จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2553

นักหมากรุกไทยสนใจเข้าร่วมจำนวนมาก



เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 13 มีนาคม 2553 ที่ใต้ถุนโรงแรมออน ออน ภูเก็ต ถ.พังงา ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง ภูเก็ต นายอนุรักษ์ ธารสิริโรจน์ ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลสิริโรจน์ ภูเก็ต เป็นประธานเปิดแข่งขัน “หมากรุกไทย ภูเก็ต ออน ออน โอเพ่น” ครั้งที่ 1 ชิงเงินรางวัลกว่า 20,000 บาทพร้อมโล่รางวัล โดยจัดให้มีการแข่งขันระหว่างวันที่ 13 – 14 มีนาคม 2553 โดยได้รับความสนใจจากนักกีฬาหมากรุกไทยจากทั่วประเทศเข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 40 คน

ทั้งนี้นายอนุรักษ์ ธารสิริโรจน์ ได้กล่าวว่า เนื่องจากกีฬาหมากรุกไทย ได้มีบุคคลให้ความสนใจเล่นกันมาเป็นเวลาช้านาน ประกอบกับโรงแรมออน ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งแรกของจังหวัดภูเก็ต ที่มีอายุยืนยาวมาตลอด เช่นกัน นอกจากนี้บริเวณใต้ถุนโรงแรม จะมีประชาชนนิยมเล่นหมากรุกไทยและเล่นกันมากว่า 10 ปี ซึ่งจะเห็นว่ากีฬาชนิดนี้ได้รับความสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มของผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนทำงานและวัยรุ่น จึงได้รวมกลุ่มจัดตั้งเป็นชมรมหมากรุกไทยขึ้น หลังจากได้จัดตั้งเป็นกลุ่มขึ้นมาแล้ว ก็ได้มีแนวความคิดว่า น่าจะจัดให้การประลองความคิดความอ่านในการเดินหมากรุกขึ้น จึงได้จัดให้การการแข่งขัน “หมากรุกไทย ภูเก็ต ออน ออน โอเพ่น” ครั้งที่ 1 ขึ้น เพื่อเป็นการประสานความสามัคคีของกลุ่มที่เล่นหมากรุกด้วยกัน รวมทั้งการใช้ความคิด วิเคราะห์สถานการณ์ พัฒนาการใช้สมอง ซึ่งเป็นวิธีป้องกันโรคอัลไซเมอร์และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นและอนุรักษ์กีฬาพื้นบ้านของไทย

การแข่งขันจะแบ่งออกเป็นประเภททั่วไปและประเภทดาวรุ่ง โดยในรอบแรกจะแบ่งสาย และแข่งแบบพบกันหมดในสาย กระดานเดียวผู้ชนะจะได้ 2 คะแนน แพ้จะได้ 1 คะแนน คัดเอาที่หนึ่งและสอง ไปแข่งประเภททั่วไป ส่วนที่สามและสี่ ไปแข่งในประเภทดาวรุ่ง ส่วนในรอบที่สองแข่งขันแบบสองกระดาน หากยังไม่สามารถตัดสินแพ้ – ชนะ จะแข่งหมากป้องในกระดานที่สามจนกว่าจะทราบผลแพ้ – ชนะ โดยผู้ชนะจะได้เข้ารอบต่อไป ส่วนผู้แพ้จะตกรอบ สำหรับผู้ชนะในแต่ละรุ่น จะได้รับรางวัลเป็นเงินสด พร้อมด้วยโล่เกียรติยศ

งาน ITB 2010 ณ กรุงเบอร์ลิน



ในระหว่างวันที่ 10 – 14 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมุย, พัทยา, พังงา, กระบี่, บางกอกแอร์เวย์ส, การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยและผู้ประกอบการภาคเอกชนอื่นๆจากประเทศไทย ได้เดินทางไปร่วมงานส่งเสริมการขายการตลาด ITB 2010 ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน

โดยในวันที่ 11 – 12 จะเป็นงาน เทรดแฟร์ ซึ่งเปิดให้เฉพาะผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้เจรจาซื้อขายสินค้าทางการท่องเที่ยว และในวันที่ 13 – 14 จะเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมชมงาน โดยในปีนี้ ทางเมสเส่ เบอร์ลิน ผู้จัดงานคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานทั้งหมดประมาณ 1.1 ล้านคน บรรยากาศการซื้อขายในงานเต็มไปด้วยความคึกคัก ภายในฮอล ๒๖ บี มีการซื้อขายสินค้าทางการท่องเที่ยวและการเซ็นสัญญาการจองห้องพักกันอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีกระแสข่าวจากประเทศไทยเรื่องการประท้วง แต่ก็ไม่ได้สร้างความกังวลใจให้กับเอเย่นต์ในต่างประเทศมากนัก อากาศที่กรุงเบอร์ลินค่อนข้างหนาว ประมาณ ลบ 6 องศา มีหิมะและฝนตกสลับกัน

อวยพรวันเกิด


นพ.บดินทร์ ละเอียด รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และปารียา จุลพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจสาธารณะ เป็นตัวแทนมอบบัตรชีววัฒนะ Value Gold ให้แก่นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เนื่องในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิด โดยมีนางไทศิกา ไพรสงบ ร่วมแสดงความยินดีด้วย ณ จวนผู้ว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา

ทอดผ้าป่าหนังสือและของเล่น


นพ.บดินทร์ ละเอียด รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และปารียา จุลพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจสาธารณะ เป็นตัวแทนรับหนังสือและของเล่นในโครงการทอดผ้าป่าหนังสือและของเล่น เพื่อมอบให้ห้องสมุดเด็กวัดสามัคคีธรรม(ป่าส้าน) อ.คุระบุรี จ.พังงา ซึ่งอยู่ในความดูแลของพระครูสุวัตถิธรรมรัต(เจ้าอาวาส) โดยผู้สนใจสามารถร่วมบริจาคหนังสือสำหรับเด็ก นิทาน อุปกรณ์กีฬาและของเล่นเสริมจินตนาการ ได้ที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต, ชมรมผู้สื่อข่าวจังหวัดภูเก็ต(ศาลากลาง), สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT(เขารัง), โรงแรมบ้านต้นไทร(ป่าตอง), โรงแรมสิริภูเก็ต(ถนนเยาวราช) และบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนลลอว์เฟิร์ม จำกัด(สะปำ) ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มี.ค. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 1719 ต่อ 2297


วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2553

ร่วมงานวันสถาปนา ทัพเรือภาคที่ 3


นพ.บดินทร์ ละเอียด รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และปารียา จุลพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจสาธารณะ มอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดีแก่ พล.ร.ต.สุพจน์ สุดประเสริฐ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 เนื่องในงาน วันคล้ายวันสถาปนา ทัพเรือภาคที่ 3 ณ อาคารหอประชุม ทัพเรือภาคที่ 3 เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา


วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2553

วันครบรอบวันสถาปนา ทัพเรือภาค3


เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 11 มีนาคม 53 ที่ห้องประชุมทัพเรือภาค 3 ต.วิชิต อ.เมือง ภูเก็ต พลเรือโทชุมนุม อาจวงษ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นประธานในพิธีทางศาสนา เนื่องในวันสถาปนาทัพเรือภาคที่ 3 โดยมีรท.ภูมิศักดิ์ หงษ์หยก สว.ภูเก็ต นายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งตัวแทนจากภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม

พลเรือโทชุมนุม กล่าวว่า กองทัพเรือ ได้แบ่งพื้นที่ และกำหนดขอบเขตรับผิดชอบทางทะเล โดยให้มีกองกำลังทางเรือรับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ โดยใช้ชื่อ “กองเรือภาค” ซึ่งกระทรวงกลาโหมได้อนุมัติให้ กองทัพเรือแบ่งพื้นที่ปฏิบัติการเป็น 3 ภาค เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2535 โดยมอบหมายให้มีหน้าที่ในการรักษาเอกราชอธิปไตย ความมั่นคงของชาติทางทะเล โดยมุ่งเน้นถึงจุดยุทธศาสตร์ และความสำคัญของทะเลด้านอ่าวไทย และทะเลอันดามัน ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ เป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญ อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ กองทัพเรือตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จึงได้จัดตั้ง กองเรือเฉพาะกิจภาคขึ้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2534 ซึ่งกองเรือภาคที่ 3 รับผิดชอบด้านทะเลอันดามัน รวมพื้นที่รับผิดชอบทั้งสิ้น 6 จังหวัด ดังนี้ คือ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และ สตูล
และต่อมาเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2552 ได้มีพระราชกฤษฏีกา แบ่งส่วนราชการกองทัพเรือ กองทัพไทย และกระทรวงกลาโหมขึ้นใหม่อีกครั้ง โดยในส่วนของกองทัพเรือได้มีการปรับปรุงโครงสร้างหน่วยใหม่ โดยจัด “ทัพเรือภาคที่ 3” ขึ้นแทน “กองเรือภาคที่ 3 กองเรือยุทธการ” มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการป้องกันราชอาณาจักร และรักษาความมั่นคง รวมทั้งผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในพื้นที่รับผิดชอบ จากภัยคุกคามต่าง ๆ และดำเนินการเกี่ยวกับการฐานทัพ การป้องกันพื้นที่ การสารวัตรทหาร ด้านกิจการพลเรือน และการควบคุมเรือพาณิชย์ ตามที่กองทัพเรือมอบหมาย โดยมีผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ

ผบช.ภ.8 มั่นใจไม่มีปัญหาการชุมนุมเสื้อแดง


พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้กล่าวภายหลังเป็นประธานปิดการอบรมหลักสูตร การข่าวเพื่อความมั่นคง ซึ่งทางงานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรกะทู้ จัดขึ้นให้กับผู้ประกอบการรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้าง (ตุ๊กตุ๊ก) รถรับจ้างผู้ประกอบการรถเช่า อาสาสมัครตำรวจบ้าน สมาชิก อป.พร.พนักงานรักษาความปลอดภัยและกลุ่มมวลชนอื่นๆ ในพื้นที่ป่าตอง เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่ม นปช.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 มีนาคมนี้ ที่กรุงเทพมหานคร ว่า สำหรับในพื้นที่รับผิดชอบ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ก่อนหน้านี้ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดทำการฝึกซ้อมเตรียมความพร้อมของกองร้อยควบคุมฝูงชนจังหวัดละ 2 กองร้อย เพื่อรับมือหากเกิดเหตุการณ์ความผิดปกติขึ้น แต่จากการติดตามทางด้านการข่าวไม่พบการรวมตัวชุมนุมในพื้นที่แต่อย่างใด แม้จะมีการเคลื่อนไหวบ้างแต่ก็เป็นส่วนน้อยมาก

“กรณีของรอยต่อในการเดินทางไปรวมตัวกันที่ส่วนกลางนั้นได้เน้นให้มีการตรวจสอบในเรื่องของการพกพาอาวุธเป็นหลัก รวมถึงสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ เพื่อป้องกันมิให้เกิดการทำผิดกฎหมาย ส่วนกรณีการเดินทางปกติของผู้ที่จะไปรวมตัวกับมวลชนที่กรุงเทพมหานครนั้นเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ตามกฎหมาย ไม่ได้มีการสกัดกั้นแต่อย่างใด ยกเว้นว่าหากมีการพกพาอาวุธ ก็ต้องมีการดำเนินกันไปตามขั้นตอนของกฎหมาย”

พล.ต.ท.พิทักษ์ กล่าวด้วยว่า จากการติดตามทางด้านการข่าวภาพรวมของพื้นที่รับผิดชอบภาคใต้ตอนบนไม่มีสิ่งบอกเหตุอะไรที่ผิดปกติ เพราะในส่วนของแกนนำชุมนุมต่างออกมายืนยันว่าจะมีการรวมตัวกันและเรียกร้องอย่างสันติ ไม่มีอาวุธหรือความรุนแรงแต่อย่างใด ซึ่งก็หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไรเกิดขึ้น เพราะจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยว โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ต พังงา กระบี่ สมุย

ขณะที่ พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกะทู้ กล่าวว่า จากการติดตามในพื้นที่ก็ไม่พบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาก็ได้มีการเตรียมความพร้อมติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด แต่ก็ไม่ได้ประมาท หากมีการชุมนุมเกิดขึ้นในพื้นที่ด้วยก็ได้เตรียมความพร้อมสำหรับอพยพนักท่องเที่ยวไปยังจุดปลอดภัย แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น โดยเฉพาะภูเก็ตซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักสำคัญ


วันพุธที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2553

อบรมช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน



พ.ต.อ.นพ.โสภณ กฤษณะรังสรรค์ ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจ รพ.กรุงเทพภูเก็ต และเลขาคณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวิต สมาคมแพทย์โรคหัวใจ แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ นำทีมพยาบาลและเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร รพ.กรุงเทพภูเก็ต ฝึกสอนการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน ให้แก่นักเรียนโรงเรียนเชิงทะเลวิทยาคม ในโครงการฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในจังหวัดภูเก็ต โดยโรงเรียนเชิงทะเลวิทยาคม ถือเป็นโรงเรียนที่ 4 ของการฝึกอบรมที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2553



ศึกษาดูงานทัพเรือภาค 3



พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผบ.ทรภ.3 ให้การต้อนรับ รศ.ดร.เผดิมศักดิ์ จารยะพันธุ์ ผู้อำนวยการหลักสูตร หัวหน้าคณะจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยนำคณาจารย์นิสิต และ จนท.หลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบันฑิต สาขาวิชาการบริหารกิจการทางทะเล (สหสาขาวิชา) จำนวน 20 คน เพื่อศึกษาดูงานในพื้นที่ และรับฟังการบรรยายสรุปภารกิจของ ทรภ.3 ณ ห้องรับรอง บก.ทรภ.3 อ.เมือง จ.ภูเก็ต


“หมากรุกไทย ภูเก็ต ออน ออน โอเพ่น"


 
เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 9 มีนาคม 2553 ที่ใต้ถุนโรงแรมออน ออน ภูเก็ต ถ.พังงา ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง ภูเก็ต นายอนุรักษ์ ธารสิริโรจน์ ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลสิริโรจน์ ภูเก็ต ในฐานะประธานการจัดการแข่งขัน “หมากรุกไทย ภูเก็ต ออน ออน โอเพ่น” ครั้งที่ 1 พร้อมด้วยนายอำนวย อธิกเจิมมาศ และนายสมทรง พรหมลิขิต กรรมการชมรมหมากรุกไทยภูเก็ต ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดการแข่งขัน “หมากรุกไทย ภูเก็ต ออน ออน โอเพ่น” ครั้งที่ 1 ชิงเงินรางวัลกว่า 20,000 บาทพร้อมโล่รางวัล ซึ่งจะขึ้นในระหว่างวันที่ 13 – 14 มีนาคม 2553 ณ โรงแรมออน ออน ภูเก็ต โดยมีคณะกรรมการและสื่อมวลชนเข้าร่วม

ทั้งนี้นายอนุรักษ์ ธารสิริโรจน์ ประธานจัดการแข่งขัน ได้กล่าวว่า เนื่องจากกีฬาหมากรุกไทย ได้มีบุคคลให้ความสนใจเล่นกันมาเป็นเวลาช้านาน ประกอบกับโรงแรมออน ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งแรกของจังหวัดภูเก็ต ที่มีอายุยืนยาวมาตลอด เช่นกัน นอกจากนี้บริเวณใต้ถุนโรงแรม จะมีประชาชนนิยมเล่นหมากรุกไทยและเล่นกันมากว่า 10 ปี ซึ่งจะเห็นว่ากีฬาชนิดนี้ได้รับความสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มของผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนทำงานและวัยรุ่น จึงได้รวมกลุ่มจัดตั้งเป็นชมรมหมากรุกไทยขึ้น หลังจากได้จัดตั้งเป็นกลุ่มขึ้นมาแล้ว ก็ได้มีแนวความคิดว่า น่าจะจัดให้การประลองความคิดความอ่านในการเดินหมากรุกขึ้น จึงได้จัดให้การการแข่งขัน “หมากรุกไทย ภูเก็ต ออน ออน โอเพ่น” ครั้งที่ 1 ขึ้น ในระหว่างวันที่ 13 – 14 มีนาคม 53 โรงแรมออน ออน ภูเก็ต ถ.พังงา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง ภูเก็ต เพื่อเป็นการประสานความสามัคคีของกลุ่มที่เล่นหมากรุกด้วยกัน รวมทั้งการใช้ความคิด วิเคราะห์สถานการณ์ พัฒนาการใช้สมอง ซึ่งเป็นวิธีป้องกันโรคอัลไซเมอร์และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นและอนุรักษ์กีฬาพื้นบ้านของไทย

ด้านนายสมทรง พรหมลิขิต กรรมการชมรมหมากรุกไทยภูเก็ต ได้กล่าวว่า การแข่งขันจะแบ่งออกเป็นประเภททั่วไปและประเภทดาวรุ่ง โดยในรอบแรกจะแบ่งสาย และแข่งแบบพบกันหมดในสาย กระดานเดียวผู้ชนะจะได้ 2 คะแนน แพ้จะได้ 1 คะแนน คัดเอาที่หนึ่งและสอง ไปแข่งประเภททั่วไป ส่วนที่สามและสี่ ไปแข่งในประเภทดาวรุ่ง ส่วนในรอบที่สองแข่งขันแบบสองกระดาน หากยังไม่สามารถตัดสินแพ้ – ชนะ จะแข่งหมากป้องในกระดานที่สามจนกว่าจะทราบผลแพ้ – ชนะ โดยผู้ชนะจะได้เข้ารอบต่อไป ส่วนผู้แพ้จะตกรอบ สำหรับผู้ชนะในแต่ละรุ่น จะได้รับรางวัลเป็นเงินสด พร้อมด้วยโล่เกียรติยศ ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขันโดยเสียค่าสมัคร 100 บาท ได้ที่โรงแรมออน ออน ภูเก็ต ไม่จำกัดจำนวน ซึ่งในขณะนี้จากการประสานงานไปยังชมรมหมากรุกต่างๆ ทั่วประเทศ มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมการแข่งขันแล้วจำนวน 30 คน โดยผู้สมัครที่ได้สมัครมาแล้วมีอายุน้อยที่สุดคือ 6 ขวบ และอายุมากที่สุดคือ 73 ปี คาดว่าเมื่อถึงวันจะมีนักกีฬาหมากรุกเข้าร่วมการแข่งขันไม่น้อยกว่า 50 คนแน่นอน หรือหากผู้ที่สนใจที่จะได้ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณสมยศ 087-890 4361, คุณอำนวย 081-569 7008, คุณสมทรง 084-188 5583

ตร.ฉลองกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง


เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 10 มีนาคม 53 ที่ห้องประชุมสภ.ฉลอง อ.เมือง ภูเก็ต พ.ต.อ.วิชิต อินทรศร ผกก.สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณรงค์ ลักษณะวิมล รองผกก.ปป. พ.ต.ท.พาชัย มัธยันต์ พ.ต.ท.วีรยุทธ สิทธิรัตนกุล สวป.ร.ต.ท.ปฐพี ศรีชาย รองสวป. ได้ร่วมกันแถลงผลการระดมกวาดล้างปัญหาอาชญากรรม-ยาเสพติดในพื้นที่ความรับผิดชอบ โดยเมื่อคืนวันที่ 9 มีนาคม 53 ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายสมบูรณ์ จันทรเขต อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 ม.1 ต.โชกเหนือ อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนยาวแบบไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก จับกุมได้ที่บริเวณซอยยอดเสน่ห์ ม.10 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตทั้งที่มิใช่กรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนและโดยไม่มีเหตุอันควร และจับกุมนายดีแลนด์ บรันค์คัมป์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ต.หนองกลับ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ (ลูกครึ่งไทย-เยอรมัน) พร้อมด้วยของกลางยาไอซ์ 2 กรัม ยาบ้า 1 เม็ด จับกุมได้ที่ซอยข้างโรงน้ำดื่มกรีน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่จึงดำเนินคดีในข้อหามีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อไป

ทั้งนี้จากการสอบสวนนายนายดีแลนด์ บรันค์คัมป์ ก็ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์มาจากตำบลกะรน เพื่อมาซื้อยาเสพติดจากนักท่องเที่ยวรายหนึ่งที่พักอยู่ที่ซอยโคกโตนด ม.10 ต.ฉลอง ซึ่งนักท่องเที่ยวรายนี้มีจุดเด่นที่สามารถพูดภาษาไทยได้ชัดเจน เนื่องจากมาอยู่ในประเทศไทยมานานแล้ว และมีครอบครัวรวมทั้งภรรยาสาวชาวไทย โดยได้ซื้อยาไอซ์ทั้งหมดราคา 3,000 บาท และยาบ้า 500 บาท 1 เม็ด หลังจากนั้นจะพากันไปแบ่งให้เพื่อนสาวบาร์เบียร์ ที่รออยู่ที่ซอยข้างโรงน้ำดื่มกรีน แต่ก็มาเจอด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และถูกจับกุมในที่สุด ขณะทางเจ้าหน้าที่เตรียมล่าคอนักท่องเที่ยวขายยาเสพติดรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้วเนื่องจากมีพฤติกรรมค้ายาเสพติให้แก่นักงานสาวบาร์เบียร์และกลุ่มผู้เที่ยวกลางคืนมานานแล้ว

ส่วนการจับกุมคดีอาวุธปืนเจ้าหน้าที่สภ.ฉลอง ตั้งด่านตรวจที่ ซอยยอดเสน่ห์ ม.10 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เห็นนายสมบูรณ์ จันทรเขต อายุ 34 ปี ขับขี่รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบอร์นซเงิน หมายเลขทะเบียน บฉ-6564 ภูเก็ต ขับผ่านมามีท่าทางพิรุธ เจ้าหน้าที่ขอตรวจค้นพบอาวุธปืนดังกล่าวอยู่ที่ที่เบาะหลังคนขับจึงควบคุมตัวดำเนินคดีดังกล่าว เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาและอ้างว่าจะนำปืนไปยิงสัตว์ในป่าละเมาะบริเวณใกล้เคียง

ตร.ป่าตองปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง


เมื่อเวลา 13.30 น.ของวันที่ 10 มีนาคม 53 ที่ห้องประชุมชั้น 3 สภ.กะทู้ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วยพ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว ผกก.สภ.กะทู้ พ.ต.ท.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสน์ สวป.ทนท.หน.ชปส.สภ.กะทู้ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดทั้งผู้เสพและผู้ค้าในห้วงเวลาระหว่างวันที่ 2 – 10 มีนาคม 53 จำนวน 11 ราย ผู้ต้องหาจำนวน 11 คน พร้อมด้วยของกลาง ประกอบด้วยยาไอซ์ จำนวน 3.2 กรัม ยาบ้าจำนวน 233 เม็ด และกัญชาจำนวน 22 กรัม ในข้อหามียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองเพื่อเสพ หรือครองครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย

ทั้งนี้พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้กล่าวว่า หลังจากได้สั่งการณ์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดภ.จว.ภูเก็ต ออกกวาดล้างพร้อมทั้งย้ำเน้นในการแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติด ไม่ให้มีในพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กะทู้ ก็ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ออกเป็น 2 ชุด โดยชุดมีพ.ต.ท.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสน์ สวป.ทนท.หน.ชปส.สภ.กะทู้ เป็นหัวหน้าชุด ทำหน้าที่ในการสืบสวน และหาข่าวในการค้ายาเสพติดพร้อมทั้งได้จับกุมผู้ที่กระทำความผิด หลังจากจับกุมตัวมาได้ ก็จะให้เจ้าหน้าที่อีกชุดในการขยายผลการจับกุม ซึ่งที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สามารถจับกุมตัวผู้ต้องได้จำนวน 11 คน พร้อมของกลาง โดยเริ่มวันที่ 2 มีนาคม จับกุมผู้เสพมาได้จำนวน 4 ราย ซึ่งทั้ง 4 รายมียาบ้าและยาไอซ์ จากนั้นในวันที่ 4 มีนาคม เจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมผู้ค้ายาบ้ารายย่อยอีก 2 ราย และวันที่ 6 มีนาคม สามารถจับกุมผู้เสพยาไอซ์อีก 3 ราย จากนั้นในวันที่ 9 มีนาคม 53 ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ขยายผลการจับกุมผู้ค้าโดยการล่อซื้อยาบ้าจำนวน 200 เม็ดจาก นางสาวลีลาวดี แสนพรหม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 594/2 ซ.ลำปรุ ต.ในเมือง อ.เมือง นครศรีธรรมราช โดยจับกุมได้ที่หน้า ทีเจ 189 แมนชั่น ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ภูเก็ต ซึ่งโดยผู้ต้องหาจะนำยาเสพติดไปขายให้กับกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มผู้หญิงทำงานกลางคืนในราคาเม็ดละ 300 – 500 บาท โดยจะรับของมาจากเพื่อน ที่อยู่ในเขตเทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้ขยายผลให้กับทางสภ.เมือง ภูเก็ตได้ติดตามต่อไป

พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ยังกล่าวอีกว่า ในขณะนี้พื้นที่จังหวัดภูเก็ตจะมียาเสพติดประเภทยาไอซ์ ระบดเพิ่มมากขึ้น ในห่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้เสพยาไอซ์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้ที่เสพยาไอซ์ จะเป็นผู้ที่มีรายได้ขึ้นมาเล็กน้อย เนื่องจากยาไอซ์มีราคาแพงกว่ายาบ้า แต่ยาไอซ์จะมีฤทธิ์มากและเร็วกว่ายาบ้า ซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้เสพมากขึ้น ซึ่งก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่ในส่วนของภ.จว.ภูเก็ตไปแล้ว ให้กวดขันในการจับกุมให้มาขึ้นและให้ขยายผลให้ถึงต้นตอของที่มาของยาเสพติดเหล่านั้นด้วย


พธม.ใต้ออกแถลงการณ์เรียกร้องชุมนุมสันติ


เมื่อเวลา 09.30 น. ของวันที่ 10 มีนาคม 53 ที่ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ “ASTV ผู้จัดการรายวัน” จังหวัดภูเก็ต ตั้งอยู่เลขที่ 28 หมู่บ้านนิมิตซอย 1 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 16 จังหวัดภาคใต้ประมาณ 30 คน นำโดยนายสุนทร รักรงค์ ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 16 จังหวัดภาคใต้ ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์พันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย 16 จังหวัดภาคใต้ ฉบับที่ 2/2553 เพื่อเรียกร้องให้กลุ่มที่จะมีการชุมนุม ชุมนุมด้วยความสงบ ปราศจากอาวุธ ภายใต้กรอบแห่งรัฐธรรมนูญไทย โดยแถลงการณ์ฉบับดังกล่าวระบุว่า

หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำพิพากษาให้ยึดทรัพย์ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 46,373 ล้านบาท ข้อหาร่ำรวยผิดปกติ อีกทั้งยังมีคำวินิจฉัยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ อันนำมาซึ่งการถูกดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง และอาญาอีกหลายคดี แต่ดูเหมือนว่าอดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ยอมรับคำพิพากษาและยังคงปลุกระดมมวลชนกลุ่มคนเสื้อแดง หรือกลุ่มแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นปช.ออกมาต่อสู้ เพื่อผลประโยชน์ของตน โดยนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 14 มีนาคม 2553 ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร อีกทั้งช่วงคืนวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2553 ได้มีการลอบวางระเบิดธนาคารกรุงเทพ 4 จุด และล่าสุดมีอาวุธสงครามจำนวนหนึ่งถูกขโมยออกจากค่ายอภัยบริรักษ์ จ.พัทลุง รวมทั้งการวิเคราะห์การข่าว และฝ่ายความมั่นคงระบุ จะมีการใช้ความรุนแรง เพื่อนำไปสู่การยึดอำนาจรัฐ จนกระทั่งคณะรัฐมนตรี มีมติให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในเขตกรุงเทพมหานคร และบางพื้นที่เขตปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 11 – 23 มีนาคม 53 และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศงดการเดินทางไปเยือนประเทศออสเตรเลียในช่วงดังกล่าว

จากสถานการณ์ข้างต้นพอวิเคราะห์ได้ว่า จะมีการใช้ความรุนแรงจากการชุมนุมครั้งนี้ เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ท่ามกลางความหายนะของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในภาวะกำลังฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อีกทั้งศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทยทั้งชาติ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังทรงพระประชวร หากเกิดวิกฤตการณ์ทางการเมืองอันเนื่องมาจากการใช้ความรุนแรงอีกครั้ง เป็นการซ้ำเติมให้ประเทศไทยเสียหายมากยิ่งขึ้น จะมีผลต่อภาพลักษณ์ และชื่อเสียงของประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การขาดความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ สร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และฉุดให้ประเทศไทยเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจอีกรอบ ดังนั้น พันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย 16 จังหวัดภาคใต้ จึงมีมติดังต่อไปนี้

1. เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยเฉพาะกลุ่ม นปช.ต้องชุมนุมด้วยความสงบ ปราศจากอาวุธ ภายใต้กรอบแห่งรัฐธรรมนูญไทย พ.ศ.2550 ฝ่ายรัฐบาลต้องควบคุม ดูแลการชุมนุมให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ภายใต้กรอบของกฎหมาย

2. เรียกร้องให้พลังเงียบที่ต้องการเห็นความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง แสดงออกโดยสันติว่า ไม่เห็นด้วย และคัดค้านการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยเฉพาะประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลให้แสดงออกด้วยวิธีการสันติวิธี ส่วนประชาชนจังหวัดอื่นๆ อาจทำสัญลักษณ์อื่นใด ที่แสดงออกว่า ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง

3. เรียกร้องให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง โดยให้ทุกคนเคารพหลักนิติรัฐ ทั้งนี้เพื่อร่วมกันนำประเทศไทยไปสู่ความสงบสุขเรียบร้อย และความเจริญ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว

อนึ่งช่วงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ขอให้พี่น้องพันธมิตรฯ เตรียมความพร้อมในที่มั่น หากเกิดสถานการณ์ถูกยั่วยุให้ใช้ความอดทน และไม่ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ หากจะมีการเคลื่อนไหวใดๆ ให้ฟังคำประกาศของมติ 5 แกนนำพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น

นอกจากนี้นายสุนทร รักรงค์ ยังกล่าวว่า หากกลุ่มเสื้อแดงในพื้นที่ภาคใต้มีการเคลื่อนไหวในระหว่างวันที่ 12 – 14 มีนาคม 53 ทางกลุ่มพันธมิตรฯ จะดำเนินการตามมติของ 5 แกนนำพันธมิตรฯ ที่เคารพหลักการชุมนุมที่สงบและสันติไม่กระทบถึงสิทธิของประชาชน แต่หากเสื้อแดงในพื้นที่ภาคใต้มีการเคลื่อนไหว ก็จะไม่มีการสกัดกั้น แต่อยากจะฝากถึงกลุ่มเสื้อแดงในภาคใต้ ให้ระมัดระวังให้การเคลื่อนไหวด้วย เพราะพลังมวลชนพันธมิตรในภาคใต้มีเป็นจำนวนมาก ทางแกนนำเองไม่สามารถที่จะควบคุมได้ทั้งหมด ส่วนการรณรงค์เรียกร้องให้แสดงออกถึงการยุติความรุนแรงนั้น ให้เป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละจังหวัดว่าจะดำเนินการรณรงค์ไม่ให้เกิดความรุนแรงอย่างไรบ้างในแต่ละพื้นที่ ซึ่งคิดว่าในส่วนนี้จะดำเนินการในการทำสติกเกอร์และธงรณรงค์ยุติการชุมนุมที่รุนแรง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติ



ทน.ภูเก็ตจัดงานเทศกาลอาหารอร่อยครั้งที่ 13


เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 9 มีนาคม 53 ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานเทศบาลนครภูเก็ต นางสาวสมใจ สุวรรณศุภนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต พร้อมด้วยนางวรรณประภา สุขสมบูรณ์ ผู้ช่วยผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต นายจรัส แซ่ตัน ประธานชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารเทศบาลนครภูเก็ต ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน เทศกาลอาหารอร่อยนครภูเก็ต ครั้งที่ 13 ประจำปี 2553 ระหว่างวันที่ 19 มีนาคม 53 ถึงวันที่ 28 มีนาคม 53 ณ เวทีกลางสะพานหินภูเก็ต

ทั้งนี้นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ได้กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว พร้อมทั้งจะช่วยประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้ลิ้มลองของดีและอร่อยของ จ.ภูเก็ต และจากทั่วภูมิภาคของไทย รวมทั้งเป็นกิจกรรมสนับสนุนโครงการอาหารสะอาดรสชาติอร่อยของหน่วยงานภาครัฐ ตลอดจนเป็นการกระชับความสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างสมาชิก กับชมรม และสมาชิกกับผู้ประกอบการ ที่สำคัญเป็นการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการในการจำหน่ายอาหาร, เครื่องดื่มแก่นักท่องเที่ยวและผู้สนใจทั่วไป และที่สำคัญเพื่อสนับสนุนและรณรงค์กิจกรรมการลดภาวะโลกร้อน (Global Warning) และการลดปริมาณขยะที่ย่อยสลายไม่ได้ โดยการลด ละ เลิกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากโฟมและพลาสติกของผู้ประกอบการภายในบริเวณงานตลอดระยะเวลา 10 คืน

ด้านนายจรัส แซ่ตัน ประธารชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารเทศบาลนครภูเก็ต ได้กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมภายในงานมีการสาธิตการทำอาหารพื้นเมืองภูเก็ตตลอดทั้ง 10 คืน การจำหน่ายอาหารทะเลสดๆ ที่ขึ้นจากทะเลมาปรุงจำหน่ายให้กับผู้ที่ให้ความสนใจ การแข่งขันทำอาหารพื้นเมือง “ข้าวยำภูเก็ต” กิจกรรมการให้ความรู้ด้านสุขภาพอนามัย การแสดงของนักเรียน นักศึกษาจากสถาบันการศึกษาและจากสถานบันเทิงต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ต รวมถึงการแสดงของศิลปินดังและการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย

ทางด้านนางวรรณประภา ผช.ผอ.ททท สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า งานในปีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากและสามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตได้อีกทางหนึ่ง โดยในส่วนของ ททท.สำนักงานภูเก็ตจะร่วมสนับสนุนการแสดงทางวัฒนธรรมทุกคน นอกจากนี้จะประชาสัมพันธ์งานผ่านทางเว็บไซต์ ททท.ซึ่งมีสำนักงานสาขาในประเทศต่างๆ รวมถึงผ่านสื่อต่างๆ ของ ททท. นอกจากนี้ในช่วงเวลาเดียวกัน จะมีผู้สื่อข่าว และตัวแทนบริษัทนำเที่ยว ที่ทางททท.ได้นำมาดูตลาดท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เดินทางมาภูเก็ต ก็จะได้นำไปลิ้มลองรสชาติอาหารพื้นเมืองภายในงาน เพื่อที่จะได้นำไปเผยแพร่ในต่างประเทศด้วย


วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2553

ทร.เตรียมพร้อม ส่วนผู้ประกอบการวอนอย่าให้เกิดความรุนแรง


พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผบ.ทัพเรือภาค 3 ได้กล่าวถึง การเตรียมพร้อมรับมือ กับการเกิดการรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตกรณีการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ว่า ที่ได้ทราบข่าวขากหน่วยข่าวกองของทหารเรือในพื้นที่ และจากสถานการณ์ต่างๆ ในพื้นที่ ไม่ค่อยมีอะไรน่าวิตกกังวล ทั้งนี้เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น เพราะขณะนี้การท่องเที่ยวของภูเก็ตเริ่มที่จะเข้าที่ นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าท่องเที่ยวตลอด ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน

แม้ว่าในด้านการข่าวจะไม่มีอะไรน่ากังวล แต่ทางกองทัพเรือก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการสั่งการให้มีการป้องกัน เฝ้าระวังพื้นที่ และออกมาตรการในการรักษาความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นในพื้นที่ และได้เตรียมพร้อมในส่วนของกำลังพลไว้ 2 กองร้อย และอุปกรณ์ต่างๆ หากมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น จะมีการร้องขอมาจากเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติงานทางด้านการดูแลความปลอดภัย


ด้านนายนิกร ฟูศักดิ์สมบูรณ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ และเป็นผู้ประกอบการด้านเรือนำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวตามเกาะแก่ง ได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ปัญหาการเคลื่อนไหวทางการเมืองแม้ไม่ได้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต แต่ก็ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตด้วยเช่นกัน โดยที่ผ่านมามีบางประเทศได้ออกประกาศเตือน ให้นักท่องเที่ยวระวังในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย

ฉะนั้นในส่วนของกลุ่มต่างๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง อยากที่จะให้คำนึงและคิดถึงคนไทยส่วนใหญ่เป็นหลัก เพราะถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นสิ่งที่ตามมาคือ เรื่องของปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว เพราะการท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบเร็วมาก และจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองเกิดขึ้น ก็เห็นผลกันมาแล้วนักท่องเที่ยวหายไปอย่างเห็นได้ชัด ฉะนั้นช่วงนี้เศรษฐกิจกำลังที่จะเริ่มฟื้นตัวจึงไม่อยากให้มีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเกิดขึ้น


ทัพเรือภาค 3 ร่วมอปท.ภูเก็ต พังงา จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือ นทท.


เมื่อเวลา 09.30 น.ของวันที่ 9 มีนาคม 53 ที่ห้องประชุมใหญ่ โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 3 เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการการมีส่วนร่วมระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กับทัพเรือภาค 3 ประจำปี 2553 โดยมีตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พังงา เข้าร่วมกว่า 100 คน


ทั้งนี้พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 3 กล่าวว่า การจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมที่ทัพเรือภาค 3 ดขึ้น เพื่อเป็นการเสริมสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติงานของทัพเรือภาคให้กับอปท.ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและพังงา ที่มีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลและเกาะแก่ง ด้านฝั่งอันดามันได้รับทราบ อันจะนำไปสู่การประสานความร่วมมือในการปฏิบัติงาน หรือการสนับสนุนระหว่างหน่วยงานในการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับทัพเรือภาคที่ 3 เรือภาค 3 บทบาทการพัฒนาเสริมสร้างความมั่นคงของทัพเรือภาค 3 การวางแผนการพัฒนาและยุทธศาสตร์ความมั่นคงของทัพเรือภาค 3


พลเรือโทชุมนุม ยังกล่าวถึงการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวของทัพเรือภาค 3 ว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการในแหล่งท่องเที่ยวไปแล้วหลายจุดด้วยกัน เช่น ที่หาดป่าตอง เกาะสุรินทร์ เขาหลัก และเกาะลันตาน้อย ซึ่งที่ผ่านมาก็สามารถให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี และหากท้องถิ่นใดต้องการที่จะให้ทางทัพเรือภาค3 เข้าไปสนับสนุนในการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ทางทัพเรือภาค 3 ก็พร้อมที่จะดำเนินการในเรื่องของการฝึกอบรมพนักงานได้


นอกจากนี้ ทางทัพเรือภาค 3 ยังมีโครงการที่จะดำเนินการจัดทำสนามจอดเฮลิคอปเตอร์ ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่เป็นเกาะต่างๆ ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ได้จัดตั้งไปแล้วที่เกาะสุรินทร์ เกาะหลีแป๊ะ เกาะราชา ซึ่งเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ทางทัพเรือภาค 3 ซึ่งมีหน่วยบินเฉพาะกิจอยู่ ก็สามารถที่จะนำเฮลิคอปเตอร์ลง เพื่อให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและประชาชนตามเกาะต่างๆ และขณะนี้มีโครงการที่จะดำเนินการเพิ่มที่เกาะสิมิลัน ซึ่งได้มีการสำรวจพื้นที่แล้ว คาดว่าจะดำเนินการได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งอาจจะดำเนินการเป็นสนามจอดเฮลิคอปเตอร์แบบชั่วคราวหรือถาวร



อบรมกรรมฐานหลักสูตรชั้นต้นรุ่นที่ 2



พุทธศาสนิกชนชาวภูเก็ตกว่า 80 คน เข้าร่วมฝึกอบรมกรรมฐานหลักสูตรชั้นต้นรุ่นที่ 2 ณ วัดเจริญสมณกิจ(วัดหลังศาล) ในระหว่างวันที่ 21-27 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยได้รับความเมตตาจาก ท่านเจ้าคุณพระอาจารย์พระสาสนโสภณ (พิจิตร ฐิตวณฺโณ,ป.ธ.9 ศน., M.A, ศน.ด.) เจ้าอาวาสวัดโสมนัสวิหาร เจ้าคณะภาค 16-17-18(ธรรมยุต) เป็นผู้ให้การฝึกอบรม พร้อมกับมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมในครั้งนี้ด้วย


 

ทอดผ้าป่าหนังสือและของเล่น


คุณปารียา จุลพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจสาธารณะโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต เป็นตัวแทนรับหนังสือนิทานและของเล่นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลฯ รวมถึงชาวภูเก็ตได้ร่วมกันบริจาคให้แก่ห้องสมุดเด็กวัดสามัคคีธรรม (ป่าส้าน) อ.คุระบุรี จ.พังงา ในโครงการทอดผ้าป่าหนังสือและของเล่น โดยทางโรงพยาบาลฯ จะรับบริจาคหนังสือเรียน นิทาน หนังสือความรู้ทั่วไป อุปกรณ์กีฬา ของเล่นเสริมจินตนาการต่างๆ ทั้งแบบใหม่แกะกล่องและของมือสองสภาพดี เพื่อนำไปมอบให้กับน้องๆ ในเดือนเมษายนนี้ ท่านใดสนใจสามารถร่วมบริจาคได้ที่กล่องรับบริจาคบริเวณแผนกต้อนรับและบริการชั้น 1 โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2553 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 1719 ต่อ 2297


จเรทหราเรือตรวจทัพเรือภาค 3


 
พล.ร.ต.มนตรี สระแก้ว จก.จร.ทร. พร้อมด้วยคณะ เดินทางมาตรวจราชการประเภทการตรวจพิเศษ ที่ทัพเรือภาค 3  โดยมีพล.ร.ต.ขรรค์ชัย สมบูรณ์สุข รองผู้บัญชาการทัพเรือภาค 3 ผู้แทน ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 3 ให้การต้อนรับ โดยมีข้าราชการ ทหาร ลูกจ้าง พร้อมรับการตรวจ ณ กองบัญชาการทัพเรือภาค 3 ม.8 ต.วิชิต อ.เมือง ภูเก็ต

ทำบุญทางศาสนาประจำปี


นายอนุรักษ์ ธารสิริโรจน์ กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลสิริโรจน์ (Phuket International Hospital) นำคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ร่วมทำบุญโรงพยาบาล เพื่อความเป็นสิริมงคลของเจ้าหน้าที่ และผู้ใช้บริการ โดยมีการทำพิธีทางศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม



อบรมช่วยชีวิต


โรงพยาบาลสิริโรจน์ (Phuket International Hospital) ได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท สยามการ์ดเดี้ยนเซอร์วิสเซส จำกัด ให้จัดอบรมการช่วยฟื้นคืนชีพเบื้องต้น (CPR) แก่เจ้าหน้าที่ เพื่อนำไปใช้ได้ในเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ เมื่อวันก่อน


วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2553

วันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก


อาจารย์และนักศึกษา โปรแกรมวิชาชีววิทยาประยุกต์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ร่วมกับอุทยานแห่งชาติแหลมสน จังหวัดระนอง จัดกิจกรรมและนิทรรศการวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธาน ทั้งนี้มีการปล่อยเต่า ปล่อยปลา และกิจกรรมของชุมชน สำหรับมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตได้จัดนิทรรศการเรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ชุ่มน้ำ เป็นนิทรรศการมีชีวิตให้นักเรียน ชุมชน ได้ส่องกล้องดูนก และศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพของแหล่งน้ำ ศึกษาพืช สัตว์ จากกล้องจุลทรรศน์ และโปสเตอร์ แสดงความหลากหลายในระบบนิเวศต่างๆ ของพื้นที่ชุ่มน้ำ ป่าชายเลน ป่าชายหาด แนวปะการัง ฯลฯ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 600 คน ณ อุทยานแห่งชาติแหลมสน จังหวัดระนอง

สนับสนุนกิจการชมรมผู้สื่อข่าวภูเก็ต


นางสาวศิริกุล สิทธิโชค รองผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ภูเก็ตแฟนตาซี จำกัด (มหาชน) พร้อมทีมงานพีอาร์นำของที่ระลึกมอบให้แก่นายพีระพงศ์ ผลประมูล ประธานชมรมผู้สื่อข่าวจังหวัดภูเก็ต และผู้สื่อข่าว เพื่อแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสครบรอบวันนักข่าว ณ โรงแรมภูเก็ต เมอร์ลิน เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา


วพ.บรมราชชนนี ศึกษาดูงาน



เชาวลิต เหล่าประเสริฐศิริ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รพ.กรุงเทพภูเก็ต ให้การต้อนรับคณะนักศึกษา จากวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จ.นครศรีธรรมราช ในโอกาสเข้าศึกษาดูงานเรื่องระบบการบริหารงานพยาบาล การบริหารงานคุณภาพ การให้บริการที่ได้มาตรฐานระดับสากล และเยี่ยมชมการทำงานของเจ้าหน้าที่แผนกต่างๆ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยของโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต โดยโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตถือเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกและแห่งเดียวในภาคใต้ที่ผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐานความปลอดภัยผู้ป่วย JCI (Joint Commission International) จากประเทศสหรัฐอเมริกา