จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2554

รวบแล้ว 1 ใน 2 คนชิงทองร้านทอง



เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2554 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.เมืองภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.โชติ ชิดไชย ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วง รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.วิจักรขณ์ ตารมย์ สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายเตชิน กองสีนนท์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 189/7 หมู่ 1 ต.วิชิต อ.เมือง ภูเก็ต พร้อมด้วยของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท จำนวน 8 เส้น กางเกงยีนส์ ยี่ห้อลีวายส์ สีน้ำเงิน จำนวน 1 ตัว รองเท้าผ้าใบสีขาว ยี่ห้อคาโบบาสซาโน่ จำนวน 1 คู่ และกุญแจรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า พวงกุญแจ 550 จำนวน 1 พวง โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับที่บ้านเลขที่ 75/22 หมู่บ้านภูเก็ตการ์เด้นวิว หมู่ 6 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต โดยกล่าวหาว่าร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด การพาทรัพย์นั้นไป และเพื่อให้พ้นการจับกุม โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
สำหรับการจับกุมตัวนายเตชินในครั้งนี้ ด้วยเมื่อเวลาประมาณ 15.55 น.ของวันที่ 28 ตุลาคม 2554 ได้มีคนร้ายเป็นชายจำนวน 2 คน เข้าไปชิงทรัพย์เป็นสร้อยคอทองคำ จำนวน 18 เส้น ซึ่งวางอยู่ในถาดสำหรับโชว์ แต่เนื่องจากคนร้ายได้กระทำความเร่งรีบ ทำให้ตกอยู่ที่หน้าร้านจำนวน 6 เส้น และติดอยู่ที่รถจักรยานยนต์ที่คนร้ายจอดทิ้งไว้ จำนวน 1 เส้น แล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีและไปจอดทิ้งไว้ที่ทำการไปรษณีย์ภูเก็ต ถ.มนตรี ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต และจากการสืบสวนและตรวจสอบทราบว่า หนึ่งในคนร้าย คือนายเตชิน ซึ่งเป็นคนไปเช่ารถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน ขจค 550 ภูเก็ต จากร้านสุเทพคาร์เร้นท์ ถ.มนตรี ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต เมื่อนำภาพผู้ต้องสงสัยให้ผู้เสียหายและประจักษ์พยานดูยืนยันว่า เป็นหนึ่งในสองคนร้ายที่เข้าไปกระชากสร้อยคอทองคำจากภายในร้านก่อนหลบหนีไป
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนก็ได้ตรวจสอบข้อมูลของเจ้าหน้าที่พบว่า นายเตชินเช่าบ้านอยู่เลขที่ 75/48 หมู่บ้านภูเก็ตการ์เด้นวิวล์ หมู่ 6 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต เปิดร้านขายของชำ จึงได้ขออำนาจจากศาลจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอหมายศาลภูเก็ตเข้าทำการตรวจค้น บ้านเลขที่ 75/22 หมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งเป็นบ้านของบิดามารดาของนายเตชิน พร้อมขอหมายจับในคราวเดียวกัน ซึ่งจากการตรวจค้นพบนายเตชินอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว จากนั้นก็ได้นำตัวผู้ต้องหานำไปทำการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ตรวจพบคอทองคำที่ได้มาจากการการวิ่งทรัพย์ จำนวน 2 เส้น ซึ่งซุกซ่อนอยู่บนชั้น 3 ของบ้านหลังดังกล่าว จึงได้ทำการตรวจยึดได้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งควบคุมตัวนายเตชินไปทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 75/48 ซึ่งเป็นบ้านที่นายเตชินได้เช่าเอาไว้ จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตรวจค้นสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท อีกจำนวน 6 เส้น รองเท้า และกางเกงที่นายเตชินสวมใส่ในวันเวลาที่เกิดเหตุ และพบกุญแจรถจักรยานยนต์คันที่นายเตชิน นำไปก่อนเหตุ อยู่ภายในบ้านดังกล่าวด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายเตชิน พร้อมด้วยของกลางมาทำการสอบสวนเพิ่มเติม
ทั้งนี้จากการสอบสวนนายเตชิน ก็ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ในการลงมือชิงทองในครั้งนี้ได้ลงมือด้วยกัน 2 คน โดยที่อีกคนกำลังหลบหนี ด้วยตนเป็นหนีการพนันฟุตบอลจำนวนประมาณ 2 แสนบาท ซึ่งทางเจ้าหนี้ก็ได้พยายามที่จะทวงถามหนี้อยู่ตลอดเวลา จึงจำเป็นที่จะต้องลงมือชิงทองในครั้งนี้



ตร.น้ำภูเก็ตนำ 66 นทท.ขึ้นฝั่งหลังเรือขัดข้อง



พ.ต.ท.ฤทธี เผ่าพันธุ์ สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 3 ต กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ เปิดเผยว่าได้รับการประสานจากศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตหรือศูนย์ไข่มุก ว่า มีเรือบรรทุกนักท่องเที่ยวเป็นเรือสปี๊ดโบ๊ทชื่อ “คามิกา” นำนักท่องเที่ยวจำนวน 66 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติมีทั้งอินเดีย ฝรั่งเศส สเปน ออสเตรีย และลูกเรืออีก 4 คน เดินทางกลับมาจากเกาะพีพี จ.กระบี่ เกิดปัญหาขัดข้องจอดลอยลำอยู่กลางทะเลใกล้กับเกาะดอกไม้ ห่างจากเกาะภูเก็ต ไปประมาณ 15 ไมล์ทะเล หลังได้รับแจ้ง ก็สั่งการให้ พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ ผู้บังคับการเรือ ต.522 สถานีตำรวจน้ำจังหวัดภูเก็ต พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการช่วยเหลือ โดยนำขึ้นฝั่งที่ท่าเรือรัษฎา อ.เมืองภูเก็ต
อย่างไรก็ตามการเข้าไปช่วยเหลือเรือและผู้โดยสารดังกล่าวเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากสภาพคลื่นลมแรงมาก มีความสูง 3-5 เมตร ต้องใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมงจึงสามารถที่ช่วยเหลือนำเรือและนักท่องเที่ยวกลับขึ้นฝั่งได้ โดยใช้เรือตรวจการณ์ลากเรือบรรทุกนักท่องเที่ยว และให้นักท่องเที่ยวบางส่วนขึ้นมาอยู่เบนเรือตรวจการณ์ โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมีลักษณะอ่อนเพลียเนื่องจากต้องอยู่ในเรือเป็นเวลานาน และพบนักท่องเที่ยว 1 รายบาดเจ็บที่ขาเล็กน้อย และอีก 1 รายมีอาการปวดหลัง
พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ ผู้บังคับการเรือ ต.522 กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำได้รับการประสานจากศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต แจ้งว่าบริษัทเรือนำเที่ยว พีพี ไอส์แลนด์มารีนว่าเรือ สปี๊ดโบ๊ท ซึ่งนำนักท่องเที่ยวกลับจากเกาะพีพี จอดลอยลำอยู่กลางทะเล ห่างจากเกาะภูเก็ต ประมาณ 15 ไมล์ทะเล เนื่องจากเรือขัดข้องสายน้ำมันแตก จึงนำเรือ ต.522 ออกทำการค้นหา แต่การเดินทางเต็มไปด้วยความยากลำบากมาก เพราะคลื่นลมแรงมากมีคลื่นสูง 4-5 เมตร ประกอบกับเป็นเวลากลางคืนกว่าจะค้นหาได้ต้องใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง และเมื่อหาพบยังใช้เวลานานกว่าจะถ่ายนักท่องเที่ยวให้ขึ้นมายังเรือตำรวจน้ำได้ และต้องลากเรือดังกล่าวเข้าฝั่งด้วย นับว่าโชคดีที่สามารพช่วยทุกคนกลับมาได้อย่างปลอดภัย




ททท.ภูเก็ตจัด “หัวใจอนุรักษ์@ภูเก็ต”



เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 54 ที่บริเวณสะพานท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายปรเมศร์ อมาตยกุล ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานเปิดโครงการดำน้ำเก็บขยะที่บริเวณเกาะเฮ อ.เมือง ภูเก็ต ซึ่งเป็นเกาะที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในแต่ละปีซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรม “หัวใจอนุรักษ์@ภูเก็ต” จัดโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต ร่วมกับสมาคมดำน้ำพีดีเอแห่งประเทศไทย ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งที่ 5 และองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต โดยมีนางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
ทั้งนี้นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า กิจกรรมดำน้ำเก็บขยะในครั้งนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ทางททท.สำนักงานภูเก็ต ร่วมกับ สมาคมดำน้ำพีดีเอแห่งประเทศไทย ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งที่ 5 และองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตจัดขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งการจัดงาน “หัวใจอนุรักษ์@ภูเก็ต” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 ตุลาคม 2554 ที่บริเวณสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภูเก็ต เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยว และประชาชน ดูแลรักษาแหล่งท่องเที่ยวให้ยั่งยืนตลอดไป
สำหรับการจัดเก็บขยะในครั้งนี้ มีนักดำน้ำประมาณ 50 คน ดำน้ำเก็บขยะบริเวณโดยรอบของเกาะเฮ และการเก็บขยะในครั้งนี้ สามารถเก็บขยะได้ทั้งหมด 95.22 กิโลกรัม แบ่งเป็นอวน 22 กิโลกรัม ที่เหลือเป็น ท่อพีวีซี แก้วพลาสติก และอื่นๆ จากนั้นได้มีพิธีมอบโล่และประกาศนียบัตรให้กับทีมที่สามารถเก็บขยะได้สูงสุดทั้งหมด 3 ทีม ประกอบด้วย ทีมมั่ว ทีมมือใหม่หัดขับ และทีมสายตลอด ตามลำดับ


วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2554

โรตารีร่วมเอกชนระดมทุนช่วยน้ำท่วม



เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 54 ที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายแพทย์สงวน คุณาพร ผู้ว่าการภาครับเลือก ปีบริหาร พ.ศ. 2556 – 2557 ภาค 1330 โรตารีสากล เป็นประธานในการแถลงข่าวความร่วมมือระหว่างภูเก็ตแฟนตาซี, ภูเก็ตไซมอนคาบาเรต์, อโฟรไดท์ คาบาเรต์ และสโมสรโรตารี 6 สโมสรในจังหวัดภูเก็ต เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบอุทกภัยในภาคกลาง, ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ.2554
นายแพทย์สงวน คุณาพร ผู้ว่าการภาครับเลือก ปีบริหาร พ.ศ. 2556 – 2557 ภาค 1330 โรตารีสากล ได้กล่าวว่า ขณะนี้ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อีกทั้งหลายจังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังประสบอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 50 ปี มีประชาชนเดือดร้อนหลายล้านคน เศรษฐกิจทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ จนไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบันมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น และเริ่มมีความขาดแคลนสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตโดยเฉพาะสิ่งสำคัญคือน้ำดื่มสะอาดและอาหาร
สโมสรโรตารีทั้ง 6 สโมสรในจังหวัดภูเก็ตซึ่งประกอบด้วย สโมสรโรตารีภูเก็ต, ทุ่งคา, อันดามัน, ป่าตองบีช, จังซีลอนและภูเก็ตเซ้าท์ จึงได้ระดมทุนเพื่อจัดหาน้ำดื่มจำนวน 1 ล้านขวด เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ประสบภัย นอกจากนี้ทางสโมสรทั้ง 6 ยังได้ร่วมสมทบกับกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ ภาค 3300 ไปแล้วกว่า 8 แสนบาท รวมถึงจัดหาเรือยนต์อีก 2 ลำให้กับโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเพื่อนำไปใช้ในภารกิจด้านการแพทย์ที่จังหวัดปทุมธานีด้วย
ในส่วนขององค์กรธุรกิจด้านบันเทิงในจังหวัดภูเก็ตทั้ง 3 แห่งได้ตระหนักถึงความตั้งใจของสโมสรโรตารีที่มุ่งมั่นจะช่วยเหลือผู้ประสบภัย จึงขอร่วมเป็นพันธมิตรในการสมทบทุนให้กับสโมสรฯ เพื่อใช้ในภารกิจดังกล่าว ประกอบด้วย
ภูเก็ตแฟนตาซี ซึ่งเป็นสถานบันเทิงที่แสดงโชว์ศิลปวัฒนธรรมไทยประยุกต์และเทคโนโลยีการแสดงแบบล้ำสมัยคล้ายกับลาสเวกัส จะร่วมสมทบทุนโดยการจำหน่ายบัตรเพื่อชมการแสดงและรับประทานอาหารจำนวน 100 ใบ ในราคาใบละ 1,900 บาท มีอายุใช้งาน 1 ปี รวมมูลค่า 190,000 บาท
รวมถึงภูเก็ตไซมอนคาบาเรต์ สถานบันเทิงที่แสดงโชว์แบบคาบาเรต์อันตระการตาโดยนักแสดงผู้หญิงข้ามเพศ มอบบัตรแสดงรอบพิเศษ 1 รอบแก่สโมสรฯ กำหนดจัดแสดงรอบพิเศษในวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2554 โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ที่นั่งรวม 500 ที่นั่ง ราคาบัตรใบละ 500 บาท รวมเป็นมูลค่า 250,000 บาท
และอโฟรไดท์ คาบาเรต์ สถานบันเทิงแห่งใหม่ที่มีรูปแบบการโชว์ประเภทเดียวกับไซมอนต์คาบาเรต์ ที่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองภูเก็ต มอบบัตรอภินันทนาการเพื่อชมการแสดง จำนวน 100 ใบ ราคาใบละ 800 บาท มีอายุใช้งาน 1 ปี รวมมูลค่า 80,000 บาท




2 คนร้ายบุกชิงทองในร้านทองกลางเมืองภูเก็ต

2 คนร้ายบุกชิงทองในร้านทองกลางเมืองภูเก็ต
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 54 พ.ต.ท.เอกสิทธิ์ ปิ่นแก้ว สารวัตรเวร สภ.เมืองภูเก็ตได้รับแจ้งจากนางสิริลักษณ์ ธเนศธนสมบัติ อายุ 45 ปี เจ้าของร้านทองธเนศ 1 เลขที่ 107 หน้าตลาดสด 2 เทศบาลนครภูเก็ต หรือตลาดเกษตร ถ.ติลก ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่ามีคนร้ายเป็นชาย 2 คนบุกเข้ามาชิงสร้อยคอทองคำ แล้วขี่รถ จยย.หลบหนีไป หลังรับแจ้งก็ได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.โชติ ชิดไชย ผกก.พ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วง รอง.ผกก.สส.พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ รอง.ผกก.ป.พ.ต.ท.เฉลิมชัย เหิรสวัสดิ์ รอง.ผกก.จร.พ.ต.ท.วิจักษณ์ ตารมย์ สว.สส.พ.ต.ท.วีรวัฒน์ ชำนาญกิจ สวป.เจ้าหน้าสายตรวจ เจ้าหน้าชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพานิชสูง 3 ชั้น อยู่ด้านหน้าของตลาดเกษตร โดยประตูหน้าร้านเป็น อัตโนมัติควบคุมจากเคาน์เตอร์ภายในร้าน โดยรอบๆ ตู้โชว์ทอง และมีเคาเตอร์ โดยบนเคาเตอร์มีอลูมิเนียมตีเป็นลูกกรงอย่างแน่นหนา เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางถึง ก็พบกับ พบนางสาวพวงเพ็ญ แซ่หลิม และลูกจ้างชาวมอญอีก 1 คน ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ สอบถามทราบว่าคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่รถ จยย.ฮอนด้าเวฟสีดำมาจอดที่หน้าร้าน คนแรกสูงราว 170 -175 ซม.ลักษณะสูงขาวและมีเขี้ยว อายุประมาณ 21 – 22 ปี ใส่หมวกแก๊ปสีดำ สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเหลือง นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงินเดินมายืนหน้าร้าน โดยมีชายวัยรุ่นสูงราว 160-165 ซม.สวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ เดินตามเข้ามา จากนั้นพนักงานได้เปิดประตูอัตโนมัติให้ชายที่ใส่หมวกแก๊ปสีดำเดินเข้ามายืนที่หน้าตู้โชว์ทอง โดยมีลูกกรงกั้นกลาง โดยที่ชายที่ตามมาข้างหลังยืนอยู่ใกล้กับประตูกระจก ทำให้ทางร้านปิดประตูไม่ได้ จากนั้นชายคนที่เข้ามาในร้านทำทีจะซื้อสร้อยคอหนัก 3 บาท พนักงานหยิบสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาทมาให้เลือกแบบทั้งถาด จากนั้นคนร้ายได้กระชากถาดกำมะหยี่สีแดงที่มีสร้อยคอจากมือแล้ววิ่งออกไป แล้วขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้านหลบหนีไป
ในระหว่างที่ทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอยู่นั้น ก็ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ได้มีผู้พบเห็นรถต้องสงสัยไปจอดทิ้งไว้ภายในไปรษณีย์ภูเก็ต ถ.มนตรี ห่างจากร้านทองราว 2 กม.จึงได้ให้เจ้าหน้าที่สายตรวจพร้อมทั้งชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบพบว่า เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน ขจค 550 ภูเก็ต ซึ่งเป็นรถเช่า โดยเช่ามาจากร้าน SUTHEP CARREMT โดยเจ้าหน้าที่พบสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้นตกติดอยู่ที่วางเท้าคนขับ แต่ไม่พบคนร้าย แต่อย่างไร เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.ภูเก็ตได้เก็บลายนิ้วมือแฝงคนร้ายจากสร้อยไว้เป็นหลักฐานเพื่อติดตามคนร้าย
ทั้งนี้จากการสอบถามนางสาวพวงเพ็ญ แซ่หลิม อายุ 47 ปี ผู้ดูแลร้านทองธเนศ 1 เล่าให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. คนร้ายลักษณะสูงขาวและมีเขี้ยว อายุประมาณ 21-22 ปี ทำทีมาขอดูทองรูปพรรณน้ำหนักเส้นละ 2 บาท จากนั้นได้บอกว่าลายไม่ถูกใจ และได้ออกจากร้านไป หลังจากนั้นอีกประมาณ 30 นาทีก็ได้กลับเข้ามาที่ร้านอีกครั้งพร้อมบอกว่าไปดูร้านอื่นมาแล้วแต่ค่ากำเหน็จแพง จึงขอดูทองรูปพรรณโดยในครั้งนี้ขอดูน้ำหนักเส้นละ 3 บาท ซึ่งเด็กในร้านก็ยกมาให้ดูทั้งถาด ระหว่างนั้นคนร้ายก็ได้ใช้มือจับถาด แล้วกระชากถาดอย่างแรงออกจากมือเด็กในร้าน แล้ววิ่งหนี่ออกไปนอกร้าน ตนก็ได้ออกมาไล่ตามแต่ก็ไม่ทัน และในระหว่างวิ่งกลับ ก็พบสร้องทอง จำนวน 6 เส้น ตกอยู่ที่พื้นภายในร้าน และได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพบทองหล่นติดอยู่ที่รถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุอีก 1 เส้น ทั้งนี้ทองรูปพรรณที่คนร้ายได้ไปประมาณ 12 เส้น น้ำหนักเส้นละ 3 บาท รวมน้ำหนัก 36 บาท มูลค่ากว่า 9.5 แสนบาท โดยแต่ละเส้นจะมีตราสัญลักษณ์ของร้านทุกเส้น
และจากการสอบถามร้านเช่ารถจยย. SUTHEP CARREMT ที่คนร้ายได้นำไปก่อเหตุก็ทราบว่า คนที่มาเช่ารถได้เช่าไปเมื่อเวลา 13.00 น.ของวันที่ 28 ตุลาคม อ.เมืองภูเก็ต โดยคนเช่าคือ นายเตชิน กองสีนนท์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 189/7 หมู่ 1 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำบัตรประจำตัวประชาชนนายเตชินมาให้เจ้าของร้านดู ปรากฏว่า ทั้งเจ้าของร้านและพนักงานยืนยันว่าเป็นคนๆ เดียวกันกับคนร้ายที่ก่อเหตุ ชุดสืบสวนจึงนำกำลังไปตรวจสอบที่บ้านพัก แต่ไม่พบ ซึ่งคาดว่ายังคงกบดานอยู่ภายใน จ.ภูเก็ต โดยได้ประสานยังด่านตรวจภูเก็ต บ้านท่าฉัตรไชย อ.ถลางตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยตามยานพาหนะต่างๆ ที่จะออกนอกเกาะตลอด 24 ชม.ซึ่งคาดว่าจะสามารถออกหมายจับคนร้ายได้ในวันที่ 29 ต.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.54ที่ผ่านมา ร้านทองธเนศ 2 ซึ่งเป็นสาขาของร้านดังกล่าว ตั้งอยู่บน ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต ได้ถูกคนร้ายบุกเดี่ยวใช้ปืนปลอมปล้นสร้อยคอทองคำหนักกว่า 200 บาท มูลค่ากว่า 4 ล้านบาทมาแล้ว ซึ่งเจ้าของร้านได้ตั้งค่าหัวนำจับ 2 แสนบาท และได้สามารถนำทองกลับมาจะให้อีก 30 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทอง แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ จนกระทั่งเกิดเหตุขึ้นที่ร้านทองธเนศ ถ.ติลก อ.เมืองภูเก็ต ห่างกันเพียง 4 เดือนเศษเท่านั้น


สองหนุ่มสาวโดดสะพานท้าวเทพกระษัตรีไร้ร่องรอย



เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2554 พ.ต.ท.วัชรินทร์ จิรัฐติกาลวิวัฒน์ สารวัตรเวร สภ.ท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่หาปลาอยู่บริเวณสะพานสารสิน ต.ไม้ขาว อ.ถลาง ซึ่งเป็นสะพานคู่ขนานกับสะพานท้าวเทพกระษัตรี ว่ามีชายหญิง 2 คน กระโดดสะพานท้าวเทพกระษัตรี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และได้ประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำเรือยางออกค้นหา แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีกระแสน้ำเชี่ยว และมืดมากทำให้ไม่สามารถนำเรือออกไปได้ ต้องรอจนรุ่งเช้าได้นำเรือดิ้งกี้ของมูลนิธิกุศลธรรม 2 ลำ เรือเร็วเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำภูเก็ต 1 ลำ และเรือหางยาวของชาวประมงบริเวณดังกล่าว ช่วยกันระดมค้นหา โดยมีญาติพี่น้องของผู้สูญหายทั้ง 2 ครอบครัว ร่วมค้นหาด้วย แต่เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ยังไร้วี่แวว จึงหยุดทำการค้นหา เพื่อรอครบ 24 ชม.จนกว่าร่างผู้เสียชีวิตจะโผล่เหนือน้ำอีกครั้ง
จากการตรวจสอบพบรถโตโยต้าวีออสสีขาว ทะเบียน กน 4423 ภูเก็ต จอดโดยไม่ได้ล๊อคประตู บริเวณปลายสะพานท้าวเทพกระษัตรีห่างจากกลางสะพานประมาณ 70 เมตร ตรวจสอบภายในรถ พบเอกสารเช่ารถระบุชื่อ นายณัฐพล สิทธิยานนท์ อายุ 25 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ จ.ตรัง เป็นพนักงานสโตร์สนามกอล์ฟบลูแคยอน ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง โดย 1 ใน 2 เครื่องเป็นของ น.ส.ชนกพร เอี่ยมอักษร อายุ 27 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นพนักงานบัญชีสนามกอล์ฟเดียวกัน จึงแจ้งไปยังญาติ น.ส.ชนกพร เพื่อขอข้อมูล
จนทราบว่านายณัฐพล และ น.ส.ชนกพรเคยคบหาเป็นแฟนกันมาตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แต่ได้เลิกรากันไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยญาติได้พูดคุยกับ น.ส.ชนกพรล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกันได้อีก จึงสันนิษฐานว่าคนที่กระโดดลงจากสะพานท้าวเทพกระษัตรี คือ นายณัฐพล กับ น.ส.ชนกพรส่วนสาเหตุตำรวจสันนิษฐานว่านายณัฐพลอาจตามมาง้อขอคืนดี โดยเช่ารถเก๋งคันดังกล่าวและไปรับ น.ส.ชนกพร เพื่อคืนดี แต่ตกลงกันไม่ได้ และเกิดเหตุเศร้าดังกล่าว
สำหรับสะพานท้าวเทพกระษัตรี เป็นสะพานเชื่อมระหว่างบ้านท่านุ่น ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา กับบ้านท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และเป็นสะพานคู่ขนานกับสะพานสารสิน ซึ่งอดีตเคยมีตำนานรักอมตะของหนุ่มสาว 1 คู่ คือโกดำกับน้องอิ๋ว ซึ่งถูกกีดกันความรัก จึงได้ใช้ผ้าขาวม้ามัดร่างติดกันแล้วกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย เมื่อประมาณปี 2516 และมีการนำไปสร้างภาพยนตร์ตำนานรักดังกล่าว


ส่งเรือท้องแบน-น้ำดื่ม ช่วยผู้ประสบอุทกภัย



เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 54 ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) พร้อมด้วยนายประดิษฐ์ แสงจันทร์ ประธานสภา อบจ.ภูเก็ต และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ข้าราชการ อบจ.ภูเก็ต และแพทย์จากโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต ได้ร่วมส่งรถบรรทุกเรือท้องแบน จำนวน 20 ลำ และน้ำดื่มจำนวน 100 โหล เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี
นายไพบูลย์ กล่าวว่า การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ ทางสมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต นำโดยนายประดิษฐ์ แสงจันทร์ ประธานสภาฯ ได้ร่วมกันบริจาคเงินแล้วนำไปซื้อเป็นเรือท้องแบน พร้อมน้ำดื่ม เพื่อนำไปมอบให้กับ อบจ.นนทบุรี เพื่อสมาชิกสภา อบจ.นนทบุรี จะนำเรือและน้ำดื่มดังกล่าวไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยในพื้นที่ต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการรับบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยนั้น ทาง อบจ.ภูเก็ต จะยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยใช้สถานที่โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ตเป็นศูนย์ในการรับบริจาค และจะได้ทยอยนำสิ่งของที่ได้รับบริจาค เช่น อาหารแห้ง น้ำดื่ม เป็นต้น ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ขณะเดียวกันก็จะได้ประสานงานไปยัง อบจ.ต่างๆ ที่ประสบภัย เพื่อรับทราบความต้องการ เพื่อจะได้ดำเนินการจัดส่งสิ่งของไปให้ตามต้องการ จนกว่าจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติ นายไพบูลย์กล่าว


ครบรอบ 4ปี คณะวิเทศศึกษา มอ.ภูเก็ต



เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 54 ที่คณะวิเทศศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ทางคณะวิเทศศึกษา ได้จัดงานเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 4ปี คณะวิเทศศึกษา โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย มีพิธีสงฆ์ทำบุญตักบาตร พร้อมนี้ได้มีการเปิดห้องประชุมมนัส ชัยสวัสดิ์ และห้องประชุมพิมพาภรณ์ สุวัตถิกุล เพื่อเป็นการแสดงซึ่งคุณธรรมในด้านความกตัญญูกตเวทิตาต่อผู้วางรากฐานการต่อตั้งคณะวิเทศศึกษา โดย รองศาสตราจารย์มนัส ชัยสวัสดิ์ ที่ปรึกษารองอธิการบดีวิทยาเขตภูเก็ต และผู้ช่วยศาสตราจารย์พิมพาภรณ์ สุวัตถิกุล ผู้ช่วยรองอธิการบดีวิทยาเขตภูเก็ต ฝ่ายกิจการนานาชาติ เป็นประธานเปิดห้องประชุมดังกล่าว ต่อมาได้มีพิธีเปิดนิทรรศการภาพศิลปะซึ่งจะเป็นนิทรรศการถาวรส่งเสริมสุนทรียภาพในคณะ โดยอาจารย์ศุภชัย แสงปัญญา คณบดีคณะวิเทศศึกษา
จากนั้นเวลา 19.00 น. ได้มีการจัดงานราตรีคืนสู่เหย้าชาวผืนปฐพี เพื่อสร้างชมรมเครือข่ายศิษย์เก่าพร้อมได้มีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาหลักสูตร และการบริการข้อมูลข่าวสารต่างๆ ให้แก่นักศึกษารุ่นน้อง อันเป็นการกระตุ้นให้นักศึกษามีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง พร้อมดำเนินรอยตามเบื้องยุคลบาท โดยยึดถือปรัชญาตามสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก กรมหลวงสงขลานครินทร์ สั่งสอนให้ยึดถือ “ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง”