จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2555

ชปส.สภ.เชิงทะเลรวบผู้ค้ารายย่อย



เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2555 พ.ต.ท.ผดุงพงศ์ ดุกสุขแก้ว หน.ชปส. สภ.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ตพร้อมด้วยชุดปราบปรามยาเสพติดสภ.เชิงทะเล ได้ควบคุมตัว นายนิรุต สันดำ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 186/11 ม.5 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ตพร้อมของกลางยาไอซ์ 0.5 กรัมและยาบ้า 147 เม็ด ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชิงทะเลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้พ.ต.ท.ผดุงพงศ์ ได้กล่าวว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด ได้สืบทราบว่านายนิรุตมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ ต.เชิงทะเล จึงเฝ้าติดตามมาโดยตลอดพร้อมกับนำหมายศาลเข้าตรวจค้นห้องพัก พบของกลางดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ภายในห้องนอน โดยชั้นจับกุมนายนิรุตให้การรับสารภาพว่ารับยาเสพติดมาจากเอเย่นต์ในตัวเมืองภูเก็ต จากนั้นได้นำมาแบ่งขายให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ จนกระทั่งถูกจับกุมตัวในที่สุด 

รพ.กรุงเทพภูเก็ต เปิด “คลินิกกระดูกสันหลัง”



เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 31 มีนาคม 2555 ที่บริเวณลานกิจกรรมชั้น 1 โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต นพ.ณรงค์ฤทธิ์ ฮาวรังษี ผู้อำนวยการ รพ.กรุงเทพภูเก็ต และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูกและข้อ เป็นประธานเปิด “คลินิกกระดูกสันหลัง” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างศูนย์กระดูกและข้อ รพ.กรุงเทพภูเก็ต และ สถาบันโรคกระดูกสันหลังกรุงเทพ (Bangkok Spine Academy) เพื่อดูแลและเพิ่มทางเลือกในการรักษาพยาบาลให้แก่คนไข้โรคกระดูกสันหลัง ที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


นพ.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวว่า โรคทางกระดูกสันหลัง ถือเป็นโรคที่พบมากขึ้นในปัจจุบัน และมีได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งโรคกระดูกสันหลังที่เกิดจากการทำงาน โรคกระดูกสันหลังที่เกิดตามวัย โรคกระดูกสันหลังผิดรูปแต่กำเนิด กระดูกสันหลังติดเชื้อ และเนื้องอกกระดูกสันหลัง ซึ่งจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีและวิธีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป ทางโรงพยาบาลตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้ทำความร่วมมือกับสถาบันโรคกระดูกสันหลังกรุงเทพ (Bangkok Spine Academy) ซึ่งเป็นศูนย์รักษาทางด้านกระดูกสันหลังที่มีความพร้อมมากที่สุดในปัจจุบัน เพื่อขยายศักยภาพการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลัง ให้ได้ครบแบบองค์รวม โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นหลัก เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์สูงสุด


ขณะนพ.พุทธิพร เทียรประสิทธิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สถาบันโรคกระดูกสันหลัง ได้กล่าวถึงความร่วมมือดังกล่าวว่า เป็นข่าวดีของประชาชนชาวภูเก็ต ตลอดจนจังหวัดใกล้เคียง เนื่องจากคนไข้จะได้รับการดูแลรักษาด้วยทีมแพทย์สหสาขาที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านกระดูกสันหลังโดยตรง อาทิ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูกและข้อ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบประสาท แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องลดความปวด อายุรแพทย์โรคข้อ นักกายภาพบำบัด และพยาบาลที่เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลังโดยตรง ภายใต้มาตรฐานเดียวกันกับสถาบันโรคกระดูกสันหลังที่กรุงเทพ ซึ่งผ่านการรับรองคุณภาพการดูแลผู้ป่วยจากองค์กรควบคุมคุณภาพสถานพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในโลก Joint Commission International (JCI) จากประเทศสหรัฐอเมริกามาแล้ว อันจะทำให้คนไข้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังไม่ต้องบินไปถึงกรุงเทพอีกด้วย


ด้าน นพ.ชัยยุทธ สุธีรยงประเสริฐ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการผ่าตัดกระดูกสันหลังผ่านกล้อง รพ.กรุงเทพภูเก็ต กล่าวว่า คลินิกมีความพร้อมในการรักษาผู้ที่ปัญหาโรคกระดูกสันหลังทุกประเภท ทั้งการรักษาด้วยการผ่าตัด และไม่ผ่าตัด โดยจะพิจารณาตามความเหมาะสมในผู้ป่วยแต่ละราย ควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีที่มีความทันสมัย อาทิ การรักษาด้วยเวชศาสตร์ฟื้นฟู การผ่าตัดรักษาหมอนรองกระดูกสันหลังผ่านกล้อง (Minimal Invasive Spine Surgery) ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น มีบาดแผลขนาดเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวและกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้น การผ่าตัดเปลี่ยนหมอนรองกระดูกเทียม การฉีดยาเพื่อรักษาอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เป็นต้น





ยกระดับตลาดทวีสมานซอยพะเนียงให้ทันสมัย



เมื่อเช้าวันที่ 31 มีนาคม 2555 พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ จเรตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานเปิดตลาดทวีสมาน ซึ่งตั้งอยู่ปากซอยพะเนียง เลขที่ 30/98 ถ.ประชาอุทิศ ต.รัษฎา จ.ภูเก็ตซึ่งบริหารงานโดยนายธีรวัฒน์ ทวีสมาน เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคทวี โดยมีนายเรวัต อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ต เขต 2, พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการกองกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พ.ต.อ.ชลิต แก้วยะรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายศุภชัย โพชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต ตลอดจนพ่อค้าแม่ค้าในตลาดร่วมเป็นเกียรติ โอกาสเดียวกันนี้ยังได้มีการมอบที่ดินพร้อมที่พักสายตรวจให้กับทางตำรวจภูธรภูเก็ตด้วย

นายธีรวัฒน์ ทวีสมาน เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด โชคทวี ผู้บริหารตลาดทวีสมาน เปิดเผยว่า จากการที่ได้บริหารตลาดทวีสมานดังกล่าวมาเป็นเวลาประมาณ 6 – 7 ปี จนสามารถซื้อที่ดินซึ่งเคยเช่ามาเป็นของตัวเอง ประกอบกับการขยายตัวของชุมชนย่านซอยพะเนียงและชุมชนสามกองอย่างต่อเนื่อง มีผู้คนอยู่อาศัยอย่างหนาแน่น ดังนั้นเพื่อเป็นการรองรับการเติบโตและขยายตัวของชุมชนดังกล่าว จึงได้ตัดสินใจทำการพัฒนาตลาดทวีสมานให้มีความทันสมัย มีมาตรฐานความสะอาด ปลอดภัย และสะดวกสบายมากขึ้น ใช้งบในการพัฒนาประมาณ 5-6 ล้านบาทเศษ โดยได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคมเป็นต้นไป

“ตลาดทวีสมาน มีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่เศษ มีแผงค้าให้บริการจำหน่ายสินค้าจำนวน 120 แผง มีพื้นที่ให้เลือกทั้งขนาด 3x3 เมตร และ 3.5x3 เมตร ซึ่งในส่วนของราคาค่าเช่าแผงก็แตกต่างไปตามขนาดของพื้นที่ โดยแบ่งเป็นโซนสินค้าประเภทต่างๆ มีทั้งอาหารสด อาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูป เสื้อผ้า สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีจัดพื้นที่สำหรับการจอดรถยนต์ซึ่งรองรับได้ประมาณ 30-40 คัน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยตลาดจะเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 05.00 น. – 22.00 น.”

นายธีรวัฒน์ กล่าวด้วยว่า นอกจากพัฒนาตลาดให้ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ค้าและผู้ใช่บริการ ด้วยการติดตั้งกล้อง CCTV รวมทั้งยังได้บริจาดที่ดินและสร้างป้อมตำรวจ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ บริเวณหน้าตลาด รวมมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท เพื่อเป็นการตอบแทนให้กับสังคม รวมทั้งยังจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั้งที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าและพักอาศัยอยู่ในย่านดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าในบริเวณนี้จะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นบ่อยประกอบกับสถานีตำรวจอยู่ค่อนข้างไกลทำให้การเข้าถึงของเจ้าหน้าที่ล่าช้าและไม่ทันการณ์ ดังนั้นเชื่อว่าการมีป้อมตำรวจตั้งอยู่ในบริเวณนี้จะทำให้เหตุร้ายต่างๆ ลดลง








วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2555

ไบค์วีค 2012 คาดเงินสะพัดกว่า 500 ล้านบาท



ที่บริเวณลานมังกรสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี ถ.ถลาง อ.เมืองภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยพล.ร.ท.ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานภูเก็ต นายมานพ ลีลาสุธานนท์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และนายวิทยา สิงห์ฆาฬะ ผู้ประสานการจัดงานภูเก็ตไบค์วีค 2012 ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน ภูเก็ตไบค์วีค ครั้งที่ 18


ทั้งนี้นายตรี กล่าวว่า ตามที่ชมรมภูเก็ตไรเดอร์คลับร่วมกับชมรมอินมอร์ทอลไทยแลนด์และผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ใหญ่ในจังหวัดภูเก็ตร่วมกันจัดงานภูเก็ตไบค์วีคขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2538 เพื่อเป็นการต้อนรับผู้ขับขี่มอเตอร์ ไซค์ใหญ่จากกรุงเทพฯ มาเลเซีย สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้เข้าร่วมงาน 150 คัน นักท่องเที่ยวราว 300 คน จากนั้นจนถึงวันนี้ภูเก็ตไบค์วีคได้จัดติดต่อกันมาตลอด 17 ปี ปัจจุบันมีผู้รักการขับขี่มอเตอร์ไซค์ใหญ่ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินับพันคน และถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยการจัดงานจะมีการถ่ายทอดผ่านสื่อต่างๆ สมาคมและชมรมบิ๊กไบค์ทั้ง 10 ประเทศอาเซียน ตลอดจนเครือข่ายฮาเลย์โอนเนอร์กรุ๊ปที่มีสมาชิกกว่า 2 ล้านคนทั่วโลก จึงทำให้นักท่องเที่ยวที่รักการขับขี่มอเตอร์ไซค์ใหญ่ต่างเดินทางมาร่วมงานที่จังหวัดภูเก็ตเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี และทำให้จังหวัดภูเก็ตมีรายได้จากการท่องเที่ยวช่วงจัดงานดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท


“ปีนี้เช่นเดียวกัน จังหวัดภูเก็ตในฐานะประธานจัดงานและอำนวยการได้นำนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 2555 ที่ได้ประกาศให้เป็นปีมหัศจรรย์ไทยแลนด์ ดังนั้นเพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายดังกล่าว ตลอดจนเป็นยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน จึงดึงหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนต่างๆ ในพื้นที่เข้าเสริมทัพจัดงานดังกล่าวให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นการเผยแพร่ภาพไปทั่วโลก” นายตรี กล่าว


นายตรียังกล่าวอีกว่า การจัดงานภูเก็ตไบค์วีค ครั้งที่ 18 หรือ Asean Ride Together จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 20 – 22 เมษายน 2555 ที่สวนสาธารณะโลมา – สนามฟุตบอลชายหาดป่าตอง ถ.ทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในวโรกาสทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา ในปี 2555 และเป็นการส่งเสริมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ตลอดจนเป็นการพบปะสังสรรค์ผู้รักการขับขี่มอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่หรือบิ๊กไบค์จากทั่วทุกมุมโลกกว่า 8,000 คัน


ด้านนายวิทยา กล่าวว่า งานดังกล่าวจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 22 เมษายน 2555 โดยกิจกรรมภายในงานจะประกอบไปด้วย มหกรรมมอเตอร์ไซค์เคิลเอ็กซิบิชั่น 2012 ที่สนามฟุตบอลหาดป่าตองและงานภูเก็ตไบค์วีคบีชปาร์ตี้ที่สวนสาธารณะโลมา ต.ป่าตอง โดยภายในงานจะมีกิจกรรม เช่น การประกวดมอเตอร์ไซค์ การประกวดลายสัก การรณรงค์ปลูกต้นไม้ลดภาวะโลกร้อนด้วยการปลูกต้นกล้วยตามเส้นทางหาดป่าตองไปยังหาดกมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต การขับขี่เพื่อสันติภาพ และท่องเที่ยวชื่นชมความงามของเกาะภูเก็ตตามเส้นทางต่างๆ เป็นต้น


“การจัดงานดังกล่าวได้เลื่อนมา จากกำหนดการเดิม คือวันที่ 6 – 8 เมษายน 2555 มาเป็นวันที่ 20 – 22 เมษายน 2555 แทน เนื่องจากในวันที่ 7 เมษายน 2555 มีการเลือกตั้งนายก อบจ.ภูเก็ต ซึ่งตามมาตรา 130 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 แก้ไขเพิ่มเติมถึง(ฉบับที่ 3)พ.ศ.2554 ระบุว่า “ผู้ใดขาย จำหน่าย จ่ายแจกหรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิดในเขตเลือกตั้งระหว่างเวลา 18.00 น.ของวันก่อนเลือกตั้งหนึ่งวันจน สิ้นสุดวันเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ประกอบกับในห้วงระหว่างวันที่ 8 – 10 เมษายน 2555 มติคณะรัฐมนตรี แจ้งให้แต่ละจังหวัดไว้ทุกข์โดยทั่วกัน และลดธงครึ่งเสา รวมถึงให้งดหรือลดการแสดงเพื่อความบันเทิง เนื่องจากมีกำหนดจัดการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ในวันที่ 9 เม.ย.2555


ดังนั้นเพื่อความเหมาะสมและเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีและพระราชบัญญัติการเลือกตั้งฯ จึงได้มีการพิจารณาขอเลื่อนการจัดงานดังกล่าว มาเป็นวันที่ 20 – 22 เมษายน 2555” นายวิทยา กล่าวชี้แจง










รองผบช.ภ.8 และผู้ประกอบการ โต้ “ชูวิทย์”


เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2555 ที่ห้องประชุมชั้น 3 กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต พล.ต.ต.พิสัณห์ จุลดิลก รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ร่วมกับ พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรภูเก็ต หัวหน้าสถานีภูธรต่างๆ ใน จ.ภูเก็ต นายปิยะ อิสระมาลัย ประธานกรรมการเครือไทเกอร์กรุ๊ป และนายธำรงณ์ศักดิ์ บุญรักษ์ กรรมการบริหารและที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายในเครือไทเกอร์กรุ๊ป ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงออกเท็จจริงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้แถลงว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบุกรุกป่าสงวน การเปิดบ่อนการพนันที่อยู่ย่านป่าตอง ทั้งบ่อนไทเกอร์ที่อยู่ในซอยแสนสบายที่มีเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาทต่อวัน และบ่อนทุ่งทองที่มีเงินหมุนเวียนจำนวน 70-80 ล้านบาทต่อวัน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 8 ชุดสลับหมุนเวียนในการเก็บส่วย อีกทั้งยังมีการโชว์ลามกอนาจารในพื้นที่ดังกล่าวด้วย
โดยพล.ต.ต.พิสัณห์ กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริงเพราะที่ผ่านมาทางตำรวจภูธรภาค 8 ได้มีการสั่งการให้สถานีตำรวจในพื้นที่ภาค 8 เร่งรัดตรวจตรา สืบสวนจับกุมการกระทำความผิดเกี่ยวกับอบายมุขที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการลักลอบเปิดเปิดบ่อนการพนัน ตู้เกม ตู้ม้า และการพนันทางคอมพิวเตอร์ออนไลน์อย่างจริง และต่อเนื่องอย่าให้มีในพื้นที่โดยเด็ดขาด ซึ่งจากการสั่งการให้มีความเข้มงวดกวดขันดังกล่าว ได้มีผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งได้มาให้ปากคำไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ถลาง ว่า การลงลายมือชื่อในหนังสือร้องเรียนตนที่ส่งให้กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งอ้างว่าไม่ตอบสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาลในเรื่องความปรองดอง เนื่องจากเกรงใจผู้มาขอร้องจึงได้ลงลายมือชื่อในหนังสือร้องเรียนของกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นดังกล่าว แต่มารู้ความจริงภายหลังว่าไม่ใช่เรื่องขัดนโยบายรัฐบาล แต่เกิดจากการที่ตนเข้มงวดเกี่ยวกับการเปิดบ่อนพนัน
ขณะที่ พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรภูเก็ต กล่าวว่า ในช่วงที่มารับตำแหน่งที่ภูเก็ตเป็นเวลาประมาณ 6 เดือน ได้มีการเข้มงวดกวดขันในเรื่องของบ่อยการพนันมาอย่างต่อเนื่อง และสามารถจับกุมผู้ต้องหาลักลอบเล่นการพนันได้ 252 ราย และผู้ต้องหา 798 คน นอกจากนี้ยังได้มีการสั่งย้าย ผกก.สภ.ฉลอง ให้ไปช่วยราชการภาค 8 ด้วย เนื่องจากได้มีการปล่อยปละละเลยไม่มีการดำเนินการตามนโยบาย ส่วนกรณีที่มีการระบุว่ามีบ่อนซึ่งมีเงินหมุนเวียนวันละ 100 ล้านในพื้นที่ ป่าตองและวันละ 70-80 ล้านในพื้นที่ทุ่งทองนั้นก็ไม่เป็นความจริง ซึ่งหลังจากที่มีข่าวดังกล่าวออกมา ทาง ผกก.สภ.กะทู้ พร้อมด้วยกำลังฝ่ายปกครอง อ.กะทู้และสื่อมวลชน ได้ลงตรวจสถานที่ที่มีการระบุซึ่งก็ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด และสถานบันเทิงบางแห่งที่มีการระบุนั้นก็ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ
ทางด้านนายปิยะ อิสระมาลัย ประธานบริหารไทเกอร์กรุ๊ป กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน ว่า ธุรกิจในส่วนของไทเกอร์กรุ๊ปนั้น มีทั้งโรงแรมที่พัก ภัตตาคารร้ายอาหาร สนามมวย บาร์เบียร์ และดิสโก้เธค ซึ่งการกล่าวอ้างของนายชูวิทย์ วิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ว่าสถานประกอบการของตนมีการเปิดบ่อนการพนันนั้นไม่เป็นความจริง เพราะตนประกอบธุรกิจมาเป็นเวลาร่วม 14-15 ปี ไม่เคยมีปัญหา ซึ่งการกล่าวอ้างของนายชูวิทย์นั้นได้สร้างความเดือดร้อน เสื่อมเสียและเสียหายต่อธุรกิจของตนเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการกล่าวอ้างที่ไร้เหตุผล เป็นการทำร้ายผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งตนไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของการเมือง และอย่าดึงธุรกิจของตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง ที่ผ่านมาก็ทำมาหากินด้วยความสุจริตมาโดยตลอด
“ขณะนี้เดินทางไปไหนก็มีแต่คนสอบถามเกี่ยวกับข่าวที่เกิดขึ้น จึงอยากขอร้องให้เห็นใจตนซึ่งเป็นนักธุรกิจ อย่าได้มาใส่ร้ายกันอย่างไร้ความรับผิดชอบ เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้เราบอบช้ำมาก นอกจากชื่อเสียงที่เสียหายแล้วยังมีเรื่องของสถาบันการเงินที่เราจะต้องไปกู้ยืมเงินมาลงธุรกิจด้วย ส่วนกรณีที่มีการพุ่งเป้ามายังธุรกิจของตนนั้นก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด เพราะตนเป็นพ่อค้าและไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอยู่แล้ว” นายอิสระกล่าว
ส่วนของนายธำรงณ์ศักดิ์ บุญรักษ์ กรรมการบริหารและที่ปรึกษากฎหมายไทเกอร์กรุ๊ป กล่าวเสริมว่า การประกอบธุรกิจของไทเกอร์กรุ๊ปนั้นไม่ใช่เป็นเพราะความฟลุ๊ค แต่เป็นผลมาจากความพยายาม และจากราคาที่ดินที่ซื้อมาเพียง 6-7 ล้านบาท แต่ปัจจุบันราคาพุ่งไปถึง 100 ล้านบาท และปัจจุบันเราก็ยังเป็นหนี้สถาบันการเงินจำนวน 600-700 ล้านบาท และการที่ออกมาระบุว่าชั้นสองของสถานบันเทิงแห่งใหม่ของไทเกอร์ ซึ่งใช้เงินลงทุนถึง 200 ล้านบาท มีการเปิดบ่อนการพนัน ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย เพราะขณะนี้ชั้นสองยังสร้างไม่เสร็จ
“การพูดของคุณชูวิทย์นั้นเป็นการเอาขี้ (อุจจาระ) ผสมกับเยี่ยว (ปัสสาวะ) แล้วนำมาบ้วนใสคนอื่นสร้างความเดือดร้อนกันไปหมด ฉะนั้นอย่าพูดเพียงเอามันส์อย่างเดียว ซึ่งในส่วนของไทเกอร์นั้นพร้อมที่จะตอบโต้ทุกรูปแบบหากคุณชูวิทย์ยังไม่ออกมาล้างอายให้กับเรา ซึ่งสุดท้ายก็ต้องพึ่งศาล”
นายธำรงณ์ศักด์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาเราทำแต่สิ่งดีๆ โดยเฉพาะในช่วงสึนามิซึ่งเราประสบปัญหาอย่างหนัก แต่เราก็พยายามจนลุกขึ้นมาตั้งตัวได้ และที่ขู่ว่าจะนำกรรมาธิการฯ ลงมาตรวจสอบทางไทเกอร์กรุ๊ปพร้อมที่จะให้ตรวจสอบ และขอท้าชนคุณชูวิทย์ทุกเวทีอยากรู้เหมือนกันว่าใครจะสกปรกกว่ากัน ซึ่งขณะนี้เราอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล เพื่อเตรียมการฟ้องร้องทั้งทางแพ่งและอาญา คาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้










ภูเก็ตเปิดตลาดนัดสินค้าวิสาหกิจชุมชน



เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2555 ที่บริเวณถนนด้านหน้าสำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ต นายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดตลาดนัดสินค้าวิสาหกิจชุมชนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งทางสำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ต ได้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 30 มีนาคม ถึงวันที่ 1 เมษายน 2555 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการวิสาหกิจชุมชน และเครือข่ายผู้ผลิตสินค้าวิสาหกิจชุมชน รวมถึงประชาชนผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วมงานจำนวนมาก


ทั้งนี้นายวินัย ขวัญแก้ว เกษตรจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวว่า การจัดงานตลาดนัดสินค้าวิสาหกิจชุมชนจังหวัดภูเก็ต ในครั้งนี้ เป็นการดำเนินกิจกรรมตามโครงการสนับสนุนแผนพัฒนาวิสาหกิจชุมชนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นโครงการตามแผนพัฒนาจังหวัด ปี 2555 เพื่อให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชน องค์กรเกษตรกรผู้ผลิต ได้มีโอกาสจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า เพื่อเป็นการสร้างรายได้ และมีสถานที่แสดงและจำหน่ายสินค้าที่แน่นอน นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างโอกาสให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชน องค์กรเกษตรกรผู้ผลิตสินค้าได้แลกเปลี่ยน เรียนรู้ สร้างเครือข่ายสินค้า และการดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งการพัฒนาคุณภาพสินค้าให้เข้าสู่มาตรฐานการผลิต และเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์และทักษะด้านการตลาด และเกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายต่างๆ ระหว่างวิสาหกิจชุมชน องค์กรเกษตรกรกับผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวและผู้ประกอบการต่างๆ ในและนอกจังหวัดภูเก็ต


นายวินัย ยังกล่าวอีกว่า การจัดตลาดนัดสินค้าวิสาหกิจชุมชนจังหวัดภูเก็ต ครั้งนี้มีกิจกรรมที่สำคัญได้แก่การจำหน่ายสินค้าของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน การเจรจาธุรกิจ ระหว่างวิสาหกิจชุมชน องค์กรเกษตรกรกับผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยว การเชื่อมโยงเครือข่ายต่างๆ ระหว่าง วิสาหกิจชุมชน ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากเทศบาลนครภูเก็ต และหน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยการจัดงานตลาดนัดสินค้าวิสาหกิจชุมชนจังหวัดภูเก็ต ทางสำนักงานเกษตรได้กำหนดจัดขึ้นเป็นประจำทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ของสัปดาห์สุดท้ายของแต่ละเดือน


ด้านนายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวว่า การจัดทำโครงการสนับสนุนแผนพัฒนาวิสาหกิจชุมชนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นโครงการตามแผนพัฒนาจังหวัดภูเก็ต ปี 2555 และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ที่ให้มีการสงเสริมความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น การสร้างรายได้ ลดรายจ่ายและการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน พัฒนาความสามารถในการจัดการ การพัฒนาสินค้าและบริหารของวิสาหกิจชุมชน มีผลให้ชุมชนพึ่งตนเองได้ สามารถพัฒนาระบบเศรษฐกิจของชุมชนให้เกิดความเข้มแข็ง พร้อมสำหรับการแข่งขันทางด้านการค้าในอนาคต รวมถึงการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนไปสู่การเป็นผู้ประกอบการที่สูงขึ้นต่อไป











อบจ.ภูเก็ตคว้าแชมป์ฟุตซอล “ในทูเกมส์”



ที่อาคารอเนกประสงค์ ภายในโรงเรียนเทศบาล 2 บ้านกะทู้ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งจัดเป็นสนามแข่งขันฟุตซอล ในการแข่งขันกีฬาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 4 “ในทูเกมส์” ที่ได้จัดการแข่งขันในระหว่างวันที่ 16 – 31 มีนาคม 2555


โดยการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่างทีมองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กับเทศบาลเมืองป่าตอง โดยผลการแข่งขันภายในเวลา ปรากฏว่า ทั้งสองทีมเสมอกัน 2:2 จึงต้องดวลจุดโทษเพื่อทีมชนะเลิศ และจากการดวลจุดโทษ ปรากฏว่าทีมอบจ.ภูเก็ต สามารถเอาชนะได้ด้วยสกอร์ 5:2 คว้าแชมป์ไปครอง


สำหรับการแข่งขันฟุตซอล ของการแข่งขันกีฬาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 4 “ในทูเกมส์” ทีมชนะเลิศได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ทีมรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ เทศบาลเมืองป่าตอง และทีมรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ เทศบาลนครภูเก็ต