ภูเก็ตไข่มุกคว้า 2 รางวัลพร้อมแบรนด์ “อมร”

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2555 ที่ห้องประชุม บริษัท ภูเก็ตไข่มุก จำกัด ม.2 บ้านสะปำ ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายจิตติ อินทรเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภูเก็ต ไข่มุก จำกัด ได้แถลงเปิดตัวแบรนด์ “อมร” และนักออกแบบของบริษัท ฯ คือ นายไพโรจน์ ศรีธันวา ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดออกแบบเครื่องประดับในงาน GIT Gem & Jewelry Design Award 2011 ซึ่งจัดโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณี และเครื่องประดับแห่งชาติภายใต้แนวคิด " The Mega Project - Jewelry Design Inspired by Architectural Concept " ( สถาปัตย์อันวิจิตร เนรมิตสู่อัญมณี ) และล่าสุดได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2555 สาขาการบริหารอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งจัดโดยกระทรวงอุตสาหกรรม และได้เข้ารับรางวัลกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ณ อาคารสันตืไมตรี ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ทั้งนี้นายจิตติ อินทรเจริญ ได้กล่าวว่า สำหรับแบรนด์ “อมร” ก่อตั้งขึ้นภายใต้แนวคิดที่ว่า The Glamour Of Immortallity หรือ ความงดงามอันเป็นนิรันดร์ โดยการรวมเอาศิลปะและการออกแบบควบคู่กับการคัดสรรค์คุณลักษณะของไข่มุกด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ หรือ ลักชูรี่แบรนด์ ซึ่งแต่ละรูปแบบจะมีเพียงชิ้นเดียว แต่มีให้เลือก 3 โลหะ คือ เนื้อเงิน ทองคำ และทองคำขาว ซึ่งการจัดตั้งแบรนด์ดังกล่าวขึ้นเพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้า และเพื่อยกระดับเป็นสินค้าตลาดไฮเอนที่เน้นการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มีราคาให้เลือกตั้งแต่ระดับหลักหมื่นบาทไปจนถึงหลักล้านบาท

ในส่วนของรางวัลนั้น รางวัลแรกเป็นผลงานชิ้นประวัติศาสตร์ของแบรน “อมร” ภายใต้การบริหารของ บริษัท ภูเก็ต ไข่มุก จำกัด ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการ ประกวดออกแบบเครื่องประดับ ในงาน GIT Gem & Jewelry Design Award 2011 ซึ่งจัดโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณี และเครื่องประดับแห่งชาติภายใต้แนวคิด "The Mega Project - Jewelry Design Inspired by Architectural Concept " (สถาปัตย์อันวิจิตร เนรมิตสู่อัญมณี ) 

ซึ่งแรงบันดาลใจในการออกแบบครั้งนี้ นายไพโรจน์ ศรีธันวา นักออกแบบของ ภูเก็ตไข่มุกได้นำแนวคิดของสนามกีฬารังนก โดยได้มีการคัดเลือกผลงานรอบแรกจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมคัดเลือกผลงานจาก 502 แบบวาด ซึ่งในจำนวนนี้มีผลงานจากจิวเวลลี่ดีไซเนอร์จากประเทศอินเดีย ฮ่องกง และมาเลเซีย แบรน “อมร”ภายใต้การบริหาร ของ บริษัท ภูเก็ตไข่มุก จำกัด โดยนายไพโรจน์ ศรีธันวา นักออกแบบบริษัทได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ของประเทศและได้รับเกียรติจาก ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต ดารานักแสดงชื่อดังเป็นผู้สวมใส่

นายจิตติ กล่าวอีกว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทางบริษัท ภูเก็ตเพิร์ลอินดัสทรี จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งของบริษัทในเครือเดียวกันคว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นแห่งชาติ ประเภทการบริหารอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม มาครอบครองซึ่งรางวัลนี้จัดขึ้นโดยกระทรวงอุตสาหกรรม และนี้ถือเป็นครั้งที่ 30 ในการจัดงานโดยถือเป็นการให้กำลังใจผู้ประกอบการที่มีความคิดริเริ่ม มีความมานะพยายามในการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ โดยได้เข้ารับรางวัลเกียรติจาก นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล และนี่ก็คืออีกหนึ่งความภาคภูมิใจของเราที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดภูเก็ตอีกครั้ง

นายจิตติ ยังกล่าวอีกว่า ซึ่งรางวัลแต่ละรางวัลนั้น เป็นรับประกันทั้งผลงาน และคุณภาพ ที่สามารถเข้าแข่งขันกับบริษัทต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ในส่วนของลูกค้าทั่วไป ก็ยังคงมีผลิตภัณฑ์จำหน่ายเช่นเดิม เนื่องจากเรามีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและสามารถรองรับกลุ่มลูกค้าได้ทุกกลุ่ม โดยการผลิตแต่ละชิ้นงานจะมีการนำเสนอแบบเพื่อให้ลูกค้าให้ความเห็นก่อนว่าชอบหรือไม่ หากมีความชอบมากก็จะทำการผลิตออกมาจำหน่าย แต่หากชอบน้อยก็จะไปปรับปรุงมาใหม่ 

ศุลกากร จับยาไอซ์ กว่า 43.4 กรัม แต่ไร้ผู้ต้องหา

 นายเจริญ ชำนิกลาง หัวหน้าหน่วยสืบสวนปราบปรามภูเก็ต กรมศุลกากร เปิดเผยว่า จากการออกปฏิบัติงานอย่างเข้มงวดและต่อเนื่องของเจ้าหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบหนีศุลกากรในพื้นที่รับผิดชอบ ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบ ผลึกใสคล้ายเกล็ดน้ำแข็ง จำนวน 31 ห่อ ซึ่งบรรจุอยู่ในกล่องไปรษณีย์สีขาว วางปะปนกับสินค้าทั่วไปบริเวณลานกองสินค้าของบริษัทรับจ้างขนสินค้าแห่งหนึ่ง จึงได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด ภาค 8 ทำการตรวจพิสูจน์ผลึกดังกล่าว โดยใช้น้ำยามาควิส พบว่าผลึกดังกล่าวเปลี่ยนกลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม จึงทำให้ว่าเป็นยาไอซ์ น้ำหนักรวม 43.4 กรัม มูลค่าประมาณ 155,000 บาท และจากการเฝ้าสังเกตของเจ้าหน้าที่ไม่พบผู้ใดมาติดต่อขอรับกล่องดังกล่าว จึงได้ทำการยึดสิ่งของดังกล่าวไว้เป็นของกลาง ซึ่งมีความผิดฐานลักลอบหนีศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร ตามมาตรา 27,27 ทวิแห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2463 ประกอบกับมาตรา 16,17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 และพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 จากนั้นได้นำของกลางดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตามนายเจริญ กล่าวด้วยว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของกรมศุลกากรที่มุ่งเน้นในการเร่งรัดปราบปรามสินค้าลักลอบหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อกำกัด เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยนายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากร จึงได้สั่งการให้ นางอรอนงค์ วัชรเศรษฐกุล รองอธิบดีด้านปราบปราม นายราฆพ ศรีสุภอรรถ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม และนายนิมิตร แสงอำไพ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 2 เข้มงวดในการตรวจสอบเป็นพิเศษ และเพื่อให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติการพิเศษเพื่อสกัดกั้น และปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค นายธนาพันธ์ ลิ่ววัฒนากรณ์ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 2 นายจีระพันธ์ จันทรเพชร หัวหน้างานสืบสวนปราบปรามที่ 4 จึงได้สั่งการให้หน่วยสืบสวนปราบปราม ไปดำเนินการวางแผนทำการจับกุมการลักลอบหนีศุลกากรและปกป้องทางสังคม อย่างเข้มข้นโดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติตรวจสอบตามพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

นิทรรศการภาพศิลปะ "One flower One world"

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2555 ที่อาคาร 6 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีในฐานะที่ปรึกษาสภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พร้อมด้วย Professor Yu Xinhui นายกสภามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ร่วมเป็นประธานเปิดงานนิทรรศการภาพศิลปะ "One flower One world" โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมธี สรรพานิช รองอธิการบดีวิทยาเขตภูเก็ต กล่าวต้อนรับ Professor Dr.Ren Jianting ผู้อำนวยการสถาบันขงจื๊อภูเก็ต ฝ่ายจีน ได้กล่าวรายงานการดำเนินงานของสถาบันขงจื๊อภูเก็ตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมีนางอัญชลี วานิช เทพบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ จังหวัดภูเก็ต และแขกผู้มีเกียรติ นักศึกษา มาร่วมในพิธีเปิดนิทรรศการศิลปะภาพวาดจีนในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

สำหรับนิทรรศการภาพศิลปะ "One flower One world" ซึ่งเป็นงานของศาสตราจารย์ Chen Qing รองผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารของ Public Art and Technology Experimental Education Center มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้และคณะศิลปินที่นำมาแสดงในครั้งนี้ จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 2 – 20 มีนาคม 2555 ณ ห้อง 6104 ชั้น 1 อาคาร 6 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ซึ่งการแสดงนิทรรศการแล้วจะยังเป็นการแสดงออกถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์ ตลอดจนความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์แล้ว ยังถือได้ว่าเป็นการแสดงออกถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศไทยอีกด้วย

ซึ่งคนทั่วโลกต่างทราบดีว่ามหานครเซี่ยงไฮ้นั้น นอกจากจะเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจและทางการเงินของโลกแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางทางด้านการศึกษา และศูนย์กลางทางด้านศิลปะ อีกด้วย หากกล่าวเฉพาะทางศิลปะพวกเราทราบชื่อเสียงดีว่า มหานครเซี่ยงไฮ้มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะและห้องแสดงผลงานศิลปะ (Gallery) ที่เปิดให้บริการแก่สาธารณชนทั่วไปเข้าชม มากกว่า 50 แห่ง มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เองก็มีทั้ง ศูนย์ศิลปะ (Arts Center) และคณะวิชาทางด้านวิจิตรศิลป์ (College of Fine Arts) ภายในบริเวณมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็เต็มไปด้วยความงามทางด้านทัศนศิลป์อันได้แก่สถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรม และผลงานทางศิลปะประเภทอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลงานจากศิลปิน คณาจารย์และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ทั้งสิ้น

ทั้งนี้นายชวน หลีกภัย ที่ปรึกษาสภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้กล่าวขอบคุณ Professor Yu Xinhui นายกสภามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ทุกท่าน ที่ได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีเมื่อครั้งที่คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เดินทางเยือนมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ เพื่อทำความร่วมมือทางด้านการจัดการศึกษา เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2554 ที่ผ่านมาอีกด้วย ซึ่งมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เป็นมหาวิทยาลัยที่ทำความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ด้วยดีเสมอมา โดยเฉพาะในส่วนของวิทยาเขตภูเก็ต ซึ่งได้จัดนักศึกษาทุกคนที่ศึกษาในชั้นปีสุดท้ายของหลักสูตรวิเทศธุรกิจจีน ไปเรียนภาคการศึกษาสุดท้าย ณ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เป็นประจำทุกปี มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็ได้ส่งอาจารย์มาสอนที่วิทยาเขตภูเก็ตทุกปีการศึกษาเช่นเดียวกัน ความสัมพันธ์และความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของทั้งสองมหาวิทยาลัย จึงทำให้รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยหน่วยงานที่เรียกว่า The Office of Chinese Language Council International ซึ่งชื่อโดยย่อคือ Hanban ได้สนับสนุนให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ และ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต จัดตั้งสถาบันขงจื๊อร่วมกัน ซึ่งสถาบันขงจื๊อภูเก็ตก็ได้ดำเนินงานอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จสืบเนื่องมาเป็นระยะเวลา 5 ปีกว่าด้วยกัน

ททท.จับมือมาสเตอร์การ์ด กระตุ้นตลาดกอล์ฟ

ที่โรงแรมเวสทิน สิเหร่ เบย์ ภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสรรเสริญ เงารังสี รองผู้ว่าการด้านการตลาดและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับนายเกร็ก ฮิราโนะ รองประธานและผู้จัดการประจำประเทศไทย มาสเตอร์การ์ด เวิลด์วายด์ และนางเดบบราห์ โกลดิ้งแฮม ผู้จัดการฝ่ายการตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาสเตอร์การ์ด เวิลด์วายด์ ได้แถลงข่าว การเปิดโครงการ “72 Hours Amazing Thailand Golf Paradise” ซึ่งเป็นแคมเปญที่ทาง ททท.ร่วมกับมาสเตอร์การ์ด จัดขึ้น เพื่อช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟให้เข้ามาท่องเที่ยวและใช้สนามกอล์ฟ โรงแรม หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เกี่ยวกับกีฬากอล์ฟในประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อช่วยกระตุ้นท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไทยตลอดปี 2555 โดยจัดทำเป็นคู่มือแนะนำสนามกอล์ฟ รีสอร์ท รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการต่างๆ เกี่ยวกับการเล่นกอล์ฟในประเทศไทย ด้วยการใช้จ่ายผ่านบัตรมาสเตอร์การ์ด จะได้รับส่วนลดและสิทธิพิเศษต่างๆ จากร้านค้าและสนามกอล์ฟที่เข้าร่วมโครงการถึง 90 แห่ง ครอบคลุมมากกว่า 20 จังหวัด ใน 5 ภาคของประเทศไทย หลังจากที่เคยร่วมมือกันจัดแคมเปญต่างๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวมากมาย ได้แก่ 72 Hours Amazing Bangkok & Beyond , Chiang Mai, Phuket, Pattaya, Hua Hin & Beyond, Samui,Khao Yai & Beyond และ Krabi & Beyond ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ

นายสรรเสริญ กล่าวว่า เนื่องจากโครงการต่างๆ ที่ทาง ททท.และมาสเตอร์การ์ดได้ร่วมมือกันมาตลอดระยะเวลา 5 ปี ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จึงได้ขยายความร่วมมือสู่การส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเข้ามาเล่นกอล์ฟในประเทศไทยมากขึ้น เพราะตามแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท.มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านกีฬากอล์ฟเข้าไปด้วย ปัจจุบันประเทศไทยมีสนามกอล์ฟที่ได้มาตรฐานถึง 250 สนาม และได้จัดให้มีการแข่งขันกอล์ฟรายการใหญ่ๆ ระดับสากลมาแล้วหลายครั้ง ทำให้กีฬากอล์ฟในประเทศไทยเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ จากสนามกอล์ฟที่ได้มาตรฐานและการบริการที่ดี

“สิทธิพิเศษที่นักกอล์ฟจะได้จากความร่วมมือระหว่าง ททท.กับมาสเตอร์การ์ด โดยผู้ใช้บริการสนามกอล์ฟและอื่นๆ ที่มีสัญลักษณ์ของมาสเตอร์การ์ดตามโครงการนี้ จะได้รับส่วนลดพิเศษ 10-40% จากสนามกอล์ฟที่เข้าร่วมโครงการ 86 แห่ง โดยคาดว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเล่นกอล์ฟในประเทศไทยเพิ่มขึ้นประมาณ 10%”

นายสรรเสริญ กล่าวด้วยว่า นักท่องเที่ยวกอล์ฟที่เข้ามาในประเทศไทยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มตลาดในเอเชีย ทั้งเกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน มีทั้งการจัดเป็นทัวร์นาเม้นท์เข้ามาแข่งขัน และเข้ามาเล่นกอล์ฟตามปกติ นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่เริ่มจะเข้ามาตีกอล์ฟมากขึ้น อันเป็นผลมาจากการเชิญเอเย่นต์ทัวร์จีนจากปักกิ่ง เชียงไฮ้ มาเล่นกอล์ฟในประเทศไทย

ด้านนายเกร็ก ฮิราโนะ รองประธานและผู้จัดการประจำประเทศไทย มาสเตอร์การ์ด เวิลด์วายด์ กล่าวว่า โครงการ 72 Hours Amazing Thailand Golf Paradise เป็นอีกหนึ่งแคมเปญที่เป็นความร่วมมือระหว่าง ททท.กับมาสเตอร์การ์ด เพื่อส่งเสริมการเล่นกอล์ฟในประเทศไทย โดยมอบส่วนลดพิเศษต่างๆ สำหรับผู้ใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิทและเครดิตของมาสเตอร์การ์ด ในการเข้าไปใช้บริการสนามกอล์ฟชั้นนำเกือบทุกแห่งในประเทศไทย เช่น คีรีมายา กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา จ.นครราชสีมา เรดเมาท์เท่น กอล์ฟ คลับ จ.ภูเก็ต, ซัมมิท กรีนวัลเล่ย์ เชียงใหม่ คันทรีคลับ จ.เชียงใหม่ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งเรื่องของที่พัก สปา รวมทั้งอุปกรณ์การเล่นกอล์ฟจากร้านค้าที่ร่วมรายการ มั่นใจว่าโครงการนี้จะมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นผู้เล่นกอล์ฟในเข้ามาเล่นกอล์ฟในประเทศไทยมากขึ้นอย่างแน่นอน

เร่งระดมสมองเสนอของบประมาณ ครม.สัญจร

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2555 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต (หลังใหม่) นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะทำงานกลั่นกรองโครงการของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันเสนอคณะรัฐมนตรี และคณะทำงานเตรียมแผนงาน/โครงการพัฒนาพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อพิจารณากลั่นกรองโครงการที่เชื่อมโยงกับการพัฒนาและปัญหาในพื้นที่ 5 จังหวัดอันดามัน ประกอบด้วย ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่และตรัง เพื่อนำเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณปี 2555 ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ซึ่งกำหนดจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 19 – 20 มีนาคมนี้ ที่ จ.ภูเก็ต โดยมีผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดกลุ่มอันดามัน เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนเข้าร่วมนำเสนอโครงการ

สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณานั้น ประกอบด้วย ความพร้อมของโครงการซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที มีพื้นที่ดำเนินการแล้ว มีแบบแปลนและประมาณการราคาก่อสร้าง มีบุคลากรที่มีความพร้อม และการนำเทคโนโลยี รวมทั้งจะต้องเป็นโครงการเร่งด่วนซึ่งเป็นความต้องการของประชาชนหากไม่ดำเนินการประชาชนได้รับความเดือดร้อนและเป็นโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

นายตรี กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้ข้อสรุปว่า เลือกมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต เป็นสถานที่จัดการประชุม เนื่องจากมีความเหมาะสม และปรับปรุงเพียงเล็กน้อย ซึ่งเน้นความเรียบง่าย ประหยัด พอเพียงและไม่ฟุ่มเฟือย ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วส่วนเรื่องของแผนงาน/โครงการที่จะเสนอขอรับงบประมาณทั้งในส่วนของกลุ่มจังหวัดอันดามัน และงบประมาณของแต่ละจังหวัดได้มีการประชุมหารือกันมาบ้างแล้ว แต่จะต้องมาจัดลำดับความสำคัญ เพราะมีข้อกำหนดว่า ทั้งโครงการของกลุ่มจังหวัดเสนอได้ไม่เกิน 10 โครงการ ในวงเงินงบประมาณ 100 ล้านบาท เช่นเดียวกับโครงการของแต่ละจังหวัดซึ่งเสนอได้ไม่เกิน 10 โครงกาง งบประมาณไม่เกิน 100 ล้านบาทเช่นกัน

“คาดว่าแผนงาน/โครงการและงบประมาณของกลุ่มจังหวัดและของแต่ละจังหวัดจะสามารถพิจารณาและตกผลึกได้ในสัปดาห์หน้า หลังจากนั้นก็จะเสนอต่อคณะกรรมการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบอีกครั้ง และนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป”

นายตรี กล่าวด้วยว่า ในส่วนของแผนงาน/โครงการของกลุ่มจังหวัดที่ได้มีการนำเสนอมาแล้วนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายโครงการโครงการพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงการท่องเที่ยวและโลจิสติกส์ ภูเก็ต-กระบี่ งบประมาณ 95 ล้าน โครงการก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยว ต.เกาะยาวน้อย องเกาะยาว งบประมาณ 60 ล้านบาท โครงการก่อสร้างโรงเรียนนานาชาติอันดามัน งบประมาณ 30 ล้านบาท โครงการปรับปรุงผิวจราจรพร้อมภูมิทัศน์เพื่อรองรับการเชื่อมโยงพัฒนาการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันเชิงคุณภาพ งบประมาณ 30 ล้าน โครงการศูนย์ฝึกอบรมลูกเสือนานาชาติอันดามัน งบประมาณ 30 ล้านบาท โครงการทางรถไฟสายอันดามัน เป็นต้น ส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นโครงการที่นำเสนอเน้นเกี่ยวกับการแก้ปัญหาจราจรและการคมนาคมขนส่ง โครงการที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา สาธารณสุข และแหล่งน้ำ เช่น โครงการอุโมงค์ป่าตอง โครงการถนนคลองเกาะผี 600 เมตร โครงการรถไฟฟ้ารางเบา เป็นต้น

ในส่วนของนายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของภาคเอกชนนั้นก็ได้มีการประชุมร่วมกับภาคราชการที่เกี่ยวข้องมาแล้ว โดยหลักๆ เรื่องเร่งด่วนที่จะต้องเร่งแก้ไข คือ ปัญหาด้านการจราจรในจังหวัด ทั้งโครงการที่จะต้องเร่งแก้ไขเฉพาะหน้า และการแก้ปัญหาระยะยาว โดยเฉพาะการเพิ่มทางเลือกในการเดินทางด้วยการเพิ่มรถโดยสารสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรถโดยสารประจำทาง หรือรถไฟฟ้ารางเบา หรืออื่นๆ เพราะเชื่อว่าหากไม่ดำเนินการตั้งแต่บัดนี้ ในอีก 4-5 ปีข้างหน้าก็จะต้องมาพูดถึงเรื่องของการตัดถนนเพิ่มเพื่อรองรับการสัญจรไปมา

อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้ประกอบการภาคเอกชนได้เสนอโครงการทางรถไฟสายอันดามัน เพื่อเชื่อมการเดินทางท่องเที่ยว ตลอดจนการขนส่งสินค้าในกลุ่มจังหวัดอันดามันตั้งแต่ระนอง พังงา กระบี่ ตรังและภูเก็ต เพื่อประหยัดต้นทุนในการขนส่ง ไม่มีปัญหาเรื่องของมลพิษ และเป็นการเพิ่มทางเลือกของการเดินทาง เพราะปัจจุบันจะมีเฉพาะทางเครื่องบินและรถยนต์เป็นหลัก ประกอบการขณะนี้สนามบินภูเก็ตได้มีการพัฒนาปรับปรุงเพื่อให้สามารถรองรับผู้โยสารได้ 12.5 ล้านคนต่อปี และในส่วนของกระบี่ก็อยู่ระหว่างการปรับปรุงเช่นกัน หากทำได้ก็จะทำให้เกิดการกระจายนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณ 25,000 ล้านบาท แต่เบื้องต้นในการประชุม ครม.สัญจรนั้น เพื่อต้องการให้อนุมัติในหลักการและให้มีการศึกษาความเป็นไปได้ในเบื้องต้น เพื่อจะได้สามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ เพราะคิดว่าขณะนี้สำหรับกลุ่มจังหวัดอันดามันเรื่องของระบบโลจิสติกส์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก นายสมบูรณ์กล่าว

เทศบาลนครภูเก็ตออกหน่วยพบประชาชน

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2555 ที่ศาลเจ้าซำเซ้จูฮุด (เขารัง) ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง ภูเก็ต นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาลนครภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ พนักงานเทศบาลนครภูเก็ต ได้ลงพื้นที่และร่วมออกหน่วยบริการประชาชน ตามโครงการเทศบาลพบประชาชน ประจำปี 2555 โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมงานในครั้งนี้

สำหรับการออกหน่วยบริการประชาชนในครั้งนี้ ได้มีการให้บริการตรวจสุขภาพ ตรวจวัดความดัน ตรวจวัดสายตาค้นหาโรคต้อกระจก บริการให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับงานทะเบียนราษฎร งานประปา งานออกแบบก่อสร้าง บริการตัดผมจากโรงเรียนสอนตัดผมนิรันดร์รัตน์ และร้านสมศักดิ์ซาลอน การสาธิตทำอาหารจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต บริการฉีดวัคซีนสัตว์เลี้ยง และยังมีการแจกต้นไม้ ทรายอะเบท น้ำปุ๋ยชีวภาพ ยาเบื่อหนู และยังมีการรับแลกขยะอันตราย ประเภทถ่านไฟฉาย แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ นำมาแลกยาสามัญประจำบ้าน พร้อมลงพื้นที่สอบถามปัญหาต่าง ๆ จากประชาชน