จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

ทน.ภูเก็ตจัดกิจกรรมภาคฤดูร้อน


เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 54 ที่อาคาร 1 ศูนย์กีฬาสะพานหิน นายกวี ตันสุคตานนท์ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมเยาวชน กิจกรรมภาคฤดูร้อน ประจำปี 2554 และการอบรมภาษาจีน ขั้นพื้นฐาน โดยมีสมาชิกสภาเทศบาลนครภูเก็ต ปลัดเทศบาล ผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการกอง หัวหน้าส่วน พนักงานเทสบาล ครู อาจารย์ วิทยากร พ่อแม่ ผู้ปกครอง เด็กและเยาวชน ร่วมในกิจกรรม

นายกวี กล่าวว่า ในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน เทศบาลนครภูเก็ตได้กำหนดจัดกิจกรรมยามว่างให้เด็กและเยาวชนทั้งในและนอกระบบ การศึกษาได้เลือกฝึกอบรมกิจกรรมตามความถนัดและความสนใจของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ เพื่อให้เด็กได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและสังคม โดยในปีนี้ได้กำหนดกิจกรรมฝึกอบรมฯไว้จำนวน 21 กิจกรรม ทั้งด้านวิชาการ ดนตรี และกีฬา โดยแบ่งกิจกรรมที่เปิดการอบรมมีดังนี้อาทิเช่น ว่ายน้ำ บาสเกตบอล เทนนิส คาราเต้-โด มวยไทย ภาษาจีนขั้นพื้นฐาน ฟุตซอล แบดมินตัน ลีลาศเยาวชน เทเบิลเทนนิส เทควันโด ศิลปศึกษา เป็นต้น

รองนายกฯ กล่าวต่ออีกว่า ทางเทศบาลนครภูเก็ต กำหนดจัดการอบรมกิจกรรมยามว่างภาคฤดูร้อน ในระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 28 เมษายน 2554 ณ ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครภูเก็ต เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็ก และเยาวชนรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและสังคม และยังเป็นการสร้างพื้นฐานทักษะด้านกีฬา วิชาการ เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ ความสามารถทางด้านกีฬาและวิชาการ นอกจากนี้ยังเป็นการปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนมีระเบียบวินัย เพื่อพัฒนาตัวเอง

ภูเก็ตพร้อมจัดร่มร่อนครั้งที่ 2


ทันตแพทย์ประเสริฐ เทพละออง ประธานชมรมร่มร่อนภูเก็ต (Paragliding Club) ได้กล่าวถึงการจัดการแข่งขัน Phuket Fun Fly 2011 ครั้งที่ 2 ประจำปี 2554 ว่า จากที่ทางชมรมร่มร่อนภูเก็ต ได้จัดการแข่งขันร่มร่อนครั้งที่ 1 มีปี 2553 ที่ผ่านมา ได้ประสบความสำเร็จเป้นอย่างมา มีนักบินเข้าร่วมทำการแข่งขันจำนวน 48 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ส่วนการจัดงานในปีนี้ ทางชมรมจึงได้จัดการแข่งขันร่มร่อนเป็นครั้งที่ ใช้ชื่อว่า จัดการแข่งขัน Phuket Fun Fly 2011 ครั้งที่ 2 ประจำปี 2554 ในระหว่างวันที่ 23 – 26 มิถุนายน 2554 ที่บริเวณเนินกังหันลม เขาแดง แหลมพรหมเทพ ต.ราไวย์ อ.เมือง ภูเก็ต และจุดแข่งขันบริเวณภูเขาด้านหลังของโรงแรม ย็อช คลับ เพื่อที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่น จัดการประชาสัมพันธ์พาราไกดิ้งให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น เพราะว่าภูเก็ตได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนบีชเกมส์ ในปี 2014 ซึ่งการจัดการแข่งขันบ่อยๆ ก็ทำให้คนทั่วไปได้เห็นแล้วก็ได้รับรู้ถึงกีฬาชนิดนี้ และเพื่อเป็นการร่วมกันพัฒนานักกีฬาที่จะเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยต่อไป

โดยกิจกรรมในปีนี้จะเพิ่มในส่วนของที่นั่งการบินให้มากขึ้น เพราะว่าการแข่งขันปีที่ผ่านมาเป็นการแข่งขันของนักกีฬาเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ให้ประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วม โดยการให้คนที่สนใจ ขึ้นไปบินกับนักบินได้ ปรากฏว่าปีที่แล้วไม่พอกับความต้องการของประชาชน ดังนั้นการแข่งขันใน ปีนี้ก็จะเชิญนักบิน 2 ที่นั่งมาร่วมงานให้มากขึ้น เพื่อให้คนทั่วไปได้ลองเล่นกันมากขึ้น ตั้งไว้ว่าจะทำยอดนักบินให้ได้ประมาณ 70 คน หรืออาจจะมากกว่านั้น

“จริงๆ แล้ว Phuket Fun Fly ไม่ได้เข่งขันเพื่อความเป็นเลิศ แต่เป็นกิจกรรมลดโลกร้อน ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ เป็นการบินเพื่อผ่อนคลาย บินเพื่อโชว์ บินเพื่อการท่องเที่ยว และเป็นการบินเพื่อให้เราเรียนรู้กิจกรรมที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติ” นายแพทย์ประเสริฐ กล่าว

นายแพทย์ประเสริฐ กล่าวอีกว่า ในปีนี้ได้แบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ประเภท คือประเภทลงเป้าแม่นยำ การบินไปลงตามจุดที่กำหนด และที่พิเศษของปีนี้คือประเภทการบินแข่งขันโดยใช้นักบิน 2 ที่นั่งบิน แล้วให้ผู้โดยสารเป็นคนทำคะแนน ซึ่งการแข่งขัน Phuket Fun Fly มีทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่จำกัดอายุ ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ แม้กระทั่งคนที่จะมาขึ้นบินกับนักบิน ถ้าคนที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ก็สามารถขึ้นบินกันได้ทุกคน ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมียายอายุประมาณ 70 กว่าปี มาบินกับนักบินไปแล้ว

ภูเก็ตยังคงเปิดศูนย์รับบริจาคเงินช่วยสึนามิญี่ปุ่น



เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2554 ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนางนลินี อัครเดชา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต นายนิวิทย์ อรุณรัตน์และนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ร่วมรับมอบเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิประเทศญี่ปุ่น จากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชน เช่น ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต เป็นต้น

จากนั้นนายตรี อัครเดชา ผุ้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ภาพรวมการรับบริจาคของศูนย์รับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิประเทศญี่ปุ่นจังหวัดภูเก็ตในระหว่างวันที่ 16-25 มีนาคม 2554 มียอดเงินบริจาคที่นำเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย จำนวนประมาณ 1.6 ล้านบาทเศษ และในวันนี้ (26 มี.ค.54) ได้มีผู้แสดงความจำนงบริจาคเงินกับทางจังหวัดอีกจำนวนมาก ทำให้มียอดรวมประมาณ 2.2 ล้านบาทเศษ

“เงินที่ได้รับบริจาคนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก จำนวนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทจะส่งมอบผ่านทางกระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งต่อให้กับกระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการส่งมอบต่อให้กับรัฐบาลญี่ปุ่นต่อไป และอีกส่วนหนึ่งซึ่งไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทเช่นกัน ทางจังหวัดจะนำไปมอบให้นายกรัฐมนตรีเพื่อส่งมอบต่อให้รัฐบาลญี่ปุ่นเช่นกัน”

นายตรี กล่าวด้วยว่า เนื่องจากขณะนี้ยังคงมีผู้ประสงค์ที่จะมอบเงินบริจาคให้อีกเป็นจำนวนมาก ทางจังหวัดภูเก็ตจึงได้ขยายระยะเวลาการเปิดศูนย์ฯ รับบริจาคไปจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2554 นี้ นอกจากนี้ยังได้จะร่วมกับ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมต่างๆ ของภูเก็ต กำหนดจัดงานรับบริจาคครั้งใหญ่ในระหว่างวันที่ 9-10 เมษายน 2554 ที่บริเวณถนนถลาง ซึ่งจะปิดเป็นถนนคนเดิน เพื่อทำการถ่ายทอดสดการเปิดรับบริจาค และจัดแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดังจากค่ายแกรมมี่ด้วย ทั้งนี้คาดว่าหลังการจัดงานดังกล่าวและการเปิดศูนย์รับบริจาคฯ จะทำให้มียอดการบริจาครวมเป็นเงินจำนวนไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาท

ตร.ภูเก็ตกวาดล้างได้ผู้ต้องหา 40 ราย ของกลางเพียบ



เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2554 ที่ห้องประชุม ภ.จว.ภูเก็ต นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.โกมล วัตรากรณ์, พ.ต.อ.พรศักดิ์ นวนหนู รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ผกก.สภ.ต่างๆในจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าวการกวาดล้างผู้จำหน่าย และผู้เสพยาเสพติดให้โทษชนิดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ในห่วงระหว่างวันที่ 21 – 25 มีนาคม 54

โดยการกวาดล้างในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องได้จำนวน 40 ราย พร้อมของกลางประกอบด้วย ยาไอซ์ จำนวน 168.8 กรัม นอกจากนี้ยังมียาไอซ์ที่บรรจุ ในถุงพาลสติกใส่ แบบกดปิดดึงเปิด จำนวน 5 ถุง ยาบ้าจำนวน 2,487 เม็ด กัญชาและโซแลมจำนวน 10 เม็ด อาวุธปืนแบบกึ่งออโตเมติก ขนาด .32 มม.ยี่ห้อ Llamae Speciat จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน จำนวน 23 นัด กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 10 นัด ธนบัตรไทยที่ใช้ล่อซื้อ 18,500 บาท จำนวน โทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง รถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนเงิน ทะเบียน บฉ 4334 ภูเก็ตจำนวน 1 คัน พร้อมด้วยทรัพย์สินอีกจำนวนหนึ่งที่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบถึงที่มาของทรัพย์สินว่าได้มาจากการขายยาเสพติดหรือไม่อย่างไร

ทั้งนี้พล.ต.ต.พิกัด ได้กล่าวว่า การกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาเกี่ยวกับคดียาเสพติดติดและอาวุธปืนในครั้งนี้ ได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาเป็นการกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดในพื้นที่เป้าหมายที่มีการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่ามีการกระทำความผิด ซึ่งการจู่โจมเข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายได้ผู้กระทำความผิดเกือบทุกพื้นที่ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดดังกล่าวอย่างเข้มงวด เพื่อปราบปรามการลักลอบค้ายาเสพติดและปัญหาอื่นๆ ในพื้นที่ภูเก็ตให้หมด

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.พิกัด กล่าวด้วยว่า ฝากให้ผู้กำกับการสถานีตำรวจทุกแห่งในพื้นที่ได้รวบรวมข้อมูลสถิติผลการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด และจำนวนยาเสพติดที่จับกุมได้ในห้วงระหว่างวันที่ 21 ธันวาคม 2553 –วันที่ 31 มีนาคม 2554 ซึ่งเป็นช่วงเร่งรัดการปราบปรามยาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ติดประกาศให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่ของตัวเองให้ได้รับทราบว่าเป็นอย่างไรด้วย

“งานขันโตกดินเนอร์ ครั้งที่ 4”


เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2554 ที่ห้องจามจุรี โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงานขันโตกดินเนอร์ ครั้งที่ 4 ซึ่งจัดโดยชมรมชาวเหนือภูเก็ต – อันดามัน นำโดยนางณัฐพร ผาณิตพิเชฐวงศ์ ประธานชมรมชาวเหนือภูเก็ต – อันดามัน โดยมีนายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต นางนลินี อัครเดชา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ตลอดจนสมาชิกชมรมชาวเหนือภูเก็ต – อันดามัน และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมงาน เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้นางณัฐพร ผาณิตพิเชฐวงศ์ ประธานชมรมชาวเหนือภูเก็ต – อันดามัน กล่าวว่า การจัดงานขันโตกดินเนอร์ ในครั้งนี้ เพื่อสืบสานอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีของภาคเหนือ ไม่ว่าจะเป็นด้านการแสดงศิลปะพื้นบ้าน หรือวัฒนธรรมการรับประทานอาหารแบบภาคเหนือ ประเพณีการบายศรีสู่ขวัญเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ผู้ที่ได้รับ อีกทั้งยังได้แสดงถึงความรัก ความสามัคคีในหมู่มวลสมาชิก และนำรายได้บางส่วนช่วยสมทบซื้อ โต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ของใช้ในโรงรับประทานอาหารให้กับโรงเรียนบ้านเกาะมะพร้าว จำนวนเงิน 30,000 บาท พร้อมนำเงินสมทบมอบให้กับพี่น้องต่างแดนที่ประสบกับภัยพิบัติสึนามิประเทศญี่ปุ่น จำนวน 30,000 บาท โดยเงินในส่วนนี้ส่งมอบผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

สำหรับชมรมชาวเหนือภูเก็ต-อันดามัน เป็นองค์กรที่รวมตัวกันของพี่น้องชาวเหนือที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อไว้พบปะสังสรรค์ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ช่วยอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของภาคเหนือ และช่วยเหลือกิจกรรมอันก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมภูเก็ตและสังคมส่วนรวม โดยตลอดระยะเวลาของการก่อตั้งชมรม รวม 11 ปี ชมรมชาวเหนือภูเก็ต-อันดามัน ได้ประกอบกิจกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและส่วนรวมมาอย่างต่อเนื่อง

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554

รวบเมียแท็กซี่สนามบินได้ของกลางกว่า 300 เม็ด


เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 54 ที่ห้องประชุมสภ.ท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว องถลาง ภูเก็ต พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย พร้อมด้วย พ.ต.ท.เชษฐพันธ์ วิชัยดิษฐ์ รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ท.ภานุพันธ์ โชติพินทุ สว.สส.ฯ ด.ต.มนัส ฝ้ายเพชร ส.ต.ท.สมเจตน์ ศรัทธาธรรม และชุดสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.สุคนธ์ หรือโบว์ บรรจงจิตร์ อายุ 22 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 382 เม็ด อุปกรณ์เสพยาบ้า และอาวุธปืนเถื่อนขนาด .22 ไม่มีทะเบียนจำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนจำนวน 10 นัด โดยกล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครอง

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย ได้กล่าวว่า จากที่ทางหน่วยเหนือได้มอบนโยบายเร่งกวาดล้างยาเสพติดและเร่งรัดคดีค้างเก่านั้น ก็ได้สั่งการณ์ให้เจ้าหน้าทีตำรวจ สภ.ท่าฉัตรไชย ลงพื้นที่ออกหาข่าว และติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาลงโทษ จนกระทั่งเจ้าหน้าได้สืบทราบว่า นายน้อยฯและน.ส.โบว์ สองผัวเมีย นำยาบ้ามาจำหน่ายให้กับวัยรุ่นในบริเวณหน้าสนามบินภูเก็ต จึงได้ขอหมายค้นศาลจังหวัดภูเก็ตเพื่อเข้าตรวจค้นภายในบ้าน

จากนั้นในช่วงเช้าของวันที่ 23 มี.ค. ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าตรวจค้นบ้านของนายน้อย – น.ส.โบว์ เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบ น.ส.สุคนธ์ อยู่ในบ้านเพียงลำพัง ส่วนนายน้อยฯ ได้ออกไปขับรถแท็กซี่ที่สนามบินภูเก็ต และจากการตรวจค้นภายในบ้าน เจ้าหน้าที่พบยาบ้ารวมจำนวน 382 เม็ด อยู่ในกระเป๋ากางเกงผู้หญิงสีเทา และพบอุปกรณ์การเสพยาบ้าจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนขนาด .22 ไม่มีทะเบียนพร้อมกระสุนปืนจำนวน 10 นัด จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวน น.ส.โบว์ฯ ให้การว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของนายน้อยฯ สามีของตน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้ให้น.ส.โบว์ฯติดต่อนายน้อยฯ ให้มาพบ แต่นายน้อยฯ ทราบเรื่อง ตร.เข้าตรวจค้นบ้านก่อนแล้วจึงได้หลบหนีไป จึงได้ควบคุมตัว ส่ง พ.ต.ท.วัชรินทร์ จิรัฐิติกาลวิวัฒน์ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าฉัตรไชย ดำเนินคดีต่อไป

บริจาคช่วยผู้ประสบภัยสึนามิที่ญี่ปุ่นต่อเนื่อง


เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2554 ที่ห้องทำงานผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นาย ตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ประธานรับมอบเงินสดบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ที่ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 300,000 บาท จาก ผศ.ดร. เมธี สรรพานิช อธิการบดีมหาวิทยาสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต และคณะ พร้อมทั้งได้รับมอบเช็คเงินสดอีกจำนวน 1 แสนบาท จากโรงแรมบ้านไทยบีช รีสอร์ท แอนด์สปา โดยนายบุญเลิศ สุขโหตุ ผู้จัดการรีสอร์ท

จากนั้นโดยนาย ตรี ได้กล่าวขอบคุณทั้งสองหน่วยงานที่ได้ร่วมกันบริจาคเงินดังกล่าว รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่ได้บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ประเทศญี่ปุ่น มาตั้งแต่วันแรกของการเปิดรับบริจาค วันที่ 16 มีนาคม ต่อเนื่องเรื่อยมา จนทำให้วันนี้(24 มี.ค. 54) มียอดเงินบริจาคอยู่ที่ 764,123.92 บาท

อย่างไรก็ตาม สำหรับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ตลอดจน มูลนิธิ ชมรม สมาคมต่างๆ และรวมถึงภาคประชาชนในจังหวัดภูเก็ต ที่มีความประสงค์ต้องการบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ที่ประเทศญี่ปุ่น สามารถติดต่อขอบริจาคเงินได้ที่ศูนย์รับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ณ ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดภูเก็ต หรือบริจาคผ่านทาง ธนาคารกรุงไทย บัญชี “ภูเก็ตร่วมใจช่วยผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่น” เลขที่บัญชี 805-0-41578-3 โดยทางจังหวัดจะเปิดรับบริจาคเงินไปจนถึงวันที่ 26 มีนาคมที่จะถึงนี้ โดยในวันที่ 26 มีนาคมนี้ จะมีกิจกรรมระดมเงินบริจาคให้ความช่วยเหลือตั้งแต่เวลา 09.00 -12.00 น. ณ ห้องรับรอง ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

เตรียมงบ 100 ล. ขยายท่าเทียบเรือน้ำลึกภูเก็ต


เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 54 ที่ห้องประชุมสวนหลวง โรงแรมคาทีน่า อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายอาซิ่น อร่ามเมธาพงษ์ศา ที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยวนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็น โครงการขยายท่าเทียบเรือน้ำลึกภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งทางกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง มอบหมายให้บริษัท เจ้าพระยาท่าเรือสากล จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารท่าเรือดังกล่าวว่าจ้าง บริษัท เอส ที เอส เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ เพื่อเผยแพร่ร่างขอบเขตการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และเพื่อส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อร่างขอบเขตการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ โดยมีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น

นายวัฒนชัย เรืองเลิศปัญญากุล ผู้อำนวยการท่าเรือ บริษัท เจ้าพระยาท่าเรือสากล จำกัด ผู้บริหารท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตและสงขลา กล่าวว่า สำหรับท่าเทียบเรือดังกล่าวเป็นของกรมธนารักษ์ โดยบริษัท เจ้าพระยาท่าเรือสากล จำกัด เป็นผู้บริหารท่าเรือ มีความยาวหน้าท่า 360 เมตร ลึก 10 เมตรจากระดับน้ำลงต่ำสุด เป็นท่าเรือสินค้าเอนกประสงค์ ปัจจุบันมีสินค้าผ่านท่าเฉลี่ยปีละประมาณ 130,000 ตัน ส่วนใหญ่เป็นยางพาราและแผ่นไม้ MDF โดยมีเรือสินค้าเข้าเทียบเฉลี่ยสัปดาห์ละ 2-3 ลำ แต่เนื่องจากชายฝั่งทะเลอันดามันปัจจุบันยังไม่มีท่าเรือที่มีน้ำลึกพอให้เรือโดยสารระหว่างประเทศเข้าเทียบท่าได้ ดังนั้นเรือโดยสารเหล่านี้จึงใช้ท่าเรือภูเก็ตเป็นท่าหลัก โดยมีเรือโดยสารระหว่างประเทศประมาณ 1-2 สัปดาห์ มีผู้โดยสารผ่านท่าเรือปีละ 150,000 คน แต่เนื่องจากท่าเทียบแห่งนี้ไม่ได้ออกแบบเพื่อเรือโดยสารจึงก่อให้เกิดปัญหาด้านบริหารจัดการ จึงมีแนวคิดในการขยายท่าเทียบเรือเพิ่มเติม

ทั้งนี้ในส่วนของการปรับปรุงและขยายท่าเทียบเรือเพิ่มเติม ประกอบด้วย เพิ่มหลักผูกเรือจำนวน 2 ตัวพร้อมสะพานเชื่อม โดยเป็นการเสริมความยาวหน้าท่ออกไปประมาณ 60 เมตร เพื่อให้สามารถจอดเทียบเรือโดยสารและเรือสินค้าพร้อมกันได้ ก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารและร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึกขนาด 400 ตารางเมตร พร้อมลานจอดรถยนต์ 4 ล้อ ได้ 56 คัน และรถโดยสารขนาดใหญ่ได้ 29 คัน ก่อสร้างถนนทางเข้าสู่อาคารที่พักผู้โดยสารแยกระหว่างการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร ขยายอาคารเก็บสินค้าอีก 1,750 ตารางเมตร และขุดลอกบริเวณหลักผูกเรือใหม่ โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 80-100 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามนายวัฒนชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า รายได้ของท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตว่า รายได้หลักของท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตเมื่อปี 2553 อยู่ที่ 40 ล้านบาท และในปีนี้คาดว่าจะเกิน 40 ล้านบาท เนื่องจากมีทั้งเรือขนส่งสินค้าและเรือท่องเที่ยวมาใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยรายได้ที่เกิดจากเรือท่องเที่ยวอยู่ที่ 20-25% ที่เหลือเป็นรายได้จากเรือขนส่งสินค้า โดยมีสินค้าหลัก คือ ยางพาราและไม้ยางพารา แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าหากมีการขยายท่าเรือเพื่อรองรับเรือท่องเที่ยวแล้วเสร็จ รายได้จากเรือท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งเท่าตัวอย่างแน่นอน เนื่องจากในปัจจุบันและอนาคตเรือท่องเที่ยวจะเข้ามาให้บริการมากขึ้น โดยปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวที่มารับเรือท่องเที่ยวระดับโลกปีละ 150,000 คน โดยคาดว่าจะเพิ่มเป็น 300,000 – 350,000 คน


วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2554

ทม.ป่าตอง แถลงผลงานปี 53 ชูการศึกษา


เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 54 ที่ห้องประชุมกีแกรนด์ ฮอลล์ โรงแรมเดอะกี รีสอร์ทแอนด์สปา ป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาฯ ข้าราชการ พนักงานเทศบาลเมืองป่าตอง ร่วมแถลงข่าวในโครงการสนทนากับนายกเทศบาลเมืองป่าตอง เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานในรอบปีงบประมาณ 2553 โดยมีประชาชนและสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

นายเปี่ยน กล่าวว่า เทศบาลเมืองป่าตองกำหนดวิสัยทัศน์ในการพัฒนาไว้ว่า มุ่งพัฒนา สู่เมืองแห่งการท่องเที่ยวที่น่าอยู่และยั่งยืน บนพื้นฐานของความเป็นไทย และการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล โดยมุ่งพัฒนาด้านต่างๆ ของเมืองป่าตองให้มีศักยภาพสมกับเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก โดยเริ่มต้นจากการปลูกฝังเยาวชนภายในเขตเทศบาลเมืองป่าตองในด้านการศึกษา ทั้งการสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั้ง 2 ศูนย์ ให้มีความพร้อมในการพัฒนาด้านการศึกษาของเด็กเล็กในพื้นที่ โดยในอนาคตเทศบาลเมืองป่าตอง จะทำการยกระดับการศึกษาและเพิ่มระดับการศึกษาในชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาเพื่อความต่อเนื่องในการศึกษาของเยาวชน ซึ่งจะทำให้เมื่อจบการศึกษาในระดับชั้นอนุบาลแล้วจะได้ไม่ต้องเดินทางไปศึกษาต่อในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในตัวเมือง ซึ่งหลังจากสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแล้ว คือ การพัฒนาบุคลากรครูให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งในอนาคตจะมีการเรียนการสอนแบบสองภาษา

ส่วนการพัฒนาด้านอื่นๆ ก็ได้มีการพัฒนาปรับปรุงเพื่อตอบสนองต่อความต้องการและลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเต็มที่ เช่น การสร้างถนนสาย ก การนำสายไฟฟ้าลงดิน การก่อสร้างสนามสันทนาการภายในเมืองป่าตอง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอีกหลายโครงการที่กำลังดำเนินการในปีต่อๆ ไป เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนชาวป่าตอง และสร้างเมืองป่าตองให้เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก รวมไปถึงการให้ความสำคัญในการให้บริการแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว การแก้ปัญหาด้านสาธารณูปโภคสาธารณุปการ การดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว ตลอดจนการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต นายเปี่ยน กล่าว

วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554

เรือนจำภูเก็ต จัดอาสายุวกาชาดผู้ต้องขัง


เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 54 ที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ต นายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมอาสายุวกาชาดนอกโรงเรียนสำหรับผู้ต้องขัง เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ องค์อุปถัมภก สภากาชาดไทย โดยมีนางนลินี อัครเดชา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต นางชุติมา จันทร์เพ็ญและนางวิภาพรรณ คูสุวรรณ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต คณะกรรมการ ตลอดจนสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่เรือนจำ และผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม โอกาสเดียวกันนี้นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ได้มอบเงินจำนวน 20,000 บาท ให้แก่นายนพพร รัตนวัย ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต เพื่อสนับสนุนโครงการ ฝึกอบรมอาสายุวกาชาดนอกโรงเรียนสำหรับผู้ต้องขังด้วย

นายนพพร รัตนวัย ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยสภากาชาดไทย โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกา ผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สำนักงานยุวกาชาดดำเนินการในด้านการพัฒนาเยาวชนนอกระบบโรงเรียน ให้มีความรู้ ความเข้าใจ เลื่อมใสศรัทธา และเป็นกำลังสำคัญของสภากาชาดไทย โดยบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมในโอกาสต่อไป ซึ่งปัจจุบันนี้ กิจกรรมอาสายุวกาชาดนอกโรงเรียน ได้แพร่หลายไปยังกลุ่มเยาวชนนอกระบบกลุ่มต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาค

เรือนจำจังหวัดภูเก็ต ได้ตระหนักถึงความสำคัญ และประโยชน์ของกิจกรรมยุวกาชาดนอกโรงเรียนดังกล่าว และเพื่อเป็นการเผยแพร่ภารกิจของสภากาชาดไทย ในด้านการพัฒนาและเสริมสร้างคุณภาพ ที่ดีของเยาวชนของชาติ จึงได้ดำเนินการโครงการฝึกอบรมอาสายุวกาชาดนอกโรงเรียนสำหรับผู้ต้องขังขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์อุปถัมภก สภากาชาดไทย ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในปี 2554 เพื่อให้อาสายุวกาชาดนอกโรงเรียนมีความรู้ ความเข้าใจในภารกิจของสภากาชาดไทย และเกิดทักษะในกิจกรรมการบำเพ็ญประโยชน์ มีจิตสำนึก รู้จักบทบาทและหน้าที่ในการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ทำตนเป็นพลเมืองดี ตามแนวทางและหลักการของกาชาดให้มีจิตใจเมตตา เสียสละ และมีสัมพันธภาพอันดีกับเพื่อนมนุษย์ทั่วไป และให้มีอุดมคติในศานติสุข รู้จักรักษาสุขภาพอนามัยของตนเอง และส่งเสริมอนามัยของผู้อื่น นายนพพรกล่าว

ก.พลังงาน MOU ทน.ภูเก็ต ประหยัดพลังงาน


เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2554 ที่โรงแรมเมโทรโพล อ.เมือง จ.ภูเก็ต กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงานจัดกิจกรรมสัญจร “การเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการส่งเสริมและกำกับการอนุรักษ์พลังงานในอาคารที่จะก่อสร้างหรือดัดแปลง” ระหว่าง กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน โดยนายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กับเทศบาลนครภูเก็ต โดยนายถาวร จิรพัฒนโสภณ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต มีข้าราชการสังกัดกระทรวงพลังงาน เทศบาลนคนครภูเก็ต หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายไกรฤทธิ์ กล่าวว่า การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว สืบเนื่องจากภาวะปัญหาด้านพลังงานที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน นับวันได้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น อันเป็นผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจ และการดำรงชีวิตของคนส่วนใหญ่ในประเทศ การอนุรักษ์พลังงานและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการใช้พลังงานในอาคาร ซึ่งจะส่งผลถึงคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ใช้อาคาร ดังนั้น เพื่อให้การใช้พลังงานในอาคารมีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืนการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน จึงเป็นปัจจัยแรกที่ต้องควรคำนึงถึง

ด้วยเหตุผลดังกล่าว กระทรวงพลังงาน โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน และเทศบาลนครภูเก็ต จึงมีการลงนามความร่วมมือระหว่างกัน ในการดำเนินโครงการส่งเสริมและกำกับการอนุรักษ์พลังงานในอาคารที่จะก่อสร้างหรือดัดแปลง เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ในเรื่องการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดในกฎกระทรวงกำหนดประเภทหรือขนาดของอาคาร และมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.2552 ตลอดจนการเผยแพร่และเสริมสร้างความเข้าใจในแนวทางการปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของข้อกำหนดในกฎกระทรวงฯ ให้แก่หน่วยงานภาครัฐ และผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบ

ทั้งนี้ได้มีการตกลงร่วมมือกันพัฒนาและดำเนินการให้เทศบาลนครภูเก็ตเป็นพื้นที่ตัวอย่างในด้านการออกแบบอาคาร เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน จะทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและข้อแนะนำในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน รวมถึงการให้ข้อมูลข่าวสารด้านเทคนิค วิชาการ และวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างหรือปรับปรุงอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานให้แก่ผู้ที่จะขออนุญาตก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคาร และผู้สนใจทั่วไป นอกจากนี้กรมพัฒนาพลังงานฯ จะทำหน้าที่ในการตรวจประเมินแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานตามกฎหมาย ที่ได้รับมาจากแหล่งต่างๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมถึงแบบอาคาร ซึ่งเทศบาลนครภูเก็ตจัดส่งมาให้ดำเนินการตรวจประเมิน

ในส่วนของเทศบาลนครภูเก็ต จะทำหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ หน้าที่ และการให้บริการของศูนย์ประสานงานการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งจัดตั้งโดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน รวมถึงทำหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์และรวบรวมรายชื่อบุคลากรจากหน่วยงานทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้สนใจทั่วไปที่ต้องการเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรการใช้โปรแกรมการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อจัดส่งให้กรมพัฒนาพลังงานฯ เชิญชวนบุคคลดังกล่าวเข้ารับการฝึกอบรม เพื่อจะได้ทำหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์และเชิญชวนให้ผู้ประกอบการที่จะขออนุญาตก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคาร มาใช้บริการตรวจประเมินแบบอาคาร โดยรวบรวมและจัดส่งแบบอาคารดังกล่าวให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานดำเนินการตรวจประเมินแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานตามกฎหมาย นายไกรฤทธิ์ กล่าวในที่สุด

ตน.ร่วมทต.รัษฎา จัดโครงการหน้าบ้านปลอดภัยบนเกาะสิเหร่


เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2554 ที่บริเวณหน้าชายหาดบ้านเกาะสิเหร่ (แหลมตุ๊กแก) ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.พินิจ ศิริชัย ผกก.8 กองบังคับการตำรวจน้ำ เป็นประธานเปิดโครงการหน้าบ้านปลอดภัยบริเวณชายหาดเกาะสิเหร่ ซึ่งทางตำรวจน้ำภูเก็ต ร่วมกับเทศบาลตำบลรัษฎา และชาวไทยใหม่ (ชาวเล) บ้านแหลมตุ๊กแก จัดขึ้น โดยมีพ.ต.ท.ประเสริฐ ศรีคุณรัตน์ รอง ผกก.8, พ.ต.ท.ฤทธี เผ่าพันธุ์ สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ(ภูเก็ต) เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำภูเก็ต และเทศบาลตำบลรัษฎา นำโดยนายอำพล โอ่อาจ รองนายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา ผู้ประกอบการท่องเที่ยว และชาวไทยใหม่ (ชาวเล) เข้าร่วมประมาณ 100 คน

ทั้งนี้ได้ร่วมกันเก็บกวาดขยะ สิ่งปฎิกูลและทำความสะอาดบริเวณชายหาดดังกล่าว เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับประชาชนและผู้ประกอบกิจการท่องเที่ยวบริเวณเกาะสิเหร่ เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการป้องกันอาชญากรรม เป็นการสร้างความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ตามตามนโยบายของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันพันธุ์ ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ที่ให้มีการรณรงค์ป้องกันอาชญากรรม ตามหลักทฤษฎีการควบคุมอาชญากรรมโดยสภาพแวดล้อม ตามคำกล่าวว่า ความสกปรก รก รุงรัง ไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย จะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการละเมิดกฎหมายการก่อให้เกิดอาชญากรรม และลดโอกาสในการจับกุมคนร้าย

พ.ต.อ.พินิจ ศิริชัย ผกก.8 กองบังคับการตำรวจน้ำ กล่าวว่า ได้รับมอบหมาย จาก พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ตำรวจน้ำ ให้จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น ตามนโยบาย ของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง โดยร่วมกันทำให้พื้นที่และสิ่งแวดล้อม บริเวณบ้านแหลมตุ๊กแก เกาะสิเหร่ (ชุมชนชาวไทยใหม่หรือชาวเล) ซึ่งเป็นชุมชนขนาดใหญ่มีผู้อาศัยจำนวนกว่า 300 ครัวเรือน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต อีกทั้งยังเป็นที่จอดเรือสปีดโบ๊ทรับ – ส่ง นักท่องเที่ยวที่ไปท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ ดังนั้นการร่วมมือกันในครั้งนี้ เพื่อทำให้พื้นที่ภายในชุมชนมีความสะอาดและมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น อันจะช่วยลดโอกาสในการก่ออาชญากรรม และสร้างความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้นำชุมชน ประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่

วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554

นักศึกษา ม.ราชภัฏภูเก็ต ร่วมบริจาคช่วยผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่น


เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2554 ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ ประเทศญี่ปุ่น ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดภูเก็ต อาจารย์ณัฏฐพงศ์ ถือดำ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมด้วยนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ร่วมนำเงินที่ได้รับบริจาคจากอาจารย์ เพื่อนนักศึกษา และประชาชนภูเก็ต จำนวน 40,090 บาท มาบริจาคให้ โดยมีนายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้รับมอบ

ทั้งนี้อาจารย์ณัฏฐพงศ์ กล่าวว่า เงินจำนวนดังกล่าวที่นำมาบริจาคในวันนี้ ได้รับบริจาค จากอาจารย์ นักศึกษา และประชาชนในภูเก็ต โดยนักศึกษา สโมสรนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ฯ ได้ร่วมกันทำการเรี่ยไรมาตั้งแต่วันที่ 19 – 22 มี.ค.54 ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่มหาวิทยาลัยฯ ได้ส่งเสริม มาโดยตลอด เพื่อให้นักศึกษามีจิตสาธารณะ รู้จักการให้ อย่างเมื่อช่วงเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศเฮติ นักศึกษาก็ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัย แล้วเราก็ได้พบว่านักศึกษามีจิตสาธารณะเพิ่มมากขึ้น

สำหรับจังหวัดภูเก็ตได้ตั้ง “ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยนามิญี่ปุ่น จังหวัดภูเก็ต” ณ ห้องรับรอง ชั้น 1 อาคารศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อระดมเงินทุนและเป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยประเทศญี่ปุ่น ในระหว่างวันที่ 16-26 มี.ค.54 และได้เปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี “ภูเก็ตร่วมใจช่วยผู้ประสบภัยญี่ปุ่น” หมายเลขบัญชี 805-0-41578-3 ซึ่งขณะนี้ มียอดบริจาคผ่านบัญชี ณ วันที่ 21 มี.ค.54 เวลา 10.00 น. มีจำนวนทั้งสิ้น 166,507 บาท

สภ.กมลากวาดล้างยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง


เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 54 ที่สภ.กมลา อ.กะทู้ ภูเก็ต พ.ต.อ.ณัฐภาคิน ขวัญชัยพฤกษ์ ผกก.สภ.กมลา พ.ต.ท.ประวิทย์ สุทธิเรืองอรุณ รอง ผกก.ป.สภ.กมลา ร.ต.อ.ณรงค์ บัวคง สว.สส.สภ.กมลา พร้อมด้วยชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายไตรฤทธิ์ ศุภนาม อายุ 35 ปี พังงา และนางสาวหฤทัย ปาลวงส์ อายุ 30 ปี พังงา พร้อมด้วย ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้าจำนวน 20 เม็ด เงินสด 5,000 บาท โทรศัพท์มือจำนวน 2 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม อุปกรณ์เสพยาบ้า 1 ตัว พร้อมตัวยึดรถยนต์กระบะ อีซูซู ทะเบียน บฉ 4334 ภูเก็ต ไว้เพื่อตรวจสอบ ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ทั้งนี้ ร.ต.อ.ณรงค์ บัวคง สว.สส.สภ.กมลา เปิดเผยว่า จากที่ทางหน่วยเหนือได้มอบนโยบายเร่งกวาดล้างยาเสพติดและเร่งรัดคดีค้างเก่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลา ออกทำการสืบสวน เพื่อทำการกวาดล้างการค้ายาเสพติดในพื้นที่

จนกระทั่งเมื่อเย็นของวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา ทางทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายว่า นายตั้ม และ น.ส.เก๋ สองสามีภรรยา ที่พักอาศัยที่หาดสุรินทร์ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ภูเก็ต ได้นำยาบ้ามาจำหน่ายให้กับวัยรุ่นในพื้นที่ตำบลกมลา เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนให้สายลับเข้าล่อซื้อยาบ้าจากสองผัวเมีย โดยตกลงซื้อยาบ้าจำนวน 20 เม็ดในราคา 5,000 บาท และจะนำมาส่งให้ที่ในซอยบางหวาน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ขับรถติดตามไปและจอดซุ่มดูอยู่ใกล้ๆ เมื่อน.ส.เก๋ฯและนายตั้มฯ ขับรถยนต์กระบะ อีซูซู ทะเบียนดังกล่าว นำยาบ้ามามอบให้กับสายลับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าแสดงตัวตรวจค้นและยึดยาบ้าพร้อมเงินล่อซื้อไว้เป็นของกลาง จึงได้ควบคุมตัวมาสอบถาม ทั้งสองรับว่าได้จำหน่ายยาบ้าให้กับวัยรุ่นในพื้นที่มาหลายครั้งแล้ว จึงได้ควบคุมตัว ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.กมลา ดำเนินคดีต่อไป

ร.ต.อ.ณรงค์ ยังกล่าวอีกว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กมลา ได้เร่งกวดขันจับกุมยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายและสามารถกวาดล้างยาเสพติดได้รวม 5 ราย ผู้ต้องหา 6 คน ได้ของกลางต่างๆ ได้อีกเป็นจำนวนมาก

วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2554

รมว.สธ.ตรวจเยี่ยมการจ่ายยาไอโอดีนที่สนามบินภูเก็ต


เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 54 ที่บริเวณห้องผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดคัดกรองและให้บริการจ่ายยาเม็ดไอโอดีนแก่ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ซึ่งดำเนินการโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตและโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตมาตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยมีนพ.ศักดิ์ แท่นชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและรายงานผลการปฏิบัติงาน ซึ่งมีการแจกยาไอโอดีนไปแล้ว 71 ราย สำหรับผู้ที่เดินทางไปสนามบินนาริตะและฮาเนดะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผู้รับยาส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุน

นายจุรินทร์ กล่าวภายหลังรับฟังรายงานจากทางเจ้าหน้าที่ ว่า การดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับกรณีเกิดธรณีพิบัติภัยที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น ได้มีการส่งทีมแพทย์เข้าไปช่วยเหลือที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว 2 ทีม ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล จิตแพทย์และนักจิตวิทยา รวมจำนวน 8 คน โดยทีมแรกเป็นการเข้าไปช่วยเหลือดูแลสุขภาพ ประกอบด้วยแพทย์และพยาบาล และทีมที่ 2 ดูแลด้านสุขภาพจิต ประกอบด้วย จิตแพทย์ นักจิตวิทยาและพยาบาล โดยเข้าไปดูแลและให้คำปรึกษากับประชาชนผู้ประสบเหตุที่จังหวัดทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว และที่วัดปากน้ำ ซึ่งที่นี่มีคนไทยเข้ารับคำปรึกษาแล้วประมาณ 300 คน

นอกจากนี้ยังได้จัดเคาน์เตอร์ให้บริการคัดกรองที่บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สำหรับผู้โดยสารขาเข้าคนไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศญี่ปุนได้ให้บริการคำปรึกษาแล้วจำนวนประมาณ 268 ราย ซึ่งทั้งหมดไม่มีปัญหาและไม่ได้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่เตรียมไว้ คือโรงพยาบาลราชวิถีกับโรงพยาบาลนพรัตน์ ส่วนกรณีผู้โดยสารขาออกที่จะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะเมืองที่ทางการญี่ปุ่นได้ประกาศให้เป็นพื้นที่เสี่ยงก็ได้มีการแจกยาเม็ดไอโอดีนไปแล้วประมาณ 102 กว่าราย ส่วนที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตได้มีการจ่ายยาไอโอดีนให้กับผู้ที่เดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงแล้วจำนวน 71 ราย ส่วนใหญ่จะเป็นคนญี่ปุ่น โดยจะดำเนินการเช่นนี้ไปจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

อย่างไรก็ตามนายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการตรวจสอบอาหารที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ได้ดำเนินการตรวจสอบไปแล้วจำนวน 31 ตัวอย่าง เป็นพืช 3 ตัวย่าง และอาหารทะเล 28 ตัวอย่าง ซึ่งทั้งหมดไม่พบสารปนเปื้อนหรือตกค้างแต่อย่างใด และตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (22 มี.ค.54) เป็นต้นไป ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)จะทำการตรวจสอบสินค้าที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นที่ท่าเรือคลองเตย ซึ่งเรือเริ่มที่จะเดินทางเข้ามาถึงแล้ว เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค


ผบช.ภ.8 โว จับกุมผู้ต้องหายาเสพติดกว่า 5,000 ราย

พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวถึงการปราบปรามยาเสพติกให้โทษในพื้นที่รับผิดชอบว่า จากนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งผลการกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติดในพื้นที่ความรับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 8 ประกอบด้วย จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนองและชุมพร ในห้วงระหว่างวันที่ 21 ธันวาคม 2553 – วันที่ 15 มีนาคม 2554 ปรากฏว่าสามารถจับผู้ต้องหาเกี่ยวกับคดียาเสพติดได้เกินเป้าหมายที่กำหนดไว้ ทั้งผู้ค้ารายสำคัญ ผู้ค้ารายย่อยและผู้เสพได้แล้วประมาณ 4,900 คน ยึดทรัพย์ผู้ค้ารายสำคัญและรายย่อยกว่า 18 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมียอดการจับกุมเพิ่มขึ้นเกือบ100% นอกจากนี้ยังสามารถนำผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่ระบบบำบัดแล้วกว่า 2,000 คน

“แม้ว่าจะมีการระดมกำลังกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ความรับผิดชอบได้เกินเป้าหมายที่ได้รับมอบแล้ว เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างยั่งยืน ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกจังหวัดในความรับผิดชอบดำเนินการกวาดล้างยาเสพติดอย่างเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการสืบค้นเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีโดยอาศัยฐานข้อมูลในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จากศูนย์ต่อสู้เอาชนะยาเสพติดในทุกระดับ รวมถึงการรับแจ้งข้อมูลเบาะแสจากประชาชน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีและมีการแจ้งข้อมูลต่างๆ เข้ามาเป็นจำนวนมาก จนนำไปสู่การสืบสวนและขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างต่อเนื่อง”

พล.ต.ท.ก่อเกียรติ ยังกล่าวด้วยว่า ความคืบหน้าในการจัดหารถเอ็กซเร่ย์ยาเสพติดมาประจำที่ด่านตรวจจังหวัดภูเก็ตนั้น ขณะนี้ได้จัดทำโครงการเสนอของบประมาณไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เนื่องจากอุปกรณ์ดังกล่าวมีราคาแพงและจะต้องมีค่าบำรุงรักษาค่อนข้างสูง จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก ขณะเดียวกันก็จะมีการเสนอเรื่องเพื่อขอเปิดด่านบริเวณ จงชุมพร เป็นด่านตรวจถาวร สามารถตรวจได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยเสริมประสิทธิภาพของด่านตรวจดังกล่าวได้มีศักยภาพมากขึ้น รวมทั้งการเสนอขอกล้องซีซีทีวีแบบอ่านป้ายทะเบียนรถมาประจำด่านตรวจต่างๆ ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงานเช่นเดียวกัน หากสามารถนำมาใช้ได้สำเร็จก็จะช่วยตรวจสอบการลักลอบขนยาเสพติดได้เป็นอย่างดี