีคุณภาพมาตรฐานมากยิ่งขึ้น

“ตลอดปี 2553 ที่ผ่านมาทางอโรม่า กรุ๊ป ได้จัดการแข่งขันเพื่อค้นหาสุดยอดนักชงกาแฟในแต่ละภูมิภาค (ผู้ชนะเลิศอันดับที่ 1-3) มาเป็นตัวแทนในการแข่งขันในรอบ Champ of The Champ โดยในรอบนี้ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดมีทักษะในการชงกาแฟที่ดีขึ้น มีการเลือกใช้วัตถุดิบซึ่งก็คือเมล็ดกาแฟที่มีความเหมาะสม จึงทำให้ผลงานที่ทำออกมาค่อนข้างดี โดยเฉพาะเมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ ดริงค์ (Signature Drinks) หรือกาแฟสูตรพิเศษ ซึ่งผู้เข้าร่วมแข่งขันจะต้องคิดค้นสูตรเครื่องดื่มกาแฟในสไตล์ของตัวเอง โดยจะต้องมีส่วนผสมหลักคือเครื่องดื่มไวตามิลค์ ซึ่งผู้เข้าแข่งขันแต่ละท่านมีการคิดค้นเมนูที่มีไอเดียที่สร้างสรรค์และมีความน่าสนใจ ซึ่งเมนูทั้งหมดนี้ยังจะสามารถนำไปพัฒนาเป็นเมนูพิเศษประจำร้านกาแฟของผู้เข้าแข่งขันได้อีกด้วย”

สำหรับผลการแข่งขันโครงการ Thailand Indy Barista Championship ครั้งที่ 3 รอบ Champ of The Champ ปรากฏว่า รางวัลชงกาแฟสูตรพิเศษยอดเยี่ยม (Best Signature Drink) ได้แก่นางสาวสุนิษา ดำชื่น ซึ่งเป็นตัวแทนภาคใต้จากร้านกาแฟ Mahogany Café (มะฮอกกานี คาเฟ่) ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 5,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร

ทั้งนี้นางสาวสุนิษา ดำชื่น จากร้าน Mahogany Café ซึ่งเป็นร้านค้าสวัสดิการอยู่ในโรงพยาบาลวชิระ จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ โดยเมนูเครื่องดื่มที่ทำคือ “โคโคนัท ภูเก็ต ไอส์แลนด์ คอฟฟี่” ซึ่งมีส่วนผสมของเนื้อมะพร้าวอ่อน น้ำผึ้ง นมถั่วเหลืองไวตามิลค์ ครีมข้นเหลวของอโรม่า และกาแฟ ซึ่งทำให้เครื่องดื่มเมนูนี้มีความหอมของกาแฟและมะพร้าวอ่อน ผสมผสานกับน้ำผึ้งที่หอมหวาน ให้รสชาติที่กลมกล่อมและมีกลิ่นอายเหมือนได้นั่งดื่มอยู่ที่ชายทะเลภูเก็ต ซึ่งเชื่อว่าทำให้เมนูนี้ถูกใจคณะกรรมการจนได้รับรางวัลในที่สุด

ทต.รัษฎา จัดงานวันผู้สูงอายุ ประจำปี 2554

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 54 ที่บริเวณด้านหน้าที่สำนักงานเทศบาลตำบลรัษฎา อ.เมือง ภูเก็ต นายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผุ้แทนราษฎร์ พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงานวันผู้สูงอายุ ประจำปี 2554 โดยมีนายสุรทิน เลี่ยนอุดม นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา และคณะผู้บริหารเทศบาลฯ ประธานสภาเทศบาลฯ สมาชิกสภาเทศบาลฯ รวมถึงกำนัน – ผู้ใหญ่บ้านในเขตพื้นที่ตำบลรัษฎา หัวหน้าส่วนราชการ พนักงาน แขกผู้มีเกียรติและผู้สูงอายุในเขตเทศบาลตำบลรัษฎา เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

ทั้งนี้นายสุรทิน เลี่ยนอุดม นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา ได้กล่าวว่า การจัดงานวันผู้สูงอายุในครั้งนี้ เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติคุณผู้สูงอายุ ที่สร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคมมายาวนาน และสร้างความตระหนักแก่คนในสังคมได้เห็นคุณค่าและความสำคัญของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีศักดิ์ศรี มีภูมิปัญญา มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่ถ่ายทอดให้แก่คนรุ่นหลัง เป็นเสาหลักของครอบครัวและอบรมสั่งสอนบุตรหลานเป็นคนดีของสังคม รวมถึงเป็นการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้ใช้พลังความสามารถของตนทำประโยชน์ให้แก่สังคม

เทศบาลตำบลรัษฏา ต้องการที่จะสร้างความมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งกิจกรรมที่เน้นการอนุรักษ์วัฒนธรรมและประเพณีไทย และกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้ผู้สูงอายุเป็นศูนย์กลาง อาทิ การยกย่องเชิดชูคุณค่าผู้สูงอายุ การแสดงความกตัญญูกตเวที การถ่ายทอดภูมิปัญญาความรู้และประสบการณ์ กิจกรรมอาสาสมัครและการเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้สูงอายุ การแสดงที่สวยงามพร้อมเพรียง เป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมและประเพณีของชาวภูเก็ต จากชมรมผู้สูงอายุตำบลรัษฎา การตรวจสุขภาพ ตลอดจนกิจกรรมการมอบของที่ระลึกเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้สูงอายุ

ด้านนายเรวัติ อารีรอบ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปัจจุบันครอบครัวคนไทยมีแนวโน้มการดำรงชีวิตเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น ทำให้ไม่มีเวลามาดูแลครอบครัว พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ผู้สูงอายุจึงถูกทอดทิ้งให้อยู่ลำพัง ในการนี้ต้องขอบคุณเทศบาลตำบลรัษฎาที่เล็งเห็นความสำคัญของผู้สูงอายุ ที่ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น เป็นการแสดงความเคารพและให้ความสำคัญแก่ผู้สูงอายุ ทำให้ผู้สูงอายุมีความรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าไม่เป็นภาระและไม่ถูกทอดทิ้งจากสังคม

โดยบรรยากาศภายในงานเริ่มตั้งแต่การใส่บาตรอาหารแห้งพระสงฆ์และสามเณร จำนวน ๖๙ รูป การรำอวยพร การแสดงจากกลุ่มองค์กร / ชมรม ต่างๆ ในพื้นที่ตำบลรัษฎา พิธีสรงน้ำพระและการรดน้ำขอพรจากผู้สูงอายุ

ปล่อยขบวนรถช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 54 ที่บริเวณถนนสุทัศน์ อ.เมือง จังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการปล่อยขบวนรถช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมภาคใต้ โดยมีพ.ต.อ.โชติ ชิดไชย ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต นายแพทย์ศิริชัย ศิลปอาชาประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนชมรมชาวนครศรีธรรมราช จ.ภูเก็ต เข้าร่วม ซึ่งขบวนรถบรรทุกสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าวมีจำนวน 4 คัน บรรทุกสิ่งของต่างๆ ทั้งหมดจำนวน 2,500 ชุด ซึ่งมีทั้งยารักษาโรค สิ่งของอุปโภคบริโภคเบื้องต้น เสื้อผ้า ข้าวสารอาหารแห้ง โดยเน้นเดินทางไปยังพื้นที่อำเภอชะอวด อำเภอเชียงใหญ่ อำเภอปากพนัง อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมและจังหวัดกระบี่

นายตรี กล่าวว่า ตามที่เกิดอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ได้มีหน่วยงานและกลุ่มองค์กรต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมใจกันรับบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยเป็นจำนวนมาก และในส่วนของทางจังหวัดภูเก็ตเองนั้นก็ได้มีการเปิดศูนย์รับบริจาคขึ้นที่ภายในศาลากลางจังหวัด และกำหนดจัดกิจกรรมรณรงค์รับบริจาคครั้งใหญ่ในระหว่างวันที่ 9-10 เมษายนนี้ โดยจัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย เพื่อเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนมาร่วมบริจาค หลังจากนั้นก็จะได้นำไปมอบให้กับจังหวัดที่ประสบภัยต่อไป

ทต.วิชิตจัดงานมหกรรมอาหารปลอดภัย

เมื่อคืนของวันที่ 6 เมษายน 2554 ที่บริเวณสวนศรีภูวนาถ ม.1 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดงาน มหกรรมอาหารปลอดภัย โดยมีนายเรวัติ อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ จังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นาย กรีฑา แซ่ตัน นายกเทศมนตรี คณะผู้บริหารเทศบาลตำบลวิชิต สมาชิกสภาเทศบาลตำบลวิชิต หัวหน้าส่วนราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ ตลอดจนประชาชนเข้าร่วมในพิธีเปิดจำนวนมาก โดยก่อนจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ทางผู้จัดงานได้เรียนเชิญประธานในพิธี คือ นายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายกเทศมนตรี ร่วมกันปรุงแกงไตปลาหม้อใหญ่ เพื่อแจกจ่ายให้ผู้ร่วมงานรับประทานกับขนมจีน

ทั้งนี้นายกรีฑา แซ่ตัน นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต ได้กล่าวว่า สืบเนื่องจากรัฐบาลได้กำหนดนโยบายในเรื่องความปลอดภัยของอาหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เกิดความเชื่อมั่นในอาหารที่บริโภคภายในประเทศที่มีความปลอดภัย และปราศจากสารปนเปื้อน ซึ่งมีเป้าหมายหลักให้ประชาชนได้บริโภคอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ครอบคลุมทั้งอาหารสด อาหารแปรรูป อาหารปรุงสำเร็จ โดยกำหนดให้จัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้ประกอบการในการปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาลอาหารและเผยแพร่ข้อมูลด้านความปลอดภัยของอาหารสู่สาธารณชน

เทศบาลวิชิตถือเป็นหน่วยงานที่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการดำเนินงานด้านความปลอดภัยอาหาร และถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการภายในพื้นที่ โดยมุ่งเน้นการควบคุมความสะอาดของวัตถุดิบ ขั้นตอนการประกอบและปรุงอาหารจำหน่าย สุขลักษณะของสถานประกอบการ เพื่อทำให้เทศบาลวิชิตเป็นชุมชนอาหารปลอดภัย ปลอดโรค ปลอดสารพิษ ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถสามารถบริโภคได้อย่างมั่นใจ และมีสุขภาพที่ดี อีกทั้งเพิ่มพูนความรู้และข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องให้กับประชาชน ในเรื่องการเลือกซื้อและรับประทานอาหารอย่างปลอดภัย จึงได้จัดงานมหกรรมอาหารปลอดภัยขึ้น โดยได้กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 9 เมษายน 2554

สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การแข่งขันเต้นแอร์โรบิก การแข่งขันฮูลาฮูค การออกบูทจำหน่ายอาหารจากร้านอาหารและแผงลอยในเขตตำบลวิชิต นิทรรศการให้ความรู้ในเรื่องความปลอดภัยด้านอาหารและสุขภาพ และกิจกรรมการแสดงบนเวทีจากลูกหลานชาวตำบลวิชิต โดยการจัดงานในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่