จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2553

อบจ.ภูเก็ต จัดตามรอยพุทธประวัติ


เมื่อเวลา 13.30 ฯงของวันที่ 20 มีนาคม 53 ที่วัดวิชิตสงคราม ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง ภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้เปิดโครงการตามรอยพุทธประวัติ นมัสการพระเจดีย์ชะเวดากอง โดยมีนายอวยพร สกุลตัน ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม และมีพระสงฆ์จากวัดต่างๆ เข้าร่วม


ทั้งนี้นายไพบูลย์ ได้กล่าวว่า ตามที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดภูเก็ต ได้จัดทำโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) ซึ่งทางอบจ.ภูเก็ตได้ตระหนักและเห็นความสำคัญต่อการพัฒนาในบุคลากรทางพระพุทธศาสนา เพื่อจะได้นำความรู้จากการศึกษาดูงานปรับใช้ ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเห็นว่าจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองนานาชาติ จะต้องมีความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลาย สามารถนำภูเก็ตไปสู่ เมืองน่าอยู่ คู่คุณธรรม ได้ การจัดทำโครงการนี้เพื่อพัฒนาบุคลากรทางศาสนาให้สามารถนำความรู้ประสบการณ์ จากการศึกษาดูงานไปใช้ในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาของจังหวัดภูเก็ต ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยโครงการดังกล่าวจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 24 – 30 มีนาคม 2553 ณ.ประเทศพม่า ในการนมัสการพระเจดีย์ชะเวดากอง



ตรวจสุขภาพตำรวจท่องเที่ยว


อมรรัตน์ วิเศษสิงห์ ผู้ประสานงานศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉิน และเจ้าหน้าที่รพ.กรุงเทพภูเก็ต เข้าตรวจสุขภาพให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต โดยมีนพ.สมโภช นิปกานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ รพ.กรุงเทพภูเก็ต ร่วมพูดคุย และแนะแนวทางการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต



วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2553

ตม.ภูเก็ตรวบคนร้ายต่างชาติหนีมาภูเก็ต


เมื่อเวลา 12.00 น.ของวันที่ 19 มีนาคม 53 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ภูเก็ต พ.ต.อ.ภาณุวัฒน์ ร่วมรักษ์ ผกก.ตม.ภูเก็ต พร้อมด้วยพ.ต.ท.กฤษฎากรณ์ กลิ่นเกสร รองผกก.ตม.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นางสาว กวง ซู ลี (Miss Kwang Soo Lee) อายุ 52 ปี สัญชาติ เกาหลีใต้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ภายในหมู่บ้านวิลล่าสวนหลวง ม.2 ถ.ดาวรุ่งตัดใหม่ ต.วิชิต อ.เมือง ภูเก็ต โดยกล่าวหาว่า เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอาศัยอยู่ในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมือง ภูเก็ต เพื่อดำเนิคดีก่อนที่จะผลักดันออกนอกประเทศต่อไป

ทั้งนี้พ.ต.อ.ภาณุวัฒน์ ร่วมรักษ์ ผกก.ตม.ภูเก็ต ได้กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานจากสถานกงสุลว่า Miss Kwang Soo Lee ได้กระทำความผิดในเรื่องฉ้อโกงประชาชนในประเทศเกาหลีใต้ และได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย และอาจจะเข้ามาอยู่จังหวัดภูเก็ต จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตม.ภูเก็ตก็ได้ออกทำการสอบสวนและหาข่าว จนกระทั่งได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้มีชาวเกาหลีมาเช่าบ้านอยู่เป็นจำนวนมากภายในหมู่บ้านวิลล่าสวนหลวง ขอให้เดินทางเข้าตรวจสอบ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปทำการตรวจสอบ ก็พบ Miss Kwang Soo Lee อยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมกับชาวเกาหลีอีกจำนวนหนึ่ง จากการตรวจสอบ Miss Kwang Soo Lee ไม่มีเอกสารที่แสดงว่าเป็นใครและไม่มีเอกสารการเข้ามาในราชอาณาจักรแต่อย่างไร จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่สำนักงาน

จากการสอบสวน Miss Kwang Soo Lee ก็ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้ร่วมกับนายลีชุงฮัง ซึ่งเป็นชาวเกาหลีด้วยกัน ได้เปิดบริษัท หลอกลวงผู้เสียหายจากประเทศเกาหลี ว่า สามารถหางานทำได้ที่จังหวัดภูเก็ต โดยจะเดินทางมาเป็นครูสอนกีฬา ไม่ว่าจะเป็นเทควันโด คาราเต้ หรือเป็นครูสอนภาษา หากใครจะเดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็จ ต้องเสียค่าใช้จ่ายรายละประมาณ 100,000 – 120,000 บาท โดยให้โอนเงินเข้าในบัญชี จากนั้นก็ให้เดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ต และทางบริษัทจะเดินทางไปรับที่สนามบิน และเมื่อรับจากสนามบินแล้ว ก็ให้เข้ามาพักที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อรองานที่จะไปทำ แต่เมื่อเดินทางมาถึงเป็นเดือนแล้วยังไม่มีงานทำ และเมื่อถึงเวลาเดินทางกลับ ก็ยังไม่ได้ทำงาน เมื่อผู้เสียหายเดินทางกลับถึงประเทศ ก็ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประเทศเกาหลี

และจากการสอบสวนผู้เสียหายซึ่งเป็นชาวเกาหลีด้วยกันรายหนึ่ง ก็ทราบว่า ได้ถูก Miss Kwang Soo Lee หลอกมาทำงานที่ภูเก็ต โดยหลอกว่ามีตำแหน่งงานที่ต้องการจำนวนมาก ซึ่งตนเองมีความถนัดในด้านกีฬาเทควันโด จะเดินทางมาทำงานที่ภูเก็ต จึงได้สมัครพร้อมทั้งโอนเงินเข้ามายังบัญชี จากนั้นก็ได้เดินทางเข้ามาเป็นเวลาประมาณ 1 เดือนแล้ว ก็ยังไม่ได้งานทำตามที่โฆษณา ซึ่งทางผู้ต้องหาก็ได้บอกว่า ตนเดินทางเร็วกว่ากำหนดซึ่งทางภูเก็ตยังไม่ได้ปิดภาคเรียน ต้องรอให้โรงเรียนปิดภาคเรียนก่อน ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้ติดต่อมาแล้ว ตนจึงยอมทนรออยู่เช่นกัน และมาทราบเรื่องว่าโดนหลอก เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจค้นในบ้านพัก และรับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า Miss Kwang Soo Lee เป็นผู้ต้องหาหลอกลวงประชาชน และถูกเชิญมาเป็นพยาน



ภูเก็ตมีตำแหน่งงานว่างกว่า 5 พันอัตรา


เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 19 มีนาคม 53 ที่ห้างโฮมเวิร์ค สาขาภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายตรี อัครเดชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงาน “วันนัดพบแรงงานและมหกรรมอาชีพ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง” จังหวัดภูเก็ต โดยมี ประชาชน นักศึกษาจบใหม่ ซึ่งยังไม่มีงานทำ และผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงานใหม่จำนวนมากเข้าร่วมสมัครงาน ซึ่งจัดโดยสำนักงานจัดหางาน จ.ภูเก็ต พร้อมทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจัดขึ้น

ทั้งนี้ นายนพดล พลอยอยู่ดี จัดหางานจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจทำให้ประชาชนและนักเรียน นักศึกษาที่จบการศึกษาแล้ว ไม่มีงานทำ ทำให้การว่างงานเพิ่มขึ้นจำนวนมาก จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการในพื้นที่จัด การจัดงานนัดพบแรงงานและมหกรรมอาชีพ “สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง” ขึ้น ซึ่งเป็นมาตรการหนึ่งของรัฐบาลที่จะช่วยเหลือให้ประชาชนที่ว่างงาน หรือตกงาน ได้มีงานทำ มีอาชีพ มีรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเปิดโอกาสให้แก่ผู้ที่สำเร็จการศึกษาและผู้ว่างงานที่ต้องการหางานทำได้มีโอกาสพบกับนายจ้าง/เจ้าของสถานประกอบการซึ่งเป็นผู้ที่ต้องการจ้างงานโดยตรง เป็นการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายของผู้หางานทำ และยังช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานให้แก่นายจ้าง สถานประกอบการอีกด้วย

นอกจากนั้นแล้วยังเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่มาร่วมงานนัดพบแรงงานและมหกรรมอาชีพ “สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง” จังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2553 ในวันนี้ถึงวันที่ 20 มีนาคม 53 เพราะนอกจากจะได้งานทำแล้วยังได้ชมกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระ โดยมีกลุ่มอาชีพและผู้ที่ประกอบอาชีพได้มาดำเนินการสาธิตและให้ปฏิบัติจริง เพื่อจะได้เกิดแนวคิดในการนำไปประกอบเป็นอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัวต่อไป

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้มีตำแหน่งงานวางรองรับความต้องการของผู้ว่างงานและนักศึกษาจบใหม่จำนวน จำนวน 4,168 อัตรา จากจำนวน 70 ผู้ประกอบการ โดยตำแหน่งงานที่ต้องการมากที่สุดคือ ตำแหน่งพนักงานขาย ตำแหน่งผู้ให้บริการในโรงแรม พนักงานฝ่ายผลิต และอื่นๆ ส่วนงานมหกรรมอาชีพ มีการสาธิตอาชีพและฝึกปฏิบัติ จำนวน 26 อาชีพ การแนะแนวอาชีพและทดสอบความพร้อมทางอาชีพ การให้คำปรึกษาแนวทางการประกอบอาชีพ การแสดงนิทรรศการและให้คำปรึกษาด้านอาชีพของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน การแข่งขันตอบปัญหาอาชีพ การแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP



จัดทำ ประสานแผนพัฒนา 3 ปี


เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 19 มีนาคม 2553 ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมซักซ้อมแนวทางและหลักเกณฑ์การจัดทำและประสานแผนพัฒนาสามปี พ.ศ. 2554 – 2556 โดยมี นายวัชรินทร์ ปฐมวัฒนพงศ์ รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายเสถียร แก้วพระปราบ ผู้อำนวยการกองแผนและงบประมาณ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมในการประชุมด้วย

ในการประชุมซักซ้อมแนวทางและหลักเกณฑ์การจัดทำและประสานแผนพัฒนาสามปี พ.ศ. 2554-2556 ในครั้งนี้ได้มีการวางแผนการดำเนินงาน การรับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ตโดยผ่านกระบวนการทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาปรึกษาหารือดพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ตต่อไป



เที่ยวเกาหลี 26,900 บาท


สุดพิเศษสงกรานต์นี้ เที่ยวเกาหลี 26,900 บาท เท่านั้น

เที่ยวสุดคุ้ม พัก 5 ดาว อาหารครบทุกมื้อ

รวมทุกอย่างแล้ว
แถมฟรี กระเป๋าเดินทางล้อลาก ท่านละ 1 ใบ

ทัวร์สนุก เที่ยวสบาย ไปกับชาร์มทัวร์


วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2553

รับฟังความคิดเห็นถนนใต้เสาไฟฟ้า


 
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 18 มีนาคม 2553 ที่ห้องจามจุรี 2 โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็น โครงการสำรวจและออกแบบรายละเอียดถนนใต้แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง โดยมีนายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหาร/ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ สื่อมวลชน แขกผู้มีเกียรติ และประชาชนที่มีส่วนได้เสียเข้าร่วม

นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการที่แขวงการทางจังหวัดภูเก็ต ในฐานะหน่วยงานหลักรับผิดชอบด้านการคมนาคม ซึ่งปัจจุบันโครงข่ายสายหลักในการเดินทางเชื่อมโยงจากพื้นที่ภายนอกเข้าสู่ตัวจังหวัดภูเก็ตมีเพียงทางหลวงหมายเลข 402 มีปัญหาการจราจรที่ติดขัดและมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาดังกล่าวมากขึ้น แม้ว่าจะได้มีการปรับปรุงและขยายช่องจราจรอย่างต่อเนื่องแล้วก็ตาม ดังนั้นจังหวัดภูเก็ต จึงมีแนวคิดในการที่จะสร้างโครงข่ายทางหลวงเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยแบ่งเบาการจราจรหลักที่ใช้ทางหมายเลข 402 เดิมประกอบกับมีแนวสายส่งศักย์สูงที่ทอดตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้ ขนานกับทางหลวงหมายเลข 402 ซึ่งได้มีการลิดรอนสิทธิการใช้ที่ดินตามแนวสายส่งดังกล่าว จะทำให้ลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนในการที่จะถูกเวนคืนที่ดินและเป็นการใช้ประโยชน์ที่ดินในด้านโครงสร้างพื้นฐานที่คุ้มค่า อีกทั้งสามารถดำเนินโครงการได้อย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรมเกิดประโยชน์ต่อท้องถิ่นโดยตรง จึงได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท พิสุทธิ์ เทคโนโลยี จำกัด และบริษัท ทรานส์คอนซัลท์ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการศึกษา สำรวจ และออกแบบรายละเอียดการก่อสร้างที่เหมาะสมในการก่อสร้างถนนตามแนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ระยะทางประมาณ 19.34 กิโลเมตร โดยมีจุดเริมต้นที่บริเวณจุดตัดแนวสายส่งกับถนนหลวงหมายเลข 402 ห่างจากทางแยกจุดตัดทางหลวง 4026 กับทางหลวงหมายเลข 402 ไปทางทิศเหนือ 600 เมตร และจุดสิ้นสุดจะห่างจากจุดตัดทางหลวง 402 เดิม มาทางด้านทิศตะวันออกประมาณ 200 เมตร

“ที่ผ่านมาคณะกรรมการกำกับการศึกษา และบริษัทที่ปรึกษา ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นมาอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 2 ครั้ง และได้ดำเนินงานมาถึงขั้นสุดท้าย โดยได้ข้อสรุปรายละเอียดรูปแบบและองค์ประกอบถนนทั้งหมด พร้อมแนวทางแก้ไขผลกระทบ ซึ่งผลการประชุมสัมมนาในครั้งที่ผ่านมาพบว่า 90% เห็นด้วยกับการดำเนินโครงการเพิ่มโครงข่าย โดยเห็นควรออกแบบและจัดทำเป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร อีกทั้งขอให้มีการเชื่อมทางเข้า-ออกแต่ละทางแยกด้วย ขอให้มีการจ่ายค่าชดเชยอย่างเป็นธรรม รวมทั้งให้มีการประชาสัมพันธ์ที่ต่อเนื่อง”

นายวิชัย กล่าวด้วยว่า จากการลงไปพูดคุยกับเจ้าของที่ดินซึ่งถูกรอนสิทธิ ส่วนใหญ่ก็จะมีการยกที่ดินให้แล้ว เนื่องจากมองว่าหากมีการตัดถนนเข้าไปก็จะเป็นประโยชน์ทั้งกับส่วนรวมและส่วนตัว แต่ยังมีเหลือเพียงบางส่วนซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา หากทุกรายยินยอมก็จะสามารถที่จะดำเนินการในการก่อสร้างได้ต่อไป เพราะจากการฟังความเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยอยู่แล้ว


2 มือปืนประกบยิงหมอสมชัยหน้าคลินิก


เมื่อเวลา 11.30 น.ของวันที่ 18 มีนาคม 53 พ.ต.ท.พีระพันธ์ มีมาก สารวัตรเวรสภ.เมือง ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง มีผู้เสียชีวิตอยู่ที่เกิดเหตุ เหตุเกิดหน้าคลินิกแพทย์สมชัย ตั้งอยู่เลขที่ 26 ถ.วิชิตสงคราม ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางมาตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้งก็ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบทราบ จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชลิต แก้วยะรัตน์ พ.ต.อ.โกมล วัตราภรณ์ พ.ต.อ.พีระยุทธ การะเจดีย์ รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ รองผกก.ป.พ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วง รอง.ผกก.สส. พ.ต.ท.วิจักษณ์ ตารมณ์ สว.สส. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมือง ภูเก็ตเจ้าหน้าที่วิทยาการเขต 44 ภูเก็ต แพทย์เวร รพ.วชิระ ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต


เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางถึง พบว่าได้มีชาวบ้านมุงดูที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่บริเวณหน้าคลินิกดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้กันให้คนออกจากบริเวณที่เกิดเหตุ พบศพเป็นชายนอนหงาย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีม่วง สวมกางเกงยีนต์ขายาวสีน้ำเงิน สวมรองเท้าผ้าใบ นอนอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสแมชต์ หมายเลขทะเบียน คจก-557 สงขลาจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ร่วมกับแพทย์ และเจ้าหน้าที่วิทยาการ ได้ร่วมกันชันสูตรพลิกศพ ทราบชื่อนายแพทย์สมชัย วงศ์บันเทิง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 ถนนวิชิตสงคราม ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็น เจ้าของคลินิกดังกล่าว สภาพศพถูกยิงเข้าที่ขมับขวาทะลุศีรษะด้านหลังจำนวน 1 นัด และ ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 2 ปลอกตกอยู่ที่พื้นใต้โต๊ะหินอ่อน ห่างจากศพราว 1 เมตร โดยใกล้กับศพยังพบกุญแจร้านและแว่นสายตาตกอยู่ที่พื้น ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อทำการตรวจสอบ ก่อนที่มอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมนำส่งรพ.วชิระภูเก็ต เพื่อทำการชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้ง


ทั้งนี้จากการสอบถามนายไมแม็ก ลูกจ้างชาวพม่า ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้เดินออกมาจากคลินิกโดยมีตนเดินตามหลังเพื่อจะออกไปกินข้าว จากนั้นได้มีคนร้ายขับรถยนต์เก๋ง สีบรอน์ทอง ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน มาจอดที่หน้าร้าน จากนั้นคนที่นั่งด้านข้างคนขับสวมหมวกแก๊ปสีดำ ใส่แจ๊กเก็ตแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ก็ได้ลงจากรถแล้วชักอาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะผู้ตาย 1นัด และยิงขู่ 1 นัด ทำให้ผู้ตายลงไปกองกับพื้น เมื่อคนร้ายแน่ใจว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว จึงได้เดินขึ้นรถยนต์เก๋งแล้วเร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถที่จะระบุสาเหตุแน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะมีปัญหาส่วนตัวหรือขัดแย้งธุรกิจ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายและคาดว่าน่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้





อธิการบดีฝากให้รักศักดิ์ศรี “ราชภัฏ”


เมื่อเร็วๆ ที่ห้องประชุม โรงแรมเมโทรโพล จังหวัดภูเก็ต ผศ.ดร.ประภา กาหยี อธิการบดี เป็นประธานเปิดงานพร้อมบรรยายพิเศษ ในการปัจฉิมนิเทศนักศึกษาโครงการ กศ.บป. มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ซึ่งจัดโดยกองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต โดยมีรศ.สมชาย สกุลทัพ รองอธิการบดี คณะผู้บริการ คณบดี ผู้อำนวยการสำนักต่างๆ ซึ่งมีผู้สำเร็จการศึกษา จำนวน 378 คน เข้าร่วม ในการบรรยายครั้งนี้ อธิการบดีให้ข้อคิดแก่ว่าที่บัณฑิต ให้มีความรักและรักในศักดิ์ศรี แห่งความเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ด้วยการก้าวสู่หน้าที่การทำงาน ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ประพฤติปฏิบัติตนในอันที่ถูกต้อง ถ้ามีทั้งความเก่งและความดีแล้ว สังคมจะยิ่งยอมรับในความเป็น “ราชภัฏ” มากยิ่งขึ้น


ผศ.ดร.ประภา กาหยี อธิการบดี กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในฐานะผู้บริหารมหาวิทยาลัย มีความภาคภูมิใจที่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ในฐานะสถาบันอุดมศึกษาที่เก่าแก่และได้รับการยอมรับจากสังคมผลิต “ว่าที่บัณฑิต” ที่มีคุณภาพออกสู่สังคมอีกรุ่นหนึ่ง ชื่อเสียงของผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยต้องการปลูกฝังและเราก็ทำได้สำเร็จสมดังเจตนารมณ์ที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะนักศึกษา กศ.บป.นั้น ต่างมีความมานะพยายามเพิ่มขึ้นจากปกติ เพราะหลายคนต้องจัดสรรเวลาการเรียนและการทำงานให้เหมาะสม จึงจะมีวันนี้ได้ ซึ่งน่าภูมิใจเป็นอย่างมาก ขอให้ทุกคนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ได้รับจากมหาวิทยาลัย ไปใช้ในการทำงานให้มากที่สุด โดยเฉพาะนักศึกษาจะต้องเรียนรู้ตลอดไป มิใช่ว่าไม่เรียนหนังสือแล้ว จบการศึกษาแล้ว ไม่มีครูคอยสอนแล้ว ก็ละเลยไป ไม่ควรคิดเช่นนั้น เพราะในโลกแห่งความเป็นจริง ควรที่จะศึกษาเรียนรู้ แสวงหาองค์ความรู้ใส่ตัวเองอยู่เสมอ ประการสำคัญ ควรมีความรัก และมีศักดิ์ศรี ในความเป็น “ราชภัฏ” ความเป็นมหาวิทยาลัย เราแสดงได้โดยการประกอบหน้าที่การงานอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับของผู้ประกอบการ รวมถึงการประพฤติปฏิบัติตนในทางที่ถูกที่ควร เป็นแบบอย่างที่ดีแก่บุคคลรอบข้าง เท่านี้ก็นับว่าเป็นการเสริมสร้างความรัก และสร้างศักดิ์ศรีให้กับมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตได้ ด้วยเรามีทั้งความเก่งและความดีที่เรามีและได้รับการสั่งสมจากมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตแห่งนี้”


ด้านรศ.สมชาย กล่าวว่า “สำหรับการปัจฉิมนิเทศของนักศึกษาในวันนี้ เป็นที่น่าชื่นชมว่า ทุกคนต่างใช้ความวิริยะ อุตสาหะ พากเพียรในการศึกษาเล่าเรียนตลอดหลักสูตรด้วยความมุ่งมั่นในการแสวงหาความรู้จากมหาวิทยาลัย เพื่อนำไปใช้ประกอบสัมมาอาชีพเป็นหนึ่งในสมาชิกที่ดีในสังคมไทย ซึ่งมหาวิทยาลัยมีความภาคภูมิใจในศักยภาพของผู้สำเร็จการศึกษาทุกคนและเชื่อมั่นว่าพวกเขาเหล่านี้จะนำความรู้และประสบการณ์อันทรงคุณค่าจากการหล่อหลอมของมหาวิทยาลัยไปใช้เพื่อประโยชน์ตนและประโยชน์ของส่วนรวมได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากการร่วมแสดงความยินดีของนักศึกษาแล้ว ยังเป็นการวางแนวทางให้ผู้สำเร็จการศึกษา มีความพร้อมในการออกไปสู่สังคมแห่งการทำงาน การประกอบวิชาชีพและพัฒนาวิชาชีพของตน กองพัฒนานักศึกษาจึงจัดพิธีปัจฉิมนิเทศขึ้นในวันนี้ โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยมาบรรยายให้ความรู้ในหัวข้อต่างๆ อาทิ การขอจบการศึกษา การเตรียมตัวเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ผู้ประกอบการใหม่...ไม่ยากอย่างที่คิด และการบรรยายเรื่อง “บันไดสู่ความสำเร็จ” โดยศิลปินแห่งชาติ คุณสถาพร ศรีสัจจัง ทำให้นักศึกษาได้แง่คิดที่หลากหลาย ในการก้าวสู่โลกแห่งสังคมการทำงานต่อไป”



 

ต้อนรับคณะแพทย์จากนอร์เวย์


โรงพยาบาลสิริโรจน์ (Phuket International Hospital) ให้การต้อนรับคณะแพทย์จาก Euro Center ประเทศนอร์เวย์ ในโอกาสเดินทางมาทัศนศึกษาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และได้เข้าเยี่ยมชมการดำเนินงาน และการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวของโรงพยาบาล



กองทัพเรือมอบทุนการศึกษา


เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 53 ณ ห้องประชุม ทัพเรือภาคที่ 3 ต.วิชิต อ.เมือง จว.ภูเก็ต พลเรือโท ชุมนุม อาจวงษ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษากองทัพเรือ ประจำปี 2552 ให้กับบุตรหลานในสังกัดทัพเรือภาคที่ 3

ทั้งนี้พลเรือโท ชุมนุม อาจวงษ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า กองทัพเรือ ได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องการศึกษาและตระหนักดีถึงภาระความรับผิดชอบของผู้ปกครอง ที่ต้องใช้จ่ายเงินในการศึกษาของบุตร - ธิดา เป็นอย่างยิ่ง กองทัพเรือจึงได้มีการอนุมัติมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรข้าราชการและลูกจ้างของกองทัพเรือเป็นประจำทุกปี 

สำหรับการมอบทุนในปีนี้ ได้แยกเป็นระดับมัธยมศึกษา ทุนละ 3,500 บาทจำนวน 3 ทุน ระดับประถมศึกษา ทุนละ 3,000 บาท จำนวน 5 ทุน ระดับอนุบาลศึกษา ทุนละ 3,000 บาท จำนวน 6 ทุน รวมทั้งสิ้นจำนวน 14 ทุน



อวยพรวันเกิด


คุณอนุรักษ์ ธารสิริโรจน์ กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลสิริโรจน์ (Phuket International Hospital) มอบกระเช้าพร้อมอวยพรวันเกิดแก่ คุณมานิตา สาลิกา ผู้จัดการฝ่ายธุรการ ของโรงพยาบาล ในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิด



วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2553

สมาพันธ์ อบต.ฯ ติวเข้มราชการท้องถิ่น


เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 17 มีนาคม 2553 ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรอยัลภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต สมาพันธ์ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ร่วมกับมูลนิธิปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล จัดการอบรมและสัมมนาการปรับปรุงระบบจำแนกตำแหน่งและค่าตอบแทนของข้าราชการส่วนท้องถิ่น โดยมีน.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต และนายอำนาจ แดงกุล ผู้ก่อตั้งและอดีตประธานสมาพันธ์ฯ เป็นประธานตีฆ้องเปิดการอบรมฯ นอกจากนี้ยังมีนายสถิตย์ ฉัตรแก้วชูไทย อดีตประธานสมาพันธ์ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย นายทวีศักดิ์ ศรีทองกิติกูล ประธานสมาพันธ์ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย และประธานกรรมการมูลนิธิปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ตลอดจนปลัดและรองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล หรือบุคคลที่เคยดำรงตำแหน่งปลัด/รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล นักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้สนใจ เข้าร่วมจำนวนประมาณ 2,000 คน ในโอกาสเดียวกันนี้ยังได้มีการมอบโล่เกียรติยศแก่คณะกรรมการฯ ซึ่งหมดวาระทำงาน และมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวของปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลที่เสียชีวิตในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 2 ราย

การจัดการอบรมและสัมมนาการปรับปรุงระบบจำแนกตำแหน่งและค่าตอบแทนของข้าราชการส่วนท้องถิ่น เกิดขึ้นโดย สมาพันธ์ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทยและมูลนิธิปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ได้เล็งเห็นความสำคัญในการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นการให้ความรู้ความเข้าใจในการปรับปรุงระบบจำแนกตำแหน่ง และค่าตอบแทนของข้าราชการส่วนท้องถิ่น ตลอดจนเป็นการระดมความคิดเห็นของข้าราชการส่วนท้องถิ่นเพื่อนำเสนอคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น (ก.ถ.)

ทั้งนี้ นายสถิตย์ ฉัตรแก้วชูไทย อดีตประธานสมาพันธ์ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ได้กล่าวบรรยายพิเศษ เรื่อง ข้าราชการท้องถิ่นใสสะอาด ตามแนวพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ สรุปได้ว่า จากปัญหาวิกฤติของโลกไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำ อาหาร พลังงาน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ โรคระบาด สังคมและการเมือง ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาวิกฤติของไทยและวิกฤติโลก เป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนจะต้องช่วยกัน โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไทย “แนวทางในการที่จะแก้ไขวิกฤตินั้นจะต้องมีหลักยึด ซึ่งหลักยึดที่ประเสริฐที่สุดในโลก คือ การน้อมนำหลักที่ในหลวงพระราชทานให้พสกนิกรไทย มาเป็นแนวปฏิบัติ ซึ่งหลักการทรงงาน หลักปรัชญาของในหลวง ประกอบด้วย จะต้องมีการศึกษาข้อมูลอย่างเป็นระบบ แก้ปัญหาจากจุดเล็กๆ โดยดำเนินการไปตามลำดับขั้น ทั้งนี้จะต้อง คำนึงถึงภูมิสังคม มีการมององค์รวม ไม่ยึดติดกับตำรา ดำเนินการอย่างประหยัด เรียบง่าย ได้ประโยชน์สูงสุด เน้นการมีส่วนร่วม คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม และบริการที่จุดเดียว ในการพัฒนานั้นจะต้องใช้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ ใช้อธรรมปราบอธรรม จะต้องปลูกป่าในใจคน ขาดทุนคือกำไร มีการพึ่งตนเอง พออยู่พอกิน เพื่อให้เกิดเป็นเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้ความซื่อสัตย์ สุจริต จริงใจต่อกัน และจะต้องทำงานอย่างมีความสุข”

ขณะที่ท่าน ว.วชิรเมธี ได้ปาฐกธรรม พิเศษ เรื่อง พุทธวจนะกับการครองตนของข้าราชการในยุคโลกไร้พรมแดน (Globalization) กล่าวว่า ข้าราชการ คือ ผู้ทำงานถวายพระราชา ฉะนั้นจะต้องปฏิบัติตนเป็นคนดี เพื่อให้ประชาชนหมดจากความทุกข์ และข้าราชการถือว่าเป็นผู้ที่ได้รับเกียรติสูงสุด และจะต้องเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบสูงตามไปด้วย ดังนั้นจะต้องมีความตระหนักรู้และมีความภาคภูมิใจในอาชีพ และจะต้องไม่ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม เพราะไม่เช่นนั้นแล้วก็จะทำให้เสียถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย
“ข้าราชการที่ดีในยุคโลกไร้พรมแดน ซึ่งมีสิ่งยั่วยุมากมายและหลากหลายที่มากับโลกาภิวัฒน์ ดังนั้นข้าราชการจะต้องเป็นมืออาชีพทั้งตัวและหัวใจ ดังนั้นข้าราชการที่ดีจะต้องเป็นผู้ให้ ไม่ใช่ผู้กอบโกย ดังเช่นตัวอย่างของพระเวสสันดร ซึ่งเป็นแบบอย่างของผู้ให้ที่แท้จริง, จะต้องเป็นผู้มีศีลหรือจริยธรรมในการดำรงชีวิต เบื้องต้นขอแค่เพียงศีล 5, เป็นผู้เสียสละเห็นแก่ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน, มีความซื่อสัตย์โปร่งใสไม่คอรัปชั่น, มีความอ่อนน้อมถ่อมตน, มีศักดิ์ศรี สง่างาม, ไม่ลุแก่โทสะ ต้องระมัดระวังในการใช้จุดอ่อนจุดแข็งในการปฏิบัติตน, มีเมตตาธรรมไม่แบ่งชนชั้น ไม่ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ, มีความอดทนต่อสิ่งยั่วยุหรือกิเลสทั้งหลายและมีความยุติธรรม”

อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญข้าราชการไทยที่ดีนั้นอุดมคติ นอกจากการยึดหลักการปฏิบัติดังกล่าวข้างต้นแล้ว สำคัญสุดท้าย คือ การตัดสินใจซึ่งจะต้องนำธรรมาธิปไตยมาใช้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย รวมทั้งจะถูกต้องตามหลักกฎหมายด้วย” ท่าน ว.วชิรเมธี กล่าว


ต้อนรับ “STRAWBERRY CHEESECAKE”


นางสาวศิริกุล อัมรามร ผู้อำนวยการ(ประชาสัมพันธ์) บริษัท ภูเก็ตแฟนตาซี จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ “ตุ๊ก” จันทร์จิรา จูแจ้ง และพีธีกรวัยทีนทั้ง 13 คน ที่เดินทางมาเยี่ยมชมภูเก็ตแฟนตาซี เพื่อถ่ายทำรายการ “STRAWBERRY CHEESECAKE” ซึ่งเป็นรายการ ทีนวาไรตี้ รูปแบบใหม่ นำเสนอเรื่องราวแฟชั่น และความทันสมัย ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3

แพทย์ พยาบาลเกาหลีดูงาน


โรงพยาบาลสิริโรจน์ (Phuket International Hospital) ให้การต้อนรับคณะพยาบาล และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลในประเทศเกาหลี ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของโรงพยาบาล เพื่อพัฒนาศักยภาพในการให้บริการร่วมกัน

ให้ความรู้เรื่องเบาหวาน


พญ.ลลิตา กองสีหา อายุรแพทย์โรคไต และพญ.โชติวรรณ ตันวัฒนานิกุล อายุรแพทย์โรคต่อมไร้ท่อและเบาหวาน ประจำศูนย์เบาหวาน ต่อมไร้ท่อ และโรคไต รพ.กรุงเทพภูเก็ต ร่วมให้ความรู้เรื่องโรคเบาหวาน และภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นกับไต พร้อมตอบข้อซักถามให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม “เบาใจ ปลอดโรคไตจากเบาหวาน” ที่รพ.กรุงเทพภูเก็ต จัดขึ้นเนื่องในวันไตโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ความรู้ และแนวทางในการดูแล ป้องกันตนเอง และครอบครัวให้ห่างไกลจากโรคภัย ไข้เจ็บ

วันอังคารที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2553

อบจ.ภูเก็ตจัด “โครงการศิลปินน้อย”ครั้งที่ 5


เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 53 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมวิทยาลัยสารพัดช่างภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานพิธีเปิด โครงการศิลปินน้อย ครั้งที่ 5 โดยมีคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายสุพล สวัสดี ผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างภูเก็ต และคณะผู้บริหารวิทยาลัยสารพัดช่างภูเก็ตให้การต้อนรับ

การจัดโครงการในครั้งนี้ วิทยาลัยสารพัดช่างภูเก็ต ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตได้เล็งเห็นคุณค่าของเยาวชนไทยที่จะเป็นบุคลากรของชาติในอนาคต จึงได้จัด โครงการ ศิลปินน้อย มาเป็นครั้งที่ 5 เพื่อที่จะพัฒนา EQ ให้กับเยาวชนชาวภูเก็ต ที่มีอายุระหว่าง 5-12 ปี ได้มาฝึกอบรมทางด้าน ศิลปะ ศิลปะคอมพิวเตอร์ และศิลปะทางด้านดนตรี เป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้กับเยาวชน เพื่อแบ่งเบาภาระช่วยลดรายจ่าย แก่พ่อแม่และผู้ปกครอง โดยจะเปิดอบรมระหว่างวันจันทร์ ที่ 15 มีนาคม 2553 ถึงวันศุกร์ ที่ 9 เมษายน 2553 โดยมีผู้เข้าอบรมศิลปินน้อย 3 รายวิชารวม 200 คน

นอกจากนี้โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต จำนวน 200,000 บาท และมีภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นวิทยากร วิทยาลัยเทคนิคกาญจนบุรี สนับสนุนครู มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช สนับสนุนครู วิทยาลัยสารพัดช่างภูเก็ต ได้ให้ความอนุเคราะห์ สนับสนุนวิทยากรและจัดทำโครงการต่อไป



งานมหกรรมหนังสือ

ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต ร่วมกับ เอเซียบุ๊คส์ จัดกิจกรรมเอาใจคนรักการอ่าน จัดแคมเปญพิเศษ “Book Caravan” ที่ขนขบวนหนังสือต่างประเทศมาลดราคาครั้งยิ่งใหญ่ ให้นักอ่านได้เลือซื้อกันอย่างจุใจ เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 24 มีนาคม 2553 ณ โซนเดอะพอร์ท ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 076-600-111


ประชุมวิชาการ AIA ภาคใต้


คุณปิยรัตน์ กุลวานิช ผู้จัดการฝ่ายการตลาด นำทีมการตลาด โรงพยาบาลสิริโรจน์ (Phuket International Hospital) เข้าร่วมงานการประชุมวิชาการ AIA ระดับภาคใต้ ประจำปี 2553 โดยนำกิจกรรมมากมายไปให้ชาว AIA ร่วมสนุก อาทิ ไดร์กอล์ฟ โยนห่วง และการทายสิ่งของในเป๊ะหรรษา ซึ่งได้รับความสนใจจากตัวแทนประกันชีวิตที่เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก ณ ห้องประกายเพชร โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า จังหวัดสุราษฏร์ธานี เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมาคุณปิยรัตน์ กุลวานิช ผู้จัดการฝ่ายการตลาด นำทีมการตลาด โรงพยาบาลสิริโรจน์ (Phuket International Hospital) เข้าร่วมงานการประชุมวิชาการ AIA ระดับภาคใต้ ประจำปี 2553 โดยนำกิจกรรมมากมายไปให้ชาว AIA ร่วมสนุก อาทิ ไดร์กอล์ฟ โยนห่วง และการทายสิ่งของในเป๊ะหรรษา ซึ่งได้รับความสนใจจากตัวแทนประกันชีวิตที่เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก ณ ห้องประกายเพชร โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า จังหวัดสุราษฏร์ธานี


ต้อนรับตัวแทน AIA


นายอนุรักษ์ ธารสิริโรจน์ กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลสิริโรจน์ (Phuket International Hospital) ให้การต้อนรับคณะตัวแทนประกันชีวิตจาก บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด (AIA) ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของโรงพยาบาล



ห้องสมุดเด็กวัดป่าส้าน

ปลอดโรคไตจากเบาหวาน


นพ.บดินทร์ ละเอียด รองผู้อำนวยการ และนพ.สมโภช นิปกานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ รพ.กรุงเทพภูเก็ต นำทีมแพทย์ พยาบาลและพนักงาน ร่วมทำบุญตักบาตรและประกอบพิธีทางศาสนา ในโอกาสเปิดศูนย์เบาหวาน ต่อมไร้ท่อ และโรคไต รพ.กรุงเทพภูเก็ต อนึ่งศูนย์เบาหวาน ต่อมไร้ท่อ และโรคไตให้บริการตรวจวินิจฉัย ดูแล รักษาและป้องกันโรคเบาหวาน โรคที่เกิดจากความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ และโรคไต โดยทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และการให้บริการที่มีคุณภาพได้มาตรฐานระดับสากล


พญ.ลลิตา กองสีหา อายุรแพทย์โรคไต ประจำศูนย์เบาหวาน ต่อมไร้ท่อ และโรคไต รพ.กรุงเทพภูเก็ต มอบรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ให้แก่ทีมนักปรุงอาหารจากสภากาชาดไทย จ.ภูเก็ต ในการประกวดปรุงอาหารเพื่อสุขภาพ ในงาน “เบาใจ ปลอดโรคไตจากเบาหวาน” ที่จัดขึ้นในวันไตโลก ณ รพ.กรุงเทพภูเก็ต



วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2553

ทน.ภูเก็ตเตรียมสร้างเครื่องสูบน้ำ


นายถาวร จิรพัฒนโสภณ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เปิดเผยว่า ในการประชุมสภาเทศบาลสมัยสามัญ สมัยแรก (ประชุมครั้งที่ 2) ประจำปี 2553 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ประชุมฯ มีมติเห็นชอบอนุมัติจ่ายขาดเงินสะสมของกองการประปาเทศบาลนครภูเก็ต เพื่อจ่ายเป็นค่าก่อสร้างอาคารสูบน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มแรงดัน ณ อ่างเก็บน้ำบางวาด ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่ใช้ในระบบการผลิตน้ำประปาของกองการประปาฯ ทั้งนี้สืบเนื่องจากการที่เทศบาลฯได้ดำเนินกิจการประปา เพื่อบริการประชาชนในเขตเทศบาล และนอกเขตบางส่วนซึ่งที่ผ่านมาใช้น้ำจากขุมของเทศบาล และได้รับความอนุเคราะห์จากขุมเหมืองเอกชนให้ใช้น้ำดิบในการผลิตน้ำประปาแต่ปัจจุบันเอกชนเจ้าของขุมเหมืองได้ยกเลิกการให้เทศบาลใช้น้ำ และเทศบาลฯต้องใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำบางวาดเป็นแหล่งน้ำดิบหลักในการผลิตน้ำประปา ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาพื้นที่จังหวัดภูเก็ตประสบกับปัญหาภัยแล้ง ทำให้ขุมน้ำเทศบาลแห้งขอดต้องทำการขุดลอก และระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำบางวาดลดลงทำให้การปล่อยน้ำในระบบปกติของอ่างเก็บน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการในการผลิตน้ำประปาจึงมีความจำเป็นที่จะต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มแรงดันเพื่อสูบน้ำขึ้นมาใช้ในการผลิตน้ำประปาให้เพียงพอต่อความต้องการในช่วงหน้าแล้งดังนั้น ที่ประชุมสภาเทศบาลฯจึงได้มีมติผ่านความเห็นชอบจ่ายขาดเงินสะสม จำนวน 8,828,000.-บาท เพื่อจ่ายเป็นค่าติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มแรงดัน ประกอบด้วย

- ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 1,000 ลูกบาศก์เมตร ต่อชั่วโมง พร้อมประสานเข้าเส้นท่อเดิม
- ติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า ขนาด 160 KVA พร้อมปักเสาพาดสาย
- ก่อสร้างอาคารสูบน้ำขนาด 8X10 เมตร

รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันประชาชนมีความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจากรายงานพบว่าจำนวนผู้ใช้น้ำ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2553 มีจำนวน 16,325 ครัวเรือน เพิ่มจากเดือนกันยายน ปี 2550 ที่มีจำนวน 15,293 ครัวเรือน ในขณะที่ กองการประปาประสบกับปัญหาการขาดแคลนแหล่งน้ำดิบ ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาสภาพอากาศแห้งแล้ง ฝนทิ้งช่วง ทำให้การผลิตน้ำประปาให้เพียงพอต่อความต้องการเป็นไปได้อย่างยากลำบาก โดยปัจจุบันกองการประปาสามารถผลิตน้ำประปาเฉลี่ยวันละประมาณ 21,126.99 ลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำของประชาชนมี 29,618 ลูกบาตรเมตรต่อวัน ทำให้กองการประปาต้องซื้อน้ำจากการประปาส่วนภูมิภาคและบริษัทเอกชนเพื่อให้บริการประชาชนเพิ่มอีกวันละ 3,379 ลูกบาศก์เมตรและ6,500 ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ เทศบาลนครภูเก็ตจึงขอความร่วมมือจากประชาชนในการใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอตลอดไป



บ้านพักเด็กและครอบครัวติวเข้มวิทยากร


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 มีนาคม 2553 นางจิรนันท์ เจียมเจริญ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมวิทยากรเพื่อป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ โดยมีครูจากโรงเรียนต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันการค้ามนุษย์และตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วม

นางจิรนันท์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัญหาการค้ามนุษย์ในปัจจุบัน พบว่า นอกจากจะทวีความรุนแรงขึ้นกว่าเดิมแล้ว ยังมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลาย ๆ ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยการย้ายถิ่นฐานเพื่อไปทำงานในเมือง หรือต่างประเทศ ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กและเยาวชนซึ่งเพิ่งจบการศึกษา ผู้ที่จบการศึกษาแล้วแต่ว่างงานและไม่มีโอกาสศึกษาต่อหรือกลุ่มเสี่ยงที่ขาดโอกาสทางการศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มการย้ายถิ่นฐานสูง มีโอกาสตกอยู่ในสถานการณ์การถูกชักจูงจากนายหน้าค้ามนุษย์ในชุมชน จากการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ทั้งนี้ผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อมักจะเป็นเด็ก ทั้งเด็กไทยและเด็กจากประเทศเพื่อนบ้าน บ้านพักเด็กในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลเด็กและเยาวชนและครอบครัว ตระหนักในปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดอบรมโดยวิทยากรให้ความรู้ ความเข้าใจแก่กลุ่มครูและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาการค้ามนุษย์ ไปถ่ายทอดให้เด็กและเยาวชน ตลอดจนชุมชนได้รับรู้ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป

นอกจากนี้ นางจิรนันท์ ยังได้กล่าวงถึง สถานการณ์ความรุนแรงการค้ามนุษย์ในจังหวัดภูเก็ตว่า ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของแรงงานต่างด้าว ประเภทประมงถูกหลอกให้มาทำงาน โดยบอกว่าการทำงานมีทั้งที่อยู่อาศัย และเงินเดือน แต่สุดท้าย ต้องมาอยู่อย่างลำบาก เงินที่ได้ก็ไม่ตรงกับที่พูดคุยไว้ นอกจากนี้ยังมีในส่วนของเด็กถูกอนาจารทางเพศ ซึ่งขณะนี้มีมากพอสมควร โดยพฤติกรรมและวิธีการ จะมาหลอกให้เด็กไปเล่นเกมส์ในบ้าน แล้วทำอนาจารทางเพศ พร้อมถ่ายวีดีโอไว้ ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กผู้ชายลูกครึ่ง โดยในปีนี้มีมากกว่า 10 รายแล้ว ทางสำนักงานได้ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว


ทน.ภูเก็ต จัดบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน


เทศบาลนครภูเก็ต กำหนดจัดบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนแก่เด็กและเยาวชนในโรงเรียนสังกัดเทศบาลที่มี อายุ11 – 15 ปี จำนวน 80 รูป ในวันที่ 4 เมษายน 53 ณ วัดวิชิตสังฆาราม (วัดควน) เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา และพัฒนาจิตใจเด็กและเยาวชน และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน ซึ่งในปีนี้จะทรงพระชนมายุ 55 พรรษา

นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เปิดเผยว่า เทศบาลนครภูเก็ตกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดบรรพชาสามเณรในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้รับการอบรมคุณธรรม ได้เรียนรู้การฝึกสมาธิเพื่อการพัฒนาการเรียน การทำงานตามวิถีพุทธได้เรียนรู้การทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้ รู้จักการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข ได้พัฒนาคุณภาพ และศักยภาพของตนเองทั้งทางด้านร่างกาย และจิตใจ สามารถนำเอาคำสอนของพระพุทธศาสนา มาใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณบิดา-มารดา โดยกำหนดเปิดรับสมัครเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรม ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 29 มีนาคม 2553 หลังจากนั้น เยาวชนที่จะเข้าร่วมโครงการจะต้องลงทะเบียนเพื่อเข้ารับการอบรมเตรียมความพร้อมในการปฏฺบัติตนและปฏิบัติกิจทางศาสนาอย่างถูกต้องก่อนบรรพชาในวันที่ 1 – 3 เมษายน 2553 โดยเยาวชนจะต้องพักอยู่ที่วัดเป็น เวลา 3 วัน หลังจากนั้นในวันที่ 4 เมษายน 2553 เทศบาลฯจะจัดพิธีโกนผมนาคในเวลา 08.30 และพิธีบรรพชา ในเวลา 14.00 น.โดยระหว่างบวชเรียนจะมีการนำเยาวชนไปศึกษาพระธรรม ณ วัดโสภณวนาราม (วัดป่าคลอก)วัดธารน้ำไหล(วัดสวนโมกข พลาราม) และวัดท่าเรือนอกจากนี้ยังมีการสอบพระธรรมวินัย และออกบิณฑบาตให้พุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญและชื่นชมวัตรปฏิบัติที่งดงามของเณรอีกด้วย โดยกำหนดลาสิกขาบทในวันที่ 30 เมษายน 2553

นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ปกครองที่สนใจ ส่งบุตรหลานเข้าร่วมกิจกรรมบรรพชาภาคฤดูร้อนสามารถสมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 29 มีนาคม 2553โดยนำหลักฐาน ใบสมัคร พร้อมรูปถ่าย 1-2 นิ้ว จำนวน 2 รูป,พร้อมลายเซ็นต์อนุญาตจากผู้ปกครอง สำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประชาชนผู้ปกครองที่ให้ความยินยอมจำนวน 1 ชุด โดยยื่นใบสมัครและสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักการศึกษาเทศบาลนครภูเก็ต หมายเลขโทรศัพท์ 0-7621-2725 โทรสาร 0-7622-0706

จังซีลอนฉลองครบรอบ 3 ปี ยิ่งใหญ่


นางสาวสลิลลา เศวตเศรนี เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ภูเก็ต สแควร์ จำกัด หรือ ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต ได้กล่าวถึงการจัดงานฉลองครบรอบ 3 ปี ศูนย์การค้าจังซีลอน ว่า ด้วยทางศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ได้ร่วมกับนาฎยศาลา หุ่นละครเล็ก โจหลุยส์ และ เอสเอฟ ซิเนม่า ซิตี้ ร่วมจัดงานฉลองครบรอบ 3 ปีศูนย์การค้าจังซีลอนอย่างยิ่งใหญ่ เตรียมยกทัพคณะนักแสดงแบบเต็มรูปแบบไปเปิดวิกการแสดงสุดอลังการให้ชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยวได้ชมกันเป็นครั้งแรก ในเรื่อง “กูรมาวตาร ตำนานพระราหู” ซึ่งได้รับรางวัลการแสดงทางวัฒนธรรมยอดเยี่ยมในงานประกวดเทศกาลหุ่นโลกครั้งที่ 10 ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเชค โดยการแสดงในครั้งนี้ นอกจากผู้ชมจะได้สัมผัสกับความงดงาม วิจิตรของหุ่นละครเล็กที่เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าของไทยที่มีมานานกว่า 100 ปีอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวที่กล่าวถึงตำนานของไทยเกี่ยวกับการเกิดจันทรุปราคา หรือ “ราหูอมจันทร์” ผ่านการเรียงร้อยเรื่องราวความเชื่ออย่างสร้างสรรค์ ผสมผสานศิลปะแขนงต่างๆ ได้แก่ โขน หนังใหญ่และหุ่นละครเล็ก นอกจากนี้ยังมีความพิเศษด้วยการบรรเลงบทเพลง และร้องสด ร่วมกับเครื่องดนตรีไทยและวงปี่พาทย์ เพื่อสร้างบรรยากาศและอรรถรสให้กับผู้ชมมากยิ่งขึ้น ตลอดจนการนำเทคนิคแสง สี เสียงและฉากสุดอลังการมาเพิ่มสีสันของการแสดงให้ครบรส ทั้งเนื้อหาวิถีวัฒนธรรม ความงาม ปราณีตของศิลปะการแสดงของไทย เพื่อให้ชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วโลกได้ประจักษ์และชื่นชมอย่างสมบูรณ์แบบ

ศูนย์การค้าจังซีลอน ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมชมสุดยอดการแสดงนาฎยศาลาหุ่นละครเล็ก โจหลุยส์ เรื่อง “กูรมาวตาร ตำนานพระราหู” ครั้งแรกในจ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 2 – 4 เมษายน 2553 โดยจะเปิดแสดงให้ชมวันละ 2 รอบ เวลา 19.30 และ 21.30 น. ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟ ซิเนม่าซิตี้ ชั้น 3 ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต (บัตรจำหน่ายราคา 1,000 และ 1,200 บาท) จองบัตรได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่โรงภาพยนตร์เอสเอฟ ซิเนม่า ซิตี้ โทร.076-600-555-9