จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2554

พ่อเมืองภูเก็ตยอมรับห่วงปัญหาดินถล่ม


นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดฝนตกหนักติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายวันส่งผลทำให้ดินตามภูเขาต่างๆ มีอุ้มน้ำเต็มที่แล้ว และแม้ว่าจะยังไม่มีปัญหาดินสไลด์หรือถล่มลงมาเหมือนกับจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ แต่เพื่อความไม่ประมาทก็ได้มีการเตรียมความพร้อมในการับมือหากเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นโดยได้สั่งการไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ในพื้นที่เสี่ยงภัยดินสไลด์ดินถล่มให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้เตรียมความพร้อมในการอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่เสี่ยงได้ทันท่วงที ซึ่งในส่วนของงบประมาณที่จะนำมาใช้ดูแลกรณีเกิดภัยพิบัตินั้นก็มีงบฉุกเฉินที่ทางผู้ว่าฯ สามารถที่จะเบิกจ่ายและนำมาช่วยเหลือประชาชนได้เบื้องต้นจำนวน 50 ล้านบาท

“เหตุการณ์ดินถล่มในหลายพื้นที่ของจังหวัดภาคใต้นั้น ส่วนใหญ่จะเกิดจากปัญหาการเข้าไปทำลายทรัพยากรธรรมชาติบนภูเขา ดังนั้นเมื่อฝนตกลงมาทำให้เกิดปัญหาดินถล่มลงมาด้วย และในส่วนของภูเก็ตนั้นก็มีปัญหาการทำลายทรัพยากรธรรมชาติอยู่เช่นกันแต่ก็ยังมีปริมาณน้อยอยู่ ที่ผ่านมาได้สั่งกำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเฝ้าระวังและดูแลไม่ให้มีการทำลายทรัพยากรธรรมชาติตามภูเขาต่างๆ โดยเฉพาะการก่อสร้างโครงการบ้านจัดสรรที่อยู่บริเวณเนินเขาต่างๆ ส่วนของปัญหาน้ำท่วมนั้นภูเก็ตไม่มีปัญหา เนื่องจากสภาพเป็นเกาะ เมื่อฝนตกลงมาก็จะไหลลงทะเล แต่อาจจะมีปัญหาน้ำท่วมขังบ้าง แต่ก็ใช้เวลาไม่นานก็สามารถระบายได้”

อย่างไรก็ตามนายตรี กล่าวว่า มีความกังวลในบางจุดที่มีการเปิดหน้าดินตามเนินเขาต่างๆ เพราะหากมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน โอกาสที่จะดินถล่มลงมาก็เป็นได้ ซึ่งในส่วนนี้ก็ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะส่วนใหญ่ท้องถิ่นจะทราบอยู่แล้วว่าพื้นที่ใดที่มีความเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษ

พบโลมาปากขวดเกยตื้นบริเวณท่าเรือเกาะสิเหร่


เมื่อวันที่ 2 เมษายน 54 ทางสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้มีโลมาปากขวดว่ายน้ำมาเกยตื้นอยู่บริเวณใกล้ๆ กับท่าเทียบเรือเกาะสิเหร่ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่มานำไปปฐมพยาบาลด้วย

หลังรับแจ้งก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก นำโดยนายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อเดินทางมาถึง จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นโลมาปากขวดตัวเต็มวัย มีความยาวลำตัวประมาณ 2เมตรเศษ ส่วนเพศยังไม่ได้ตรวจสอบ บริเวณลำตัวมีบาดแผลถลอกเล็กน้อย คาดว่าน่าจะเกิดจากการว่ายน้ำหรือถูกคลื่นซัดไปกระแทกกับโขดหินในช่วงที่ว่ายน้ำเข้ามาเกยตื้น

จากนั้นก็ได้นำขึ้นรถเพื่อนำไปปฐมพยาบาลต่อที่บ่ออนุบาลกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก และจากการสังเกตมูลของโลมาดังกล่าวพบว่ามีลักษณะเป็นมูก สันนิษฐานว่าน่าจะมีอาการติดเชื้อภายในและมีความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการเจาะเลือดเพื่อนำไปตรวจหาสาเหตุของการป่วยอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามขณะนี้คงยังไม่สามารถที่จะปล่อยโลมาดังกล่าวกลับลงไปทะเลได้ เนื่องจากทะเลด้านนอกยังมีกำลังแรง หากปล่อยไปก็จะมีโอกาสถูกคลื่นซัดกลับเข้ามาหาฝั่งเหมือนเดิม ดังนั้นในระยะนี้จึงต้องคอยเฝ้าสังเกตอาการของโลมาจนกว่าจะทราบสาเหตุของอาการป่วยที่แท้จริงก่อน นายก้องเกียรติกล่าว

“ใจถึงใจ สู่ผู้ประสบภัยภาคใต้ และญี่ปุ่น”


เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2554 ที่ห้องประชุมเฮนาคา โรงแรมรอยัลภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต และนางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานใจถึงใจ สู่ผู้ประสบภัยภาคใต้และญี่ปุ่น ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชนและประชาชนทุกหมู่เหล่าของจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 9-10 เมษายนนี้ ที่บริเวณถนนถลาง อ.เมืองภูเก็ต เพื่อหารายได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติในพื้นที่ภาคใต้และประเทศญี่ปุ่น

นายตรี กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 จังหวัดภูเก็ต ประสบภัยพิบัติสึนามิและได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งประเทศญี่ปุ่นเป็นชาติแรกที่เข้ามาช่วยเหลือ ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจต่อชาวญี่ปุ่นเมื่อเขาได้รับความเดือดร้อนจากประภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชนและประชาชน จึงได้กำหนดที่จะจัดกิจกรรมเพื่อหารายได้ไปช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนดังกล่าว ประกอบกับในระหว่างที่มีการดำเนินการช่วยเหลือชาวญี่ปุ่น ปรากฏว่าพี่น้องทางภาคใต้ของเราก็ประสบภัยภัยพิบัติน้ำท่วมนำมาซึ่งความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินเป็นอย่างมาก ดังนั้นเพื่อการแสดงออกซึ่งความเห็นอกเห็นใจกัน จึงได้จัดกิจกรรมเพื่อรับบริจาครายได้และสิ่งของไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยของภาคใต้ไปในคราวเดียวกันด้วย

สำหรับรูปแบบการจัดกิจกรรม ประกอบด้วย การรับบริจาคเงินและสิ่งของในระหว่างวันที่ 9-10 เมษายน 2554 เวลา 17.00 น.- 24.00 น. ที่บริเวณถนนถลาง เริ่มจากบริเวณลานเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี (ลานมังกร) ซึ่งจะเป็นเวทีหลักและแสดงคอนเสิร์ต นอกจากนี้ยังจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ลักษณะของถนนคนเดินและดนตรีเปิดหมวกไปสิ้นสุดที่ถนนกระบี่ นอกจากนี้ยังมีที่บริเวณซอยรมณีย์ ซึ่งจะเป็นการแสดงความสามารถของเด็กและเยาวชน พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว เป็นสถานที่จัดนิทรรศการภาพเหตุการณ์เกิดสึนามิและน้ำท่วมภาคใต้ โดยในวันที่ 10 เมษายน นั้นจะมีการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง อาทิ Tamone Band, Jofax, 4Gzm, ต้าร์ มิสเตอร์ทีม, อู๋ ธนาธร ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา เป็นต้น และศิลปินจากประเทศญี่ปุ่น เช่น Yuki , Aucifer เป็นต้น

ทั้งนี้ในวันที่ 10 เมษายนช่วงระหว่างเวลา 22.00 น. – 24.00 น.ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ จะมีการถ่ายทอดสดการรับบริจาคผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 ด้วย หรือผู้มีจิตศรัทธาสามารถที่จะบริจาคโดยโอนเงินเข้าบัญชี ชื่อ “ชาวภูเก็ตร่วมใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้” เลขที่บัญชี 805-0-39733-5 ธนาคารกรุงไทย สาขาภูเก็ต และบัญชีชื่อ “ภูเก็ตร่วมใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยญี่ปุ่น” เลขที่บัญชี 805-0-41578-3 ธนาคารกรุงไทย สาขาภูเก็ต เช่นกัน

องค์กรต่างๆ ในภูเก็ต ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม


เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2554 บริเวณหน้าอาคารกาญจนาภิเษก 2539 ที่ว่าการอำเภอเมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต นายโกมินทร์ นพรัตน์ นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยสมาชิกสมาคมฯ ร่วมกันปล่อยรถบรรทุกสิ่งของเครื่องอุปโภคและบริโภค อาทิ ข้าวสาร อาหารสำเร็จรูป น้ำดื่ม เป็นต้น จำนวนประมาณ 1,000 ชุด ซึ่งทางสมาคมฯ ได้เปิดรับบริจาค พร้อมด้วยคาราวานรถของสมาชิกฯ เดินทางนำสิ่งของดังกล่าวไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมและดินถล่ม ในพื้นที่ อ.เขาพนม จ.กระบี่

นอกจากนี้ที่บริเวณถนนเฉลิมพระเกียรติ ร. 9 อ.เมือง จ.ภูเก็ต ยังมีขบวนคาราวานรถยนต์และรถตู้รวมจำนวนประมาณ 10 คันของสมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดน จังหวัดภูเก็ต (สอ.รด.ภูเก็ต) นำโดยนางสมบูรณ์ศรี โกยศิริพงษ์ นายกสมาคมฯ พร้อมด้วยสมาชิกอีกจำนวนหนึ่ง นำสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ของใช้สำหรับสุภาพสตรี เป็นต้น จำนวนประมาณ 300 ชุด และอาหารสดอีกจำนวนหนึ่ง ไปให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.เขาพนม จ.กระบี่ ด้วย โดยสิ่งของต่างๆ ดังกล่าวเป็นการรวบรวมจากสมาชิกของสมาคมฯ ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 250 คน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัยเป็นการเบื้องต้น

ยืนยันภูเก็ตไม่มีปัญหาดินถล่มหรือการอพยพ


เมื่อวันที่ 1 เมษายน 54 ที่บ้านพรุสมภาร หมู่ที่ 8 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และบ้านหมากปรก หมู่ที่ 1 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายสันติ์ จันทรวงศ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต นายอุดม ศิริพฤกษ์พงศ์ ปลัดอาวุโสอำเภอถลาง นายวิโรจน์ มานะจิตต์ กำนันตำบลไม้ขาว ลงตรวจสอบพื้นที่บ้านพรุสมภาร หมู่ที่ 8 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และบ้านหมากปรก หมู่ที่ 1 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากที่มีการประกาศเตือนให้อพยพประชาชนในพื้นที่บ้านพรุสมภารเนื่องจากเสี่ยงต่อการเกิดดินภูเขาถล่ม และให้มีการเฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่บ้านปรากปกอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตามสำหรับพื้นที่บ้านพรุสมภารนับตั้งแต่เกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องไม่มีดินถล่มหรือมีปัญหาน้ำท่วมแต่อย่างใด โดยที่ตั้งของหมู่บ้านดังกล่าวเป็นเนินเขาเตี้ยๆ ที่มีการปลูกยางพาราเต็มพื้นที่ มีภูเขาและธารน้ำเล็กไหลลงมาจากภูเขาเป็นลักษณะน้ำใสปกติและมีปริมาณน้ำเพียงเล็กน้อย เช่นเดียวกับพื้นที่บ้านหมากปรก ที่ไม่มีน้ำท่วมและเป็นเนินเขาเตี้ยๆ มีดินไหลลงมาเล็กน้อย ในพื้นที่หมู่ที่ 4 เนื่องจากชาวบ้านได้เปิดหน้าดินและเมื่อฝนตกติดต่อกันหลายวันทำให้มีดินไหลลงมา

นายนิวิทย์ กล่าวว่า หลังจากที่มีประกาศประเตือนของส่วนกลางออกมา ทางจังหวัดภูเก็ตไม่ได้นิ่งนอนใจกับการประกาศเตือนให้ประชาชนออกจากพื้นที่ โดยได้มีการสั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. เทศบาล และอำเภอเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบทั้งสองจุดไม่ได้มีความกังวลเรื่องดินที่จะถล่มลงมาจากภูเขา เพราะทั้งสองพื้นที่มีเพียงเนินเขาเตี้ยๆ เท่านั้น มีการปลูกยางพารา ไม่มีเขื่อนหรือฝายกั้นน้ำอยู่บนเนินเขาที่จะส่งผลทำให้น้ำและดินไหลจากภูเขา และไม่มีน้ำท่วมเพราะน้ำจะไหลลงทะเล

“จากข่าวที่มีการนำเสนอผ่านสื่อส่วนกลางนั้น ทำให้ภูเก็ตได้รับผลกระทบในเรื่องของการท่องเที่ยวพอสมควร เพราะเกรงว่าเมื่อมาภูเก็ตแล้วจะประสบกับปัญหาน้ำท่วม จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาภูเก็ตว่าไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำท่วม และไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน ประกอบกับขณะนี้ฝนก็เริ่มเบาบางลงแล้ว” นายนิวิทย์กล่าว

ขณะที่นายวิโรจน์ มานะจิตต์ กำนันตำบลไม้ขาว กล่าวว่า หลังจากมีข่าวเรื่องดินถล่มทำให้ชาวบ้านมีความกังวลพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีการประกาศเตือนให้ประชาชนอพยพออกจากหมู่บ้านตามเสียงตามสายของหมู่บ้าน ทำให้ประชาชนในพื้นที่แตกตื่นกับข่าวดังกล่าว แม้ว่าในพื้นที่จะยังคงปกติและไม่มีวี่แววของดินที่จะถล่มลงมาแต่อย่างใด

สักการะอนุสาวรีย์พระยารัษฏานุประดิษฐ์


เมื่อวันที่ 1 เมษายน 54 ที่บริเวณอนุสาวรีย์พระยารัษฏานุประดิษฐ์ สวนสาธารณะเขารัง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานพิธีวางพวงมาลาสักการะอนุสาวรีย์บรรพชนผู้สร้างนครภูเก็ต พระยารัษฎานุ ประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) โดยมีนางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต คณะผู้บริหาร สมาชิกสภา หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ข้าราชการพลเรือน สมาคม ชมรมต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต รวมถึงลูกหลาน พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี ร่วมในพิธี

ทั้งนี้พิธีวางพวงมาลาสักการะอนุสาวรีย์ เพื่อร่วมรำลึกและสดุดีเชิดชูคุณงามความดีของพระยารัษฎานุ ประดิษฐ์มหิศรภักดี ผู้เป็นสมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต ระหว่างปี พ.ศ.2444 – 2456 ซึ่งถือได้ว่าเป็นบุคคลตัวอย่างของข้าราชการพลเรือนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณ ประโยชน์ และคุณูปการที่ยิ่งใหญ่ ในการสร้างความเจริญให้แก่มณฑลภูเก็ต จนเป็นที่ประจักษ์ควรแก่การสรรเสริญ

สำหรับประวัติพระยารัษฏานุประดิษฐ์ เกิดเมื่อวันพุธ เดือน 4 ปีมะเส็ง พุทธศักราช 2400 เป็นบุตรของพระยาดำรงสุจริตกุลมหิศรภักดีกับนางกิม พระยารัษฏานุประดิษฐ์เป็นผู้สร้างรากฐานความมั่นคงของจังหวัดภูเก็ต เมื่อครั้งที่ดำรงตำแหน่งสมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต ท่านได้พัฒนาเมืองภูเก็ตในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นการสร้างถนนสายหลัก อันเป็นก้าวแรกของการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต ให้มีความเจริญทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และความเป็นอยู่ของประชาชนชาวภูเก็ต

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

วีอาร์ภูเก็ต ปล่อยรถช่วยเหลือน้ำท่วมพุนพิน


เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2554 ที่บริเวณศาลาประชาคม อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ และนายวสุธา สมพรานนท์ นายกสมาคมวิทยุสมัครเล่นจังหวัดภูเก็ต ร่วมปล่อยขบวนรถช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี

ทั้งนี้นายวสุธา ได้กล่าวว่า จากเหตุการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดกระบี่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ทำให้เกิดน้ำท่วม ภูเขาถล่มทับหมู่บ้าน สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก จังหวัดภูเก็ต และสมาคมวิทยุสมัครเล่นจังหวัดภูเก็ต จึงได้รวบรวมสิ่งของบริจาค จากสมาชิกฯ และจากพี่น้องประชาชนทั่วไป เพื่อไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย โดยในวันนี้จะเดินทางไปจำนวน 12 คันรถ โดยจะบรรทุกสิ่งของอุปโภค บริโภค ซึ่งมีทั้งน้ำดื่ม ปลากระป๋อง และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เสื้อผ้า รองเท้า ไฟฉาย ไฟเช็ค และรวมถึงเรือท้องแบน อีกจำนวน 3 ลำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในพื้นที่ดังกล่าว

นายวสุธา ยังกล่าวอีกว่า ก่อนหน้าที่จะเดินทางไปช่วยเหลือในครั้ง ทางสมาคมได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปดูสถานการณ์ในพื้นที่มาแล้วก่อนหน้าที่ พบว่า กม.ที่ 18 และ 19 อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี รถไม่สามารถผ่านไปได้ และยังไม่ค่อยมีหน่วยงานไหนเข้าไปในพื้นที่ซึ่งอยู่ลึกเข้าไป ขณะที่พื้นที่ประสบภัย อ.เขาพนม จ.กระบี่ นั้นมีหน่วยงานต่างๆ เข้าไปมากแล้ว นอกจากนี้ทางสมาคมได้มีการปล่อยขบวนรถเจ็ทสกี จำนวน 5 ลำ เดินทางลงพื้นที่ไปให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ไปก่อนหน้านี้แล้วหนึ่งวัน

สจจ.ภูเก็ต ส่งยาแพทย์ เจ้าหน้าที่ และเวชภัณฑ์ช่วยผู้ประสบภัย


เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2554 ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นพ.ศักดิ์ แท่นชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ร่วมปล่อยขบวนรถบรรทุกยาชุดตำราหลวงจำนวนกว่าหนึ่งพันชุด และยารักษาโรคน้ำกัดเท้า พร้อมด้วยเสื้อผ้าและอาหารสำเร็จรูปจำนวนหนึ่ง เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องชาว จ.นครศรีธรรมราช

นพ.ศักดิ์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันในพื้นที่ภาคใต้ เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายจังหวัด และเกิดดินโคลนถล่มในพื้นที่ อ.พนม จ.กระบี่ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บและสูญหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งในระหว่างวันที่ 30 – 31 มีนาคมที่ผ่านมา ทางสำนักงานสาธารณสุขังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกับโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลถลาง โรงพยาบาลป่าตอง และมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้ส่งทีม DMAT หรือทีมช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านการแพทย์จังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอาสากู้ชีพจากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลถลาง โรงพยาบาลป่าตอง และมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต รวม 29 คน พร้อมทั้งยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย

โดยกางเต้นท์เปิดโรงพยาบาลสนามที่วัดถ้ำโกบ อ.พนม จ.กระบี่ และได้มีการตรวจรักษาผู้ป่วยไปแล้ว 194 ราย เป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน 4 ราย ส่วนที่เหลือเป็นผู้ป่วยทั่วไปอาการไม่รุนแรง ซึ่งโรคที่พบ 5 อันดับแรก ได้แก่ ไข้หวัด โรคผิวหนัง น้ำกัดเท้า ปวดศรีษะ ปวดกล้ามเนื้อ และมีบาดแผลตามร่างกาย

อย่างไรก็ตามทีม DMAT จะอยู่ช่วยดูแลรักษาผู้ประสบภัยจนกกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น นอกจากนี้ก็จะได้มีการจัดส่งทีมแพทย์จิตเวชลงไปร่วมด้วย เนื่องจากพบว่ามีผู้รอดชีวิตจำนวนมากมีภาวะเครียดอันเป็นผลมาจากความสูญเสียคนในครอบครัว ทรัพย์สินและที่อยู่อาศัย นพ.ศักดิ์ กล่าว และกล่าวด้วยว่า นอกจากที่แจ้งไปแล้วก็ได้มีการจัดทีมแพทย์ที่จะเข้าไปช่วยเหลือเพิ่มเติมหากได้รับการร้องขอเข้ามา ซึ่งขณะนี้ที่ร้องขอเข้ามานั้นมีเฉพาะที่ จ.กระบี่เพียงจังหวัดเดียว ส่วนจังหวัดที่เหลือก็จะได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากพบว่าสถานการณ์ยังมีความรุนแรงอยู่ก็พร้อมที่จะจัดส่งทีมลงไปช่วยเหลือได้ทันที

พบศพสาวใหญ่ถูกนำมาทิ้งบนเขา


เมื่อวันที่ 1 เมษายน 54 พ.ต.ท.ยงยุทธ กรองมาลัย สารวัตรเวรสภ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งว่ามีเหตุคนเสียชีวิตถูกนำมาทิ้งไว้บนถนนลูกรังบ้านตีนเขา ถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี เจ้าฟ้าตะวันตก ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากได้รับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วง รองผกก.สส.พ.ต.ท.วิจักณ์ ตารมณ์ สว.สส.ด.ต.คำนึง จันทร์เพ็ญ ด.ต.สุธน ภัคดี เจ้าหน้าที่วิทยาการเขต 44 ภูเก็ต เจ้าหน้าที่แพทย์เวรโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจกู้ภัย

ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากถนนสายหลักขึ้นไปบนเขาประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางเล็กๆ ที่บริเวณยอดเขาซึ่งสุดเส้นทาง พบศพหญิง อายุประมาณ 35 – 40 ปี ผมยาว ผิวขาว ถูกคลุมด้วยผ้าห่มลายสีแดง – ขาว สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาว นุ่งผ้าถุงลายสีน้ำเงิน สวมถุงเท้า ตามร่างกายและฝ่ามือทั้ง 2 ข้างถูกทาด้วยขมิ้นจนสีเหลืองไปทั่วร่าง ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 3 ชั่วโมงและจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรอยล้อรถยนต์ คาดว่าน่าจะเป็นรถคันที่นำศพมาทิ้ง เจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำบันทึกสถานที่เกิดเหตุ ก่อนมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ นำศพส่งรพ.วชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์เวรได้ทำการชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้ง

ทั้งนี้จากการสันนิฐานของเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ตายเป็นชาวพม่า น่าจะหลบหนีเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมายและเกิดอาการป่วยอย่างหนัก แต่ไม่กล้าที่จะรักษาที่โรงพยาบาล จึงต้องมีการรักษาไปตามมีตามเกิด จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด หรือผู้ตายน่าจะเป็นโรงร้ายแรง จึงไม่กล้าที่จะไปหาแพทย์ โดยได้นำขมิ้นมาทาตามร่างกายเพื่อรักษาโรคร้ายดังกล่าวตามความเชื่อของตัวเอง จนกระทั่งเสียชีวิต โดยนายจ้างไม่กล้าที่จะนำศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี เนื่องจากไม่มีใบมรณะบัตร จึงได้นำศพมาทิ้งในบริเวณดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้สืบสวนเพื่อหารถที่ได้นำศพมาทิ้งในพื้นที่ดังกล่าวต่อไป

ภูเก็ตปี 2553 มีการซื้อขายบ้านกว่า 16,000 หน่วย


เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 54 ที่โรงแรม รอยัลภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ฯ พร้อมด้วย ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้จัดสัมมนา เรื่อง วิเคราะห์สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัย ปี 2554 จังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ฯ ได้กล่าววิเคราะห์สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดภูเก็ต ปี 2554 จากผลสำรวจภาคสนาม ว่า ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจภาคสนามของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ โดยเป็นข้อมูลจากโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย เฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย นับจากต้นปี 2553 - ไตรมาส 3 ของปี 2553 พบว่าในจังหวัดภูเก็ต มีหน่วยขายที่อยู่อาศัยในโครงการทั้งสิ้นประมาณ 16,800 หน่วย แบ่งเป็นหน่วยบ้านจัดสรรประมาณ 8,750 หน่วย อาคารชุดประมาณ 4,350 หน่วย บ้านพักตากอากาศประมาณ 950 หน่วย บ้านเอื้ออาทรประมาณ 300 หน่วย และอาคารชุดเอื้ออาทรประมาณ 2,450 หน่วย

ในประเภทบ้านจัดสรร มีหน่วยที่อยู่ระหว่างการขายประมาณ 8,750 หน่วย มาจากประมาณ 60 โครงการ มีมูลค่าโครงการรวมกันประมาณ 31,500 ล้านบาท ขายได้แล้วประมาณ 6,150 หน่วย มูลค่าที่ขายได้ ประมาณ 22,500 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 2,600 หน่วย มูลค่าเหลือขายรวมประมาณ 9,000 ล้านบาท จากโครงการทั้งหมด อยู่ในอำเภอเมืองภูเก็ตประมาณ 6,200 หน่วย ในอำเภอถลางประมาณ 2,300 หน่วย และอำเภอกะทู้ประมาณ 250 หน่วย และจากจำนวนหน่วยในผังทั้งหมด เป็นบ้านเดี่ยวประมาณ 3,400 หน่วย เป็นทาวน์เฮ้าส์ประมาณ 2,750 หน่วย บ้านแฝดประมาณ 1,700 หน่วย และอาคารพาณิชย์ ประมาณ 750 หน่วย นอกนั้นเป็นที่ดินเปล่า

นายสัมมา กล่าวอีกว่า สำหรับสถานะของการก่อสร้างพบว่า เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 1,650 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้างประมาณ 1,600 หน่วย และก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 5,500 หน่วย โดยจากหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จมีเหลือขายหรือเป็นบ้านว่าง ประมาณ 800 หน่วย

ในประเภทอาคารชุดหน่วยที่อยู่ระหว่างการขายมีประมาณ 4,350 หน่วย มาจากประมาณ 45 โครงการ มีมูลค่าโครงการรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 23,700 ล้านบาท ขายได้แล้วประมาณ 2,450 หน่วย มูลค่าที่ขายได้ประมาณ 13,700 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 1,900 หน่วย มูลค่าเหลือขายรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท จากโครงการทั้งหมดอยู่ในอำเภอเมืองภูเก็ต ประมาณ 2,450 หน่วย ในอำเภอกะทู้ประมาณ 1,200 หน่วย และในอำเภอถลางประมาณ 700 หน่วย และจากจำนวนหน่วยในผังทั้งหมด เป็นห้องแบบสตูดิโอประมาณ 1,550 หน่วย แบบ 1 ห้องนอน ประมาณ 1,300 หน่วย แบบ 2 ห้องนอน ประมาณ 1,200 หน่วย และแบบ 3 ห้องนอนขึ้นไป ประมาณ 300 หน่วย เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 1,500 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้างประมาณ 1,650 หน่วย และก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 1,200 หน่วย โดยจากหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จมีเหลือขายหรือเป็นที่ว่างประมาณ 350 หน่วย

นายสัมมา กล่าวต่อไปอีกว่า ส่วนประเภทบ้านพักตากอากาศหรือวิลล่า นับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายอย่างน้อย 1 หน่วย มีจำนวนประมาณ 30 โครงการ รวมประมาณ 950 หน่วย อยู่ในอำเภอถลางประมาณ 450 หน่วย และในอำเภอเมืองภูเก็ต ประมาณ 300 หน่วย และในอำเภอกะทู้ประมาณ 200 หน่วย จากจำนวนหน่วยทั้งหมดขายได้แล้วประมาณ 400 หน่วย เหลือขายอีกประมาณ 550 หน่วย เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 300 หน่วย อยู่ระหว่างการก่อสร้างประมาณ 150 หน่วย และก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 500 หน่วย สร้างเสร็จเหลือขาย หรือเป็นห้องว่างประมาณ 250 หน่วย

ขณะที่ในประเภทบ้านเอื้ออาทร ซึ่งพัฒนาโดยการเคหะแห่งชาติ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2554 มีโครงการแนวราบที่อยู่ระหว่างการขาย 1 โครงการ รวมประมาณ 30 หน่วย อยู่ในอำเภอถลาง ขายได้แล้ว ประมาณ 270 หน่วย และมีเหลือขายประมาณ 40 หน่วย สำหรับโครงการอาคารชุดเอื้ออาทรที่ยังอยู่ระหว่างการขาย มีจำนวน 2 โครงการ รวมประมาร 2,450 หน่วย อยู่ในอำเภอถลาง จากจำนวนหน่วยทั้งหมดนี้ ขายได้แล้ว ประมาณ 2,050 หน่วย และมีเหลือขายประมาณ 400 หน่วย เป็นหน่วยก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 1,025 หน่วย และยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างประมาณ 1,425 หน่วย นายสัมมนา กล่าว

ทน.ภูเก็ต จัดทำบุญตักบาตรวันสงกรานต์


นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ได้กล่าวถึงการจัดกิจกรรมทำบุญตักบาตรเนื่องในวันที่สงกรานต์ ว่า ด้วยวันที่ 13 เมษายนของทุกปีเป็นวันสงกรานต์ ถือว่าเป็นวันปีใหม่ของไทย เทศบาลนครภูเก็ตตระหนักถึงความสำคัญของเทศกาลดังกล่าว จึงกำหนดจัดกิจกรรมเพื่อสืบสานประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามของไทย ให้คงอยู่สืบไป โดยในวันที่ 13 เมษายน 2554 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ที่ บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา มหาราชินี ทางจังหวัดภูเก็ต จะร่วมกับทางเทศบาลนครภูเก็ต, ข้าราชการ, ผู้บริหาร, พนักงานเทศบาลนครภูเก็ต และพ่อค้าประชาชน ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้งแด่พระสงฆ์และแม่ชีจำนวน 199 รูป จากนั้นทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จะนำผู้เข้าร่วมกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธสิหิงส์ หลังจากนั้นข้าราชการ พ่อค้าประชาชน ร่วมรดน้ำดำหัวผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้สูงอายุ

นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ยังกล่าวต่ออีกว่า การอนุรักษ์สืบสานประเพณีและวัฒนธรรมให้คงอยู่ นั้นเป็นหน้าที่หลักอีกด้านหนึ่งที่ทางเทศบาลนครภูเก็ตได้ให้ความสำคัญ และได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของชาติคงอยู่ ดังนั้นจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมกิจกรรมอันดีงามดังกล่าวเพื่อให้เกิดความรู้สึกประทับใจและซึมซับประเพณีอันทรงคุณค่านี้ไว้ เพื่อเป็นพลังในการอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทยให้คงอยู่สืบไป

ภูเก็ตพร้อมจัดกีฬาเยาชนแห่งชาติ ครั้งที่ 28


เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 54 ที่ห้องสีหราชบอลรูม โรงแรมสีหราช จ.อุตรดิตถ์ นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ดร.ศุภชัย เหลืองแสงทอง ผู้ว่าราชการจังหวัด อุตรดิตถ์ นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นางสมคิด ปิ่นทอง รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย นายเชษฐวิทย์ ตันติพันธุ์วดี นายกสมาคมกีฬาจังหวัดภูเก็ต และนายกวี ตันสุคตานนท์ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าว การเตรียมความพร้อมของจังหวัดภูเก็ต ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 28 “ภูเก็ตเกมส์” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 18 – 28 มีนาคม 2555 ณ จังหวัดภูเก็ต

สำหรับการแถลงข่าวในครั้งนี้ ได้มีการแนะนำจังหวัดภูเก็ต การแนะนำตราสัญลักษณ์การแข่งขัน LOGO “มุกมังกร” และสัญลักษณ์นำโชค Mascot “มังกรทะเล” นอกจากนี้ ยังได้มีการแนะนำข้อมูลสนามการแข่งขัน สนามฝึกซ้อมและสถานที่พักสำหรับนักกีฬา เจ้าหน้าที่ สื่อมวลชน และกองเชียร์ ตลอดจนแนะนำสถานที่

โอกาสเดียวกัน นี้ได้มีพิธีลงนามในสัญญาการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 28 ระหว่างการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยนายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กับ จังหวัดภูเก็ต โดย นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมกันนี้ ทางจังหวัดภูเก็ต ได้มอบเงินจำนวน 1 ล้านบาทให้กับทางการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นการยืนยันถึงความพร้อมในการรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติในครั้งต่อไปด้วย

นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รอง ผวจ.ภูเก็ต กล่าวว่า ในนามจังหวัดภูเก็ต เรามีความพร้อมในการที่จะรับกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 28 เพราะจังหวัดภูเก็ตเองมีประสบการณ์ในการจัดแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ ระดับโลก มาหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็น วอลเลย์บอลชายหาด แข่งขันเรือใบคิงส์คัพรีกัตต้า ไตรกีฬา ดังนั้นเชื่อว่ากีฬาเยาวชนแห่งชาติ จังหวัดภูเก็ตเราพร้อม เพราะว่าเรามีสถานที่พักโรงแรม มากกว่า 1,000 แห่ง ซึ่งยังไม่รวม รีสอร์ท อพาร์ตเม้นต์ต่างๆ และ สถานที่พัก ในโรงเรียน มหาวิทยาลัย ซึ่งเรามีอยู่ 2 มหาวิทยาลัย ซึ่งสิ่งที่หลายคนเป็นห่วงเรื่องที่พักนั้น ตนคิดว่าจังหวัดภูเก็ตพร้อมและรับได้ แม้กระทั่ง แขกผู้ใหญ่ ของเยาวชน หรือของทีมการแข่งขัน หรือแม้กระทั่งระดับชาติ ระดับโลกจะมาสังเกตการณ์ เราคิดว่าเราทำได้ ในเรื่องของที่พัก ส่วนปัญหาเรื่องการจราจรนั้น ยอมรับว่าภูเก็ตเป็นเมืองเก่า ที่อาจจะมีปัญหาเรื่องถนนแคบ แต่จังหวัดภูเก็ตก็มีศักยภาพในการบริหารจัดการเรื่องการจราจรพอสมควร เพราะว่าจังหวัดภูเก็ต รับชาวต่างประเทศ ผู้หลักผู้ใหญ่ ซึ่งเข้ามาเยี่ยมเยียนภูเก็ตบ่อยครั้ง ดังนั้นตนคิดว่าคนที่จะไปร่วมงานแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 28 “ภูเก็ตเกมส์” จะต้องประทับใจ เพราะว่าอย่างน้อยภูเก็ต มีทะเล มีอาหารการกิน ที่ค่อนข้างจะเป็นความต้องการของผู้ไปเยือนเป็นอย่างมาก สิ่งที่คนต้องการไปบ่อยๆ คือ การท่องเที่ยวทางทะเล ไปดูเกาะแก่งต่างๆ รวมถึงการดำน้ำ การตกปลา และสิ่งที่เชิดชูของจังหวัดภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรม การท่องเที่ยว และมีแหล่งสนามกีฬาอีกหลายอย่างที่เยาวชนต้องชอบ ดังนั้นจังหวัดภูเก็ต มีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ที่จะเตรียมต้อนรับการมาเยือนของเยาวชนทั่วประเทศในปี 2555 “ภูเก็ตเกมส์”

นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สิ่งที่บางคนห่วงว่า จังหวัดภูเก็ตจะมีปัญหาในเรื่องของการจราจรติดขัดเนื่องจาก คิดว่า ภูเก็ตเป็นเกาะ แต่จริงๆ แล้ว ในแต่ละสถานที่แข่งขันมีถนนเชื่อมต่อ ปัจจุบันนี้ค่อนข้างจะสะดวก ก็คงจะมีปัญหาบ้างเล็กน้อย แต่จะพยายามให้ทางจังหวัดเจ้าภาพ จัดสถานที่พักให้เหมาะสมว่าแข่งที่ไหนให้พักใกล้ๆ ที่นั้น เพื่อจะได้ลดระยะเวลาในการเดินทาง

วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

รักสามเส้าใช้อาวุธตัดสินปัญหาดับทั้งคู่


เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 54 พ.ต.ท.ชนะ สุทธิมาศ สารวัตรเวรสภ.ทุ่งทอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดที่ห้องเช่าเลขที่ 3/116 ซอยตรงข้ามบ่อปลาตากแดด ม.1 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดพร้อมด้วย พ.ต.อ.ไกรทอง จันทร์ทองใบ ผกก.สภ.ทุ่งทอง พ.ต.ท.บริบูรณ์ อยู่สุขสมบูรณ์ รองผกก.สส.เจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่วิทยาการเขต 44 ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต

ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวชั้นเดียวกว่า 10 ห้องซึ่งเจ้าของห้องได้แบ่งให้เช่า โดยห้องเช่าสร้างด้านหน้าเป็นห้องโถง ถัดไปเป็นห้องพัก และที่ทำครัว ที่บริเวณหน้าห้องที่ 2 เลขที่ห้อง 3/116 มีประชาชนมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ต้องกันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ให้เข้าบริเวณที่เกิดเหตุโดดเด็ดขาด จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปตรวจสอบภายในห้องเช่าดังกล่าว โดยที่ห้องโถงเจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย-หญิง จำนวน 2 รายนอนอยู่บนที่นอน และพบเด็กชาย – เด็กหญิง 2 คน นั่งร้องไห้อยู่ข้างศพทั้ง 2 จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำเด็กทั้ง 2 ออกจากบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ทำการชันสูตรพลิกศพ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าทราบชื่อคือนางวิวันทนา พุทธวัช อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 ม.3 ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพสวมเสื้อกันหนาวแขนยาว สีดำลายขาว สวมกางเกงยีนต์ขายาวสีดำ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ เข้าที่บริเวณศีรษะเหนือคิ้วด้านขวาทะลุออกด้านซ้าย จนสมองกระจายทั่วบริเวณ ใกล้กันพบศพนายสุนทร เทศสุทธิ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/21 ม.1 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต สภาพสวมเสื้อยืดคอกลมสีดำแขนสั้น สวมกางเกงยีนต์ขายาวสีน้ำเงิน สภาพถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะเหนือคิ้วด้านขวาทะลุด้านซ้าย สมองกระจายทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ยังพบอาวุธปืนแบบไทยประดิษฐ์ 1 กระบอกตกอยู่ใกล้มือนายสุนทร ปอกกระสุนที่ยิงแล้ว ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 นัด และเจ้าหน้าที่ยังพบกระสุนลูกซองที่ยังไม่ได้ใช้งานอีก 1 นัด ภายในกระเป๋าของนายสุนทร นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้พบจดหมายที่นายสุนทรเขียนเอาไว้ก่อนตาย ซึ่งภายในจดหมายไม่ได้เขียนถึงสาเหตุ การฆ่าตัวตายในครั้ง เพียงแต่ฝากให้ญาติๆ ช่วยดูแลลูกทั้ง 2 คน และมีเงินอยู่ในบัญชีธนาคารของลูกทั้ง 2 ให้ไว้เป็นทุนการศึกษา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นเป็นหลักฐานและดำเนินการต่อไป

จากการสอบถามชาวบ้านก็ทราบว่า นายสุนทร และนางวิวันทนา ได้อยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยากันมากว่า 10 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นผู้ชาย 1 คน อายุ 11 ปี และหญิง 1 คน อายุ 10 ปี โดยนายสุนทร มีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ที่ บขส.ภูเก็ต นางวิวันทนา มีอาชีพเป็นแคดดี้ของสนามกอล์ฟชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต โดยทั้งคู่ได้ออกมานอนที่ห้องโถงด้านหน้าห้องเช่า ส่วนลูกทั้ง 2 ให้นอนภายในห้องนอนด้านในบ้าน

ส่วนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเกิดมาจากการหึงหวง เนื่องจากแฟนเก่าของนางวิวันทนา กำลังมาง้อขอคืนดี ทำให้นายสุนทรเกิดอาการหึงหวงอย่างหนัก และพยามยามเจรจากับแฟนสาวให้เลิกติดต่อกับอดีตแฟนรัก แต่ภรรยาไม่ได้สนใจ ยังติดต่อและพูดคุยโทรศัพท์กับแฟนเก่า ทำให้นายสุนทรเกิดอาการเครียด ใช้ปืนจ่อยิงเมียรักขณะนอนหลับและยิงตัวเองตาย เพื่อตัดสินปัญหารักสามเส้า แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป


กุศลธรรมภูเก็ตส่งเครื่องมือ/อุปกรณ์ ช่วยดินถล่มกระบี่


เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2554 ที่บริเวณด้านหน้ามูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นางเบญจวรรณ ตัมพานุวัตร ประธานมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ปล่อยขบวนรถกู้ชีพกู้ภัยพร้อมรถพยาบาลของมูลนิธิฯ ซึ่งนำอุปกรณ์กู้ชีพ กู้ภัย รวมทั้งข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยดินถล่มทับบ้านเรือนในพื้นที่ อ.เขาพนม จ.กระบี่

นางเบญจวรรณ กล่าวว่า เมื่อคืนที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา ทีมอาสาสมัครของมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตชุดแรกประมาณ 10 คน ได้เดินทางไปแล้วล่วงหน้า ส่วนในวันนี้ เป็นการส่งกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์เข้าไปช่วยเหลือเพิ่มเติม เนื่องจากการเข้าไปกู้ภัยในพื้นที่ดังกล่าวเป็นไปด้วยความลำบาก ดังนั้นนอกจากอุปกรณ์ในการกู้ชีพกู้ภัยต่างๆ เช่น เครื่องตัดถ่าง เชือกขนาดใหญ่ เป็นต้น แล้วก็ยังได้มีการนำเต็นท์พยาบาลเคลื่อนที่ ตลอดจนข้าวสารอาหารแห้งอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น และในวันพรุ่งนี้ (31 มี.คง54) ก็จะจัดส่งทีมเข้าไปเพิ่มเติม พร้อมด้วยถุงยังชีพอีกประมาณ 2,000 ชุด โดยจะนำไปมอบให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อนจริงๆ โดยตรง

อย่างไรก็ตามในส่วนของมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ยังรับเป็นตัวกลางในการรับรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยและได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมดินถล่ม โดยผู้ที่สนใจจะบริจาคสิ่งของเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประภัยสามารถติดต่อบริจาคได้ที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต นางเบญจวรรณกล่าว

ภูเก็ตสั่งเฝ้าระวังดินสไลด์-ถล่มอย่างใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 54 ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงระดับจังหวัดครั้งที่ 1 ว่า เนื่องจากขณะนี้ในพื้นที่ จ.ภูเก็ตมีในตกต่อเนื่องกันมาเป็นเวลาหลายวัน แม้ว่าจะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับน้ำท่วมหนัก แต่ก็มีบางพื้นที่ที่มีน้ำขังและระบายไม่ทัน โดยปัญหาที่น่าเป็นห่วง คือ เรื่องของดินสไลด์ เนื่องจากการอุ้มน้ำของดินและเกิดความอิ่มตัว ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดปัญหาดินสไลด์หรือถล่มได้ โดยเฉพาะบริเวณที่ราบเนินเขาซึ่งมีการปรับหน้าดินเพื่อปลูกสร้างอาคารต่างๆ ดังนั้นจึงฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานส่วนภูมิภาคและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีการติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เมื่อเกิดปัญหาขึ้นจะได้เข้าไปช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ซึ่งที่ได้รับรายงานบ้างแล้ว เช่น มีดินสไลด์เข้าไปยังบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายเล็กในพื้นที่ ต.กมลา อ.กะทู้ น้ำท่วมขังบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง เรือประมงและเรือท่องเที่ยวของชาวต่างชาติซึ่งจอดทอดสมออยู่นอกชายฝั่งถูกพัดเข้าฝั่ง ในพื้นที่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เป็นต้น

ขณะที่นายสันติ์ จันทรวงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ได้รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.15 น. วันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา เกิดเหตุน้ำไหลเข้าบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่หมู่ที่1 บ้านกมลาจำนวน 2 หลัง มีผู้ประสบภัย 10 คน มีสิ่งของได้รับความเสียหายและดินโคลนไหลลงพื้นถนนกีดขวางการจราจร โดยทางองค์การบริหารส่วนตำบลกมลาได้เข้าไปดำเนินการแก้ไขจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ในช่วงเช้าที่ผ่านมา (30 มี.ค.) พื้นที่ ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง เกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน บริเวณหมู่ที่ 2 บ้านแขนน หมู่ที่ 3 บ้านพรุจำปา หมู่ที่ 4 บ้านดอน หมู่ที่ 5 บ้านเมืองใหม่ หมู่ที่ 6 บ้านแหลมทราย และหมู่ที่ 8 บ้านพรุสมภาร ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนตำบลเทพกระษัตรีได้เข้าไปดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ด้วยการสูบน้ำ ขนย้ายสิ่งของและขุดลอกทางระบายน้ำ ทั้งในส่วนของความเสียหายยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

อย่างไรก็ตามนายสันติ์ กล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา สำนักอุทกวิทยา สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 10 ได้แจ้งให้จังหวัดภูเก็ตเฝ้าระวังและแจ้งเตือนให้ระวังภัยน้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม ในพื้นที่ดังต่อไปนี้ ได้แก่ หมู่ที่ 1-6 ต.กมลา อ.กะทู้ หมู่ที่ 2-4 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง และ หมู่ที่ 1 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง เนื่องจากปริมาณน้ำฝนสะสม 12 ชั่วโมงอยู่ในปริมาณสูง (ประมาณ 70-80 มิลลิเมตร) ซึ่งปริมาณดังกล่าวอาจทำให้เกิดดินถล่มได้ โดยทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ได้แจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่อาศัยบริเวณที่ลุ่มต่ำและพื้นที่ลาดชันให้เพิ่มความระมัดระวัง รวมทั้งเตรียมพร้อมในการอพยพประชาชนไปยังจุดปลอดภัยด้วย

วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

ยุติธรรมภูเก็ตแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ


เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 54 ที่ห้องประชุมสวนหลวง โรงแรมคาทีน่า ภูเก็ต นายสัดทัด ประสานวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต ผู้แทนประธานกรรมการบริหารสำนักงานยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการอบรมความรู้ด้านกฎหมายพื้นฐานเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพมอบหมายให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดภูเก็ตจัดขึ้น โดยผู้เข้ารับการอบรม ประกอบด้วย คณะกรรมการและอาสาสมัครคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรรมการบริหารศูนย์ประสานงานจัดการความขัดแย้งของชุมชนสะพานร่วมพูนผล 1 ผู้นำชุมชนและประชาชนทั่วไปเข้าร่วม จำนวนประมาณ 100 คน และมีวิทยากรจากสำนักงานคดีแรงงานเขต 8 จังหวัดภูเก็ต สำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต คณะกรรมการบริหารสำนักงานยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต และคณะกรรมการเครือข่ายอาสาสมัครคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจังหวัดภูเก็ต

นายสุชน ชอบดี ประธานกรรมการเครือข่ายอาสาสมัครคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจัดโครงการอบรมดังกล่าว เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายและอาสาสมัครคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรรมการบริหารศูนย์ประสานงานจัดการความขัดแย้ง ผู้นำชุมชนและประชาชนทั่วไปให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาหนี้นอกระบบ ในการสร้างกลไก และสร้างระบบดำเนินการสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมที่สามารถป้องกัน แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับหนี้นอกระบบที่เกิดขึ้นกับตนเองและชุมชนได้ จะทำให้ชุมชนเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้ในด้านการจัดการความขัดแย้งจะแก้ไขโดยสันติวิธี โดยการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งต่างๆ ที่เกี่ยวกับหนี้นอกระบบ