จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

“มาตุภูมิ” วางนโยบายแก้ปัญหา 3 จ.ใต้


พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ จ.ภูเก็ต ว่า ขณะนี้พยายามทำพรรคการเมืองให้เป็นสถาบันตามหลักการจริงๆ ให้ได้ เพราะระบบประชาธิปไตยหากพรรคการเมืองไม่สามารถทำรูปแบบของฐานในการนำพาไปสู่ประชาธิปไตยต่อไปก็จะลำบาก ดังนั้นลำดับแรกพรรคการเมืองจะต้องมีมาตรฐาน ไม่ใช่พรรคการเมืองเฉพาะกิจ แต่จะต้องเป็นพรรคที่มีโครงสร้าง มีนโยบายต่างๆ ที่สามารถอยู่ได้ยาวนาน

“กฎกติกาของการเป็นพรรคการเมืองได้แก่รูปโครงสร้าง นโยบาย สำคัญ คือ ตัวนักการเมือง การเฟ้นหานักการเมืองเข้าพรรคจะต้องมีอุดมการณ์ คุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต มีความตั้งใจจริงในการทำงานให้กับบ้านเมือง หากได้ตามที่กล่าวก็ถือว่าองค์ประกอบครบ ซึ่งในส่วนของพรรคมาตุภูมินั้นจะค่อยเป็นค่อยไปเหมือนกับต้นไม้ที่ค่อยๆ เจริญเติบโตด้วยความแข็งแกร่งมีรากแก้วของตัวเอง หากเป็นไปตามที่วางแนวทางไว้ก็จะอยู่ได้ยาวนาน ซึ่งขณะนี้มีผู้ที่ต้องการเป็นสมาชิกพรรคฯ มีเป็นจำนวนมาก ช่วงต้นให้ความสำคัญกับจำนวนสมาชิกตามที่ กกต.ต้องการ ซึ่งเรียบร้อยไปแล้ว รวมถึงโลโก้ของพรรคด้วย จากนี้ก็จะเริ่มดำเนินการรับสมาชิกฯ ก็ไม่ได้จำกัด แต่ขณะเดียวก็ไม่เร่ง”

พลเอกสนธิ กล่าวว่า จากสถานการณ์การเมืองปัจจุบันหากจะต้องมีการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้ก็คิดว่ามีความพร้อมระดับหนึ่ง แต่หากระยะเวลามากกว่านี้ก็จะพร้อมมากยิ่งขึ้น และเนื่องจากไม่ใช่พรรคใหญ่ดังนั้นการส่งผู้ลงสมัครก็จะต้องดูตามความพร้อมและศักยภาพของแต่ละพื้นที่ที่มีช่องว่างสามารถเข้าไปพัฒนาการเมืองในพื้นที่นั้นๆ ได้ เพราะการเมืองคงพรรคเดียวไม่ได้ ภูเก็ตก็เช่นกันควรที่จะต้องมีการแข่งขันหลายๆ พรรค ซึ่งการพัฒนาจะให้เกิดขึ้นได้เร็ว ก็ควรต้องมีการแข่งขันในการที่จะก่อให้เกิดการพัฒนาที่รวดเร็ว และการมาภูเก็ตก็ยังไม่ได้มีการคัดเลือกผู้สมัคร ซึ่งคิดว่ายังมีเวลาในการสรรหา

“ผลสัมฤทธิ์ของการเลือกตั้งนั้นขึ้นอยู่ที่ประชาชน และในส่วนของพรรคสามารถทำให้ประชาชนเข้าใจในนโยบายของพรรคได้มากน้อยเพียงใด ประชาชนมองตัวบุคคลที่จะมาเลือกตั้งมีคุณสมบัติตามที่เขาต้องการหรือไม่ เนื่องจากบ้านเราที่ผ่านมามีจุดอ่อนสำคัญ คือ ประชาชนเลือกโดยไม่เข้าใจผู้ที่ตัวเองเลือกดีเท่าที่ควรทำให้การเมืองไม่ถึงปลายทาง จึงต้องปลุกกระแสประชาชนทั่วประเทศว่าการจะเลือกใครจะต้องไตร่ตรองคุณสมบัติของผู้นั้นให้ได้ก่อน ไม่ใช่เลือกตามกระแสหรือเลือกตามที่ถูกชักชวน”

พลเอกสนธิ กล่าวถึงนโยบายของพรรคว่า มองจากสถานการณ์ของประเทศในปัจจุบัน ซึ่งมีอยู่ 2-3 เรื่องได้แก่ความขัดแย้งทางการเมือง ความขัดแย้งทางสังคม ปัญหาที่มาของความขัดแย้งที่มาจากความซื่อสัตย์สุจริตในการบริหารประเทศของทุกองค์กร รวมทั้งปัญหาที่กระทบกับความรู้สึกของประชาชนทั่วประเทศ คือ สถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเป็นปัญหาเฉพาะหน้าโดยไม่ได้มองเรื่องที่จะเกิดขึ้นหรือกำลังเป็นอยู่ เช่น ยาเสพติด ภัยความมั่นคงเล็กๆ เป็นต้น

“พรรคของเราจะทำอย่างไรก็แล้วแต่ให้การเมืองทุกภาคมีความรู้สึกว่าการเมืองเป็นของประชาชนไม่ใช่เรื่องของส่วนบุคคล หากทุกคนมองว่าทำเพื่อประชาชนหรือประเทศชาติแล้วก็จะลดความขัดแย้งทางเมืองลงได้ ส่วนความขัดแย้งทางสังคมซึ่งจะต้องทำให้ประชาชนมีความเข้าใจว่าชาติบ้านเมืองสำคัญไม่ใช่เอาความรู้สึกส่วนตัวไปทำให้เกิดความขัดแย้ง ปลุกกระแสความเป็นชาติให้มากขึ้น และเรื่องของความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งทางพรรคจะพยายามเฟ้นหาบุคคลที่มีแนวคิดดังกล่าว หากจะแก้ปัญหาเรื่องประเทศให้ได้ เรื่องเดียวคือ นักการเมืองจะต้องตั้งใจทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและมีความซื่อสัตย์สุจริต”

พลเอกสนธิ กล่าวด้วยว่า การแก้ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ที่วางนโยบายนั้น คิดถึงการตั้งทบวงเพื่อแก้ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้โดยเฉพาะและมีการตั้งรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าในการดูแลบริหารจัดการ นอกจากนั้นก็จะมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นรองฯ อยู่ทบวน โดยระบบงบประมาณก็จะแยกให้กับทบวงโดยตรง ซึ่งการแก้ปัญหาต่างๆ ก็จะทำได้โดยเร็ว เพราะอำนาจอยู่ที่รัฐมนตรี และจะทำให้เกิดความเป็นเอกภาพมากขึ้น เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากไม่มีเอกภาพในการบริหารงานต่างฝ่ายต่างทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุปกรณ์ งบประมาณหรือคน จึงยากที่จะแก้ปัญหาได้ นอกจากนี้ยังมีความคิดที่จะให้ผู้ปกครองท้องถิ่นท้องที่ทั้ง อบต. เทศบาล กำนันผู้ใหญ่บ้าน รวมไปถึงผู้นำศาสนา ผู้นำจิตวิญญาณและบุคคลสำคัญ มีบทบาทในการเข้าไปแก้ปัญหาให้มากขึ้น เป็นการขยายภาคประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้เป็นไปตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ทั้งนี้จากการหารือกับผู้หลักผู้ใหญ่หลายฝ่ายก็เห็นด้วย

“บิ๊กบัง” เชื่อคดียึดทรัพย์ไม่มีสถานการณ์รุนแรง

 
พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ จ.ภูเก็ต เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ว่า เป็นวิวัฒนาการทางการเมืองของไทย เนื่องจากประเทศที่เป็นประชาธิปไตยผ่านวิกฤตต่างๆ มาก่อนเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตคอรัปชั่น เผด็จการ ชนชั้น นายทุนชาติ ก่อนที่จะเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ ซึ่งในเรื่องของคอรัปชั่นนั้นต้องเริ่มจากฐานประชาชนที่จะต้องรู้ว่าผู้ที่ตนเลือกนั้นมีพฤติกรรมเป็นอย่างไร จากนั้นดูว่าใครเป็นผู้ปกครองซึ่งจะต้องจัดระบบการแก้ปัญหาคอรัปชั่นให้ได้ซึ่งเชื่อว่ามีวิธีการดำเนินการอยู่

สิ่งที่เป็นห่วงในสถานการณ์ปัจจุบันนั้น พลเอกสนธิ กล่าวว่า เรื่องคดีของอดีตนายกรัฐมนตรีที่จะมีการตัดสินในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นั้นก็ว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งเชื่อว่าหากรัฐบาลใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างแท้จริง อะไรผิดถูกก็ว่ากันตามนั้น หากทำเช่นนั้นแล้วหากเกิดอะไรขึ้นมาตรการทางกฎหมายก็จะแก้ไขได้หมด ส่วนกรณีที่มีความไม่เชื่อมั่นในเรื่องของกระบวนการ หรือมีการมองว่าเป็น 2 มาตรฐาน ส่วนตัวมองว่าในเรื่องความเป็นธรรมนั้นผู้เสียผลประโยชน์ก็จะมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เรื่องนี้อยู่ที่ใจตัวเองว่าจะยอมรับความเป็นธรรมที่มีการสมมติขึ้นมาหรือไม่อย่างไร หากให้เกียรติให้สิทธิเขาไปแล้วก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของเขา โดยใช้ตัวบทกฎหมายในการพิจารณา ปรากฏเช่นไรก็ต้องยอมรับ

“หลังการตัดสินคดียึดทรัพย์คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรรุนแรง หากรัฐบาลใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างแท้จริง ทุกอย่างก็จะจบ มองแล้วว่าสถานการณ์ทุกอย่างไม่น่าจะรุนแรงอะไร ซึ่งมาตรการของรัฐบาลที่ดำเนินการอยู่นั้นก็ถือว่าโอเคอยู่ ส่วนกระแสการปฏิวัติต้องบอกว่ากระแสคือกระแส ซึ่งกระแสที่เกิดขึ้นนั้นมีผลกระทบหลายๆ อย่าง ซึ่งต้องถามว่ามีความสมเหตุสมผลหรือไม่ ยืนยันว่าการปฏิวัตินั้นใครจะเป็นผู้ปฏิวัติจะต้องดูภาวะสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในยุคนี้หากประชาชนไม่เห็นด้วยใครปฏิวัติก็จะเกิดปัญหาซึ่งเป็นเหมือนกันทั้งโลกไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย หากจะทำก็ต้องมีประชาชนร่วมมือด้วย”

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พลเอกสนธิ กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ แต่ความเป็นจริงรัฐธรรมนูญนั้นสามารถแก้ไขได้ เมื่อผ่านไประยะหนึ่งต้องมาเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสีย เมื่อเวลาเปลี่ยนสถานการณ์เปลี่ยนภาวะสังคมเปลี่ยนก็สามารถแก้ไขเพื่อให้เกิดความเหมาะสมได้ แต่ในการแก้ไขนั้นคนในสภาฯ เป็นผู้แก้ไข ซึ่งจะต้องฟังเสียงของประชาชนด้วย เนื่องจาก ส.ส.ในสภาฯ เป็นตัวแทนของประชาชนไม่ใช่เอาความคิดตัวเองเป็นหลัก ซึ่งนั้นไม่ใช่ระบบประชาธิปไตย ต้องฟังเสียงประชาชนส่วนใหญ่คิดอย่างไร ประเทศเรามีช่องว่างการมีส่วนร่วมภาคประชาชนมีน้อยเกินไป หากภาคประชาชนมีบทบาทมากกว่านี้ก็จะเป็นผู้กำหนดวิถีชีวิตของประเทศได้ จำเป็นที่สื่อจะต้องปลุกกระแสประชาชนให้มีส่วนร่วมมากขึ้น

นปส.ภูเก็ตสนธิกำลังรวบแกงค์ค้ายาไอซ์


เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 53 พ.ต.ท.สุทธิรัฐ โทจำปา สว.กก.2 บก.ปส.4 (นปส.ภูเก็ต) พร้อมด้วย พ.ต.ท.เสริมพันธ์ ศิริคง รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต ดต.วิชาญ อุดมรักษ์ ส.ต.อ.ชูพงษ์ นิลบุศย์ ส.ต.ท.มนัส รัตนะ จ.ส.ต.ทนงศักดิ์ พิทักษ์วงศ์ ได้ร่วมกับ น.อ.วุฒิศักดิ์ คงนาวัง ผอ.ขว.ทรภ.3 ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายอเนก ลีวงศ์สิงห์กุล อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130/43 หมู่ 5 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท ยาไอซ์ ลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวบรรจุในถุงพลาสติกใสแบบกดปิด จำนวน 1 ห่อ นำหนัก 0.47 กรัม ภายหลังผู้ต้องหานำมาส่งให้ลูกค้าในราคา 3,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 130/473 ซอย5 หมู่บ้านศรีสุชาติแกรนด์วิว 3 หมู่ 5 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยกล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลและทำกาตรวจค้นภายในห้องนอนของผู้ต้องได้ยาไอซ์ของกลางน้ำหนัก 0.62 กรัม 1 ถุง น้ำหนัก10.06 กรัม 1 ถุง น้ำหนัก 1.25 กรัม 1 ถุง น้ำหนัก 1.27 กรัม 1 ถุง ซึ่งเป็นยาไอซ์ที่ผู้ต้องหาบรรจุถุงเตรียมส่งลูกค้า รวมยาไอซ์ที่จับกุมได้ทั้งหมด 12.58 กรัม พร้อมยึดของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย 1 เครื่อง เครื่องชั่งน้ำหนักแบบดิจิตอล 1 เครื่อง

หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลจนสามารถจับกุมแกงค์ค้ายาเสพติดร่วมขบวนการ ที่กำลังนำยาเสพติดจากรุงเทพมาส่งให้ลูกค้าที่ภูเก็ต ประกอบด้วย นายวัชระ ขวัญละไม อายุ 33 ปี นายประจวบ เพ็ญสวัสดิ์ อายุ 40 ปี นายยุกรานต์ สังข์นิมิต อายุ 27 ปี น.ส.สุรีพร แซ่โต่น อายุ 23 ปี และนางอทิตติยา บัวสาย อาย 33 ปี โดยจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนหน้าโชติมาอพาร์ทเม้นท์ ซอยหัชนา 1 ถนนอนุภาษภูเก็ตการ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จากการตรวจค้นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้สีบรอนส์ หมายเลขทะเบียน ถฉ-2637 กรุงเทพ พบของกลางยาไอซ์ ซุกซ่อนอยู่ภายในถุงเท้าภายในรถยนต์ข้างละ 27 ถุง 40 ถุง รวมน้ำหนักทั้งสิ้น 155.7 กรัม ยาบ้าเม็ดสีส้ม มีอักษรดับเบิ้ลยูวายประทับบนเม็ดยาบรรจุในหลอดกาแฟปิดหัวปิดท้าย หลอดละ 10 เม็ด จำนวน 6 หลอด พร้อมยึดของกลางโทรศัพท์มือถือโนเกีย 2 เครื่อง ซึ่งผู้ต้องรับสารภาพว่ารับว่านำยาไอช์จำนวน 20 ถุง มาส่งให้เอเย่นต์ในราคา 80,000 บาท และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จัดทำบันทึกการจับกุม พร้อมตรวจยึดทรัพย์สิน เพื่อตรวจสอบถึงที่มาของทรัพย์ พร้อมทั้งควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

อบจ.ภูเก็ตเตรียมความพร้อม อบจ.สัญจร


ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายสรธรรม จินดา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมการเตรียมการจัดงานอบจ.สัญจร โดยมีนายประดิษฐ์ แสงจันทร์ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายมานพ ลีลาสุธานนท์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ผู้อำนวยการ หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมทั้งเจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมในครั้งนี้


ทั้งนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตได้กำหนดการจัดโครงการ อบจ.สัญจร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการชุมชนและรับทราบปัญหาความต้องการของประชาชนถึงบ้าน และมุ่งเน้นสนับสนุนการมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน เด็ก เยาวชน ผู้พิการหรือผู้ด้อยโอกาสให้ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง และให้ผู้บริหาร สมาชิกสภา ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตร่วมกับหน่วยงานราชการในจังหวัด รวมทั้งภาคเอกชนได้มีโอกาสไปพบปะเยี่ยมเยียน รับฟังปัญหาความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจะทำให้ได้รับทราบถึงปัญหาความต้องการ และนำไปสู่การแก้ไขปัญหา รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่น การจัดโครงการในครั้งนี้ ทางอบจ.ภูเก็ตได้จัดร่วมกับสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในการจัดกิจกรรมคอนเสิร์ต ทีวี 3 สัญจรด้วย ซึ่งจะจัดในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 13.00น. – 23.00 น. ณ. บริเวณสะพานหิน

ภูเก็ตจัดกิจกรรมช่วยเฮติ





เมื่อค่ำของวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 53 ที่บริเวณต้นซอย และภายในซอยบางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ภูเก็ต นายวิไชย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนางไทศิกา ไพรสงบ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต นางสาววรางคณา สุจริตกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดภูเก็ต นายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง รวมทั้งข้าราชการ ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ร่วมกันจัด “กิจกรรมรวมน้ำใจชาวภูเก็ต สู่ผู้ประสบภัยเฮติ"






สำหรับกิจกรรมดังกล่าวประกอบด้วย การจัดแสดงบนเวที การร้องเพลงการกุศล และการบริจาดเงินบนเวทีผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต การจำหน่ายเสื้อยืด นอกจากนี้ยังมีการโทรศัพท์เข้ามาในรายการเพื่อร่วมบริจาคในครั้งนี้ และก่อนที่เริ่มงานทางนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ราชการจังหวัดภูเก็ต ยังได้ร่วมกับสมาชิกเหล่ากาชาด เดินรับบริจาคจากนักท่องเที่ยว ตามบาร์เบียร์ต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวต่างช่วยกันบริจาคเป็นจำนวนมาก โดยในวันแรกสามารถรวบรวมเงินได้ประมาณ 1 ล้าน 7 แสนบาท

“ป่าตองบีชปาร์ตี้” ตั้งกองทุนช่วยเหลือนักท่องเที่ยว


นายเอ็ดเวิร์ด กิตติ กรรมการผู้จัดการบริษัท รักชาติ แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ตามที่กลุ่ม รักชาติ แมเนจเม้นท์ ได้ดำเนินการจัดทำโครงการป่าตองบีชปาร์ตี้ โดยร่วมกับเทศบาลเมืองป่าตอง และสถานีตำรวจภูธรกะทู้ โดยรูปแบบของงานจะเป็นรูปแบบคอนเสิร์ตแนวเพลงอิเล็กทรอนิกส์ร่วมกับชมรมกลุ่มผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง รวมทั้งการแสดงแฟชั่นโชว์ของนางแบบจากต่างประเทศในเครืออีริคโมเดล และจัดตั้งมูลนิธิกองทุนช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ ที่บริเวณหน้าซอยบางลา หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

“ป่าตองบีช ปาร์ตี้ เป็นปาร์ตี้ที่จัดขึ้น เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของหาดป่าตองจังหวัดภูเก็ต ซึ่งนอกจากเป็นความร่วมมือกับเทศบาลเมืองป่าตองและสถานีตำรวจภูธรกะทู้แล้ว ยังได้รับการสนับสนุนจากชมรมกลุ่มผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง โดยมีสถานบันเทิงชั้นนำเข้าร่วมโครงการ พร้อมทั้งจัดส่งศิลปินและดีเจ เข้าร่วมเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับนักท่องเที่ยวด้วย โดยเป็นฟรีคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นทุกเดือน เพื่อให้ความบันเทิงแก่นักท่องเที่ยวและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวมถึงเทศกิจมีโอกาสเข้าถึงนักท่องเที่ยว เป็นการสร้างความสนิทสนม ตลอดจนสร้างความมั่นใจและอบอุ่นให้แก่นักท่องเที่ยว และเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับหาดป่าตองได้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกมากยิ่งขึ้น เหมือนกับงานฟูลมูน ปาร์ตี้ ที่เกาะสมุย นอกจากจะสร้างความบันเทิงแล้ว ยังมีการแสดงถ้อยคำขึ้นบนจอยักษ์ เพื่อเป็นข้อเตือนใจและเป็นประโยชน์กับนักท่องเที่ยว เช่น Don’t Drink & Drive เป็นต้น ด้วย”

นายเอ็ดเวิร์ด กล่าวด้วยว่า โครงการป่าตองบีช ปาร์ตี้ ยังได้รับความร่วมมือจากช่องทีวีแฟชั่น อันดับ 1 ของโลกที่มีการเผยแพริออกไปกว่า 130 ประเทศ และมีผู้ชมมากกว่า 500 ล้านคน จะได้เห็นบรรยากาศของงานที่แพร่ภาพออกไป โดยมั่นใจว่าภายในเวลาอันสั้นโครงการป่าตองบีช ปาร์ตี้จะเป็นที่รู้จักและโด่งดังไปทั่วโลก
นอกจากนี้ นายเอ็ดเวิร์ค กล่าวเพิ่มเติมว่า จากความสำเร็จของโครงการที่ได้มีการจัดที่พัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกันนี้ก็ได้มีการจัดตั้งมูลนิธิกองทุนช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และในส่วนของที่ป่าตองก็เช่นเดียวกัน ก็จะมีการจัดตั้งเป็นมูลนิธิกองทุนช่วยเหลือนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน โดยจะนำรายได้จากการจำหน่ายเครื่องดื่มทั้งหมดเข้าสู่กองทุนฯ ทุกครั้ง ซึ่งมั่นใจได้ว่ารายได้ที่จะได้รับในแต่ละครั้งจะเป็นจำนวนหลักแสนขึ้นไป ซึ่งในการบริหารเงินกองทุนนั้นก็จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาเป็นผู้พิจารณาการเบิกจ่ายเงินกองทุนในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวกรณีฉุกเฉิน เช่น อุบัติเหตุ การเสียชีวิต การถูกชิงทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งผู้บริหารมูลนิธิกองทุนฯ เช่น นายอำเภอกะทู้ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรกะทู้ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิและยังมีที่ปรึกษามูลนิธิฯ โดยจะเชิญมาจากภาคส่วนต่างๆ เช่น ผู้นำชุมชน ตำรวจท่องเที่ยว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นต้น

ทางนายศิริพัฒ พัฒกุล นายอำเภอกะทู้ กล่าวว่า ในส่วนของตนนั้นคงมาดูแลในส่วนการจัดตั้งมูลนิธิฯ และการกำกับดูแลให้เป็นไปตามระเบียบที่กำหนด ตลอดจนให้เกิดความโปร่งใส สามารถที่จะตรวจสอบได้

ต้อนรับคณะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ณัฐธยาน์ ไกรโกญน์จนาถ (ผู้จัดการโชว์รูม) บริษัท พรทิพย์ ภูเก็ต จำกัด และทีมผู้บริหาร พรทิพย์ ให้การต้อนรับ คณะสมาชิกโครงการครอบครัว สัมพันธ์ร่วมกันสร้างสันติสุขจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าศึกษาดูงานในด้านการผลิต, สินค้าOTOP ช่องทางการจำหน่ายสินค้า โดยมีพร้อมนำคณะเข้าชมในส่วนต่างๆ ของพรทิพย์ (ภูเก็ต)

รับบริจาคช่วยเฮติ


นางไทศิกา ไพรสงบ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับนักเรียนโรงเรียนสตรีภูเก็ต โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ ออกเดินรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเฮติ ตามเส้นทางต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต

มอบทุนวันอาสารักษาดินแดน


นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางไทศิกา ไพรสงบ ประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดภูเก็ต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต มอบทุนการศึกษาแก่บุตรของข้าราชการกระทรวงมหาดไทย และบุตรของสมาชิก อส. รวมจำนวน 17 ทุน และมอบถุงยังชีพแก่สมาชิก อส. จำนวน 87 ถุง
ในวันที่ระลึกคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน

สวดพระอภิธรรมทหารกล้า






พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผบ.ทรภ.3 ผู้แทน ทร. เป็นประธานในพิธีสวดพระอภิธรรมศพ จ.อ.วรายุทธ หนูแก้ว เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยชุมชนไทยพุทธ ของกองร้อยปืนเล็กที่ 4 พัน.ร.1ฉก.นย.ทร. (ฉก.นราธิวาส 32) ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่บริเวณจุดตรวจสามแยกปากทางเข้าวัดทุ่งคา ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ใช้รถยนต์กระบะโตโยต้า สีบรอนต์ทอง เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนลอบโจมตีกำลังพลชุด รักษาความปลอดภัยดังกล่าว ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 1 นาย เสียชีวิต 1 นาย คือ จ.อ.วรายุทธ หนูแก้ว

สำหรับจ.อ.วรายุทธ หนูแก้ว ปัจจุบันอยู่ตำแหน่งนายพวกยิง หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 3 ร้อยปืนเล็กที่ 4 กองพันทหารราบที่ 3 ฉก.นย.ทร.

วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ตรวจเยี่ยมหลังคลอด

ด้วยความห่วงใยในสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยหลังคลอด โรงพยาบาลสิริโรจน์ (Phuket International Hospital) ได้จัดทีมพยาบาลวิชาชีพออกให้บริการตรวจร่างกายเบื้องต้น และให้คำแนะนำในการดูแลลูกน้อยแก่ครอบครัวของ คุณธนะ สุจริตกุล และคุณสุปรียา อภิวัฒนากร สุจริตกุล ผู้พิพากษาศาลจังหวัดภูเก็ต

อบจ.ภูเก็ตเตรียมจัดงานท้าวเทพฯ


เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายสรธรรม จินดา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการในการจัดการแสดง แสง สี เสียง ละครอิงประวัติศาสตร์วีรกรรมท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร

ทั้งนี้ นายสรธรรม ได้กล่าวว่า ด้วยจังหวัดภูเก็ต ได้มีการแต่งตั้งให้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานคณะทำงานในการจัดการแสดง แสง สี เสียง ละครอิงประวัติศาสตร์วีรกรรมท้าวเทพกระษัตรี – ท้าวศรีสุนทร ในงานเฉลิมฉลองวันชนะศึกสองวีรสตรี ประจำปี 2553 ระหว่างวันที่ 13 – 15 มีนาคม 2553 ณ อนุสรณ์สถานถลางชนะศึก (โคกชนะพม่า) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมอันหาญกล้าของสองวีรสตรี ท้าวเทพกษัตรี – ท้าวศรีสุนทร ให้อนุชนรุ่นหลังได้มีโอกาสร่วมแสดงความกตัญญูกตเวทิตาคุณแก่ผู้ทำประโยชน์แก่แผ่นดิน รวมทั้งในการจัดงานครั้งนี้ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยนำเอาประวัติศาสตร์คู่บ้านคู่เมืองมาเป็นสื่อในการนำเสนอเรื่องราวให้นักท่องเที่ยวได้ทราบถึงประวัติศาสตร์ดังกล่าวได้อย่างแท้จริง

และในการประชุมครั้งนี้ได้มีการเสนอให้ในที่ประชุมได้ทราบทั่วกันถึงกำหนดการ การจัดงาน การแต่งตั้งคณะทำงานแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุตามจุดประสงค์ที่วางไว้ต่อไป

ต้อนรับคณะผู้บริหารอบจ.ปทุมธานี

นายชวลิต ณ นคร รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายมานพ ลีลาสุธานนท์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายอวยพร สกุลตัน ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ให้การต้อนรับ คณะผู้บริหารจากกองการศึกษาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ณ. ห้องประชุมกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต


ด้วยทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีได้มีนโยบายในการจัดโครงการ อบรมการเปิดสอนหลักสูตร English Program จึงได้ขอเข้าปรึกษาแนวทางการดำเนินโครงการ จัดการเรียนการสอน English Program ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และศึกษาดูงานจากองค์การบริการส่วนจังหวัดภูเก็ตโดยมีกองการศึกษาได้ให้ข้อมูล นอกจากนี้ยังได้ ให้คณะได้รับฟังการบรรยาย " โครงการ อบรมการเปิดสอนหลักสูตร English Program" ของโรงเรียนบ้านไม้เรียบอีกด้วย

สีสันตรุษจีน ที่จังซีลอน ป่าตอง


ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดงาน "Jungceylon Happy Blossom Tiger Year” ขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน และร่วมสานสัมพันธไมตรี 35 ปี ไทย-จีนอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 14 และ 20 กุมภาพันธ์ 2553 โดยได้นำการแสดงชุดพิเศษสุดยอดศิลปวัฒนธรรมจาก 3 มณฑลของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่ ทิเบต, ซินเกียง และเสฉวน พร้อมนักแสดงฝีมือเยี่ยมกว่า 150 ชีวิต มาแสดงให้เห็นถึงความสวยงามและอลังการของศิลปวัฒนธรรมของจีนที่หาชมได้ยาก อาทิ การแสดงดนตรีจีน ระบำชนเผ่า ระบำฮุยกู สุดยอดการแสดงงิ้วเปลี่ยนหน้ากากจากมณฑลเสฉวน ระบำพื้นเมือง การแสดงกายกรรม ฯลฯ โดยจะแสดงให้ชมกันในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2553 ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ณ โซนเดอะพอร์ท (ห้ามพลาด!!)


นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการแสดงมังกรพ่นน้ำ พ่นไฟ การเชิดสิงโตและขบวนมังกร สุดตระการตา พร้อมการตกแต่งบรรยากาศภายในศูนย์ฯในสไตล์จีน เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้สนุกสนาน และเฉลิมฉลองกับเทศกาลตรุษจีนอย่างยิ่งใหญ่ร่วมกันในวันที่ 14 และ 20 กุมภาพันธ์ 2553 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ณ โซนเดอะพอร์ท ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร.076-600-111

อาชีวะภูเก็ตจัดมหกรรมวิชาชีพ

นายสุนทร พลรงค์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยวิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ตกำหนดให้มีการจัดงานมหกรรมวิชาชีพครั้งที่ 9 : 9th Academic and Trade Fair ภายใต้คำขวัญที่ว่า ภาพลักษณ์ อาชีวศึกษา พัฒนาวิชาชีพ ประจำปีการศึกษา 2552 ในระหว่างวันที่ 16-18 กุมภาพันธ์นี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น.ภายในบริเวณวิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต เพื่อบูรณาการการเรียนการสอนของนักเรียนนักศึกษา โดยจัดกิจกรรมประเมินมาตรฐานวิชาชีพ การแข่งขันทักษะ นิทรรศการวิชาการ การแสดงผลงานนักศึกษา การฝึกอบรม 108 อาชีพ การเปิดสถานศึกษาเพื่อการแนะแนวทางการศึกษาต่อสายอาชีพ การแสดงบนเวที การประชาสัมพันธ์การเรียนการสอนสายอาชีพต่อชุมชน

“การจัดมหกรรมวิชาชีพของทางวิทยาลัยฯ มาอย่างต่อเนื่องนั้น เพื่อจะได้นำเสนอผลผลิตและประเมินมาตรฐานทักษะวิชาชีพของนักศึกษา ตลอดจนเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของวิทยาลัยฯ ออกสู่ชุมชนให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการในการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา ภายใต้นโยบายของคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและยุทธศาสตร์ของวิทยาลัยฯ ในการผลิตผู้เรียนให้มีสมรรถนะอาชีพตามมาตรฐานสากล”


นายสุนทร กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า นอกจากนี้ยังจะเพื่อให้ครูอาจารย์ทดสอบมาตรฐานวิชาชีพของนักศึกษาอีกทั้งเป็นการเปิดเวทีจัดแสดงผลผลิต สินค้า การสาธิตของนักศึกษาอาชีวศึกษา แนะนำอาชีพวิชาชีพให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 และนักเรียนที่สำเร็จจากชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายได้เข้ามาศึกษาต่อ รวมทั้งการแนะนำหลากหลายอาชีพ เพื่อนำวิชาความรู้ไปปฏิบัติงานประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวต่อไป เพื่อรองรับการ เปิดสอนในระดับปริญญาตรีต่อไปในอนาคต ซึ่งนอกจากกิจกรรมเผยแพร่ผลงานของนักศึกษาแล้วยังจะได้เป็นการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันกับผู้ปกครองและชุมชน ให้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลซึ่งกันและกัน อันจะทำให้เกิดการพัฒนาอย่างมีคุณค่าและประโยชน์โดยรวมต่อ

ทน.ภูเก็ตจัดกิจกรรมภาคฤดูร้อน 2553


นางสาวนสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ได้กล่าวถึง การจัดกิจกรรมในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนว่า ในช่วงปิดภาคเรียนในฤดูร้อนที่จะมาถึง จะมีนักเรียนจำนวนมากที่ไม่ได้เดินทางไปต่างจังหวัด หรือต้องเรียนภาคฤดูร้อน จึงทำให้นักเรียนมีเวลาว่าง เพื่อให้นักเรียนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและสังคม ทางเทศบาลนครภูเก็ต จึงได้จัดกิจกรรมยามว่างภาคฤดูร้อนประจำปี 2553 ให้เด็กและเยาวชนทั้งใน และนอกระบบการศึกษาได้เลือกฝึกอบรมกิจกรรมตามความถนัดและความสนใจของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ เพื่อให้เด็กได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและสังคม โดยในปีนี้ได้กำหนดกิจกรรมฝึกอบรมฯไว้จำนวน 20 กิจกรรม ทั้งด้านวิชาการ ดนตรีและกีฬา โดยจะแบ่งเป็นช่วงอายุดังนี้

กิจกรรมสำหรับเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป
ว่ายน้ำ จำนวน 80 คน,
บาสเกตบอล จำนวน 80 คน,
เทนนิส จำนวน 50 คน,
เคนโด จำนวน 25 คน

กิจกรรมสำหรับเด็กอายุ 6 – 9 ปี
คอมพิวเตอร์ จำนวน 80 คน

กิจกรรมสำหรับเด็กอายุ 7 ปีขึ้นไป
ฟุตซอล จำนวน 50 คน,
แบตมินตัน จำนวน 80 คน,
ลีลาศเยาวชนจำนวน 60 คน,
เทเบิลเทนนิส จำนวน 60 คน,
เทควันโด จำนวน 50 คน,
เปตอง จำนวน 40 คน,
ศิลปศึกษา จำนวน 60 คน,
ศิลปะประดิษฐ์ จำนวน 30 คน

กิจกรรมสำหรับเด็กอายุ 8 ปีขึ้นไป
รำไทย จำนวน 50 คน

กิจกรรมสำหรับเด็กอายุ 9 ปีขึ้นไป
คอมพิวเตอร์ รับสมัคร 80 คน

กิจกรรมสำหรับเด็กอายุ 10 ปีขึ้นไป
คาราเต้-โด จำนวน 40 คน,
ดนตรีไทย เช่น ขิม ซออู้ ซอด้วง จะเข้ ระนาดเอก ระนาดทุ้ม และขลุ่ย รับสมัคร 200 คน (ประเภทละ 25 คน),
ภาษาจีนขั้นพื้นฐาน จำนวน 60 คน
พิมพ์ดีดไทย จำนวน 40 คน,
มวยไทย จำนวน 30 คน

กิจกรรมสำหรับเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป
ดนตรีสากล รับสมัคร จำนวน 25 คน

นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวอีกว่า ผู้ปกครองที่สนใจจะส่งบุตรหลาน เข้ารับการฝึกอบรมกิจกรรมยามว่างภาคฤดูร้อน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่หมายเลขโทรศัพท์ 076 – 250163, 076 – 216866 และสมัครได้ที่ ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครภูเก็ตได้ตั้งแต่ วันที่ 2 – 12 มีนาคม 2553 ในวันและเวลาราชการระหว่าง เวลา 08.30 – 16.30 น. และนอกเวลาราชการตั้งแต่เวลา 17.00 – 20.00 น.โดยทุกกิจกรรมจะทำการฝึกอบรมฯ ในระหว่างวันที่ 20 มีนาคม – 27 เมษายน 2553 และจะมีพิธีเปิดการฝึกอบรมฯ อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มีนาคม 2553 เวลา 09.30น. ณ อาคารกีฬา1ศูนย์กีฬาสะพานหิน

มอบกระเช้าเพื่อสุขภาพให้ผู้การภูเก็ต

นายแพทย์บดินทร์ ละเอียด รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต พร้อมกับนายโกศล บ่อทอง และนายนิยมพงษ์ ต่อวงศ์ ตัวแทนจากฝ่ายการตลาดและสื่อสารการตลาด ได้มอบกระเช้าเพื่อสุขภาพให้แก่ พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการสถานีตำรวจภูธร จังหวัดภูเก็ต เพื่ออวยพรในเทศกาลวันตรุษจีนด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสที่มีปริมาณโซเดียมต่ำ เพื่อสุขภาพที่ดี

สุดยอดนักอ่านดีเด่น

นายแพทย์ ก้องเกียรติ เกษเพ็ชร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต มอบรางวัลและประกาศนียบัตรให้แก่ ชัชชญา วิชัยวรฉัตร เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ฯ ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสุดยอดนักอ่านดีเด่นแห่งปี 2552 ในงานฉลองครบรอบ 1 ปี Library Café ห้องสมุดประจำโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ให้บริการแพทย์ เจ้าหน้าที่ภายในโรงพยาบาล

งาน 5 ส ตัวอย่าง


นาฎกมล จำรัสกาญจน์ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมคุณภาพ โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และเจ้าหน้าที่แผนกส่งเสริมประกัน ร่วมต้อนรับคณะอาจารย์และเจ้าหน้าที่จาก มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต ที่เข้ามาศึกษาดูงานการกิจกรรม 5 ส ของแผนกต่างๆ ภายในโรงพยาบาลฯ ทั้งนี้ เพื่อนำไปใช้เป็นแบบอย่างของทางมหาวิทยาลัยฯ ด้วย

ภูเก็ตแฟนตาซีฉลองตรุษจีน

ภูเก็ตแฟนตาซีขอร่วมฉลองวันตรุษจีนในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งวันปีใหม่ของชาวไทยเชื้อสายจีนในปีเสือทองนี้ ตรงกับวันวาเลนไทน์วันแห่งความรัก ภูเก็ตแฟนตาซีจึงขอถือโอกาสพิเศษในค่ำคืนแสนหวาน อันเป็นสิริมงคล สร้างความสุข มอบความรักแก่นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเยี่ยมชมระหว่าง วันที่ 5 - 24 กุมภาพันธ์ 2553

ทุกท่านจะได้พบกับมินิคอนเสิร์ต และการแสดงชุดพิเศษ Viva Bangkok Chinese New Year Lion Dance โดยการแสดงเริ่มตั้งแต่วันที่ 12-17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 19.45 น. พิเศษเฉพาะตรุษจีนเท่านั้น ในโอกาสต้อนรับตรุษจีน ภูเก็ตแฟนตาซีได้เพิ่มรูปแบบใหม่ในหมู่บ้านหรรษา ไม่ว่าจะเป็น บลูอัปสราบาร์ อีกหนึ่งมุมของความผ่อนคลายด้วยการตกแต่งที่หรูหราสบายตาด้วยกินรี ดอกบัวสีฟ้า และเพลิดเพลินกับดนตรีไทยที่ผสมผสานอย่างลงตัว อิ่มหนำสำราญกับอาหารที่คัดสรรมาบริการที่ร้านป้อมขนมไทย แล้วมาพบกับ เสือขาวคู่รัก “ปิ่นทอง และหอมมะลิ” ราชา และราชินีแห่งสิงห์วิหาร ที่เดินทางมาจากแคนาดา มาร่วมอวยพรตรุษจีน ณ โครงการ “ไทเกอร์ จังเกิ้ล แอดเวนเจอร์” ต่อจากนั้นแวะเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกกับ ร้านค้าโฉมใหม่ที่สวยงามยิ่งขึ้น


ก่อนที่จะเข้ามาสัมผัสความเป็นไทยผ่านจินตนาการสร้างสรรค์อย่างลงตัวที่สุดกับการแสดง “มหัศจรรย์กมลา” ณ โรงละครวังไอยรา หากคุณพร้อมแล้วสามารถสัมผัสความหฤหรรษ์และรูปโฉมใหม่ที่ยิ่งใหญ่ในช่วงตรุษจีนและวาเลนไทน์ได้ที่ ภูเก็ตแฟนตาซี หาดกมลา จังหวัดภูเก็ต

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

กองอาสารักษาดินแดนครบรอบ 56 ปี


เมื่อเวลา 09.30 น. ของวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 53 ที่สนามหญ้าหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีวันที่ระลึกคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดนครบรอบ 56 ปี โดยมีนายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นางไทศิกา ไพรสงบ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต นายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนและกำลังสำรอง ทั้ง 3 อำเภอ เข้าร่วม


ทั้งนี้ นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ตราพระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. 2497 จัดตั้ง “กองอาสารักษาดินแดน” ขึ้นเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2497 เป็นต้นมา จนถึง ณ วันนี้ ซึ่งตรงกับวันที่ระลึกคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน ครบรอบ 56 ปี กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดภูเก็ต จึงกำหนดให้มีการชุมนุมของผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนขึ้นเพื่อให้มีความรู้ในการที่จะป้องกันตนเองและประเทศชาติ รวมถึงเพื่อแสดงถึงความพร้อม ความมีระเบียบวินัย ตลอดจนความสามัคคี


กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดภูเก็ต ได้รับอนุมัติกรอบอัตรากำลังพล 87 อัตรา แยกเป็นกองร้อยบังคับการและบริการ 27 นาย กองร้อย อส.อ.เมืองภูเก็ต จำนวน 20 นาย กองร้อย อส.อ.กะทู้ จำนวน 22 นาย และกองร้อย อส.อ.ถลาง จำนวน 18 นาย นอกจากนี้ยังมีกองกำลังสำรองอีกจำนวนหนึ่งโดยภารกิจของกองร้อยอาสารักษาดินแดนในจังหวัดภูเก็ตในประกอบด้วย ได้ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการตั้งจุดตรวจในช่วงเทศกาลต่างๆ การตรวจจับผู้กระทำความผิดในด้านของยาเสพติด เป็นต้น
สำหรับในวันนี้นอกจากกิจกรรมการชุมนุมของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนโดยการกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณแล้วยังได้มีการมอบถุงยังชีพและทุนให้กับบุตรสมาชิกกองอาสาฯ โดยเป็นทุนจากมูลนิธิรักษาดินแดนและสมาคมแม่บ้านมหาดไทย