จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ภูเก็ตหมื่นใจ หมื่นพลังสร้างสุขภาพ


รพ.กรุงเทพภูเก็ต ได้รับเกียรติจาก นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตนพ.วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และนายวิรัช พาที ผู้อำนวยการศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต ถ่ายภาพร่วมกับเจ้าหน้าที่และผู้ร่วมงานบริเวณซุ้มของโรงพยาบาลฯ ในโครงการ "ภูเก็ตหมื่นใจ หมื่นพลังสร้างสุขภาพ" ที่จัดขึ้นเพื่อแสดงพลังสามัคคีของคนใน จ.ภูเก็ต ที่ร่วมกันสร้างเสริมสุขภาพและออกกำลังกายพร้อมกัน ในวันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2553 ระหว่างเวลา 16.00 - 20.00 น. ณ สวนหลวง ร.9 เทศบาลนครภูเก็ต


เปิดประตูสู่ฝันวันขาว – แสด ครั้งที่ 5


เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2553 ที่โรงเรียน อบจ.บ้านตลาด เหนือ ( วันครู 2502 ) นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิด งานวันวิชาการ เปิดประตูสู่ฝันวันขาว – แสด ครั้งที่ 5 ประจำปีการศึกษา 2552 โดยมีนายประดิษฐ์ แสงจันทร์ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายมานพ ลีลาสุธานนท์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต แลนายอวยพร สกุลตัน ผอ.กองการศึกษาอบจ.ภูเก็ต ได้ให้เกียรติมาร่วมงานในครั้งนี้


สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ต้องการให้นักเรียนของโรงเรียนอบจ.บ้านตลาดเหนือ ได้แสดงออกถึงความสามารถ และ ความรู้ต่างๆ ที่ได้เรียนมาตั้งแต่เปิดการศึกษา ให้แก่ประชาชนในชุมชน และ ผู้ปกครองได้รับทราบ รวมถึงวิธีการเรียน การสอน และกิจกรรมต่างๆ ที่ทางโรงเรียนได้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ของบุตรหลานของท่าน เช่น การรำกลองยาว การวาดภาพระบายสี การแสดงดนตรี เป็นต้น ทั้งนี้ยังมีการออกซุ้ม การเรียนรู้ต่างๆมากมายอีกด้วย ทั้งนี้ในพิธีเปิดของงานท่านนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้ทำการ มอบทุนการศึกษาและประกาศนียบัตรให้แก่นักเรียนที่มีผลการเรียนดีและสร้างคุณประโยชน์ด้านต่างๆให้แก่ โรงเรียนอบจ.บ้านตลาดเหนือ ( วันครู 2502 ) ด้วย

The 9th Gay Phuket Pride Celebration


เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น.วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2553 ที่บริเวณถนนทวีวงศ์ริมชายหาดป่าตอง และถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กลุ่มชาวเกย์ในจังหวัดภูเก็ต ได้จัดขบวนพาเหรด เนื่องในการจัดงาน The 9th Phuket Gay Pride Celebration ระหว่างวันที่ 25-27 กุมภาพันธ์ 2553 โดยมีบรรดาพนักงานของบาร์และร้านต่างๆ จำนวนประมาณ 500 คน แต่งกายรูปแบบต่างๆ เช่น ชุดไทย ชุดในวรรณคดี ชุดผีตาโขน ชุดการแต่งกายของภาคต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการแต่งกายด้วยชุดวาบหวิวและเต้นอยู่ท้ายบนรถพ่วงบรรทุกขนาดใหญ่กันอย่างสนุกสนาน สร้างสีสันต์และความสนใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งต่างใช้กล้องถ่ายรูปบันทุกภาพของบรรดาชาวเกย์ ตลอดเส้นทางที่ขบวนพาเหรดผ่านเป็นอย่างมาก


สำหรับการจัดงานดังกล่าวเริ่มมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จุดหลักของงานจะอยู่ที่บริเวณซอยพาราไดส์ ซึ่งเป็นแหล่งที่ตั้งบาร์และสถานบันเทิงต่างๆ ของชาวเกย์ โดยมีชาวเกย์จากทั่วโลกมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้นอกจากขบวนพาเหรดแล้วก่อนหน้านี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ เช่น เกย์ ภูเก็ต บี ช วอลเลย์บอล การแสดงแฟชั่นโชว์ เป็นต้น



ชาวรัษฎาเห็นชอบสร้างโรงบำบัดน้ำเสีย งบ 290 ล.


นายสุรทิน เลี่ยนอุดม นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้กล่าวถึงจัดทำการประชาพิจารณ์ ว่า จากการที่เทศบาลฯ ได้ว่าจ้างบริษัท อีโคซิสเต็ม เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาและการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ศึกษาออกแบบโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำ ระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย พื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านเกาะสิเหร่ หมู่ที่ 3 บ้านกู้กู หมู่ที่ 4 บ้านแหลมตุ๊กแก และหมู่ที่ 7 บ้านท่าเรือใหม่ บริเวณคลองท่าจีน มาตั้งแต่ปี 2549 โดยเสนอให้แบ่งการก่อสร้างเป็น 2 ระยะ ซึ่งระยะแรกดำเนินการในพื้นที่ 4 หมู่บ้านดังกล่าว ใช้งบดำเนินการประมาณ 294 ล้านบาท และระยะที่ 2 หมู่บ้านที่เหลือใช้อีก 3 หมู่บ้าน งบประมาณ 70 ล้านบาท ส่วนระบบที่เหมาะสมมากที่สุด คือ ระบบบำบัดแบบคลองวนเวียน ซึ่งจากการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียไปเมื่อเร็วๆ นี้ ปรากฏว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะให้มีการจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่ดังกล่าว แต่มี 1 รายที่คัดค้าน เนื่องจากไปตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่บริเวณแนวขอบของที่ดินโครงการ เพราะเกรงว่าเมื่อมีการก่อสร้างจะได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากไม่มีที่อยู่อาศัย แต่ได้ชี้แจงว่าการเข้าไปอยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย แต่เมื่อเดือดร้อนก็จะเข้าไปดูแลช่วยเหลือตามความเหมาะสม


“เหตุที่เทศบาลฯ จะต้องมีการศึกษาออกแบบระบบระบายน้ำ ระบบรวบรวมน้ำและบำบัดน้ำเสียในพื้นที่ดังกล่าวข้างต้น เนื่องจากเป็นพื้นที่ซึ่งมีอาคารโรงแรม สถานประกอบการ ร้านค้า ร้านอาหาร รวมทั้งบ้านเรือนพักอาศัยเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการจัดการด้านคุณภาพน้ำอย่างเป็นระบบก่อนที่จะปล่อยลงสู่ทะเล เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่และการท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต”


นายสุรทิน กล่าวว่า พื้นที่ก่อสร้างโรงบำบัดน้ำเสียจะตั้งอยู่ตรงข้ามกับสำนักงานสงเคราะห์การทำสวนยาง จ.ภูเก็ต ใกล้กับอาคารมูลนิธิศุภนิมิตรแห่งประเทศไทย จ.ภูเก็ต เนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ โดยกันเขตออกจากพื้นที่ป่าไม้ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ตขอใช้ทำประโยชน์จำนวน 50 ไร่ ทั้งนี้คาดว่าหากไม่มีปัญหาและได้รับการสนับสนุนงบประมาณก็จะสามารถดำเนินการได้ภายในปีงบประมาณ 2554


สร้างเครือข่ายคลินิกเทคโนโลยี


ผศ.ดร.ประภา กาหยี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ในฐานะผู้อำนวยการคลินิกเทคโนโลยี พร้อมด้วย นายณัฏฐพงศ์ ถือดำ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะเลขานุการคลินิกเทคโนโลยี ร่วมพิธีลงนามความร่วมมือกับผู้แทนในกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามโครงการคลินิกเทคโนโลยีระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับสถาบันการศึกษาเครือข่ายคลินิกเทคโนโลยี ทั้งนี้มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เป็นหนึ่งในเครือข่ายทั้งสิ้น 65 เครือข่าย ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ผศ.ดร.ประภา กาหยี ได้กล่าวว่า คลินิกเทคโนโลยีนั้น เป็นกลไกความร่วมมือการนำผลงานวิจัยและพัฒนาของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กับสถาบันการศึกษาเพื่อเผยแพร่และถ่ายทอดเทคโนโลยี สู่กลุ่มเป้าหมายและสร้างความเข้าใจร่วมกันในการพัฒนาจังหวัดด้วยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม ทั้งบทบาทของคลินิกเทคโนโลยีเครือข่าย ผู้บริหารวิทยาศาสตร์ระดับสูง การจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดด้านวิทยาศาสตร์และกำหนดแนวทางการดำเนินงานกับจังหวัดภายใต้กรอบความร่วมมือบันทึกข้อตกลงกับกระทรวงมหาดไทย ในการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปสนับสนุนการพัฒนาจังหวัด


ด้านนายณัฏฐพงศ์ ถือดำ กล่าวว่า “บทบาทของมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ต่อโครงการดังกล่าว มีหน้าที่ เป็นศูนย์ประสานงานคลินิกเทคโนโลยีเครือข่ายของ กระทรวงวิทยาศาสตร์ ทำหน้าที่ในการดำเนินงานร่วมกับผู้บริหารวิทยาศาสตร์จังหวัดระดับสูงในการดำเนินงานการพัฒนาจังหวัดด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำรวจและวิเคราะห์ ความต้องการเทคโนโลยีของกลุ่มเป้าหมาย รวบรวมและจัดทำฐานข้อมูลเทคโนโลยีที่เป็นของสถาบันการศึกษา ซึ่งเป็นคลินิกเทคโนโลยีเครือข่าย รวมทั้งผลงานที่เป็นภูมิปัญญาไทย เพื่อการถ่ายทอดเทคโนโลยี และดำเนินกิจกรรมวิจัยและพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยี การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการเผยแพร่ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งนี้ ผู้สนใจ สามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ งานโครงการคลินิกเทคโนโลยี ชั้น 1 อาคารศูนย์วิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต โทรศัพท์ / แฟ๊กซ์ 0 7621 8806”


สมทบทุนห้องสมุดของเล่น


นายอนุรักษ์ ธารสิริโรจน์ กรรมการผู้จัดการโรงพยาบาลสิริโรจน์ และกงศุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเชค พญ.สุปาณี ธารสิริโรจน์ กุมารแพทย์โรงพยาบาลสิริโรจน์ มอบเงินจำนวน 20,000 บาท ที่ได้จากการจำหน่ายตุ๊กตาหมีในช่วงเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ที่ผ่านมา เพื่อสมทบทุนในโครงการห้องสมุดของเล่นของมูลนิธิชุมชนภูเก็ตในครั้งนี้และโอกาสต่อๆ ไป โดยมีผศ.ปราณี สกุลพิพัฒน์ ประธานมูลนิธิชุมชนภูเก็ต เป็นผู้รับมอบ

เปิดห้องสมุดของเล่นแห่งที่ 4



โรงพยาบาลสิริโรจน์ (Phuket International Hospital) ร่วมกับมูลนิธิชุมชนภูเก็ต ดำเนินโครงการห้องสมุดของเล่นอย่างต่อเนื่องเป็นแห่งที่ 4 ให้แก่โรงเรียนบ้านบางคู ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยได้รับเกียรติจากท่านธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดห้องสมุดของเล่น พร้อมด้วยคณะกรรมการจากมูลนิธิชุมชนภูเก็ต และคุณอนุรักษ์ ธารสิริโรจน์ กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลสิริโรจน์ เข้าร่วมพิธีเปิด นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลยังได้มอบความสนุกสนานให้น้อง ๆ โดยเตรียมการเล่านิทานหุ่นมือซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการเพื่อเด็กและเยาวชนที่ฝ่ายการตลาดโรงพยาบาลสิริโรจน์ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในโครงการเติมเต็มเจ้าตัวเล็ก ปี 2 ตอนออกเดินทาง เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553


กรมเจรจาฯ จับมือสภาหอการค้า ลงใต้กระตุ้นผู้ประกอบการ SMEs

 

ที่โรงแรมเมโทรโพล อ.เมือง จ.ภูเก็ต นางสาวพูลศรี คุลีเมฆิน นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นประธานเปิดงานสัมมนา เรื่อง โอกาสทางการค้าสินค้า บริการและการลงทุนของผู้ประกอบการ SMEs กับการเป็น AEC : ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งทางกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดขึ้น โดยมีสมาชิกหอการค้าในพื้นที่ภาคใต้ ผู้ประกอบการ และผู้สนใจเข้าร่วม

นางสาวพูลศรี คุลีเมฆิน นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมเจรจาการค้าระหว่งประเทศ และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้เล็งเห็นความสำคัญของการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม เกี่ยวกับการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( ASEAN Economic Community-AEC) ภายในปี 2558 ตามแผนงานการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Blueprint) ซึ่งจะมีผลให้อาเซียนกลายเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว มีการเคลื่อนย้านสินค้า บริการ การลงทุน และแรงงานฝีมืออย่างเสรี รวมทั้งการเคลื่อนย้ายเงินทุนได้อย่างเสรีมากขึ้น ผู้บริโภคจะมีโอกาสเข้าถึงสินค้าและบริการที่หลากหลาย ขณะที่ผู้ผลิตสามารถแสวงหาวัตถุดิบที่ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำ ขยายฐานการผลิตไปยังประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งเป็นโอกาสการขยายตลาดการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน ในตลาดอาเซียนด้วยกันถึง 10 ประเทศ ที่มีประชาชนรวมกันกว่า 850 คน

ในการนี้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้จัดทำบันทึกความเข้าใจเรื่อง ความร่วมมือในการสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาอาเซียนไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน บนพื้นฐานของการเป็นพันธมิตรระยะยาว และเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ โดยร่วมกันจัดสัมมนา เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การดำเนินการตามแผนงานการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การเตรียมการรองรับปรับตัว เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของผู้ประกอบการไทย ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยตระหนัก เข้าใจและเรียนรู้วิธีการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลงทางการค้า โดยการขยายฐานการผลิต การสร้างพันธมิตร และขยายตลาดสินค้าและบริการในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ต่อยอดมาจากการเปิดเสรีการค้าภายใต้ AFTA นับตั้งแต่ปี 2536

โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา สมาชิกอาเซียนเดิม 6 ประเทศ ได้แก่ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย ได้ยกเลิกภาษีสินค้า 8,000 กว่ารายการ เป็นร้อยละศูนย์ และในอีก 6 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 2558 สมาชิกอาเซียนใหม่ 4 ประเทศ ได้แก่กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนามจะลดภาษีทุกรายการเป็นร้อยละศูนย์ และสามารถยืดหยุ่นในบางรายการได้ถึงปี 2561 นอกจากนี้จะมีการยกเลิกมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี เพื่ออำนวยความสะดวกให้การค้ามีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นอีกด้วย


วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน



พ.ต.อ.นพ.โสภณ กฤษณะรังสรรค์ ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจ รพ.กรุงเทพภูเก็ต และเลขาคณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวิต สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ นำพยาบาล เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่ผ่านการฝึกอบรมมาตรฐานการช่วยชีวิต เข้าร่วมฝึกอบรม ดูแลและควบคุมการสอบทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ให้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และครู โรงเรียนเมืองถลาง ในโครงการฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนในจังหวัดภูเก็ตโดยแบ่งการฝึกอบรมเป็น 3 รอบ คือวันที่ 12, 18 และ 26 กุมภาพันธ์ ในช่วง เวลา 13.00 น. – 16.30 น. สำหรับผู้ที่ผ่านการอบรมจะได้รับมอบประกาศนียบัตรจาก สมาคมแพทย์โรคหัวใจฯและในวันที่ 8 มีนาคม 2553 จะจัดการอบรมขึ้นที่ โรงเรียนเชิงทะเลวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนลำดับที่ 4 ในการอบรมโครงการฯ ดังกล่าว


วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ตรวจเยี่ยม ชุดปฎิบัติการพิเศษ




พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผบ.ทรภ.3 ให้การต้อนรับ พล.ร.ต.ธงชัย ใจเย็น ผบ.นสร.กร. พร้อมคณะ ในโอกาสเดินทางตรวจเยี่ยม ชุดปฎิบัติการพิเศษ กองเรือปฎิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3 (ชปภ.กปก.ทรภ.3) เพื่อรับทราบปัญหา ข้อขัดข้องและบำรุงขวัญกำลังพล นสร.กร.ที่ปฎิบัติราชการในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน กับ ทรภ.3 ระหว่าง วันที่ 24 – 25 ก.พ.53 และเข้าเยี่ยมคารวะ ผบ.ทรภ.3 พร้อมมอบของที่ระลึก ณ ห้องรับรอง บก.ทรภ.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต 


สำเร็จหลักสูตร

คุณกอบแก้ว บุญสิริ ผู้อำนวยการสายการพยาบาล โรงพยาบาลสิริโรจน์ (Phuket International Hospital) นำทีมผู้บริหารในสายการพยาบาล มอบวุฒิบัตรและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับนักศึกษาจากโรงเรียนภูเก็ตรักษ์บริบาล โอกาสสำเร็จหลักสูตรฝึกงานกับทางโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2553


วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

กก.สวล. ฝากเจ้าของอาคารสูง ควรรองรับแผ่นดินไหว


เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ห้องประชุมสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม จังหวัดภูเก็ต โดยมีส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง และผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการแต่งตั้งเข้าร่วม เพื่อพิจารณาโครงการที่ผู้ประกอบการจัดส่งรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นและรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านที่อยู่อาศัยและบริการชุมชนมาให้จังหวัดพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอน ในระหว่างวันที่ 7-28 มกราคม 2553 จำนวน 18 โครงการ ซึ่งได้มีการตรวจสภาพพื้นที่ที่ตั้งโครงการแล้ว และมีการถอนรายงานฯ ออกจำนวน 1 โครงการ

อย่างไรก็ตามได้มีการแจ้งผลการพิจารณาการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมระยะก่อสร้างและดำเนินการโครงการโรงแรมทัช เอ็กโซติก้า รีสอร์ทแอนด์สปา ของบริษัท ทัช เอเชีย(ประเทศไทย) จำกัด และการเปลี่ยนแปลงชื่อเจ้าของโครงการ The Royal Place Tower 2,3 ถ.พระภูเก็จแก้ว ต.กะทู้ อ.กะทู้ จากบริษัท วี.เอส.พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นบริษัท วี.เอส.กรุ๊ป (ภูเก็ต) จำกัด รวมถึงการติดตามเรื่องร้องเรียนกรณีการตัดต้นสนจำนวน 8 ต้น บริเวณด้านหน้าโครงการเวสแซน ซึ่งตั้งอยู่บ้านไม้ขาว อ.ถลาง ซึ่งจากการตรวจสอบของคณะกรรมการฯ พบว่าต้นสนดังกล่าวไม่ได้อยู่ในพื้นที่โครงการ แต่อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติสิรินาถ

ทั้งนี้ในการแสดงความคิดเห็นประกอบการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นและรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านที่อยู่อาศัยและบริการชุมชน ซึ่งนายอำนาจ ตันติธรรมโสภณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันมีโครงการก่อสร้างอาคารชุดซึ่งมีความสูงค่อนข้างมากบางโครงการมีความสูงถึง 15 ชั้น จึงอยากฝากในเรื่องของการออกแบบอาคารเพื่อรองรับผลกระทบการเกิดแผ่นดินไหวด้วย แม้ว่าภูเก็ตจะอยู่ในโซนเฝ้าระวัง แต่เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย รวมถึงการจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่จะเข้าไปซื้อโครงการด้วย

นอกจากนี้นายอำนาจ ยังได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ปัจจุบันส่วนใหญ่ผู้ประกอบการมักจะมีการทำประชาสัมพันธ์และเปิดขายโครงการก่อนที่จะได้รับอนุญาตก่อสร้างหรือผ่านความเห็นชอบในการพิจารณาการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม จึงอยากฝากทางจังหวัดช่วยพิจารณากำหนดมาตรการในการดำเนินการเพื่อเป็นการป้องกันและรักษาสิทธิให้กับผู้บริโภค เพราะข้าราชการส่วนใหญ่มาแล้วก็ไป แต่ผู้บริโภคที่ซื้อโครงการจะต้องอยู่อาศัยไปตลอดชีวิต ดังนั้นจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเป็นเรื่องความเป็นความตายของคนที่อยู่อาศัยในพื้นที่



 

สร้างเครือข่ายเฝ้าระวังระดับภูมิภาค















 เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553 ที่โรงแรมเมโทรโพล ภูเก็ต นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการสัมมนาอาสาสมัครโครงการเฝ้าระวังและช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในตำบล ซึ่งทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับสำนักส่งเสริมสวัสดิภาพ และพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดขึ้น โดยมีอาสาสมัครที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในระดับตำบลจาก 8 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สตูล กระบี่ ตรัง สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงาและภูเก็ต เข้าร่วม เพื่อทบทวนความรู้และประสบการณ์เพื่อนำไปรับใช้ในการทำหน้าที่อาสาสมัครในตำบลอย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สร้างความต่อเนื่องในการสนับสนุนการเฝ้าระวังและช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในตำบล สร้างความเข้มแข็งในการผนึกกำลังโดยการทำงานในลักษณะเครือข่าย สู่การเป็นทีมอาสาสมัครเฝ้าระวังระดับภูมิภาคต่อไป

นางสาวพรรณี สิทธิการ พัฒนาสังคมและความมั่นคง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า โครงการเฝ้าระวังและช่วยเหลือด็กและเยาวชนในตำบล เป็นโครงการหนึ่งที่จัดขึ้นเพื่อการสร้างระบบคุ้มครองให้เกิดขึ้นในตำบล โดยมีอาสาสมัครเป็นกลไกในการเฝ้าระวังและให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่เด็กและเยาวชน ดังนั้นการสัมมนาให้กับอาสาสมัครที่เข้าร่วมสัมมนาครั้งนี้ซึ่งได้ผ่านการอบรมโครงการเฝ้าระวังฯ (นำร่อง) ไปเมื่อปี 2551 มาแล้ว เพื่อเป็นการติดตามผลการดำเนินงาน และให้อาสาสมัครได้กลับมาพบปะ ตลอดจนเกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำหน้าที่ อาสาสมัครเฝ้าระวังและช่วยเหลือเด็กในตำบล เป็นการสร้างความสัมพันธ์และความต่อเนื่องในการรวมพลังกันเป็นเครือข่ายช่วยเฝ้าระวังปัญหา ช่วยปกป้องคุ้มครอง และพัฒนาเด็กและเยาวชนในตำบล

โดยโครงการนี้มีความเชื่อมโยงกับโครงการวิทยากรสิทธิเด็ก..สู่การปฏิบัติ ระดับภูมิภาค ซึ่งสำนักส่งเสริมและพิทักษ์เด็ก สังกัด สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ (สท.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้จัดอบรมวิทยากรไปแล้ว โดยมีเครือข่ายวิทยากรสิทธิเด็ก จาก 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สตูล กระบี่ ตรัง สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต ร่วมกันเป็นวิทยากรในการอบรมให้ความรู้แก่อาสาสมัครของโครงการเฝ้าระวังฯ นางสาวพรรณีกล่าว

การสัมมนาซึ่งใช้เวลา 3 วัน ประกอบด้วย การทบทวนความรู้เรื่องสิทธิเด็ก การนำเสนองานการคุ้มครองเด็กโดยผู้แทนอาสาสมัคร การถอดบทเรียนการทำหน้าที่อาสาสมัครคุ้มครองเด็ก ความรู้เรื่องมาตรฐานการส่งเสริมสวัสดิภาพและคุ้มครองพิทักษ์สิทธิเด็ก การวางแผนจัดทำโครงการคุ้มครองเด็กระดับตำบล การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การมีส่วนร่วมและอื่นๆ

ด้านนายธีระยุทธ กล่าวว่า การสัมมนาในครั้งนี้จะทำให้อาสาสมัครฯ ได้กลับมาทบทวนความรู้ และร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการพัฒนาและคุ้มครองเด็กและเยาวชนให้ได้รับสิทธิในการพัฒนา และการคุ้มครองเพื่อเสริมสร้างให้เด็กและเยาวชนมีคุณภาพ มีความสุข มีความมั่นคงในชีวิต เป็นกำลังสำคัญที่มีประสิทธิภาพของประเทศชาติต่อไปในอนาคต เพราะงานอาสาสมัครเป็นงานที่มีความสำคัญที่ต้องเสียสละ ทุ่มเท รวมทั้งต้องมีใจรักและมีความมุ่งมั่น อันจะส่งผลให้เด็กและเยาวชนได้รับการพัฒนา ปกป้อง คุ้มครองอย่างทั่วถึงและจริงจัง



วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

รวบทันควัน ขโมยกระเป๋าชาวต่างชาติ


เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 53 ที่ห้องประชุมสภ.ฉลอง อ.เมือง ภูเก็ต พ.ต.อ.วิชิต อินทรศร ผกก.สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วยชุดจับกุม ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุมนายอำไพ อินอร่าม อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/3 ม.5 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต อาชีพรับส่งน้ำดื่มของบริษัทพิมานมุก จำกัด พร้อมด้วยของกลางกระเป๋าสะพายสีฟ้า 1 ใบ กระเป๋าเงินยี่ห้ออามานี่ 1 ใบ เงินสดจำนวน 6,000 บาท บัตรเครดิต ธนาคารนิส ประเทศแอฟริกา 1 ใบ บัตรเอทีเอ็ม ธนาคารกสิกรไทย จำกัดมหาชน 1 ใบ โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าหมู่บ้านซันปาล์มวิลเลจ ม.8 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางวัน

ทั้งนี้ พ.ต.อ.วิชิต อินทรศร ผกก.สภ.ฉลอง ได้กล่าวว่า ในการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 53 เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ฉลอง ได้รับแจ้งจากนายนายปีเตอร์ เมลเฮอร์บี้ (PETER MALHERBE) อายุ 51 ปี สัญชาติแอฟริกา ว่า ถูกคนร้ายขโมยกระเป๋าขณะที่ตนวางอยู่บนโต๊ะภายในร้าน พริ้นวัน เบเกอร์รี่ ตั้งอยู่ที่ ม.8 ต.ฉลอง ซึ่งคาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นพนักงานรับส่งน้ำที่เข้าไปส่งน้ำภายในร้านดังกล่าว ซึ่งจำได้ว่ารถยนต์กระบะของผู้ต้องสงสัยหมายเลขทะเบียน 80 – 2024 ภูเก็ต จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ติดตามและตรวจค้นพบของกลางทั้งหมดภายในรถยนต์กระบะ และจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ นายอำไพ ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ขโมยทรัพย์สินทั้งหมดของนายปีเตอร์ เมลเฮอร์บี้ จากร้านดังกล่าวจริง และกระทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีต่อไป

พ.ต.อ.วิชิต ยังกล่าวต่ออีกว่า สำหรับพื้นที่ฉลอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก และมีคดีที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวอยู่บ่อยครั้ง และหลังจากที่ตนเดินทางมารับตำแหน่งใหม่ผู้บังคับบัญชาได้กำชับให้ดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวให้ดีที่สุด ตนจึงได้สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ออกปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวอย่างเคร่งครัด จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ดังกล่าว

ชาวต่างชาติชนกับคนไทย เป็นศพทั้งคู่


เมื่อเวลา 05.30 น.ของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 53 พ.ต.ท.บุญเลิศ อ่อนกลาง สารวัตรเวรสภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งว่ามีเหตุอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดที่ปากซอยธนูเทพ ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก ม.8 ต.ฉลอง .เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจกู้ภัย

ที่เกิดเหตุอยู่ตรงข้ามร้านสะดวกซื้อ ปากซอยธนูเทพ ที่บริเวณกลางถนนพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิป้ายแดงหมายเลขทะเบียน 21 – 822 ภูเก็ต ชนประสานงากับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮ้อนด้า หมายเลขทะเบียน ขกน – 514 ภูเก็ต สภาพพังยับเยินทั้ง 2 คัน ใกล้กับพบศพนาย ADAM WILLIAM MENAGE อายุ 28 ปี สัญชาติอังกฤษสภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดสีดำ สวมกางเกงขาสั้นแบบสามส่วนสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบ บริเวณศีรษะเป็นแผลแตกยาวเหยียด สยดสยองแก่ผู้ที่พบเห็น ห่างไปประมาณ 5 เมตร พบศพนายชัยณรงค์ วัฒนะ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/1 ม.8 ต.โคกเคียน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สภาพนอนคว่ำหน้าสวมเสื้อยืดสีดำ สวมกางเกงลายพรางแบบทหาร สภาพกะโหลกเปิด มีเลือดไหลนองพื้น ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นนักท่องเที่ยวอีก 1 ราย ทราบว่าพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลสิริโรจน์ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งมีอาการบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงรีบนำศพชันสูตรที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตต่อไป

จากการสอบถามทราบว่า นาย ADAM WILLIAM MENAGE อายุ 28 ปี สัญชาติอังกฤษ เป็นนักมวยไทยอดีตฝึกซ้อมอยู่ค่ายมวยส.สุวิทย์ ต.ฉลอง และมีกำหนดจะขึ้นชกในวันที่ 25 ก.พ.นี้ ที่สนามมวยเวทีบางลา ซอยบางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ก่อนเกิดเหตุทราบว่านาย ADAM WILLIAM MENAGE อายุ 28 ปี สัญชาติอังกฤษ ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมากับเพื่อนรวม 2 คน มาจากวงเวียนห้าแยกฉลอง ต.ฉลอง เพื่อที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองภูเก็ต ส่วนนายชัยณรงค์ วัฒนะ อายุ 24 ปี ขับรถจักรยานยนต์มาจากตัวเมืองภูเก็ต เพื่อที่จะมุ่งหน้าหน้าสู่วงเวียนห้าแยกฉลอง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่คาดว่ารถจักรยานยนต์คันของนาย ADAM WILLIAM MENAGE อายุ 28 ปี สัญชาติอังกฤษ ขับมาได้ขับเข้าไปในเลนของนายชัยณรงค์ วัฒนะ ซึ่งต่างฝ่ายต่างขับมาด้วยความเร็ว ทำให้ชนประสานงา ทำให้มีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย ส่วนสาเหตุที่แท้จริงเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนต่อไป

 

ทัพเรืออินเดียเข้าเยี่ยมคำนับ ผบ.ทรภ.3



พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผบ.ทรภ.3 ให้การต้อนรับ ฯพณฯ พินัก รันจัน จักราวาร์ตี เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย และ พล.ร.อ.เค เอ็น ซูชิล ผู้บัญชาการแห่งกองบัญชาการ กองเรือใต้ประจำกองทัพเรืออินเดีย และคณะ ณ ห้องรับรอง ผบ.ทรภ.3 อ.เมือง จ.ภูเก็ต 


แม่ทัพภาค 4 ร่วมเก็บตัวอย่างหญ้าทะเลและโยน EM Ball


เมื่อเวลา 08.00 น.ของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 53 ที่บริเวณโรงเรียนวีรสตรีอนุสรณ์ นายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต คุณปิยะนุช หงษ์หยก กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต จำกัด นพ.ก้องเกียรติ เกษเพ็ชร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต พร้อมคณะผู้บริหารโรงพยาบาลฯ และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ได้ร่วมต้อนรับ พล.ท.ดร.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 จากนั้นได้เดินไปเก็บตัวอย่างหญ้าทะเลและดูร่องรอยการกินหญ้าทะเลของพะยูน พร้อมกับโยน EM Ball 8,000 ลูก โดยท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ฝากให้หน่วยงานราชการและองค์กรต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต ที่ดูแลและรับผิดชอบได้เป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือชาวบ้านฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลอันมีค่า เพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้เป็นแหล่งทำมาหากินและสามารถดำรงวิถีชีวิตแบบเดิมต่อไปได้ ซึ่งจากการจัดกิจกรรมโยน EM Ball 2 ครั้งที่ผ่านมา ส่งผลให้หญ้าทะเลอุดมสมบูรณ์ขึ้น อีกทั้งยังมีสัตว์น้ำหลายชนิดมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงนับได้ว่าระบบนิเวศในบริเวณนี้ดีขึ้นเป็นลำดับ


จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เยี่ยมเยียนและสอบถามชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรบ้านป่าคลอก โดยนางจุรี และนายจุรุณ ราชพล สมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ฯ ที่ยืนหยัดปกป้องและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติบริเวณบ้านป่าคลอกเสมอมา กล่าวว่า “หญ้าทะเลปีนี้มีความอุดมสมบูรณ์มาก เห็นได้จากเมื่อน้ำลง จะมีหญ้าทะเลสีเขียวเต็มไปหมด และจากที่ได้เดินไปหากุ้ง หอย ปู ปลา อยู่ทุกวัน ก็เลยเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน เพราะปีก่อนๆ หญ้าจะขึ้นเป็นหย่อมๆ ไม่เต็มทะเลแบบนี้ ตั้งแต่มีการโยน EM Ball เมื่อปลายปีก่อน ตอนนี้มีหญ้าทะเลขึ้นใหม่เยอะ น้ำก็ใส พอน้ำดีขึ้นหญ้าทะเลก็อุดมสมบูรณ์ สัตว์น้ำก็มากขึ้นตามไปด้วย ตอนนี้ชาวบ้านสามารถหา กุ้ง หอย ปู ปลา ได้มากกว่าเมื่อก่อน” ชาวบ้านทั้งสองคนกล่าว


ด้านนพ.ก้องเกียรติ เกษเพ็ชร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตกล่าวว่า “โครงการโยน EM Ball เพื่อฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเลบ้านป่าคลอก จะมีขึ้นอีกครั้งในเดือนหน้า (มีนาคม) โดยหลังจากสุ่มเก็บตัวอย่างครบทั้ง 4 ครั้งแล้ว ทางสถาบันวิจัยฯ จะสรุปผลของมวลหญ้าทะเลที่เข้าสู่กระบวนการวิจัยตั้งแต่ครั้งแรกมาให้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงและเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเลในพื้นที่อื่นต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม โครงการฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเลบ้านป่าคลอก และการแก้ปัญหาน้ำเสียในชุมชนที่ทางโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตและมูลนิธิมรรคาวาณิชได้จัดขึ้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นในการช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมในชุมชน เพราะการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ย่อมเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจกันของคนในชุมชนที่จะช่วยกันอนุรักษ์และหวงแหนทรัพยากรทางธรรมชาติอันมีค่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง เพื่อช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมในชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

เด็กพัฒนาชุมชน ร่วมทม.กะทู้ พัฒนาน้ำตกกะทู้


เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 53 ที่ผ่านมา ที่บริเวณน้ำตกกะทู้ ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายชัยอนันต์ สุทธิกุล นายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ เป็นประธานการเปิดโครงการพัฒนาน้ำตกกะทู้ ซึ่งนักศึกษาโปรแกรมวิชาการพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต จัดขึ้น โดยมีนักศึกษา พนักงานเทศบาลเมืองกะทู้ ผู้นำท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้านและประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก

นายเฉลิมพล เกิดทรัพย์ ในนามตัวแทนนักศึกษา ภาค กศ.บป.ห้อง ภ.พฒ.492 โปรมแกรมวิชาการพัฒนาสังคม กล่าวว่า การจัดทำโครงการพัฒนาน้ำตกกะทู้ขึ้นนั้น สืบเนื่องจากน้ำตกกะทู้มีความสำคัญต่อชาวภูเก็ตมาช้านาน และคนในชุมชนได้รับประโยชน์จากการใช้น้ำน้ำตำแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเกษตรกรรมหรืออุปโภคบริโภค นอกจากนี้น้ำตกกะทู้ยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน-นักท่องเที่ยวอีกด้วย ทำให้ชุมชนเกิดรายได้จากการขยายตัวด้านการท่องเที่ยว ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์ที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง แต่อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาได้เกิดปัญหาและผลกระทบจากการใช้ที่ขาดดูแลรักษาและการวางแผนที่ดี ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าต้นน้ำ ปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งก่อสร้าง ปัญหาขยะมูลฝอย ดังนั้นหากไม่มีการปรับปรุงพัฒนาเชื่อว่าในอนาคตน้ำตกกะทู้จะมีปริมาณน้ำลดน้อยลง รวมทั้งความสวยงามด้วย ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อชุมชนและชาวภูเก็ต รวมถึงการท่องเที่ยวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“จากปัญหาดังกล่าวข้างต้นนักศึกษา โปรแกรมวิชาการพัฒนาชุมชน คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต จึงได้ร่วมกับเทศบาลเมืองกะทู้ และประชาชนในตำบลกะทู้ จัดทำโครงการฯดังกล่าวเพื่อทำการปรับปรุงและพัฒนาน้ำตกกะทู้ให้มีความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเที่ยวน้ำตกกะทู้เพิ่มมากขึ้น เสริมสร้างความสามัคคีและความร่วมมือของชุมชน ตลอดจนเสริมสร้างให้ประชาชนในชุมชนเกิดความรักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติต่อไป” นายเฉลิมพลกล่าว

ขณะที่นายชัยอนันต์ สุทธิกุล นายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ กล่าวว่า โครงการพัฒนาน้ำตกกะทู้ นับเป็นอีกโครงการหนึ่งที่เล็งเห็นการพัฒนาศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยว ด้วยการอนุรักษ์สถานที่ท่องเที่ยว การปรับปรุงตกแต่งภูมิทัศน์ให้เกิดความสวยงาม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศให้กลับมาเยือนน้ำตกกะทู้อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นหน่วยงานต่างๆ ตลอดจนนักศึกษาและประชาชนที่สนใจ จึงได้ให้ความสำคัญและร่วมมือกันนำเอาปัญหาความเสื่อมโทรมของสถานที่ท่องเที่ยวมาแก้ไขปรับปรุง เพื่อให้สถานที่นี้เกิดความสวยงาม และยังคงเป็นแหล่งต้นน้ำในนำน้ำไปผลิตเป็นน้ำเพื่อการอุปโภคและอุโภคอย่างยั่งยืนต่อไป


สโมสรโรตารีมอบจักรยานยืมเรียน 450 คัน


เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 53 ที่ห้องประชุมศาลาประชาคม นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการ รับ – มอบ จักรยานยืมเรียน ครั้งที่ 76 โดยมีนางไทศิกา ไพรสงบ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายยามาซากิ ฮิโยชิ ผู้ว่าการภาค 2820 และคณะโรตารีจากประเทศญี่ปุ่น นายสาโรจน์ อังคณาพิลาส ประธานจัดโครงการ รับ – มอบ พร้อมด้วยสมาชิกสโมสรโรตารีในจังหวัดภูเก็ต กรุงเทพ และพังงา ตัวแทนจากโรงเรียนในจังหวัดภูเก็ต และพังงาเข้าร่วม

ทั้งนี้นายสาโรจน์ ได้กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่มีประโยชน์ต่อวงการการศึกษาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง มีผลโดยตรงกับเด็ก ๆ เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ได้ใช้ประโยชน์จากจักรยานเป็นยานพาหนะจากบ้านไปโรงเรียน จากโรงเรียนกลับบ้าน เป็นการส่งเสริมการศึกษาอีกทางหนึ่ง โครงการจักรยานยืมเรียน เป็นโครงการร่วมกันของสโมสรโรตารีต่าง ๆ จากประเทศญี่ปุ่น หลาย ๆ สโมสร ร่วมกับสโมสรโรตารีกรุงเทพสุริวงศ์ สโมสรโรตารีทุ่งคา สโมสรโรตารีอันดามัน สโมสรโรตารีป่าตองบีช สโมสรโรตารีจังซีลอน และสโมสรโรตารีภูเก็ตเซ้าท์ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อมอบจักรยานมือ 2 คุณภาพดีจากประเทศญี่ปุ่นจำนวน 450 คันให้กับนักเรียน นักศึกษาที่มีฐานะยากจน ในโรงเรียนต่าง ๆ ของจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงาจำนวน 43 โรงเรียน

นายกท่องเที่ยว ยันการชุมนุมไม่กระทบภูเก็ต



นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากกรณีที่รัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลียและอังกฤษ ประกาศเตือนให้นักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในบริเวณที่มีการรวมตัวชุมนุมเพื่อแสดงทางการเมืองของกลุ่มต่างๆ ในประเทศไทย ขณะนี้ประกาศดังกล่าวยังไม่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต และยังไม่มีปฏิกิริยาจากนักท่องเที่ยว รวมทั้งยังไม่มีการแจ้งยกเลิกการจองห้องพักแต่อย่างใด ส่วนตัวคิดว่าหากเหตุการณ์การชุมนุมไม่อะไรที่รุนแรงก็ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรมากนัก โดยปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตสามารถเดินทางได้ด้วยเที่ยวบินตรง ซึ่งก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา และนักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศที่มีการประกาศเตือนนั้นส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับมาเที่ยวซ้ำจึงรู้จักภูเก็ตเป็นอย่างดี และทราบว่าพื้นที่ของภูเก็ตนั้นอยู่ไกลจากพื้นที่ที่มีความขัดแย้งหรือการชุมนุมทางการเมือง

“หวังว่าเหตุการณ์ชุมนุมที่จะเกิดขึ้นนั้น จะไม่พัฒนาความรุนแรงไปกว่าที่เป็นอยู่ เพราะหากเหตุการณ์รุนแรงขึ้นเมื่อใด รัฐบาลในต่างประเทศเขาก็จะมองในภาพรวม เช่นกรณีเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา ทางประเทศจีนจากเดิมที่จะส่งสายการบินชาร์เตอร์ไฟล์เข้ามาที่จังหวัดภูเก็ตก็ได้ออกประกาศเตือนและชะลอการบินตรงเข้ามา แต่หลังเหตุการณ์สงบก็กลับมาบินตามแผนที่วางไว้”

นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ส่วนอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตขณะนี้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 80 % และหลังจากเดือนกุมภาพันธ์ไปแล้วคาดว่าอัตราการเข้าพักจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 70 %ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาทางสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดโรดโชว์ที่เมืองเมดาน และจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งการโรดโชว์จะส่งผลผลักดันในนักท่องเที่ยวจากประเทศอินโดนีเซียเดินทางเข้ามาภูเก็ตมากขึ้น และประมาณวันที่ 10 – 14 มีนคมนี้ ทางสมาคมฯ และผู้ประกอบการ ตลอดจนองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นมีกำหนดที่จะเดินทางไปร่วมงานส่งเสริมการขายที่งาน ITB ประเทศเยอรมันด้วย ซึ่งภายในงานจะมีการจัดบูธของภูเก็ตโดยเฉพาะ และหวังว่ากาไปโรดโชว์จะช่วยสร้างความเข้าใจและดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้มากยิ่งขึ้น


ร.ร.สตรีภูเก็ตร่วมอนุรักษ์ประเพณีท้องถิ่น




เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 ที่บริเวณด้านหน้าอาคารฉลองราชกุมารี โรงเรียนสตรีภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตัวแทนนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียน ห้องเรียนละ 5 คน จากจำนวน 60 ห้องเรียน ร่วมประกวดจัดตั้งโต๊ะไหว้เทวดา ซึ่งศูนย์สืบค้นและเผยแพร่ข้อมูลบาบ๋าภูเก็ต โรงเรียนสตรีภูเก็ตจัดขึ้น โดยมีนายบัณฑูร ทองตัน ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนสตรีภูเก็ต นายเกียรติศักดิ์ ปิลวาสน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีภูเก็ต แขกผู้มีเกียรติ คณะครู อาจารย์ และนักเรียนของชั้นเรียนต่างๆ เข้าร่วม

นางสาวดวงกมล เอช ครูที่ปรึกษาศูนย์สืบค้นและเผยแพร่ข้อมูลบาบ๋าภูเก็ต โรงเรียนสตรีภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยสำนักศิลปากรที่ 15 จังหวัดภูเก็ต ได้มีหนังสือแจ้งให้โรงเรียนสตรีภูเก็ตได้มีส่วนช่วยอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของชุมชนที่อยู่ใกล้โรงเรียน ดังนั้นฝ่ายธุรการโรงเรียนสตรีภูเก็ตในฐานะหน่วยงานสนับสนุนจึงได้จัดทำศูนย์สืบค้นและเผยแพร่ข้อมูลบาบ๋าภูเก็ตขึ้น โดยมีพิธีเปิดศูนย์ฯ ไปแล้วเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2552 ดังนั้นเพื่อให้นักเรียนได้มีส่วนช่วยสืบสานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นภูเก็ต ประกอบวิสัยทัศน์ของโรงเรียน ในข้อ 5 กล่าวว่านักเรียนสามารถสื่อสารความเป็นภูเก็ตได จึงจัดให้นักเรียนทุกชั้นเรียนได้ร่วมประกวดการจัดโต๊ะไหว้เทวดา เพื่อให้เรียนรู้วิธีการและสามารถนำไปขยายผลให้กับครอบครัวในการร่วมกิจกรรมประเพณีไหว้เทวดาของชาวจีนบาบ๋าภูเก็ต ในช่วงเทศกาลตรุษจีน (วันโช้ยเก้า)

“การจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น เนื่องจากปัจจุบันหากเราไม่อนุรักษ์ วัฒนธรรมท้องถิ่นไว้ก็จะสูญหายไปกับกาลเวลา ที่ผ่านมาศูนย์ฯ บาบ๋าภูเก็ต ได้มีการกิจกรรมการแสดงละครความเป็นมาของคำว่าบาบ๋า เพื่อให้รับรู้ว่าบาบ๋า คือ คนภายนอกที่เข้ามาแต่งงานกับคนท้องถิ่นภูเก็ต กิจกรรมการตั้งโต๊ะไหว้ขบวนแห่พระในงานประเพณีถือศีลกินผัก นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมป่ายปั๋ว ที่ตั้งของไหว้ในโอกาสที่โรงเรียนสตรีภูเก็ตครบ 100 ปี และการประกวดจัดตั้งโต๊ะไหว้เทวดา ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการประกวดแล้วก็จะได้ส่งจานไปให้ศาลเจ้า (อ๊าม) ต่างๆ เพื่อเป็นการบอกกล่าวว่าจะมีคนช่วยสืบสานประเพณีแล้ว”

นางสาวดวงกมล กล่าวว่า หลังจากนี้ก็จะได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของชุมชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้มีส่วนร่วมกับท้องถิ่นในการอนุรักษ์ประเพณีท้องถิ่นอย่างแท้จริง โดยใช้ศูนย์ฯ บาบ๋า ของเป็นศูนย์เผยแพร่ข้อมูล ซึ่งนอกจากนักเรียนจะได้เรียนรู้แล้วยังสามารถที่นำข้อมูลที่จะได้เป็นผู้เผยแพร่ รวมถึงการนำไปปฏิบัติด้วย ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ที่จะเกิดต่อไปนั้นก็สลับสับเปลี่ยนรูปแบบหรือพิธีกรรมอื่นๆ ของการไหว้เทวดาหรือเทศกาลตรุษจีน เช่น แข่งขันพับกระดาษที่ใช้ประกอบพิธีกรรม การแข่งขันกันฉลุลาย เป็นต้น

คาราวานตรวจสุขภาพ


โรงพยาบาลสิริโรจน์ (Phuket International Hospital) นำโดย นายแพทย์สิทธิพร เตชาธรรมนันท์ แพทย์ประจำโรงพยาบาล ออกให้บริการตรวจสุขภาพ อาทิ การตรวจวัดสายตา ตรวจความดันโลหิต และตรวจวัดค่าดัชนีมวลกาย ในโครงการคาราวานตรวจสุขภาพ ซึ่งจัดขึ้นโดยบริษัทกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ณ ศูนย์การค้าบิ๊กซีภูเก็ต