จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ทำบุญ ไหว้พระ เยี่ยมอ๊ามภูเก็ต

ทำบุญ ไหว้พระ เยี่ยมอ๊ามภูเก็ต
นางอัญชลี วานิช เทพบุตร และ นายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดภูเก็ต นำคณะทีมที่ปรึกษา ส.ส. และกลุ่มสะตอ 24 ร่วมทำบุญไหว้พระศาลเจ้าในจังหวัดภูเก็ต อาทิ ศาลเจ้าแซ่เอี๊ยบ ศาลเจ้าเจ่งอ๋อง ศาลเจ้าหล่อโรง ศาลเจ้ากะทู้ ศาลเจ้าจ้อสู่ก้งนาคา ศาลเจ้าสามกอง

อบรมด้านโภชนาการ พนักงานพรทิพย์ ภูเก็ต


อบรมด้านโภชนาการ เสริมสร้างสุขภาพที่ดีแก่พนักงาน
บริษัท พรทิพย์(ภูเก็ต) จำกัด ส่งเสริมให้พนักงานมีสุขภาพที่ดี โดยจัดการอบรมด้าน "โภชนาการ" แก่คณะผู้บริหารและพนักงาน พรทิพย์(ภูเก็ต) เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดี จากการเลือกรับประทานอาหาร ให้ตรงตามหลักโภชนาการ ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากคุณศตวรรณ วงศ์สุทิน นักโภชนาการโรงพยาบาลสิริโรจน์ ให้การอบรมในครั้งนี้ โดยมีคุณยุพเยาว์ นาคากูล ผู้จัดการฝ่ายบุคคล พรทิพย์(ภูเก็ต) ให้การดูแลตลอดการอบรมด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง

แห่พระรอบเมืองศาลเจ้าท่าเรือ


เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 1 ตุลาคม 54 ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของประเพณีถือศีลกินผักประจำปี 2554 โดยวันที่ทางศาลเจ้าบ้านท่าเรือ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง ภูเก็ต และศาลเจ้าเจ่งอ๋อง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง ภูเก็ต ได้ประกอบพิธีแห่พระรอบเมือง หรือ อิ้วเก้ง บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก โดยมีม้าทรงทั้งชายและหญิงเข้าร่วมขบวนแห่เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงมีการใช้อาวุธตามตำนานและวัสดุนอกตำนานทิ่มแทงร่างกาย เช่น ปืนเด็กเล่น เครื่องบินบังคับ ชะแลงเหล็ก กาพ่นสีรถ อุปกรณ์สูบบารากู โช๊ครถจักรยานยนต์ เป็นต้น เพื่อเป็นการเคราะห์แทนผู้ร่วมถือศีลกินผัก สร้างความหวาดเสียวให้กับประชาชนทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้มีเชื้อสายจีนจากประเทศจีน สิงคโปร์ และมาเลเซีย ที่มาชมขบวนแห่พระเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ตลอดเส้นทางที่ขบวนพระแห่ผ่านยังคงมีประชาชน และนักท่องเที่ยวซึ่งตั้งโต๊ะบูชารอรับขบวนแห่พระจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณหน้าโรงแรมเมโทรโพลและโรงแรมเพิร์ล เพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ทางด้านนางอัญชลี วานิช เทพบุตร และนายเรวัต อารีรอบ ส.ส.จังหวัดภูเก็ตก็ได้ตั้งโต๊ะรับขบวนพระที่บริเวณหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนนางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนานายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ร่วมตั้งโต๊ะรับขบวนแห่พระที่บริเวณลานนวมินทร์
สำหรับการแห่พระรอบเมืองในพรุ่งนี้ (2 ต.ค.54) จะเป็นการแห่พระรอบเมืองของศาลเจ้าบางเหนียว ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีอายุประมาณ 108 ปี โดยมีม้าทรงที่เข้าร่วมขบวนแห่พระจำนวนมาก และศาลเจ้าเชิงทะเลซึ่งแห่พระในพื้นที่ ต.เชิงทะเลและบ้านเคียน อ.ถลาง นอกจากนี้ในช่วงค่ำของวันดังกล่าวจะมีศาลเจ้าต่างๆ ประกอบพิธีลุยไฟหรือพิธีโก้ยโห้ย ได้แก่ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย ศาลเจ้าบ้านท่าเรือ ศาลเจ้าหล่อโรง ศาลเจ้าซอยพะเนียงศาลเจ้าสะปำ ศาลเจ้านาบอนและศาลเจ้าเจ๋งอ๋อง

อบต.ฉลองเปิดลานสุขภาพ


เมื่อวันที่ 30 กันยายน 54 ที่บริเวณสวนสาธารณะ และลานสุขภาพวงศ์สิริ ต.ฉลอง อ.เมือง ภูเก็ต นายณัฎฐ์พงศ์ วิมลพันธุ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลฉลอง พร้อมด้วย คณะบริหารและสมาชิกสภาอบต.ฉลอง ได้ร่วมกันเปิดสนามลานสุขภาพประจำ หมู่บ้านวงศ์สิริ โดยมีประชาชนของหมู่บ้านร่วมให้การต้อนรับและทดลองใช้ออกกำลังกาย

ทั้งนี้นายณัฎฐ์พงศ์ วิมลพันธุ์ นายกอบต.ฉลอง ได้กล่าวว่า ตามที่ รัฐบาล ได้มีนโยบาย ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชน มีสุขภาพดีถ้วนหน้า โดยใช้หลัก 3 อ. คือ อาหาร – ออกกำลังกาย – อารมณ์ ซึ่งการออกกำลังกาย เป็นส่วนสำคัญที่สนับสนุนให้ประชาชนมีสุขภาพดีทั้งทางกายและจิตใจ ตำบลฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เป็นสังคมเมืองแห่งเศรษฐกิจ ประชาชนจึงไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย หรือไม่มีสถานที่และอุปกรณ์ที่เหมาะสมในการออกกำลังกาย จึงจำเป็นที่สุดจะต้องหาเวลาสถานที่ปลอดโปร่ง และอุปกรณ์ที่เหมาะสมในการออกกำลังกาย และจากสถิติ การสำรวจข้อมูล การออกกำลังกาย ของประชาชน ในตำบลฉลอง พบว่า มีประชาชนออกกำลังกาย 15.14 % ของประชาชนทั้งหมดสาเหตุหลักมาจาก การขาดสถานที่ออกกำลังกาย ซึ่งจากข้อมูลออกกำลังกาย และปัญหาการขาดสถานที่ นั้น ทำให้ประชาชน ขาดโอกาสในการส่งเสริมสุขภาพ จนทำให้ประชาชนในตำบลฉลอง มาภาวะเสียงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน สูงสุด 50.15 % ของประชากรทั้งหมด
กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม องค์การบริหารส่วนตำบลฉลอง ได้เห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมให้ประชาชนในพื้นที่ตำบล มีสุขภาพที่ดี และเป็นการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในด้านส่งเสริมสุขภาพการออกกำลัง และการควบคุมป้องกันโรคไม่ติดต่อ (ความดันโลหิตสูงและเบาหวาน) จึงได้จัดทำโครงการจัดซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายกลางแจ้ง /เครื่องเล่น รวมทั้ง สิ้น 6 แห่ง เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เยาวชนและประชาชนตำบลฉลองได้ออกกำลังกายเพิ่มมากขึ้น เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนด้านการส่งเสริมสุขภาพ โดยงบประมาณจากโครงการจ่ายขาดเงินสะสม ประจำปี 2554 เป็นเงิน 1,992,600 บาท นายกอบต.ฉลอง กล่าว


นโยบายรัฐบาลชุดใหม่ทำได้จริงหรือ


เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2554 ที่ห้องแกรนด์บอลรูม 2 โรงแรมรอยัลภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายถาวร ลีนุตพงษ์ ประธานคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน วุฒิสภา เป็นประธานการสัมมนา เรื่อง “วิเคราะห์และศึกษาผลกระทบนโยบายประชานิยมค่าแรงและเงินเดือน...ของนโยบายรัฐบาลชุดใหม่ทำได้จริงหรือ ?” ซึ่งคณะกรรมาธิการการเงินการคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน วุฒิสภา และคณะอนุกรรมาธิการนโยบายการเงิน การคลังและงบประมาณ จัดขึ้น เพื่อรับทราบข้อมูลและความเห็นต่อนโยบายการขึ้นค่าแรงและการปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ผลดีและผลเสีย ตลอดจนปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากนโยบายดังกล่าว เพื่อคณะกรรมาธิการฯ จะนำข้อมูลที่ได้รับไปประมวลผลร่วมกับผลการสัมมนาของ จ.เชียงใหม่ อุดรธานี และกรุงเทพมหานคร เพื่อเสนอต่อวุฒิสภาและนำเสนอต่อรัฐบาลเพื่อพิจารณาแนวทางที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนต่อไป
ทั้งนี้ในการอภิปรายในประเด็นดังกล่าว นพ.ศิริชัย ศิลปอาชา ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นนโยบายการหาเสียงของนักการเมือง ซึ่งจะทำได้จริงหรือไม่เป็นอีกเรื่อง ดังนั้นจึงอยากให้มีการแก้ปัญหาตั้งแต่ระบบโครงสร้างของการเลือกตั้งและการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งน่าจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนหนึ่งให้เลือกตั้งตามจำนวนประชากรของแต่ละจังหวัด กับอีกส่วนหนึ่งให้พิจารณาจากการเสียภาษี ซึ่งจะเกิดความสมดุลมากขึ้น แต่ก็คงเป็นเรื่องยาก ส่วนการปรับขึ้นค่าจ้างตามนโยบายรัฐบาลทั้งค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันและเงินเดือน 15,000 บาทนั้น เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำตามที่หาเสียไว้ หากมองในแง่ดีก็จะเป็นการกระจายรายได้สู่คนทำงาน และในระยะยาวหากรอดไปได้ก็จะเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประชาคมอาเซียนในปี 2558 เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ และระบบการจัดการด้านแรงงานของไทยจะดีขึ้น ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการ เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องหามาตรการช่วยเหลือเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดได้
ขณะที่นางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย สมาชิกวุฒิสภา จ.ภูเก็ต และประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยววุฒิสภา กล่าวว่า แม้ภูเก็ตจะทำรายได้จากการท่องเที่ยวมาเป็นอันดับ 2 ของประเทศ แต่ที่ผ่านมาไม่มีรัฐบาลชุดใดให้ความสำคัญกับเรื่องการท่องเที่ยว รวมทั้งรัฐบาลชุดนี้ด้วย ซึ่งไม่มีผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง และมักมองว่าภูเก็ตรวยแล้วจึงมีการจัดงบประมาณในการพัฒนาลงมาค่อนข้างน้อย แต่ในความเป็นจริงแม้ว่าตัวเลขของนักท่องเที่ยวจะมีจำนวนมาก แต่จำนวนรายได้กลับเท่าเดิมหรือบางครั้งอาจจะน้อยกว่า เนื่องจากจำนวนห้องพักที่เพิ่มมากขึ้น โดยในปีนี้จังหวัดภูเก็ตมีห้องพักเพิ่มมากกว่า 10,000 ห้อง ในขณะที่รายได้เพิ่มขึ้น ในขณะที่เจ้าของกิจการส่วนใหญ่ก็จะเป็นชาวต่างชาติ
ในการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำนั้นแม้เป็นเรื่องที่ดีสำหรับลูกจ้างหรือแรงงาน แต่ขณะดียวกันก็มีปัญหาในเรื่องของการจ้างงาน เพราะปัจจุบันไม่เฉพาะแรงงานไทยเท่านั้นแต่ยังมีแรงงานต่างด้าวก็เรียกร้องค่าจ้างในอัตราที่เท่ากัน ซึ่งจะส่งผลให้มีการปรับลดพนักงานเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เพราะเงินเดือนเป็นต้นทุนซึ่งอยู่ในอัตราส่วนประมาณ 25-30% นอกจากนี้ยังจะส่งผลกระทบต่อผู้ที่อยู่นอกภาคการท่องเที่ยว เช่น เกษตร ประมง เป็นต้น ที่จะต้องมาแบกรับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ดังนั้นการแก้ปัญหาดังกล่าวควรจะเริ่มตั้งแต่ต้นทาง และเห็นด้วยที่จะปรับขึ้นค่าจ้างแต่ควรจะเป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป
ในส่วนของโรงแรมเองก็ต้องแบกรับค่าแรงที่สูงขึ้นเพราะแม้แต่แรงงานพม่าเองก็มาร้องขอค่าแรงเท่ากับคนไทย ซึ่งขณะนี้ในส่วนของโรงแรมตนก็มีการประชุมเพื่อที่จะปรับลดคนทำงานให้น้อยลงเพื่อที่จะลดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ภาครัฐจะต้องเข้าไปดูแล และที่สำคัญตนเห็นด้วยกับการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แต่จะต้องเป็นลักษณะของการค่อยเป็นค่อยไป ไม่เช่นนั้นผู้ประกอบการก็จะต้องมีการปิดตัวลงอย่างแน่นอน รวมทั้งที่ผ่านมาการช่วยเหลือต่างๆ ของรัฐบาลต่อภาคการท่องเที่ยวมีน้อยมาก นางธันยรัศม์กล่าว
ด้านนายภูมิกิตต์ รักแต่งาม อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การปรับค่าแรงเพิ่มมากขึ้นดีกว่าค่าแรงน้อยอย่างแน่นอน แต่การปรับขึ้นค่าแรงนั้นควรจะมาจากการศึกษาของนักเศรษฐศาสตร์และเป็นไปตามหลักเศรษฐศาสตร์ไม่ใช่นักการเมือง เพราะจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการอธิบายที่มาที่ไปหรือโครงสร้างของการปรับค่าแรงเป็น 300 เท่ากันทั่วประเทศ หรือปรับขึ้นเงินเดือน 15,000 บาท ซึ่งมองว่าไม่น่าจะเป็นไปได้จริง เพราะแต่ละพื้นที่จะมีค่าครองชีพที่แตกต่างกัน และการทำเช่นนี้ก็เหมือนกับการแก้ปัญหาเรื่องหนึ่งแต่กลับไปสร้างปัญหาอีกเรื่องหนึ่งซึ่งไม่ใช่วิธีการบริหารจัดการที่จะเดินหน้าไปได้ดี
“หลังจากที่มีการประกาศปรับค่าแรงและเงินเดือน ปรากฏว่าค่าครองชีพได้ปรับไปรออยู่แล้ว ดังนั้นแม้จะปรับขึ้นก็ไม่ทันกับค่าครองชีพ และความคาดหวังที่ว่าเงินเดือนที่ปรับขึ้นจะเหลือเพิ่มขึ้นก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ซึ่งก็จะไปกระทบกับภาพรวมทั้งหมด และการประกาศนำร่อง 7 จังหวัดนั้นก็จะสร้างปัญหาให้กับจังหวัดดังกล่าว เพราะจะต้องแบกรับปัญหาการไหลบ่าของแรงงาน ปัญหาสังคมต่างๆ เนื่องจากในการจัดสรรงบประมาณจะคิดตามรายหัวของประชากรที่มีอยู่ตามทะเบียนราษฎร ส่วนตัวเชื่อว่าคนเก่งในรัฐบาลมี แต่ทำไมไม่มองทั้งระบบ และตนพร้อมที่จะสนับสนุนนโยบายดังกล่าว แต่นั่นรัฐบาลต้องให้ภูเก็ตเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อการท่องเที่ยวเพื่อให้สามารถบริหารจัดการงบประมาณได้เอง” นายภูมิกิตติ์กล่าว

ขบวนแห่พระรอบเมืองของอ๊ามสามกอง


เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 30 กันยายน 54 ซึ่งเป็นวันที่ของประเพณีถือศีลกินผักประจำปี 2554 ของของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งในวันนี้เป็นการประกอบพิธีอิ้วเก้ง หรือพิธีแห่พระรอบเมืองเป็นของศาลเจ้าหลิมฮู้ไทซู หรือศาลเจ้าสามกอง อ.เมืองภูเก็ต เพื่อเป็นการออกเยี่ยมและอวยพรให้กับประชาชนที่รวมถือศีลกินผัก โดยตลอดเส้นทางจากศาลเจ้ามายังตัวเมืองภูเก็ตมีประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีขาว ต่างรอชมขบวนแห่พระเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้บริเวณหน้าอาคารบ้านเรือนและสำนักงานจะมีการตั้งโต๊ะบูชาและเมื่อขบวนแห่พระมาถึงก็จะมีการจุดประทัดต้อนรับองค์เทพเจ้า เพื่อให้ปัดเป่าทุกข์โศกโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ และมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตและหน้าที่การงานตลอดไป
สำหรับขบวนแห่พระรอบเมืองของศาลเจ้าสามกอง ซึ่งมีม้าทรงทั้งชายและหญิงเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยม้าทรงส่วนใหญ่จะใช้ของมีคมทิ่มแทงร่างกาย ด้วยเชื่อว่าจะเป็นการรับทุกข์และรับเคราะห์แทนผู้ถือศีลกินผัก ซึ่งอาวุธที่ใช้นอกจากในตำนานแล้ว ยังมีม้าทรงที่ใช้อาวุธที่อยู่นอกตำนานเป็นจำนวนมาก ซึ่งสร้างความหวาดเสียวให้ผู้ที่ร่วมชมขบวนแห่พระเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามในพื้นที่ ต.ฉลองและ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ศาลเจ้าเต้กุ้น หรือ ศาลเจ้าบ้านนาบอน ต.ฉลองมีการประกอบพิธีแห่พระในพื้นที่ด้วย โดยพิธีแห่พระรอบเมืองจะมีไปจนถึงวันที่ 5 ตุลาคมนี้ โดยในวันพรุ่งนี้ (1 ต.ค.54) จะเป็นขบวนแห่พระรอบเมืองของศาลเจ้าท่าเรือ และศาลเจ้าเจ๋งอ๋อง
ด้าน พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ว่า ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินในช่วงประเพณีถือศีลกินผักนั้นก็ได้ให้นโยบายไปกับแต่ละสถานีในการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปประจำแต่ละศาลเจ้าเพื่ออำนายความสะดวกและดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาร่วมพิธีซึ่งมีจำนวนมาก และจากที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมศาลเจ้าต่างๆ ก็ได้มีการขอให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปให้อำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยในช่วงดึกเนื่องจากพบว่าบางศาลเจ้าจะมีกลุ่มวัยรุ่นมาก่อกวนซึ่งก็ได้สั่งการไปแล้ว รวมถึงการดูแลเกี่ยวกับการจุดประทัดที่จะสร้างความเดือดร้อนรำราญหรือเป็นอันตรายด้วย โดยเฉพาะประทัดที่ไม่มีอยู่ในตำนาน เช่น บะจ่าง จรวด ไข่ไก่ เป็นต้น เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายหรืออุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้