จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ชาวภูเก็ตบริจาคสิ่งของและเงินสดช่วยน้ำท่วม


เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2553 ที่โรงแรมภูเก็ต เมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนางนลินี อัครเดชา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต นางอัญชลี วานิช เทพบุตร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง นายทศพร เทพบุตร และนายเรวัต อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จัดงาน “ชาวภูเก็ตร่วมใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม” เพื่อรับบริจาคสิ่งของและเงินสดส่งไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ร่วมกันรับมอบสิ่งของและเงินสด โดยมีประชาชนชาวภูเก็ตจำนวนมากทยอยเดินทางมามอบสิ่งของ ทั้งสิ่งของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวันที่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม เช่น น้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารแห้ง ยารักษาโรค เป็นต้น รวมทั้งเงินสด

ขณะเดียวกันทางจังหวัดภูเก็ตยังได้มอบเงินจำนวน 1 ล้านบาท ให้กับทางรัฐบาล เพื่อนำไปช่วยเหลือให้กับผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมทั้งประเทศ โดยมอบผ่านทางนางอัญชลี วานิช เทพบุตร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง นายทศพร เทพบุตร และนายเรวัต อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนที่เหลือก็จะนำไปกระจายมอบให้กับจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ภาคใต้ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่รับบริจาคแล้ว ทางจังหวัดได้นำสิ่งของทั้งหมดมาจัดเป็นถุงพร้อมที่จะส่งมอบให้กับผู้ประสบภัย พร้อมทั้งได้ขนส่งไปมอบให้กับผุ้ประสบภัยยังพื้นที่ต่างๆ ที่มีน้ำท่วมขัง เช่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง สตูล เป็นต้น

แจ้งความร้องทุกข์ขอตำรวจช่วยไกล่เกลี่ย


เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2553 ที่ สภ.เมืองภูเก็ต นายณภัทร นิมุ และน.ส.นงลักษณ์ ยิกุสังข์ อยู่บ้านเลขที่ 22/97 ถนนหลวงพ่อ อ.เมือง จ.ภูเก็ต บิดาและมารดาของ ด.ช.นรากร นิมุ (ยังไม่ได้ดำเนินการขอใบแจ้งเกิด) หรือน้องภูผา อายุ 7 วัน ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.ธรรมศักดิ์ พลเดช ร้อยเวร สภ.เมืองภูเก็ต ว่า แพทย์และผู้ร่วมทำคลอดบุตรชายของโรงพยาบาลเอกชน แห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต กระทำการโดยประมาททำให้บุตรชายได้รับบาดเจ็บ มีภาวะช็อค มีเลือดออกในชั้นศรีษะ กระดูกไหปลาร้าขวาหัก อาการตัวเหลือง โดยขอให้มีการบันทึกเป็นหลักฐาน และขอให้พนักงานสอบสวนทำการไกล่เกลี่ยก่อน

ทั้งนี้นายณภัทร กล่าวถึงการแจ้งความร้องทุกข์ในครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมาแพทย์ได้ทำการนัดภรรยา (น.ส.นงลักษณ์ ยิกุสังข์) มาทำคลอดที่โรงพยาบาล โดยมารอตั้งแต่เวลาประมาณ 07.00 น. และเข้าห้องคลอดเวลาประมาณ 16.00 น. จากนั้นไม่นานก็คลอดบุตรชาย โดยภรรยาไม่ทราบว่าแพทย์ใช้เครื่องดูดสูญญากาศดูดเด็กออกมา แต่มาทราบภายหลังเมื่อทำคลอดเสร็จแล้ว จากนั้นประมาณ 2 ชั่วโมง ทางโรงพยาบาลพบความผิดปกติของเด็ก คือ ตัวซีดและมีอาการช็อก เนื่องจากมีเลือดไหลมาคลั่งบริเวณใต้หนังศรีษะ ต่อมาแพทย์เฉพาะทางเด็กที่มีหน้าที่ดูแลเด็กแรกคลอดของทางโรงพยาบาล ได้เข้ามาดูอาการและช่วยเหลือเบื้องต้น และแจ้งว่าเด็กมีอาการช็อคและโคม่า แต่ด้วยทางโรงพยาบาลไม่มีแพทย์และเครื่องมือที่จะรักษาได้ จึงส่งต่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ในเวลาประมาณ 20.00 น.วันเดียวกัน

เมื่อไปถึงโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตแพทย์เฉพาะทางได้ทำการตรวจพบว่าเด็กมีภาวะช็อค มีเลือดออกในชั้นใต้หนังศรีษะ กระดูกไหปลาร้าขวาหัก อาการตัวเหลือง ซึ่งได้ระบุไว้ในใบรับรองแพทย์ของทางโรงพยาบาลกรุงเทพฯ และยังระบุด้วยว่าเกิดจากการทำคลอดโดยวิธีใช้เครื่องสูญญากาศ และมีค่ารักษาพยาบาลเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯ จำนวน 83,287 บาท โดยลดลงมาจากยอดจริงประมาณ 20% ทั้งนี้ในส่วนของค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลแห่งแรกนั้น มีใบแจ้งค่ารักษา 2 ฉบับ ฉบับแรกลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2553 เป็นรายการค่ารักษารวมของภรรยา จำนวน 12,728 บาท และอีกฉบับเป็นของบุตรชาย ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2553 เป็นค่ารักษาพยาบาลจำนวน 12,827 บาท นายณภัทรกล่าว

นายณภัทร กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการติดต่อทางผู้บริหารของโรงพยาบาลเพื่อถามหาความรับผิดชอบที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว มีการพูดคุยกันมาถึง 3 ครั้ง แต่ได้รับคำตอบว่าสามารถรับผิดชอบได้ในส่วนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลเท่านั้น โดยจะทำการลดค่ารักษาพยาบาลให้ ทั้งๆ ที่ค่ารักษาพยาบาลในส่วนของแม่ใช้ประกันสังคม จึงไม่มีผลแต่อย่างใด และเป็นที่น่าสังเกตว่าค่ารักษาในส่วนของลูกเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะอยู่ในโรงพยาบาลประมาณ 3 – 4 ชั่วโมงเท่านั้น

สิ่งที่อยากเรียกร้องคือ ขอความเป็นธรรมและอยากให้ทางผู้บริหารรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย เพราะที่ผ่านมาในการก็ได้ดำเนินการทุกอย่างตามที่แพทย์นัดหมาย ส่วนการเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯ ก็เป็นไปตามคำสั่งของแพทย์ผู้ดูแลเด็ก แต่ทางผู้บริหารโรงพยาบาลฯ กลับปฎิเสธความรับผิดชอบ จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยไกล่เกลี่ยก่อนว่าเป็นอย่างไรก่อนที่จะดำเนินการในขั้นต่อๆ ไป แม้ว่าในส่วนของบุตรชายขณะนี้ปลอดภัยแล้ว แต่ก็ยังต้องติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด นายณภัทรกล่าว


เกิดเหตุไฟไหม้ห้องเก็บของรีไชเคิล


เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2553 ร.ต.ท.ธรรมศักดิ์ พลเดช ร้อยเวรสภ.เมือง ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารภายในโรงเรียนทุ่งคาพะเนียงแตก ม.5 ต.รัษฎา อ.เมือง ภูเก็ต ขอให้ประสานรถดับเพลิงด้วย หลังรับแจ้งก็ได้ประสานไปยังเทศบาลตำบลรัษฎา พร้อมทั้งรายงายให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วง รองผกก.ส.สภ.เมือง ภูเก็ต นายสุรทิน เลี่ยนอุดม นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา เจ้าหน้าที่สายตรวจเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลรัษฎา และรถดับเพลิงจำนวน 3 คัน

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารคสล.ชั้นเดียว โดยภายในอาคารได้แบ่งเป็นห้องเก็บพัสดุ ห้องสมุด โดยที่ด้านหลังอาคารยังได้ต่อเติมเป็นห้องรีไซเคิล อยู่ภายในบริเวณโรงรัยนทุ่งคาพะเนียงแตกดังดล่าว โดยเพลิงกำลังลุกไหม้ภายในห้องรีไซเคิล และลุกลามเข้าไปยังห้องเก็บพัสดุ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง ก็พบว่าได้มีนักเรียน ชาวบ้าน ครู อาจารย์ ได้ระดมกันขนย้ายสิ่งของต่างๆ เช่น ทีวี เครื่องทำน้ำเย็น เอกสารสำคัญต่างๆ ที่อยู่ภายในห้องเก็บพัสดุออกมาไว้นอกห้อง เพื่อไม่ให้ไฟไหม้ ด้านเจ้าหน้าที่ก็ได้ระดุมฉีดน้ำ เพื่อดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ ไม่ให้ลุกลามต่อไปยังห้องข้างเคียง เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็สามารถสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปต่อไป

หลังเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปทำการตรวจภายในห้องต้นเพลิงซึ่งเป็นห้องรีไซเคิล โครงหลังคาซึ่งเป็นไม้ ถูกไฟไหม้หมด ทำให้กระเบื้องมุงหลังหล่นลงมากองกับพื้น และไฟได้ลามลงมาไหม้กระดาษที่วางกองอยู่กับพื้น ในเบื้องต้นก็ทราบว่า ภายในห้องดังกล่าว ได้จัดเป็นห้องรีไซเคิล โดยจะเก็บเอกสารที่ไม่ใช้แล้ว นอกจากนี้ยังพัสดุที่กำลังรอการแทงจำหน่ายอีกหลายรายการ เช่น เครื่องทำความเย็นตู้เย็น คอมพิวเตอร์ กระดาษเอกสารต่างๆ จักรยานในโครงการยืมเรียนจำนวน 9 คัน ได้รับความเสียหายหมด นอกจากนี้ไฟยังได้ไหม้ลามเข้าไปภายในห้องเก็บพัสดุได้รับความเสียหายด้วย นอกจากนี้ยังมีสิ่งของที่อยู่ภายในห้องเก็บพัสดุ ถูกน้ำที่ทางเจ้าหน้าที่ฉีดน้ำเข้าไปโดนได้รับความเสียหายอีกจำนวนหนึ่ง

จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่าให้ฟังว่า เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด ได้มีคุณครูบางท่านได้มาทำงาน และมีบางส่วนได้นัดเด็กนักรัยนมาเรียนเสริม ซึ่งอยู่ในอาคารอยู่ห่างจากอาคารที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร และอาคารห่างประมาณ 50 เมตร โดยไม่ช่วงเกิดแหตุไม่มีใครอยู่ในห้องสมุด และห้องเก็บพัสดุเลย กว่าจะรู้ก็ได้มีเปลวเพลิงลุกขึ้นมาแล้ว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ส่วนภายในห้องไม่มีสายไฟฟ้าแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องรอเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยาการ เขต 44 เข้ามาตรวจโดยละเอียดอีกครั้ง ส่วนความเสียหายเบื้องต้นคาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 5 แสนบาท



วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ตลาดท่องเที่ยวภูเก็ตทรงตัว ไฮซีซั่นนี้ดีต่อเนื่อง

ตลาดท่องเที่ยวภูเก็ตทรงตัว ไฮซีซั่นนี้ดีต่อเนื่อง

นายภูริต มาศวงศ์ศา อุปนายกด้านการตลาด สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวของภูเก็ตขณะนี้อยู่ในสภาวะทรงตัว เนื่องจากอยู่ในช่วงระหว่างการเปลี่ยนฤดูท่องเที่ยวจากกรีนซีซั่นเป็นไฮซีซั่น และนักท่องเที่ยวก็รอดูราคาแพคเก็จที่จะออกมาใหม่ ในขณะที่ราคาห้องพักต่างๆ ก็เริ่มที่จะปรับตัวสูงขึ้นตามลำดับแต่ยังไม่มากนัก แต่หลังจากผ่านสองสัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมกราคม ซึ่งถือเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาสูงสุดของการท่องเที่ยวอัตราค่าห้องพักและอัตราการเข้าพักก็จะเพิ่มสูงขึ้นหลังจากนั้นก็ลดลงมา โดยอัตราเข้าพักจะเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งตรงกับเทศกาลตรุษจีน ทั้งนี้ในช่วงไฮซีซั่นอัตราเข้าพักเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 70 – 75% แต่ช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาสูงสุดอัตราการเข้าพักจะอยู่ที่ประมาณ 90 – 98% ทั้งนี้ภาพรวมในปีหน้าคาดว่าจะดีไปจนถึงปลายเดือนเมษายน

เหตุที่มีความมั่นใจว่าตลาดท่องเที่ยวหลังจากเดือนพฤศจิกายนไปแล้วจะดีขึ้นตามลำดับ เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีช่องทางในการเดินทางเข้ามามากขึ้น เพราะการเปิดเที่ยวบินตรงของสายการบินต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น กาต้าร์แอร์เวย์บินมาจากเมืองโดฮา ซึ่งเป็นศูนย์กลางในฝั่งตะวันออกลาง อิหร่าน ยุโรปทางใต้ ซึ่งจากที่ได้เปิดบินมาระยะหนึ่งปรากฏว่าอัตราการจองที่นั่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เฉลี่ยประมาณ 90% ของจำนวนที่นั่งแต่ละเที่ยวบิน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอีกหลายตลาดที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ออสเตรเลีย เกาหลี และอื่นๆ นายภูริตกล่าวและว่า ในช่วงที่เกิดปัญหาภัยธรรมชาตินั้นก็ไม่ได้มีผลกระทบกับจำนวนนักท่องเที่ยวมากนัก โดยส่วนใหญ่จะไม่ได้ยกเลิกการเดินทาง แต่จะเลื่อนระยะเวลาการเดินทางออกไป ส่งผลให้อัตราการเข้าพักดีอยู่ โดยในระยะเดือนกันยายน – ตุลาคม อยู่ที่ประมาณ 60 – 65 % เดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ประมาณ 50% เนื่องจากมีการเปลี่ยนถ่ายฤดูกาลท่องเที่ยวจากกรีนซีซั่นเป็นไฮซีซั่น


ทน.ภูเก็ตเชิญร่วมบริจาคสิ่งของ

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2553 ที่สำนักงานเทศบาลนครภูเก็ต นายชัยพฤกษ์ พันธ์พฤกษ์ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายธวัชชัย ทองมั่ง ปลัดเทศบาลนครภูเก็ต ร่วมรับมอบสิ่งของบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ จากนายกรีฑา แซ่ตัน นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต ซึ่งประกอบด้วยเครื่องอุโภคบริโภค อาหารกระป๋อง อาหารแห้ง ยารักษาโรค น้ำดื่ม เสื้อผ้าและเงินจำนวน 10,000 บาท ซึ่งทางเทศบาลนครภูเก็ตเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ให้ความช่วยเหลือและประสานงานกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน และประชาชนทั่วไป โดยจัดตั้งเป็นศูนย์รับริจาคสิ่งของ ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

นายชัยพฤกษ์กล่าวว่า ตั้งแต่เทศบาลนครภูเก็ตจัดตั้งศูนย์รับบริจาคสิ่งของจำเป็นเพื่อช่วยผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง เสื้อผ้า ยารักษาโรค และสิ่งจำเป็นสำหรับการปรุงอาหาร เพื่อนำไปช่วยพี่น้องชาวใต้ที่ประสบภัยอุทกภัย โดยได้ตั้งเต้นและดิตป้ายประชาสัมพันธ์เชิญชวนพี่น้องประชาชน ร่วมบริจาคสิ่งของช่วยผู้ประสบภัย ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือดีจากหน่างงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน บริษัท ห้างร้าน และประชาชนทั่วไป ซึ่งหลังจากนั้นเทศบาลนครภูเก็ตจะรวบรวมสิ่งของส่งไปช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ รอบแรกในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ ทั้งนี้เทศบาลนครภูเก็ตก็ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมบริจาคสิ่งของช่วยผู้ประสบภัยได้ที่สำนักงานเทศบาลนครภูเก็ต ในวันเวลาราชการ


ภูเก็ตประสบความสำเร็จ เยือนไหหนาน


นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงผลการเข้าร่วมการประชุม The14 th Inter – Island Tourism Policy Forum (ITOP) ที่เมืองซันยา มณฑลไหหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน วันที่ 1 - 4 พฤศจิกายน 2553 ที่ผ่านมา ว่าารไปประชุมที่เมืองไหหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดพี่ จังหวัดน้องกับมณฑลไหหนาน และได้มีการร่วมลงนาม ด้วยกันทั้ง14 ประเทศ อาทิเช่น เกาะบาหลี อินโดนีเซีย เกาะเจชู ประเทศเกาหลีใต้ รวมทั้งประเทศฟิลิปปินส์ แคนาดา ญี่ปุ่น ศรีลังกา เป็นต้น

สำหรับการเดินทางไปประชุมครั้งนี้ได้รับการเชิญจากจังหวัดไหหนานที่เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม จังหวัดภูเก็ตในฐานะตัวแทนของประเทศไทยไปกล่าวสุนทรพจน์ ในเรื่องของแก๊สเรือนกระจก ว่าจะประหยัดพลังงานกันอย่างไร มีแนวทางในส่วนนี้มากน้อยแค่ไหน โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ตได้พูดถึงการลดพลังงาน โดยการลดใช้ถุงพลาสติก มาใช้ถุงผ้าแทน ความจริงก็ทำหลายอย่าง แต่ข้อมูลที่นำไปนั้นไม่เพียงเฉพาะภูเก็ตอย่างเดียวแต่ได้พูดถึงภาพรวมของประเทศไทยด้วย อะไรที่ประหยัดพลังงานได้เราก็จะทำการลดพลังงาน ให้พี่น้องประชาชนมีความรู้สึกว่าปลอดภัย แม้แต่เรื่องปัญหาขยะก็ได้มีการนำไปพูด และพูดถึงการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตด้วย

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่ออีกว่า จังหวัดที่ไปนั้นส่วนใหญ่เป็นจังหวัดหมู่เกาะทั้งสิ้น และเน้นหนักในเรื่องของการท่องเที่ยว ซึ่งทางไหหนานก็ประทับใจในจังหวัดภูเก็ตเพราะถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยงาม ทำรายได้ปีละ 1 แสนล้านบาทให้กับประเทศไทย ส่วนเรื่องอื่นๆไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมของไทยมีเอกลักษณ์ที่คล้ายกัน อย่างไรก็ตามทางจังหวัดภูเก็ตก็ได้เชิญชวนนักท่องเที่ยวจากฟิลิปปินส์ ศรีลังกา อินโดนีเซีย จีน ให้มาเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งส่วนใหญ่ก็มีการรับปากว่าจะเชิญชวนประชาชนของ 14 แห่งที่เข้าร่วมประชุม ให้เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้การประชุมถือว่าได้ประโยชน์อย่างมาก นอกจากนี้ทางไหหนานได้เปิดโอกาสให้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมด้วย ซึ่งมีเพียง 4 จังหวัดเท่านั้นที่ได้ขึ้นเวทีดังกล่าว และยังได้รับคำชมเชยจากผู้ที่เข้าร่วมการประชุม ที่สำคัญทางผู้ว่าราชการจังหวัดไหหนาน ได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและก็ได้ชื่นชมภูเก็ตพร้อมรับปากว่าจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเมืองไหหนานมเที่ยวภูเก็ตให้มากยิ่งขึ้น


คนกมลา-ในยางอพยพ หลังเสียงสัญญาณสึนามิดัง


ในช่วงเช้าของวันที่ 5 พฤศจิกายน 53 ประชาชนที่อาศัยและประกอบอาชีพอยู่บริเวณหาดในยาง อ.ถลาง และหาดกมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ต่างแตกตื่นตกใจและมีการอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย เนื่องจากมีเสียงสัญญาณเตือนภัยสึนามิดังขึ้นจากหอเตือนภัยที่อยู่บริเวณชายหาด


ทั้งนี้นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า จากการที่ได้ตรวจสอบไปยังศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้รับการประสานว่า ไม่ได้มีการกดสัญญาณเตือนภัยแต่อย่างใด และในส่วนของทางจังหวัดโดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ยังไม่ได้รับแจ้งว่าจะเกิดสึนามิ ทั้งนี้การตรวจสอบล่าสุดก็ยังคงยืนยันว่าเสียงสัญญาณเตือนภัยที่ดังขึ้นนั้น เกิดจากความขัดข้องของศูนย์เตือนภัยฯ และทางจังหวัดก็ได้แจ้งไปยังศูนย์เตือนภัยฯ ให้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงมาแก้ไขโดยเร่งด่วน เพราะหากปล่อยไว้ก็จะทำให้พี่น้องประชาชนเกิดอาการขวัญผวาและตื่นตระหนกตกใจไม่มีกำลังใจในการประกอบอาชีพ และครั้งนี้ถือว่ายังโชคดีที่เป็นเวลากลางวัน อย่างไรก็ตามแจ้งยืนยันให้พี่น้องประชาชนทราบว่าเสียงสัญญาณที่ดังขึ้นนั้นเกิดจากความผิดพลาดของศูนย์เตือนภัยฯ ซึ่งจะได้มีการจัดส่งเจ้าหน้าลงมาทำการแก้ไขในเร็วๆ นี้

ขณะที่นายสันติ์ จันทรวงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ได้ประสานข้อมูลไปยังศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เพื่อยืนยันการตรวจสอบการแจ้งเตือนของหอเตือนภัย ปรากฏว่าในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาไม่มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่อาจจะส่งผลกระทบหรือเกิดภัยสึนามิต่อจังหวัดชายฝั่งอันดามันแต่อย่างใด และไม่มีการกดสัญญาณเตือนภัยในพื้นที่ดังกล่าว แต่อาจเกิดจากความขัดข้องของระบบ ทั้งนี้ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติจะได้ตรวจสอบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป นายสันติ์กล่าว




ช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้


ช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้

เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสิริโรจน์ (Phuket International Hospital) ร่วมกันรับบริจาคเงิน เพื่อนำไปสมทบทุนมอบให้กับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จ.สงขลา เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภาคใต้


วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ทร.ภาค 3 นำถุงยังชีพพระราชทานแก่ประชาชน


ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีความห่วงใยในพสกนิกรของพระองค์ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ดังกล่าว จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ ในการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในทุกพื้นที่ และในครั้งนี้ได้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ฯ ให้กองทัพเรือ จัดถุงยังชีพพระราชทาน ให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้เป็นการเร่งด่วน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นหาที่สุดมิได้ ที่มีแก่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า

ในการนี้กองทัพเรือ มอบหมายให้ ทัพเรือภาคที่ 3 จัดตั้ง ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ทัพเรือภาคที่ 3 (ศบภ.ทรภ.3) ดำเนินการตามพระราชประสงค์อย่างเร่งด่วน โดยมี พลเรือโท ชุมนุม อาจวงษ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 / ผู้อำนวยการ

ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ทัพเรือภาคที่ 3 จัดนำถุงยังชีพพระราชทานจำนวน 600 ชุด มอบให้ผู้ประสบอุทกภัยที่ได้รับความเดือนร้อน ใน วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน 53 ณ โรงเรียนบ้านทุ่งสภากาชาดอุปถัมภ์ ตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูล

หน่วยบรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 3 จัดหน่วยบรรเทาสาธารณภัยฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 ร่วมกับ หน่วยบรรเทาสาธารณภัยหน่วยปฎิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 ให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน พร้อมได้จัดชุดให้การช่วยเหลือ จำนวน 4 ชุด เข้าทำการช่วยเหลือผู้ประสบอุทักภัยในพื้นที่ อำเภอละงู จังหวัดสตูล และเมื่อภัยพิบัติยุติลง ให้หน่วยต่าง ๆ สนับสนุนฝ่ายพลเรือนในการฟื้นฟูบูรณะตามที่ได้รับการร้องขอ หรือตามความจำเป็นอย่างเร่งด่วน ตามขีดความสามารถของหน่วยในพื้นที่ เพื่อให้พื้นที่ประสบภัยกลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว


ชาวภูเก็ตร่วมจุดเทียนส่งใจให้กามาร่า


เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2553 ที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานสโมสรเอฟซีภูเก็ต พร้อมด้วยนายเอี่ยม ถาวรว่องวงศ์ ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ นายฮัสซัน ฮาเหม็ด พี่ชายของกามาร่า นักเตะทีมเอฟซีภูเก็ต และแฟนคลับ ได้ร่วมกันจุดเทียนเพื่อส่งใจให้กับ กามาร่า ฮาเหม็ด นักเตะของทีมเอฟซีภูเก็ต เพื่อให้หายป่วยโดยเร็ว หลังจากที่เกิดอาการหัวใจวายช็อกหมดสติกลางสนามสุระกุลระหว่างการแข่งขันกับทีมชัยนาท เอฟซี เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ทั้งนี้นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจกามาร่า และมั่นใจว่าทีมเอฟซีภูเก็ต จะสามารถเป็นแชมป์ขึ้นไปสู่ทีมดิวิชั่นชั้น 1 ได้อย่างแน่นอน จึงต้องขอเป็นกำลังใจให้นักเตะทีมเอฟซีภูเก็ตทุกคน สำหรับเอฟซีภูเก็ตไม่ได้เป็นทีมของคนภูเก็ตเท่านั้น แต่เป็นทีมของภาคใต้ทุกจังหวัด ก็ขอให้ได้รับชัยชนะ เพื่อเป็นของขวัญให้กับกามาร่าและขอให้กามาร่าหายป่วยโดยเร็ว

ด้านฮัสซัน ฮาเหม็ด พี่ชายของกามาร่า กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รายงานทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ ซึ่งมีชาวภูเก็ตยืนอยู่เคียงข้างกามาร่าตลอดเวลาให้ครอบครัวได้รับทราบแล้ว ก็ขอบคุณชาวภูเก็ตทุกคนที่ให้ความสำคัญกับน้องชาย และขอบคุณนักเตะทีมเอฟซีภูเก็ตที่รู้สึกเป็นครอบครัวเดียวกันกับกามาร่า ถึงแม้ว่าวันนี้กามาร่าจะไม่อยู่ ไม่ได้ลงเตะ แต่ว่าเขาอยู่ในใจของทุกคน สำหรับตนไม่อยากได้อะไรจากชาวภูเก็ต เพราะที่ได้รับเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ขอให้ทุกคนสามัคคีกัน และสวดมนต์ให้กามาร่าอยู่ต่อไป ต้องสู้เพื่อเลื่อนชั้นขึ้นดิวิชั่น 1 ตามความหวังขอกามาร่า หากวันหนึ่งกามาร่าตื่นขึ้นมาแล้วทีมได้รับชัยชนะ เขาคงมีความสุขมาก และเราจะได้บอกกับลูกของกามาร่าที่มีอายุ 2 เดือนเศษในขณะนี้ได้ว่า พ่อของเขาเป็นนักสู้


มูลนิธิชุมชนภูเก็ตเตรียมจัดแข่งขันเป็ดยาง


เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ.2553 ที่ภัตตาคารบลูอิเลฟเฟ่น อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผศ.ปราณี สกุลพิพัฒน์ ประธานมูลนิธิชุมชนภูเก็ต พร้อมด้วยนายอลาสแดร์ ฟอร์บส์ รองประธานมูลนิธิชุมชนภูเก็ต ได้จัดแถลงข่าวการจัดงาน PCF Race Day

ทั้งนี้นายอลาสแดร์ ฟอร์บส์ รองประธานมูลนิธิชุมชนภูเก็ต และคณะกรรมการการจัดงาน PCF Race Day กล่าวว่า ทางมูลนิธิชุมชนภูเก็ตได้กำหนดไว้ให้เป็นการจัดกิจกรรมระดมทุนประจำปีครั้งที่ 2 โดยกำหนดจัดงานในวันที่ 23 มกราคม 2554 ตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป ที่บริเวณสวนช้าง ลากูน่าภูเก็ต สำหรับงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อระดมทุนเข้ามูลนิธิ และประชาสัมพันธ์มูลนิธิ

โดยรายได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุนครั้งนี้ จะนำไปสนับสนุนโครงการสาธารณะประโยชน์ต่างๆ ได้แก่ โครงการห้องสมุดของเล่น โดยได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลนให้ทั่วทั้งภูเก็ต และโครงการเปลี่ยนหลอดไฟท้ายให้รถจักรยานยนต์ เพราะทางมูลนิธิได้ตระหนักว่าการขับขี่รถจักยานยนต์บนท้องถนนในช่วงเวลากลางคืนนับเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้ขับขี่ที่ขับตามมาด้านหลังนั้นไม่สามารถมองเห็นได้ ซึ่งจากการสังเกตพบว่า หนึ่งในสิบสองคันของรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่ในจังหวัดภูเก็ตนั้นไม่มีไฟท้าย หรือไฟท้ายชำรุด โดยในระยะเวลา18 เดือนที่ผ่านมา ได้ทำการเปลี่ยนหลอดไฟท้ายให้รถจักรยานยนต์ไปแล้วถึง 800 คัน ซึ่งสามารถช่วงป้องกันการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างไม่สามารถประเมินค่าได้ และสำหรับอีกหนึ่งโครงการ คือการกระจายทุน เพื่อที่จะช่วยปรับปรุงพัฒนาความเป็นอยู่ในชุมชน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม

สำหรับกิจกรรมภายในงาน PCF Race Day มีการแสดงโชว์มายากล การประกวดแต่งแฟนตาซีเป็ดน้อย การโชว์เต้น อีกทั้งยังมีกิจกรรม เช่น การแข่งเตะบอลเข้าโกล์ กระโดดบนทรัมโปลีน โดยมีมูลนิธิชุมชนภูเก็ต ให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันเป็ดยางเพื่อการกุศลในครั้งนี้ จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาดังกล่าวข้างต้น



สายการบินกาตาร์ ฉลอง 10 ปี เพิ่มเที่ยวบินสู่ภูเก็ต


เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2553 ที่ โรงแรมอาคาเดีย จังหวัดภูเก็ต Mr.Akbar Al Baker ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินกาตาร์ เป็นประธานการแถลงข่าวสายการบินกาตาร์ โดยมี Mr.Marwan Koleilat รองประธานอาวุโส Mr. Joe Rajadurai ผู้จัดการสายการบินกาตาร์ประจำประเทศไทย กัมพูชา พม่า

ทั้งนี้ สายการบินกาตาร์เป็น สายการบินแห่งชาติของรัฐกาตาร์ ฉลองครบรอบ 10 ปี ของการให้บริการสู่เมืองไทยอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการเพิ่มเที่ยวบินเพื่อกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมเศรษฐกิจและการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งการเปิดให้บริการสู่ภูเก็ตที่ผ่านมานั้น รวมทั้งการเพิ่มเที่ยวบินสู่กรุงเทพฯ ทำให้สายการบินกาตาร์มีเที่ยวบินที่ให้บริการจากกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ สู่ประเทศไทยเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากสัปดาห์ละ 14 เที่ยวบิน เป็น 28 เที่ยวบิน

Mr.Akbar Al Baker กล่าวว่า การเพิ่มบริการสู่ประเทศสะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนถึงความสำคัญของความสัมพันธ์มาอย่างยาวนาน และแน่นแฟ้นขึ้น การที่สายการบินกาตาร์เริ่มเปิดให้บริการเที่ยวบินสู่ภูเก็ต จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของภูเก็ตตลอดทั้งปี จากที่เปิดให้บริการมาและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้โดยสารทั่วยุโรป ทำให้เชื่อมั่นในอนาคตของธุรกิจนี้และได้เพิ่มเที่ยวบินสู่ภูเก็ตเป็นวันละ 1 เที่ยวบิน


ทน.ภูเก็ตส่งเครื่องจักรและพนักงานฟื้ฟูนครหาดใหญ่


เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2553 ที่หน้าสำนักงานเทศบาลนครภูเก็ต นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถพร้อมเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์และบุคลากร ไปช่วยเหลือในการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยในพื้นที่เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ โดยมีนายชัยพฤกษ์ พันพฤกษ์ นายถาวร จิรพัฒนโสภณ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต พร้อมด้วยสมาชิกสภา ข้าราชการ และพนักงานเทศบาลนครภูเก็ตเข้าร่วมในพิธี

ทั้งนี้นายชัยพฤกษ์ พันธุ์พฤกษ์ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ได้กล่าวว่า ด้วยทางพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดสงขลา ปัตตานี นราธิวาส ยะลา พัทลุง และนครศรีธรรมราช ได้เกิดเหตุการณ์พายุดีเปรสชั่นพัดถล่มทำให้จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ เกิดวิกฤติน้ำท่วมอย่างหนัก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ทางเทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งเป็นอีกหน่วยงาน ที่ให้ความช่วยเหลือแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ประสบภัยพิบัติ โดยการจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยและศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมขึ้น เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2553 เพื่อรับบริจาคเงินและสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีพให้แก่พี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย พร้อมรวบรวมและขนส่งไปยังผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งทางเทศบาบนคีรภูเก็ตก็ได้ดำเนินการไปแล้ว

นายชัยพฤกษ์ ยังกล่าวอีกว่า หลังจากน้ำลดลงเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว พื้นที่บริเวณที่ถูกน้ำท่วมมีดินโคลนและขยะทับถมกันอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีพได้อย่างเป็นปกติสุข ทางเทศบาลนครภูเก็ต จึงได้ให้สนับสนุน เครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ และยานพาหนะ ประกอบด้วย รถยนต์บรรทุกน้ำ, รถยนต์ดูดโคลนเลน, รถยนต์บรรทุกดั้ม, รถยนต์ตักหน้า-ขุดหลัง, รถยนต์บรรทุกเทรลเลอร์, รถยนต์บรรทุกหางเหยี่ยว และรถยนต์กระบะ จำนวนรวมทั้งสิ้น 11 คัน พร้อมด้วยบุคลากรที่เดินทางไปช่วยเหลือในครั้งนี้จำนวน 30 นาย เพื่อเดินทางไปให้การช่วยเหลือ และฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยในพื้นที่เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ในครั้งนี้



วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เตรียมจัดงานนำเสนอผลงานโรงเรียน ครู และนักเรียน


เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2553 ที่หอประชุมโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย นางสาวสดศรี ตันสุธัญลักษณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 14 พร้อมด้วยนาย เจนจิต ภักดีไทย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต 11 และนาย นิติมิตร รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการโรงเรียนกาญจนภิเษกวิทยาลัย แทนผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กระบี่ เขต 13 ร่วมกันแถลงข่าวการจัดกิจกรรมนำเสนอผลงานโรงเรียน ครู และนักเรียน ในโครงการโรงเรียนมาตรฐานสากลระดับภาคใต้ โดยมีผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู นักเรียน และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วม

นางสาวสดศรี กล่าวว่า จากนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่มุ่งมั่นต่อการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษา โดยการยกระดับโรงเรียนชั้นนำของประเทศที่มีความพร้อม สู่โรงเรียนดีมีมาตรฐานสากล เพื่อให้เป็นโรงเรียนที่มีระบบการพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษา แหล่งเรียนรู้ สภาพแวดล้อม หลักสูตร และการจัดการเรียนรู้ที่เอื้ออำนวยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต มีนิสัยใฝ่เรียนรู้ มีความสามารถ คิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีคุณธรรม นำความรู้ รักความเป็นไทย และมีความสามารถก้าวไกลในระดับสากล หรือภายใต้โครงการ “โรงเรียนมาตรฐานสากล World-Class Standard School” ที่จัดหลักสูตรการเรียนการสอนเทียบเคียงมาตรฐานสากล โดยมีความมุ่งหวังไว้ว่านักเรียนมีศักยภาพ เป็นพลเมืองโลก ด้วยการคัดเลือกโรงเรียนที่มีศักยภาพในการต่อยอดให้บรรลุวัตถุประสงค์โครงการ

โดยมีโรงเรียนในโครงการทั่วประเทศ รวม 500 โรงเรียน เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษา 381 โรง โรงเรียนประถมศึกษา 119 โรง ใช้ระยะเวลาดำเนินการโครงการตั้งแต่ปี พ.ศ.2553-2555 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีศักยภาพเป็นพลเมืองโลก (World Citizen) ภายใต้แนวความคิด เป็นเลิศวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่างสร้างสรรค์ และร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก พร้อมยกระดับการจัดการเรียนการสอนให้เทียบเคียงมาตรฐานสากล โดยกำหนดรายวิชาเพิ่มเติมที่มีความเป็นสากล ได้แก่ ทฤษฎีความรู้ การเขียนความเรียงขั้นสูง กิจกรรมโครงงานเพื่อสาธารณะประโยชน์ และโลกศึกษา

สำหรับกิจกรรมนำเสนอผลงานโรงเรียน ครู และนักเรียน โรงเรียนในโครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล ระดับภูมิภาคของภาคใต้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษาเขต 14 (ภูเก็ต พังงา ระนอง) เป็นเจ้าภาพ จะจัดขึ้นในวันที่ 1-2 ธันวาคม 2553 ณ โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย โดยมีคณะครู นักเรียนในโรงเรียนมาตรฐานสากลทั้งระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ในภาคใต้ เข้าร่วมแข่งขันและนำเสนอผลงานจำนวน 77 โรง

ภายในงานจะประกอบด้วย กิจกรรมการนำเสนอผลงานโรงเรียน ครู และนักเรียน รวม 44 รายการ แบ่งออกเป็นระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย เช่น การนำเสนอผลงานโรงเรียน ผลงานครู การนำเสนอกิจกรรมสร้างสรรค์ประโยชน์ การเขียนเรียงความชั้นสูง ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เป็นต้น เพื่อคัดเลือกตัวแทนในระดับภูมิภาคเข้าแข่งขันในระดับชาติต่อไป


ขนส่งภูเก็ตแจ้งงดการเดินทางในพื้นที่ภาคใต้


นายกนก ศิริพานิชกร ขนส่งจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดอุทกภัยในจังหวัดภาคใต้ขณะนี้ ทำให้เกิดน้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ เป็นเหตุให้การบริการของรถโดยสารประจำทางไม่สามารถให้บริการประชาชนได้ หรือให้ได้แต่อาจจะไม่ถึงที่หมายหรือไม่เป็นไปตามเวลาที่กำหนดไว้

โดยเส้นทางการเดินรถที่มีผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้คือ สาย 441 เส้นทางภูเก็ต – ตรัง สาย 442 เส้นทางภูเก็ต – พัทลุง สาย 443 เส้นทางภูเก็ต – หาดใหญ่ สาย 734 เส้นทางภูเก็ต – สตูล สาย 746 เส้นทางภูเก็ต – สุไหงโกลก และสาย 775 เส้นทางภูเก็ต – เบตง

ดังนั้น ประชาชนที่จะเดินทางในเส้นทางตามที่กล่าวข้างต้น ขอให้ตรวจสอบข้อมูลการให้บริการของรถโดยสารประจำทาง ได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดภูเก็ต หมายเลขโทรศัพท์ 076-211977 หรือสายด่วน 1584 ทั้งนี้ สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ได้จัดเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่จะเดินทางในพื้นที่ดังกล่าวด้วยแล้ว จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบโดยทั่วกัน

ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต หมายเลขโทรศัพท์ 076-220791

กำนัน – ผู้ใหญ่บ้านภูเก็ต ช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่


เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2553 ที่บริเวณด้านหน้าอาคารที่ทำการชมรมกำนัน – ผู้ใหญ่บ้านฯ จังหวัดภูเก็ต ได้มีการปล่อยขบวนรถเพื่อนำอุปกรณ์และเครื่องใช้ ตลอดจนอาหารต่างๆ เพื่อไปใช้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นำโดยนายจำเริญ หลักฐาน ประธานชมรมฯ ซึ่งสิ่งของที่นำไปนั้น ประกอบด้วย อุปกรณ์ในการประกอบอาหาร หม้อหุงข้าว กระทะ เตาแก๊ส กล่องโฟม และอาหารต่างๆ ที่พร้อมในการปรุงได้เลย เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องปรุงต่างๆ ซึ่งมีตัวแทนชมรมกำนัน – ผู้ใหญ่บ้านฯ ลงพื้นที่ไปประกอบอาหาร เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมในขณะนี้โดยตรง ทั้งนี้ได้มีการประสานกับทาง กำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่หาดใหญ่ เพื่อจัดสถานที่ในการประกอบอาหารไว้แล้ว สำหรับประชาชนที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคอาหารแห้งเพิ่มเติมได้โดยตรงที่ชมรมกำนัน – ผู้ใหญ่บ้านฯ จังหวัดภูเก็ต โดยทางคณะฯ จะนำอาหารและสิ่งของที่ได้รับบริจาคไปสมทบอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2553 นี้


ส.ท่องเที่ยวร่วม ส.กอล์ฟมอบเงินช่วยเหลือน้ำท่วม


เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 53 ที่ห้องประชุมสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และนายวัชระ จารุอริยานนท์ นายกสมาคมกอล์ฟจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคมทั้ง 2 สมาคม ได้มอบเงินจำนวน 1.5 แสนบาท ให้แก่ พ.อ.พรศักดิ์ พูนสวัสดิ์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 25 เพื่อนำไปใช้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โอกาสเดียวกันนี้ยังได้ร่วมแถลงข่าวการจัดการแข่งกอล์ฟรายการพิเศษ “น้ำท่วมหรือจะสู้น้ำใจ” เพื่อหารายได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งจะจัดขึ้นที่สนามล็อคปาล์ม อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ในวันที่ 11 พ.ย.2553 ตั้งแต่เวลา 08.30 น.เป็นต้นไป ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถหาเงินรายได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท เพราะนอกจากจะจัดการแข่งขันแล้วยังได้จัดให้มีการบริจาคสิ่งของเพื่อมามาประมูลหารายได้และตั้งกล่องรับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมตามสนามกอล์ฟต่างๆ เช่น สนามกอล์ฟล็อคปาล์ม ภูเก็ตคันทรีคลับ บลูแคนย่อน และภูนาคา

ขณะที่นายสมบูรณ์ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะรวบรวมเงินจากประชาชนโดยเฉพาะคนที่เล่นกอล์ฟในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อส่งไปมอบช่วยเหลือให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเงินที่มอบไปส่วนแรกในวันนี้เพื่อไปจัดซื้อสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยเฉพาะหน้าก่อนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันก็จะมอบเงินในส่วนที่เหลือต่อไป



ฉลองฝนตกหนักน้ำท่วมเกือบครึ่งเมตร


เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 2 พฤศจิกายน 53 ที่ผ่านมา หลังฝนกระหน่ำตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ของตำบลฉลอง โดยเฉพะที่ถนนเจ้าฟ้าตะวันตกตั้งแต่ปากซอยปรารถนา จนถึงบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าโฮมโปร ม.10 ต.ฉลอง มีน้ำไหลบ่ามาจากเทือกเขานาคเกิดลงสู่ถนนสายดังกล่าว จนทำให้รถยนต์เก๋งและรถจักรยานยนต์ไม่สามารถผ่านไปมาได้ ทำให้รถติดยาวเหยียด นอกจากนั้นที่บริเวณหน้าร้านอาหารกันเอง ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก ถึงปากทางเข้าชุมชนโคกโตนด ต.ฉลอง มีน้ำท่วมขังตลอดสายกว่า 2 กิโลเมตร ทำให้รถเล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังพบว่าที่บริเวณหมู่บ้านแลนด์แอนด์เฮ้าส์ โครงการหมู่บ้านสีวลี 2 ถูกน้ำกัดเซาะจนกำแพงบ้านเรือนของประชาชนพังได้รับความเสียหายทั้งแถบ

ด้านเจ้าหน้าที่นำโดยพ.ต.ท.พาชัย มัธยันต์ สวป.สภ.ฉลอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสาย ได้ออกมาอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่สัญจรไปมาในเส้นทางดังกล่าว รวมทั้งให้ประชาชนที่ผ่านไปมาบนเส้นทางดังกล่าวได้ใช้เส้นทางลัดเพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าไปสัญจรในเส้นทางดังกล่าว แต่ก็ยังมีประชาชน รวมทั้งนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งขับรถฝ่าฝืนคำเตือนของเจ้าหน้าที่เข้าไปในเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง ทำให้รถเกิดดับและเกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ เจ้าหน้าที่ต้องลงมือช่วยกันเข็ญเพื่อให้ไปอยู่บนถนนที่น้ำไม่ท่วมและติดต่อเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกเรื่องการซ่อมแซมเครื่องยนต์เบื้องต้น

ในส่วนของอบต.ฉลอง นำโดยนายโอภาส ชอบดี รองนายกอบต.ฉลอง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่อปพร. มาคอยให้ความสะดวกแก่ประชาชนที่สัญจรไปมาในเส้นทางดังกล่าวด้วย และจากการตรวจสอบพบว่าบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ใกล้บริเวณดังกล่าวมีน้ำท่วมขัง น้ำได้ทะลักเข้าในบ้านเรือนของประชาชนหลายหลัง ซึ่งทางอบต.ฉลอง เตรียมให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น

ทั้งนี้นายโอภาส ชอบดี รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลฉลอง กล่าวว่า ทางอบต.ฉลอง ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามข่าวมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีคำเตือนของกรมอุตุฯ จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ฝนได้กระหน่ำตกลงมาอย่างต่อเนื่องและติดต่อกันหลายชั่วโมง ทำให้มีน้ำท่วมขัง จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าการช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่สัญจรไปมาเส้นในทางดังกล่าว

ส่วนสาเหตุที่น้ำท่วมขังครั้งนี้นั้นตนคิดว่าเกิดมาจากสาเหตุพายุดีเปรสชั่นพัดเข้าทะเลอันดามันทำให้ฝนตกหนักจนทำให้จากเทือกเขานาคเกิดบ่าลงมาอย่างหนัก ซึ่งก่อนหน้านี้บริเวณดังกล่าวเคยเกิดน้ำท่วมขังมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อหน้าสรรพสินค้าโฮมโปร ดำเนินการก่อสร้างก็ได้มีการขุดคลอกคูคลองข้างถนนทั้ง 2 ฝั่งจนมีความกว้างกว่า 1 เมตร และลึกกว่า 1 เมตร ทำให้น้ำหยุดการท่วมมาหลายปี จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็เกิดปัญหาน้ำท่วมขังอีกครั้ง ส่วนอีกสาเหตุที่สำคัญคือชาวบ้านนั้นสร้างบ้านเรือนจนติดที่สาธารณะไม่เหลือที่ไว้น้ำผ่าน เมื่อเกิดฝนตกหนักก็จะเกิดน้ำท่วมขังอยู่ตลอด โดยขณะนี้ทางอบต.ฉลอง ได้เร่งลอกคูคลองให้กว้างขึ้น รวมทั้งเร่งทำความสะอาดถนนและเก็บขยะที่บ่าลงมาบนถนน เป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้นไปก่อน ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาวนั้นจะต้องมีการตั้งงบประมาณของสภาเพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาวต่อไป ส่วนการช่วยเหลือบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายขณะนี้ทางจังหวัดภูเก็ต ได้ให้ออกสำรวจและจัดทำศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ในการช่วยเหลือแล้ว ซึ่งจนถึงขณะนี้น้ำได้ลดลงแล้รถสามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติแล้ว


“ชาวภูเก็ตร่วมใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมชาวใต้”


นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวถึงการจัดงาน ชาวภูเก็ตร่วมใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมชาวใต้ ว่า จากการที่จังหวัดภูเก็ตได้เปิดศูนย์รับบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในหลายจังหวัดของประเทศไทย ซึ่งได้ส่งความช่วยเหลือไปแล้วเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2553 ที่ผ่านมา และได้กำหนดจัดการรณรงค์ตามโครงการ “ชาวภูเก็ตร่วมใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม” เพื่อรับบริจาคครั้งใหญ่พร้อมกันในวันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2553 ณ โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน นั้น

ปรากฏว่า ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 เป็นต้นมา ได้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของภาคใต้ และส่งผลให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัด ได้แก่ จังหวัดสงขลา, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, ปัตตานี และตรัง โดยเฉพาะที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เกิดน้ำท่วมทั้งเมือง ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

จังหวัดภูเก็ต โดย นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จึงได้สั่งการให้ปรับแผนการรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยเน้นการนำเงินและสิ่งของที่รับบริจาคไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้เป็นหลัก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เพิ่งประสบภัยและอยู่ไม่ไกลจากจังหวัดภูเก็ต สามารถลำเลียงขนส่งสิ่งของต่าง ๆ ไปช่วยเหลือได้สะดวกกว่า

สำหรับท่านที่มีความประสงค์จะบริจาคเงินและสิ่งของ “ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้” สามารถบริจาคเงิน ได้ที่ ชื่อบัญชี “จังหวัดภูเก็ต ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม” ธนาคารกรุงไทย สาขาภูเก็ต เลขที่ 805-0-39371-2 หรือนำสิ่งของ เงิน มาบริจาคในวันรวมน้ำใจ “ชาวภูเก็ตร่วมใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้” วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2553 ตั้งแต่เวลา 13.00-17.00 น. ณ ห้องจามจุรี โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน


รับมอบอาคารบังคับน้ำขุมน้ำราชภัฏ


เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 53 ที่บริเวณขุมน้ำด้านหลังมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ตนายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ประธานในพิธีเปิดโครงการอาคารบังคับน้ำขุมน้ำราชภัฏ และร่วมเป็นสักขีพยานในการส่ง – รับมอบงานโครงการอาคารบังคับน้ำขุมน้ำราชภัฏ ระหว่างกรมชลประทาน โดยนายธีระชัย ชนเห็นชอบ ผู้ตรวจราชการกรมชลประทาน ส่งมอบให้กับเทศบาลตำบลรัษฎา โดยนายเชาวเลิศ จิตต์จำนง รองนายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา และส่งมอบต่อผศ.ดร.ประภา กาหยี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต โดยมีนายวีรวัฒน์ อังศุพาณิชย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานภูเก็ต แขกผู้มีเกียรติ และนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต รวมถึงเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธี

ทั้งนี้นายธีระชัย ชนเห็นชอบ ผู้ตรวจราชการกรมชลประทาน ได้กล่าวว่า จากวิกฤตเศรษฐกิจการเงินของโลก รัฐบาลได้กำหนดนโยบายมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่รวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ โดยได้จัดทำ “แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555” ซึ่งเป็นโครงการลงทุนภายใต้ แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และเพิ่มการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง ผ่านการลงทุนในภาครัฐ และเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนร่วมลงทุน ซึ่งเป็นการกระจายการลงทุนขั้นพื้นฐานไปสู่ต่างจังหวัดและชนบท

กรมชลประทานได้รับการจัดสรรงบประมาณตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 วงเงิน 47,029 ล้านบาท เพื่อเร่งรัดการจัดหาแหล่งน้ำให้ทั่วถึงและเพียงพอ รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรน้ำทางการเกษตร ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากน้ำอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยมีโครงการอาคารบังคับน้ำขุมน้ำราชภัฏเป็นหนึ่งในโครงการตามแผน ดังกล่าว

โครงการอาคารบังคับน้ำขุมน้ำราชภัฏ เป็นหนึ่งในโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งปี 2555 ลักษณะเป็นโครงการขุดลอกสระเก็บน้ำ พร้อมก่อสร้างอาคารประกอบ เกิดจากมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตได้ทำหนังสือเรียนโครงการชลประทานภูเก็ตเพื่อขอความอนุเคราะห์พัฒนาแหล่งน้ำดิบ ในมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ตามหนังสือที่ ศธ 0558/1362 ลงวันที่ 20 เมษายน 2549 โดยแหล่งน้ำดังกล่าวอยู่ในสภาพเสื่อมโทรม จึงขอให้กรมชลประทานดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อเป็นแหล่งน้ำดิบผลิตน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคของมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และประชาชนได้ใช้ประโยชน์และดูแลบำรุงรักษาร่วมกันต่อไป

นายธีระชัย กล่าวต่อไปอีกว่า กรมชลประทานโดยสำนักงานชลประทานที่ 15 ได้ดำเนินการพิจารณาโครงการสำรวจภูมิประเทศ ออกแบบ บรรจุเข้าแผนงานก่อสร้าง และได้รับการจัดสรรงบประมาณวงเงิน 14,430,000 บาท ตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ปี 2555 โดยดำเนินการก่อสร้างอาคารบังคับน้ำขุมน้ำราชภัฏ ประกอบด้วยงานก่อสร้างสระเก็บน้ำ งานก่อสร้างอาคารอัดน้ำ 1 แห่ง งานก่อสร้างอาคารรับน้ำ 1 แห่ง และงานก่อสร้างท่อลอดคันกั้นน้ำ 1 แห่ง ความจุสระเก็บน้ำ 34,000 ลูกบาศก์เมตร เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อเดือนมกราคม 2553 ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว เป็นแหล่งน้ำดิบ ผลิตประปา สำหรับการอุปโภค – บริโภคของอาจารย์ นักศึกษา และประชาชน


เตรียม TO BE NUMBER ONE ภูเก็ต


เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2553 ที่ห้องจามจุรี 2 โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการสังเคราะห์ยุทธศาสตร์ TO BE NUMBER ONE จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายแพทย์ นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

นายแพทย์ นรินทร์รัชต์ กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตได้น้อมรับโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด (TO BE NUMBER ONE) ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี มาดำเนินการตั้งแต่ปี 2545 โดยการบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยมีคณะกรรมการดำเนินงาน ตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 913/2553 และในปี 2553 ปีที่ผ่านมา จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดต้นแบบ TO BE NUMBER ONE ระดับทอง และชุมชนบ้านลิพอนเขาล้าน เป็นชุมชนต้นแบบรักษามาตรฐานระดับเงินปีที่ 3 จากการประกวดชมรม TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศ ในส่วนของโรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ภูเก็ต ได้ผ่านเข้าประกวดในระดับประเทศ และชุมชนอ่าวกุ้ง ได้ผ่านเข้าไปประกวดในระดับภาค

ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้าประกวด TO BE NUMBER ONE ในระดับภาค และระดับประเทศ ในปี 2554 นี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ฐานะเลขานุการโครงการ TO BE NUMBER ONE จังหวัดภูเก็ต จึงจัดประชุมเชิงปฏิบัติการสังเคราะห์ยุทธศาสตร์ TO BE NUMBER ONE ปี2554 ขึ้น เพื่อให้คณะกรรมการทุกท่านร่วมกันระดมความคิดเห็น และให้ข้อเสนอแนะ วางยุทธศาสตร์และการดำเนินงานของปีนี้ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ต่อไป


วันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ทัพเรือภาค3 เปิดศูนย์บรรเทาสาธารณะภัย


เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2553 ที่บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผบ.ทัพเรือภาค 3 ได้กล่าวถึงการเปิดศูนย์บรราเทาสาธารณภัย และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดอันดามัน ว่า ขณะนี้ในส่วนของทัพเรือภาคที่ 3 ได้จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาค3 ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติขึ้นแล้ว เพื่ออำนวยการความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลในพื้นที่ความรับผิดชอบ ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดสตูล กระบี่ พังงา ภูเก็ต ระนอง และจ.ตรัง โดยได้มีการจัดเตรียมกำลังพล อุปกรณ์เพื่อส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในกรณีที่จังหวัดต่างๆ แจ้งขอความช่วยเหลือเข้ามา ซึ่งขณะนี้ในแต่ละจังหวัดมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือไว้แล้วแต่ละจังหวัดสามารถที่จะแจ้งขอความช่วยเหลือเข้ามาได้ เมื่อได้รับแจ้งทางศูนย์จะจัดสิ่งของไปช่วยเหลือทันที

โดยหลังจากเปิดศูนย์ช่วยเหลือ ก็ได้มีตัวแทนจากโรงแรมศรีพันวาภูเก็ตได้มอบเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมผ่านทางพล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงศ์ ผู้บัญชาทัพเรือภาคที่ 3 เพื่อส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในขณะนี้จำนวน 1 แสนบาทด้วย

พล.ร.ท.ชุมนุม กล่าวอีกว่า ด้วยขณะนี้ทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้รับการร้องขอจากจังหวัดสตูล เพื่อขอเรือท้องแบน ทางทัพเรือภาคที่ 3 ก็ได้จัดส่งเรือยางท้องแบนจำนวน 4 ลำ พร้อมทั้งเครื่องอุปโภค บริโภคเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสตูล เนื่องจากมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนในหลายพื้นที่และจำเป็นที่จะต้องใช้เรือเพื่อเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

นอกจากจะมีการส่งเรือไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้วในส่วนของการเฝ้าระวังดูแลผู้ประสบภัยทางทะเลในฝั่งอันดามันกรณีเกิดเหตุเรือล่มนั้นทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ทั้งเรือรบขนาดใหญ่ และเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ที่พร้อมจะออกไปตรวจสอบและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลได้ทันที่ที่มีการขอความช่วยเหลือเข้ามา



ตม.ภูเก็ตรวบฮังการี่หลอกชาวยุโรป


เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2553 ที่ห้องประชุมสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.ภานุวัฒน์ ร่วมรักษ์ ผกก.ตม.ภูเก็ต ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายโซทาน อาร์เพ็ต ฮอร์วาท (Mr. ZOLTAN ARPAD HORVAH) อายุ 28 ปี สัญชาติฮังการี่ ในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด

ทั้งนี้พ.ต.อ.ภานุวัฒน์ ร่วมรักษ์ ผกก.ตม.ภูเก็ต ได้กล่าวว่า สำหรับการจับกุมนายโซทาน อาร์เพ็ต ฮอร์วาท ในครั้งนี้สืบเนื่องจาก ทางตม.ภูเก็ต ได้รับการประสานกับหน่วยงานต่างประเทศและเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ ว่านายโซทาน อาร์เพ็ต ฮอร์วาท มีพฤติกรรมหลอกลวงนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยร่วมกับเปิดบริษัท Thpages Online Media โดยอ้างว่าได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชักชวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย โดยเฉพาะทางภาคใต้ในราคาถูก ด้วยการจัดแพกเกจเข้าพัก 1 สัปดาห์ ตามโรงแรมหรูริมทะเล รวมค่าตั๋วเครื่องบินประมาณ 360 ยูโร หรือประมาณ 14,000 – 15,000 บาท

สำหรับวิธีการในชักชวนบริษัทตัวแทนนำเที่ยวจากประเทศฮังการี่ สเปน และออสเตรเลีย เข้ามาท่องเที่ยวก่อนตามราคาที่ตกลงกันไว้ เพื่อให้เกิดความประทับใจ และเมื่อตัวแทนบริษัทเหล่านั้นเดินทางกลับประเทศก็จะเชิญชวนลูกค้าให้มาท่องเที่ยว ซึ่งทางบริษัทสามารถหาลูกค้าได้มากกว่า 100 คน จากนั้นเมื่อมีการโอนเงินสำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยว แต่กลับไม่ได้รับตั๋วเดินทางและไม่มีการนำเที่ยวดังกล่าวแต่อย่างใด กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวฮังการี่ส่วนหนึ่ง จึงได้ไปแจ้งความกับตำรวจเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี่ไว้แล้ว

หลังจากทางตม.ภูเก็ตได้รับการประสาน ก็ได้สั่งการณ์ให้เจ้าหน้าที่ได้ออกทำการสืบสวน จนกระทั่งทราบว่า นายโซทาน อาร์เพ็ต ฮอร์วาท ได้พักอยู่ที่บ้านเลขที่ 25/68 หมู่บ้านเจ้าฟ้าการ์เด้นโฮม ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อทราบเช่นนั้นก็ได้ส่งชุดจับกุมเข้าไปทำการตรวจสอบ จากการเข้าไปตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าหนังสือเดินทางของนายโซทาน อาร์เพ็ต ฮอร์วาท หมดอายุเมื่อ 20 พฤษภาคม 53 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ควบคุมตัว พร้อมทั้งนำตัวส่งพนักงานวอบสวนสภ.ฉลอง เพื่อดำเนินคดี เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตม.ภูเก็ต ได้ประสานกับทางสถานทูตฮังการี่ในการส่งตัวนายโซทาน อาร์เพ็ต ฮอร์วาท ไปดำเนินคดีที่ประเทศฮังการี่

ทั้งนี้จากการสอบสวนเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่ ก็ทราบว่านายโซทาน อาร์เพ็ต ฮอร์วาท ได้ก่อเหตุฉ้อโกงผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งใน จังหวัดภูเก็ต และพังงา จำนวนหลายราย และได้มีผู้ประกอบการมาชี้ตัวและทำการทวงหนี้ไปแล้วจำนวน 4 – 5 ราย และได้มีการเคลียร์หนี้สินกันแล้วประมาณ 500,000 บาท และยังคงมีเหลืออีกหลายรายที่อยู่ระหว่างการเจรจา และไม่เฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศอังการี่เท่านั้นที่ถูกนายโซทาน อาร์เพ็ต ฮอร์วาท ยังมีนักท่องเที่ยวชาวสเปนอีกประมาณ 40 – 50 ราย และออสเตรเลียอีกไม่ทราบจำนวน ซึ่งนายโซทานฯได้เริ่มมีพฤติกรรมดังกล่าวมาตั้งแต่ต้นปลายปี 2552 ที่ผ่านมา หลังจากที่เขาได้เข้ามาอยู่ภูเก็ตกับพ่อแม่ที่เกษียณอายุเมื่อ 7 ปีที่แล้ว โดยมีมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

พ.ต.อ.ภานุวัฒน์ กล่าวต่อว่า พฤติกรรมดังกล่าวสร้างความเสียหายกับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท และยังสร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยในวงกว้าง และเป็นที่น่าเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวเป็นภัยต่อสังคมหรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน เข้าลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 12 อนุ 7 แห่ง พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และหากประชาชนชาวภูเก็ตพบเห็นชาวต่างชาติมีพฤติกรรมดังกล่าว สามารถที่จะแจ้งได้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต หรือ http://www.phuketimmigration.go.th/