จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ภูเก็ตมินิมอเตอร์โชว์


 
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 54 ที่บริเวณลานพาร์ค แอนด์ ช้อป (นาบอน) ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิด “ภูเก็ตมินิมอเตอร์โชว์” โดยมีนายธนิต ประทีป ณ ถลาง กรรมการผู้จัดการบริษัท ธนิต กรุ๊ป จำกัด ผู้นำท้องถิ่น ผู้ประกอบการธุรกิจรถยนต์ และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมงาน
นายธนิต ได้กล่าวว่า ทางบริษัทได้ร่วมกับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในจังหวัดภูเก็ตกำหนดจัดงานภูเก็ตมินิมอเตอร์โชว์ ขึ้นในระหว่างวันที่ 25 – 31 สิงหาคม 2554 ที่ ทั้งนี้ กระตุ้นเศรษฐกิจให้กับชุมชนท้องถิ่น และผู้ประกอบการธุรกิจรถยนต์ ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร เครื่องดื่มและผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งสถาบันการเงินและผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุด โดยในงานจะได้รับเงื่อนไขพิเศษ มากมาย อาทิ ดาวน์ 0% ดอกเบี้ย 0% เป็นต้น ซึ่งมีตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในภูเก็ตหลายยี่ห้อเข้าร่วมงานดังกล่าว เช่น วอลโว่ โปรตอน มิตชูบิซิ เชฟโลเรต เต็นท์จำหน่ายรถมือสอง รถมอเตอร์ไชค์สตาร์เลี่ยน รวมไปถึงสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารธนชาต ลิสซิ่งกสิกรไทย กรุงไทยลิสซิ่ง เป็นต้น
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดจำหน่ายอาหารพื้นเมืองภูเก็ตและอาหารทั่วไป เครื่องดื่ม และดนตรีจากวงดนตรีคุณธนิตพร้อมแดนเซอร์ตลอด 7 วัน 7 คืนของการจัดงาน

“Andaman Hoteliers 2011”

“Andaman Hoteliers 2011”
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 54 ที่ลานอเนกประสงค์ โฮมเวิร์ค ภูเก็ต นายอิลหยัต คชสวัสดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมการแข่งขันทักษะอาชีพอุตสาหกรรมบริการและการท่องเที่ยวอันดามัน 2554” หรืองาน “Andaman Hoteliers 2011” ซึ่งทางชมรมผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่มอันดามัน ร่วมกับชมรมหัวหน้าพ่อครัวจังหวัดภูเก็ต ชมรมผู้บริหารงานแม่บ้านภูเก็ต – อันดามัน ชมรมผู้บริหารงานวิศวกรรมจังหวัดภูเก็ต ชมรมช่างศิลป์โรงแรมจังหวัดภูเก็ต สมาคมสปาจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ และศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดภูเก็ต จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 – 28 สิงหาคม 54 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน นักท่องเที่ยวและประชาชนผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วม
นายวสันต์ ทองสง่า ประธานชมรมผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่มอันดามัน กล่าวว่า การจัดงานดังกล่าว เพื่อต้องการพัฒนาความรู้ และศักยภาพของบุคลากรด้านการบริหารโรงแรมและการท่องเที่ยว แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เป็นเวทีให้กับผู้ที่มีความสามารถแต่ละสาขาอาชีพการบริการโรงแรมได้ทดสอบทักษะและฝีมือ รวมทั้งเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และจัดแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริการโรงแรมและท่องเที่ยว
ภายในงานจัดให้มีการแข่งขันเพื่อยกระดับฝีมืองานบริการโรงแรมและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในหลายๆ สาขา เช่น สาขาพนักงานบริหารอาหารและเครื่องดื่ม มีการแข่งขันการผสมเครื่องดื่มมาตรฐานประเภทเยาวชนชิงแชมป์ภาคใต้ ประเภททั่วไป และประเภทลีลา ชิงแชมป์ภาคใต้ เพื่อหาตัวแทนไปแข่งขันต่อในระดับประเทศและเอเซียแปซิฟิกต่อไป การแข่งขันจัดโต๊ะอาหาร
ในส่วนของสาขาผู้ประกอบอาหาร มีการแข่งขันการแกะสลักผักและผลไม้ผสมผสานใบตอง การแข่งขันปรุงอาหารทะเล ของหวานยุโรป สาขาอาชีพแม่บ้าน มีการแข่งขันผับผ้าขนหนูแฟนซี ประเภทรวดเร็ว และประเภทสวยงามสร้างสรรค์ การจัดเตียง การจัดดอกไม้ สาขาอาชีพวิศวกรรม มีการแข่งขันช่างเครื่องปรับอากาศ ช่างไฟฟ้า ช่างเชื่อม ช่างไม้-เฟอร์นิเจอร์ สาขาอาชีพช่างศิลป์โรงแรม มีการแข่งขันการแกะสลักน้ำแข็ง สาขาอาชีพสปา มีการแข่งขันจัดดอกไม้ลอยน้ำ จัดเตียงสปา และทำสปาเท้า เป็นต้น

พัฒนาผู้นำในงานสุขภาพภาคประชาชน


เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2554 สิงหาคม 2554 ที่ศาลาประชาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) เป็นประธานเปิดการอบรมพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขเชี่ยวชาญ (อสมช.) พร้อมมอบชุดเครื่องเสียงและแท่นออกกำลังกายโครงการ ภูเก็ต 1 ตำบล 1 แอโรบิก ปี 2554 ตามโครงการพัฒนาผู้นำในงานสุขภาพภาคประชาชนในปีงบประมาณ 2554
ซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมือของ อบจ.ภูเก็ต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และสมาคมอาสาสมัครสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต โดยมี นพ.ศักดิ์ แท่นชัยกุล สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นายมานพ ลีลาสุธานนท์ ปลัด อบจ.ภูเก็ต นายประดิษฐ์ แสงจันทร์ ประธานสภาฯ สมาชิกสภาฯ ข้าราชการและพนักงาน อบจ.ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนตัวแทนอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) จากทุกตำบลของจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วมประมาณ 200 คน
นายมานพ ลีลาสุธานนท์ ปลัด อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า อบจ.ภูเก็ต จึงได้ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และสมาคมอาสาสมัครสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้คัดเลือก อสม.แต่ละตำบล จำนวน 11 สาขาประกอบด้วย สาขาการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ, สาขาเอดส์, สาขาสุขภาพจิต, สาขาแก้ปัญหายาเสพติด, สาขาส่งเสริมสุขภาพ, สาขาการบริการ, สาขาการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ, สาขาการคุ้มครองผู้บริโภค, สาขาการแพทย์แผนไทยและภูมิปัญญาท้องถิ่น, สาขาการจัดการชุมชนและสาขานมแม่สายใยรักแห่งครอบครัว เข้ามารับการอบรม เพื่อพัฒนาศักยภาพ อสม.ในจังหวัดภูเก็ตให้มีขีดความรู้ความสามารถ และเชี่ยวชาญในแต่ละสาขา ตลอดจนสามารถทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการพึ่งตนเองและของชุมชน
ทั้งนี้เป็นผลมาจากแนวคิดที่ต้องการให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) มีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้นำการดำเนินงานพัฒนาสุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตของประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชน เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านสุขภาพอนามัยของประชาชนในชุมชน และมีหน้าที่แก้ข่าวร้าย กระจายข่าวดี ชี้บริการ ประสานงานสาธารณสุข บำบัดทุกข์ประชาชน ดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดี นายมานพกล่าว
ขณะที่นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ กล่าวกับผู้เข้ารับการอบรมว่า การพัฒนาศักยภาพ อสม.ให้มีความรู้ ความสามารถเกิดการปฏิบัติหน้าที่ที่มีคุณภาพ และสามารถนำไปปรับใช้ในส่วนงานที่รับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพในพื้นที่นับว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะ อสม.เป็นบุคคลที่มีจิตสาธารณะ มีความมุ่งมั่นเสียสละ เคียงบ่าเคียงไหล่กับเจ้าหน้าที่ในการดำเนินงานสาธารณสุขมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปีจนเป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่นและชุมชน

ทรัพยากรน้ำ ตั้งคณะทำงานลุ่มน้ำสาขาเกาะภูเก็ต


เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 54 ที่ห้องประชุมชั้น 12 โรงแรมเพิร์ลภูเก็ต ส่วนประสานและบริหารจัดการลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำนักงานทรัพยากรน้ำ ภาค 10 กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดตั้งคณะทำงานลุ่มน้ำสาขาเกาะภูเก็ต ซึ่งจัดขึ้น เพื่อจัดตั้งคณะทำงานลุ่มน้ำสาขาเกาะภูเก็ต และรับฟังข้อคิดเห็นประเด็นปัญหา ข้อเสนอแนะ ตลอดจนแนวทางการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ โดยมีนายเดโช สุวรรณมุสิก ผู้แทนจากสำนักงานทรัพยากรน้ำ ภาค 10 ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องใน จ.ภูเก็ต เช่น ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เป็นต้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และตัวแทนภาคประชาชนเข้าร่วม
นายเดโช กล่าวว่า ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันตก เป็นลุ่มน้ำที่เกิดจากพื้นที่ต้นน้ำลำธารที่เป็นเทือกเขาทางภาคใต้ของประเทศไทยระหว่างจังหวัดระนอง พังงา กระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช สตูลและภูเก็ต ไหลลงทะเลอันดามัน ทิศตะวันออกติดกับลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออก ลุ่มน้ำตาปีและลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ทิศใต้ติดกับทะเลอันดามันและชายแดนประเทศมาเลเซีย และทิศตะวันตกติดกับทะเลอันดามัน อ่างเก็บน้ำที่สำคัญในลุ่มน้ำนี้ ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำปกาสัย จ.กระบี่ อ่างเก็บน้ำนางน้อย จ.ตรัง และอ่างเก็บน้ำดุสน จ.สตูล ทั้งนี้ทั่วประเทศไทยมีลุ่มน้ำหลัก จำนวน 25 ลุ่มนี้ เช่น ลุ่มน้ำสาละวิน ลุ่มน้ำโขง ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา เป็นต้น
ส่วนของภูเก็ตเป็นหนึ่งในลุ่มน้ำสาขาในพื้นที่ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันตก ซึ่งที่ผ่านมาในส่วนของลุ่มน้ำสาขาอื่นๆ ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยในส่วนของภูเก็ตเป็นลุ่มน้ำสุดท้าย ซึ่งบทบาทหน้าที่ของคณะทำงานฯ นั้นจะทำหน้าที่ในการสำรวจรวบรวมข้อมูลแหล่งน้ำ จัดทำแผนงานโครงการต่างๆ เกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ของตัวเอง เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณดำเนินการ ตลอดจนเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วย เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนโดยรวม นายเดโชกล่าว

นักท่องเที่ยวซิ่งแหกโค้งชนรั้วลวดหนามดับ


เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 54 ร.ต.อ.เชียรชัย ดวงสุวรรณ ร้อยเวรสภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีเหตุนักท่องเที่ยวขับรถจักรยานยนต์แหกโค้งชนเสารั้วเสียชีวิตคาที่ 1 ราย เหตุเกิดที่บริเวณซอยยอดเสน่ห์ 2 ม.10 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้งก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจกู้ภัย
ที่เกิดเหตุเป็นถนนซอยขึ้นไปพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี หรือพระใหญ่ ซึ่งเป็นพระที่มีทั้งไทยและต่างประเทศขึ้นไปเคารพจำนวนมาก โดยที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากถนนเจ้าฟ้าตะวันตกประมาณ 500 เมตร 2 ข้างทางเป็นสวนยางพารา และเป็นทางโค้งคดเคี้ยว โดยที่รั้วกั้นอาณาเขตบริเวณพื้นที่ดินในสวนยางพาราแปลงดังกล่าว พบศพนายไมเคิ้ล แอนดเดอร์สัน อายุ 37 ปี สัญชาติเดนมาร์ค สภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดคอกลมสีเทา สวมกางเกงขายาวสีน้ำตาลอ่อน ขาด้านขวาพาดติดกับรั้วลวดหนาม ขาด้านซ้ายตั้งเป็นมุมฉาก 90 องศา พิงอยู่กับเบาะรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮ้อนด้า รุ่นแอร์เบค สีดำ หมายเลขทะเบียน ขจพ.70 ภูเก็ต จากการตรวจสอบตามร่างกาบของผู้ตายเจ้าหน้าที่พบที่บริเวณศีรษะเป็นแผลยาวมีเลือดไหลนองพื้น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6 ชั่วโมง จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้จัดทำบันทึกสถานที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำศพส่งรพ.วชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์เวรได้ทำการชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกก็ทราบว่า เมื่อคืนที่ผ่านมามีฝนตกลงมาโปรยปราย จึงทำให้ชาวบ้านไม่ได้ออกไปไหน โดยชาวบ้านรายหนึ่งได้กล่าวว่า เวลาประมาณ ตี 3 ได้ขับรถผ่านเห็นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวล้มติดอยู่กับรั้วลวดหนาม แต่ด้วยความมืดไม่พบร่างผู้เสียชีวิต เนื่องจากรถจักรยานยนต์ทับร่างอยู่ จนกระทั่งช่วงเช้าวันนี้ ชาวบ้านก็ได้เข้าไปตรวจสอบ ก็พบว่ามีผู้เสียชีวิต นอนหงายและขาแขวนติดอยู่กับรั้วลวดหนามโดยที่มีรถจักรยานยนต์ทับร่างอยู่ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสอบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ตายน่าจะกลับมาจากเลี้ยงจนดึก จากนั้นก็ได้ขับรถจยย.กลับบ้าน อาจจะขับด้วยความเร็ว ประกอบกับที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งและมีฝนตกถนนลื่น ให้ผู้ตายแหกโค้งไปชนกับรั้วลวดหนาม โดยที่ศีรษะไปกระแทรกกับเสารั้ว เสียเลือดมาก ประกอบกับรถจยย.ล้มทับด้วย จึงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เสียชีวิตในเวลาต่อมาก่อนที่จะมีคนไปพบดังกล่าว

น้ำท่วมป่าตองกลับสู่ภาวะปกติ


ความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองป่าตอง อ.กะทู้ เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเกือบตลอดทั้งวัน (25 ส.ค.54 ) ส่งผลให้มีน้ำท่วมขัง และดินสไลด์ลงมาบนพื้นถนน ทำให้การจราจรติดขัด ปรากฏว่าในช่วงเย็นฝนเริ่มหยุดตกทำให้น้ำที่ท่วมขังในหลายพื้นที่สามารถที่จะระบายได้มากขึ้น และกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ยกเว้นบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลป่าตองซึ่งยังมีน้ำท่วมขังอยู่บ้างเล็กน้อย
ทั้งนี้นายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่ป่าตองสถานการณ์น้ำท่วมได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ถนนทุกสายรถสามารถสัญจรได้ตามปกติ ขณะเดียวกันทางเทศบาลฯได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการกวาดล้างทำความสะอาดถนนทุกสาย รวมทั้งทำความสะอาดและจัดเก็บขยะที่เข้าไปอุดตันอยู่ในท่อระบายน้ำ นอกนั้นยังจัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะจากการสอบถามไปยังศูนย์อุตุนิยมวิทยา ยืนยันว่าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตยังมีฝนตกต่อเนื่องอีกหลายวัน
ส่วนของพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งมีน้ำท่วมหลายจุดเช่นกันก็เริ่มคลี่คลาย แต่ยังมีบางจุดซึ่งน่าเป็นห่วงเนื่องจากยังมีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะซอยบ้านตากแดดและหมู่บ้านสแกนดิเนเวีย เนื่องจากมีสภาพเป็นที่ลุ่มและเกรงว่าจะมีฝนตกลงมาอีก ส่งผลให้ชาวบ้านต้องนำทรัพย์สิน เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์มาจอดไว้ริมถนน โดยในส่วนของ อบต.ฉลอง นำโดยนายณัฎฐ์พงศ์ วิมลพันธุ์ นายกอบต.ฉลอง พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ก็ได้เข้าไปอำนวยความสะดวกให้ชาวบ้านแล้ว
นายณัฎฐ์พงศ์ วิมลพันธุ์ นายกอบต.ฉลอง กล่าวว่า หากฝนหยุดตก สถานการณ์น่าจะคลี่คลาย แต่หากฝนยังตกต่อเนื่องทั้งคืน ตนได้เตรียมแผนการย้ายอพยพชาวบ้านที่ประสบภัยแล้ว ซึ่งขณะนี้ก็ได้ตั้งศูนย์รับเรื่องราวรับเรื่องร้องเรียนปัญหาความเดือดร้อน โดยศูนย์ตั้งอยู่ที่อบต.ฉลอง หากประชาชน ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมดังกล่าวให้ไปแจ้งรายชื่อที่อบต.ฉลอง ได้ทุกวัน ซึ่งอบต.ฉลอง จะให้การช่วยเหลือต่อไป

พัฒนาศักยภาพในสถานประกอบการ


เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 54 ที่ห้องแววราไวย์ โรงแรมเมโทรโพล ภูเก็ต นายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการอบรมโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประสานพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดในสถานประกอบการ ซึ่งทางสำนักงานแรงงานจังหวัดภูเก็ตจัดขึ้น โดยมีผู้รับการอบรมประกอบด้วย กลุ่มนายจ้าง ลูกจ้างและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานด้านยาเสพติดของสถานประกอบการขนาด 50 คนขึ้นไป เข้าร่วม
นายสุทธิพงศ์ สายสาคเรศ แรงงานจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยจังหวัดภูเก็ตได้อนุมัติโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประสานพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดในสถานประกอบการให้ทางสำนักงานแรงงานจังหวัดภูเก็ตดำเนินการ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้สถานประกอบการในจังหวัดภูเก็ต มีความเข้มแข็งในการป้องกันปัญหายาเสพติด รณรงค์ปลูกจิตสำนึก และสร้างกระแสที่เอื้อต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้แก่ทั้งนายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการ รวมทั้งได้รับทราบทิศทางในการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดในภาพรวมของจังหวัดภูเก็ต
ขณะที่ นายไชยวัฒน์ เทพี กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดใน จ.ภูเก็ต โดยเฉพาะยาไอซ์ กับยาบ้า ซึ่งการปราบปรามยาเสพติดเป็นนโยบายที่สำคัญอย่างหนึ่งของรัฐบาล และคาดว่าหลังจากนี้ก็จะการมอบนโยบายที่ชัดเจนให้กับหน่วยงานราชการต่างๆ นำไปปฏิบัติ ทั้งในเรื่องของการป้องกัน ซึ่งทำอย่างไรจึงจะหยุดยั้งหรือลดปริมาณยาเสพติดให้น้อยลง ซึ่งก็จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นชุมชนหรือสถานประกอบการในการที่จะสร้างความเข้มแข็งเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ภูเก็ตฝนตหนักส่งผลมีน้ำท่วมขังหลายจุด


ตลอดช่วงเช้าของวันที่ 25 สิงหาคม.54 มีฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องมาจากเมื่อคืนที่ผ่านมาส่งผลให้หลายพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ตประสบกับปัญหาน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ซึ่งมีน้ำขังหลายจุด โดยบริเวณถนนหน้าโรงพยาบาลป่าตอง มีน้ำท่วมขังสูงกว่า 50 ซม.รถทุกขนาดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ นอกจากนี้น้ำยังไหลบ่าเข้าไปท่วมชั้นใต้ดินและภายในโรงพยาบาล รวมถึงบริเวณสถานีตำรวจภูธรกะทู้ ถนนผังเมืองสาย ก ถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี เช่นเดียวกับถนนสายหน้าหาดป่าตองหรือถนนทวีวงศ์ก็มีน้ำท่วมขังเนื่องจากน้ำทะเลหนุน เป็นต้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองป่าตองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปดูแลอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่
นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่า ในหลายพื้นที่ของ จ.ภูเก็ตก็มีปัญหาน้ำท่วมขัง เช่น บริเวณหมู่ที่ 5 บ้านหัวควน ต.กมลา อ.กะทู้ ได้เกิดน้ำท่วมขังบ้านเรือนประชาชนประมาณ 10 หลัง โดยมีน้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพข้าวของจากบ้านเรือนไปอยู่ในจุดปลอดภัย ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ตก็มีน้ำท่วมขังในหลายๆจุดโดยเฉพาะที่บ้านม่านตากแดด ซอยหลวงพ่อช่วงมีน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 10 หลังคาเรือน เป็นต้น
ด้านนายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า จากการที่ฝนตกสะสมมาตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.54) ส่งผลให้ถนนหลายสายของป่าตองประสบกับปัญหาน้ำท่วมขัง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน ซึ่งในส่วนของทางเทศบาลฯก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปแก้ปัญหาในการขุดลอกคลองและระบายน้ำในจุดต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน เนื่องจากได้มีน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือน รวมถึงในส่วนของโรงพยาบาลป่าตองด้วย
“น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองป่าตองครั้งนี้นับว่าหนักสุดในรอบ 7-8 ปี หลังสึนามิ เนื่องจากสาเหตุหลายๆ อย่างนอกจากเรื่องของธรรมชาติแล้ว ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์ โดยเฉพาะการสร้างสิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำ หรือการถมทางน้ำ เมื่อประกอบกับปริมาณน้ำฝนสะสมและน้ำทะเลหนุนจึงทำให้เกิดน้ำท่วมหนัก ซึ่งขณะนี้ก็ได้เร่งทำการแก้ไขเพื่อระบายน้ำออกไปให้ได้โดยเร็ว แต่อย่างที่กล่าวแล้วเนื่องจากระยะนี้น้ำทะเลหนุนจึงทำให้ระบายน้ำได้ยาก รวมทั้งในพื้นที่ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง” นายชัยรัตน์กล่าว
ขณะที่ นพ.ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลป่าตอง กล่าวว่า ขณะนี้ถนนบริเวณหน้าโรงพยาบาล และภายในโรงพยาบาลโดยเฉพาะชั้นใต้ดิน รวมทั้งบริเวณโดยรอบๆ โรงพยาบาลมีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ซึ่งผู้ป่วยที่จะเดินทางมารักษาตัวที่โรงพยาบาลไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้ และขณะนี้มีความเป็นห่วงเรื่องของปริมาณน้ำที่อาจจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากฝนยังคงตกลงมาอย่างหนัก ส่วนผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลฯ ทางเจ้าหน้าที่ยังสามารถดูแลได้เนื่องจากอยู่ในที่ปลอดภัย
นอกจากจะเกิดน้ำท่วมแล้ว ยังได้เกิดเหตุบ้านพักคนงาน โรงงานไอส์แลนด์ ที ลอนดรี้ ซึ่งเป็นโรงงานรับจ้างซักรีด เลขที่ 18/265 ตั้งอยู่สุดซอยสี่กอ ต.กะทู้ อ.กะทู้ ด้านหลังติดกับเนินเขากะทู้ ด้านบนเนินเป็นสวนยางพารา และมีบ้านไม้สำหรับที่พักคนงานตั้งอยู่ 1 หลัง ส่วนด้านข้างอาคารโรงงาน พบหลังคาและโครงเหล็กของบ้านพักพนักงานโรงงานซักรีดถล่มลงมาทับรถยนต์ 2 คันที่จอดอยู่นอกจากนี้ยังทำให้หลังคาโรงงานบางส่วนเสียหายด้วย แต่โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีคนในโรงงานอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
นายนราชัย ชุมศรี กรรมการผู้จัดการ ไอแลนด์ ลอนดรี้ เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่บนเนิน ซึ่งเป็นที่ดินของโรงงาน แต่ยังไม่มีพนักงานเข้าอยู่อาศัยแต่อย่างใด เมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีฝนตกหนักจนมาถึงช่วงเช้า คาดว่า ดินอุ้มน้ำไว้ไม่ไหว จึงทำให้โรงจักรรีดยางของคนงานพม่าที่รับจ้างกรีดยางพังลงมา และทำให้บ้านพักที่ตั้งอยู่ด้านล่างถัดลงมาถล่มลงมาด้วย โดยมูลค่าความเสียหายของบ้านประมาณ 2 ล้านบาท
ขณะที่นายชัยยะ สุทธิกุล รองนายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กล่าวว่า จากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองกะทู้ได้รับผลกระทบจากฝนตกดังกล่าว ทั้งดินสไลด์ลงมายังถนนบริเวณทางขึ้นเขาป่าตองฝั่งเทศบาลเมืองกะทู้ ดินสไลด์ลงพื้นถนนบริเวณด้านหน้าสนามกอล์ฟล็อคปาล์ม บ้านเรือนราษฎรในซอยสี่กอ จำนวน 2 หลังได้รับความเสียหายจากดินภูเขาสไลด์ลงมาและน้ำไหลเข้าบ้านเรือนราษฎร บริเวณซอยตาเลื่อน มีน้ำไหลเข้าบ้านเรือนประชาชน เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้
อย่างไรก็ตามในส่วนของเทศบาลฯ ก็ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเข้าไปช่วยเหลือในการขุดตักดินออกจากบนพื้นถนนและบ้านเรือนของราษฎร แต่ยอมรับว่าการทำงานก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากยังมีฝนตกลงมาตลอดเวลา นายชัยยะกล่าว

วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554

มรภ.ภูเก็ต จัดงานอาเซียนสัมพันธ์ 2011


เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 54 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงานอาเซียนสัมพันธ์ 2011 มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต มี รศ.ดร.ประภา กาหยี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต รองอธิบการบดี ผู้บริหารทุกระดับ อาจารน์ นักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ครู และนักเรียนจากโรงเรียนในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติและประชาชนผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วม
ผศ.ดรุณี บุณยอุดมศาสตร์ ผู้ช่วยอธิการบดีและประธานโปรแกรมวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต กล่าวว่า เนื่องด้วยปี 2558 ประเทศไทยจะต้องเข้าสู่ประชาคมอาเซียน พร้อมกับประเทศเพื่อนบ้านอีก 9 ประเทศ ดังนั้นในอนาคตจะมีการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเสรีของกลุ่มประชาคมอาเซียน ทั้ง 10 ประเทศ เพราะฉะนั้นในอีกสี่ปีข้างหน้า คนไทยไม่เพียงที่จะต้องแข่งขันกับคนไทยกันเองเท่านั้น แต่จะต้องแข่งขันกับเพื่อนบ้านอีก 10 ประเทศด้วย
ดังนั้นเยาวชนรุ่นใหม่จำเป็นต้องตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ และต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องปรับปรุงทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาขั้นพื้นฐานสำหรับการสื่อสารในอาเซียน นอกจากนี้เยาวชนยังต้องเรียนรู้ภาษาของประเทศเพื่อนบ้านให้สามารถสื่อสารได้ และอีกทั้งต้องมีความเข้าใจในวัฒนธรรมของแต่ละประเทศที่แตกต่างกันอีกด้วย จึงจะมีโอกาสที่จะได้งานทำมากขึ้นในอนาคต
มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตได้ตระหนักถึงความสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาและประชาชนในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน จึงจัดโครงการอาเซียนสัมพันธ์ 2011 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาและประชาชน มีความรู้เกี่ยวกับอาเซียนมากขึ้นและเรียนรู้วัฒนธรรมของแต่ละประเทศที่ต่างกัน ตลอดจนมีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษในการจัดกิจกรรม
ด้านนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้เหลือเวลาอีก 4 ปีเท่านั้น ที่ประเทศไทยและกลุ่มประเทศภูมิภาคอาเซียนจะก้าวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 ซึ่งอาเซียนจะเป็นหนึ่งเดียวทั้งในเรื่องของการตลาด ฐานการผลิตสินค้าและบริการ การลงทุนและในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะในด้านประชาคมเศรษฐกิจ การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนจะทำให้เกิดการเปิดกว้างในการเคลื่อนย้ายแรงงานระหว่างประเทศ ทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในอาเซียนมากขึ้น และจะทำให้กลุ่มอาเซียนมีอำนาจในการต่อรองเจรจาในระดับโลกเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ทุกประเทศในอาเซียนรวมถึงประเทศไทยกำลังเร่งรีบพัฒนาในทุกด้านเพื่อพร้อมรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 นี้
จังหวัดภูเก็ตเช่นเดียวกันเรากำลังเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับประโยชน์ที่จะเกิดจากการค้าเสรีอาเซียนและประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนใน 4 ปีข้างหน้านี้โดยยกระดับจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองหลวงแห่งการท่องเที่ยวในอาเซียน และมีเป้าหมายสำคัญคือการขยายฐานนักท่องเที่ยวและการลงทุนด้านการท่องเที่ยวจากไทยไปสู่อาเซียนให้มากขึ้น ดังนั้นจังหวัดภูเก็ตจึงต้องมีการเตรียนมความพร้อมในทุกด้าน โดยร่วมมือกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน
"ในวันนี้ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ และได้จัดกิจกรรมหลายอย่างอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการเตรียมบุคลากรที่มีคุณภาพที่จะรองรับกับตลาดอาเซียน อีกทั้งยังเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสถาบันศึกษาในระดับต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ต และใกล้เคียงในการรณรงค์ให้เยาวชนมีความรู้ และตระหนักในการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนดังที่ได้รับทราบว่ามีความร่วมมือในการจัดงานครั้งนี้จากหลายสถาบัน ซึ่งผมขอชื่นชมในความร่วมมือร่วมใจของท่านในครั้งนี้" นายไพบูลย์ กล่าวในที่สุด