จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2554

ทต.วิชิตดันจุดชมวิวเขาขาด แหล่งท่องเที่ยวใหม่


นายกรีฑา แซ่ตัน นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ตำบลวิชิต ว่า ด้วยในพื้นที่ของเทศบาลตำบลวิชิตมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายจุดและค่อนข้างจะเป็นที่รู้จัก เช่น พิพิธภัณฑ์แสดงสัตว์น้ำ ชายหาดแหลมพันวา คลองมุดง เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาได้มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเข้ามาท่องเที่ยวในระดับหนึ่ง และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ประกอบกับยังมีแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่อีกหลายแห่งซึ่งไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก โดยเฉพาะจุดชมวิวเขาขาดซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของตัวเมืองภูเก็ตได้ 360 องศา และเกาะทะนานซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ ที่มีธรรมชาติสมบูรณ์ โดยเฉพาะปะการังเหมาะกับการดำน้ำตื้น รวมถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ทำมากินด้วยการทำประมง

“ที่ผ่านมาในส่วนของจุดชมวิวเขาขาด ทางเทศบาลได้มีการจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อรองรับผู้ที่จะขึ้นไปเยี่ยมชมให้เกิดความสะดวกสบาย โดยเฉพาะการสร้างหอชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของตัวเมืองภูเก็ต ทิวทัศน์บริเวณอ่าวฉลอง และทิวทัศน์บริเวณแหลมพันวา ได้อย่างชัดเจน แต่ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักกว้างขวางมากนัก ดังนั้นต่อจากนี้ทางเทศบาลฯ ก็จะได้จัดให้มีการประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่างๆ ให้จุดชุมวิวแห่งนี้เป็นที่รู้จักกว้างขวางมาก โดยปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่เข้าไปเยี่ยมชมส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติเฉลี่ยวันละประมาณ 100 คน”

นายกรีฑา กล่าวถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะทะนาน ว่า เป็นเกาะที่ไม่ใหญ่มากนัก ห่างจากชายฝั่งตำบลวิชิตเล็กน้อย ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ เป็นเกาะขนาดเล็กที่มีความสมบูรณ์ของธรรมชาติ โดยเฉพาะทรัพยากรใต้ทะเลซึ่งเหมาะแก่การดำน้ำชมปะการัง ขณะนี้ทางเทศบาลฯ ได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตภูเก็ตทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาเกาะทะนานให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเทศบาลตำบลวิชิตและจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง เนื่องจากส่วนใหญ่จะมีอาชีพการทำประมง

อย่างไรก็ตามนายกรีฑา กล่าวด้วยว่า ในพื้นที่ของเทศบาลตำบลวิชิตนั้นมีโรงแรมที่พักให้เลือกทุกระดับ ตั้งแต่ระดับ 2 ดาวไปจนถึง 4 – 5 ดาว และมีจำนวนห้องพักมากพอที่จะรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ รวมทั้งยังมีนักลงทุนใหม่ๆ ที่เข้ามาติดต่อสอบถามและขออนุญาตในการก่อสร้าง ตลอดจนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง


ททท.เปิดศูนย์เรียนด้านรู้ท่องเที่ยวในอันดามัน


เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2554 ที่โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสุรพล เศวตเศรณี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานเปิดศูนย์การเรียนรู้ด้านการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต โดยมีนายบัวยัญ สุวรรณมณี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต นายสาธิต กลิ่นภักดี ท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายธนากร เหล็กกล้า ผู้อำนวยการโรเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ ร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดศูนย์การเรียนรู้ด้านการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่และพังงาไปแล้ว

นายสุรพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิในฝั่งทะเลอันดามัน เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ที่ผ่านมา ททท.ได้เปิดศูนย์รับบริจาคเงิน และนำเงินที่ได้จากการรับบริจาคมาจัดสรรเป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียนในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัด รวมระยะเวลา 6 ปี สิ้นสุดเมื่อปีการศึกษา 2553 แต่ยังมีเงินบริจาคเหลืออยู่อีกจำนวนหนึ่ง ประกอบกับ ททท.ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการให้ความรู้ ความเข้าใจด้านการท่องเที่ยวให้กับชุมชน พัฒนาบุคลากรในท้องถิ่นให้มีความรู้เกี่ยวกับทรัพยากร และสินค้าด้านการท่องเที่ยวในท้องถิ่น ปลูกจิตสำนึกรักและหวงแหนทรัพยากรท่องเที่ยวในท้องถิ่นของตนเอง

จึงได้ร่วมกับกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ทำข้อตกลงความร่วมมือขึ้นเมื่อปี 2551 เพื่อจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ด้านการท่องเที่ยวขึ้นในพื้นที่ประสบภัยสึนามิในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน ได้แก่ ภูเก็ต พังงา และกระบี่ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในระยะยาว โดยใช้สถานที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ต เลือกโรงเรียนปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ และยังได้รับงบประมาณสนับสนุนเพิ่มเติมจากเทศบาลนครภูเก็ตในการขยายศูนย์การเรียนรู้ด้านการท่องเที่ยวให้มีขนาดกว้างขวางมากขึ้น

สำหรับศูนย์การเรียนรู้ด้านการท่องเที่ยวฯ จะเป็นแหล่งรวบรวมวิชาการด้านการท่องเที่ยวสำหรับเยาวชนในพื้นที่ เป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อพัฒนาบุคลากรในชุมชนท้องถิ่น โดยมีคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิร่วมกันยกร่างหลักสูตรเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในหมวดหลักๆ ได้แก่ความรู้ทั่วไป การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน การตลาดท่องเที่ยว และการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว

โตโยต้าฯ เปิดห้องโชว์-ศูนย์บริการ สาขา 3 เจ้าฟ้า


เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2554 บริษัทโตโยต้าเพิร์ล ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด สาขาเจ้าฟ้า นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานพิธีเปิดห้องโชว์ และศูนย์บริการ บริษัทโตโยต้าเพิร์ล ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด สาขาเจ้าฟ้า โดยมีนายสุทธิ จันทร์วิเมลือง ที่ปรึกษาบริหาร บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นายวิบูลชัย ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้าเพิร์ล ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด สาขาเจ้าฟ้า นายวิจิตร ณ.ระนอง และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมในพิธี

นายวิบูลชัย กล่าวว่า บริษัทโตโยต้าเพิร์ลฯ จำกัด ได้เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2522 โดยในครั้งแรก ตั้งอยู่ ณ ศูนย์การค้าเลิศโภคารักษ์ ข้างโรงแรมเพิร์ลภูเก็ต ถนนมนตรี และต่อมาจังหวัดภูเก็ต มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้ารถยนต์โตโยต้า บริษัทฯ จึงได้เปิดที่ทำการแห่งใหม่ขึ้น ณ ถนนเทพกระษัตรี ตรงข้ามโรงพยาบาลมิชชั่นภูเก็ต ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2528 ในขณะนั้นมียอดขายประมาณ 300 คัน/ปี และเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ

จนเมื่อปี 2548 บริษัทฯ จึงได้เปิดสำนักงานใหญ่ แห่งใหม่ขึ้น ตั้งอยู่บนถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (สามแยกบายพาส) ส่วนสำนักงานใหญ่เดิม ได้เปลี่ยนเป็น สาขาตำบลรัษฎา โดยในขณะนั้น บริษัทฯ มียอดขายรถรวมประมาณ 3,100 คัน/ปี หลังจากนั้น ปี 2550 บริษัทฯ ได้มีการปรับปรุง สาขา ต.รัษฎา ให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น และเริ่มวางแผนที่จะขยายสาขาเป็นแห่งที่ 3 เนื่องจากเศรษฐกิจในจังหวัดภูเก็ต เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2553 บริษัทฯ ได้เริ่มก่อสร้างสาขาเจ้าฟ้า เป็นสาขาที่ 3 ตั้งอยู่ ถนนเจ้าฟ้า ต.ตลาดเหนือ

อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมียอดขายรวมทั้ง 3 สาขา ประมาณ 4,500 คัน/ปี และในอนาคตอันใกล้นี้ บริษัทฯ มีโครงการที่จะเปิดโตโยต้าชัวร์ ซึ่งเป็นธุรกิจรถใช้แล้ว คุณภาพดี เพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าทุกประเภท รวมถึงมีโครงการที่จะเปิดสาขาเพิ่มเติมอีก เพื่อให้บริษัท โตโยต้า ได้เติบโตทันไปพร้อมกับเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายวิบูลชัย กล่าวในที่สุด

นปช.รวมพลคนเสื้อแดงภาคใต้ที่ภูเก็ต


เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 53 ที่ห้องประชุม ร้านอาหารกันเอง 2 ต.ฉลอง อ.เมือฝ ภูเก็ต กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ กลุ่มคนเสื้อแดง นำโดย นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธานนปช.แดงทั้งแผ่นดิน, นายแพทย์เหวง โตจิราการ, นายสุรชัย เหมะ, จ่าประสิทธิ์ ชัยสิงหะ, ดร.สุชาติ ธาราดำรงค์เวช หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และนายพิเชษฐ์ สถิรชวาล รองประธานพรรคเพื่อไทย ดูแลพื้นที่ภาคใต้ ได้มีการจัดสัมมนา “ร่วมพลคนเสื้อแดงภาคใต้ ขับไล่เผด็จการ สืบสานประชาธิปไตย” โดยมีแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ภาคใต้ ยกเว้น 3 จังหวัดชายแดนเข้าร่วมประมาณ 500 คน

โดยการรวมพลคนเสื้อแดงที่จังหวัดภูเก็ตถือเป็นครั้งแรกของการเปิดเวทีคนเสื้อแดงอย่างเป็นทางการในภาคใต้ ซึ่งมีแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงมาร่วมให้ความรู้และจุดยืนของกลุ่มคนเสื้อแดง ได้สลับกันขึ้นเวทีให้ความรู้กับแกนนำภาคใต้ และในช่วงบ่ายได้เปิดให้แกนนำได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น

ทั้งนี้นางธิดา กล่าวว่า การสัมมนาในครั้งนี้เป็นการสัมมนาของกลุ่มแกนในภาคใต้เพื่อเป็นการขับเคลื่อนองค์ความรู้ให้กับแกนนำ ซึ่งจะเป็นการต่อสู้ของประชาชนเพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงเป็นการต่อสูแบบสันติวิธี ซึ่งหน้าที่หลักของกลุ่มนปช.ตอนนี้คือการสร้างความเข็มแข็งให้กับขบวนการประชาธิปไตยนั้นก็คือการเลือกตั้ง และนอกจากนี้ในวันที่ 20 มีนาคมทางแกนนำจะมีการหารือและรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อนำไปกำหนดหลักสูตรในการสร้างโรงเรียนผู้ปฏิบัติงานหรือโรงเรียนนปช. ซึ่งใช้เป็นโรงเรียนปฏิบัติงานสำหรับแกนนำทั่วประเทศ เพื่อให้กระบวนการประชาธิปไตยเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด

นางธิดา กล่าวอีกว่า ทางนปช.ยังยืนยันว่ายังคงต่อต้านการยึดทำรัฐประหาร ขณะนี้ความคิดเห็นมี 2 ด้าน ด้านบวกคือการยุบสภา และเลือกตั้งใหม่ ด้านลบคือความต้องการให้เกิดรัฐประหาร ก่อสงครามกับประเทศเพื่อนบ้าน ปิดประเทศไม่ให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งนปช.ยืนยันไม่เอารัฐประหาร นปช.ต้องการคืนอำนาจให้กับประชาชน หากมีการเลือกตั้งใหม่ไม่ว่าจะพรรคใดได้เป็นรัฐบาลทางกลุ่มนปช.ก็ยอมรับได้ แต่บทบาทของคนเสื้อแดงยังคงต้องช่วยเหลือพรรคเพื่อไทยในฐานะพันธมิตรต่อไป

ด้านนายแพทย์เหวง โตจิการ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า ภายหลังจากที่แกนนำทั้ง 7 คน ได้รับการประกันตัวออกมาจากความเมตตาของศาล เฉพาะหน้าหลังจากนี้จะพยายามที่จะให้มีการประกันตัวแกนนำเสื้อแดงที่ถูกจำคุกตามจังหวัดต่างๆให้ได้รับการประกันตัวทั้งที่อุบลฯ ขอนแก่น และอุดรฯ รวมถึงที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพอีกด้วย ภายในปลายเดือนนี้ พร้อมทั้งจะมีการเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกันไม่ทิ้งกัน และเป็นการประจานรัฐบาลที่ออกมาบอกว่าจะให้การช่วยเหลือครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บแต่เป็นคำพูดเพื่อหาเสียงเท่านั้น แต่ไม่จริงใจที่จะทำ นอกจากนี้จะพยายามหาฆาตรากรที่ฆ่าประชาชนมาลงโทษตามกฎหมายทั้งขบวนการภายในประเทศและต่างประเทศในประเด็นการถือ 2 สัญชาติ ซึ่งมั่นใจการฟ้องต่อโอซีซีจะประสบความสำเร็จ ซึ่งในประเทศไทยมีอาวุธสองชนิด ที่ระบอบอำมาตย์ใช้ในการทำลายประชาชนคือ การฆ่าคนกลางถนนด้วยอาวุธสงครามใน 14 ตุลาฯและ 6 ตุลาฯ และรัฐธรรมนูญฉบับที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เราเคารพรัฐธรรมนูญปี 2550 แต่มีความเห็นว่าแก่นแท้ในหลายประเด็นยังมีความเป็นเผด็จการ ต้องการเปลี่ยนแปลงให้ได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย

นายแพทย์เหวง กล่าวอีกว่า การปล่อยตัวแกนนำนั้นเราได้พยายามยื่นขอประกันหลายครั้งแต่ถูกปฎิเสธ เลยรอเวลาเพื่อให้เงื่อนไขเปลี่ยนแปลง เมื่อศาลกำหนดว่าถ้ามีเงือนไขเปลี่ยนแปลงสามารถกำหนดได้ อย่างกรณีนายชัยวัฒน์ สินสุวงศ์ ที่ถูกข้อหาก่อการร้ายและยึดสนามบิน ได้รับการประกันตัวโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ด้วยเงินประกันตัวแค่ 6 แสนบาท นายสมบูรณ์ ทองบุราณ นายการุณ ใสงาม มีข้อหาก่อการร้ายแต่สามารถเดินทางไปต่างประเทศ ไปกัมพูชาได้ ขณะนี้ก็ฝากความหวังไว้ที่ศาลยุติธรรม หากเงื่อนไขเปลี่ยนแปลงไปจะยื่นประกันตัวเข้าไปใหม่ ฝากขอบคุณพล.ต.สนั่น อ.คณิตและพล.ต.ต.วิชัย สังประไพ ที่เป็นบุคคลที่ทำให้เกิดเงื่อนไขใหม่จนศาลพิจารณาปล่อยตัวแกนนำ และข้อกล่าวหาที่ว่าจะมีการแลกเปลี่ยนตัวระหว่าง 7 แกนนำกับนายสุรชัย แซ่ด่านนั้นเป็นเรื่องเท็จโดยสิ้นเชิง เป็นการปล่อยข่าวลือของผู้ไม่ประสงค์ดีแน่นอน

วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2554

ภูเก็ตตรวจสอบสินค้าในห้างไม่พบการกักตุน


เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 3 มีนาคม 2554 นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายอาวุธ วงษ์สวัสดิ์ ผู้ช่วยพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต, นางสาวศุภัชชา บุญผลิต รักษาการหัวหน้าสำนักงานการค้าภายในจังหวัดภูเก็ต และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคภายในห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาภูเก็ต โดยมีนายเดโช ศิลากุล ผู้จัดการสาขาฯ ให้การต้อนรับและพาเยี่ยมชมบริเวณชั้นสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณชั้นวางจำหน่ายน้ำมันพืช ไข่ น้ำตาลทรายและข้าวสาร

ซึ่งจากการตรวจพบว่าแต่ละชั้นวางสินค้าแต่ละประเภทมีสินค้าจำหน่ายตามปกติ และราคาเป็นไปตามที่กำหนดไว้ เช่น น้ำมันปาล์มฝาสีฟ้า ราคา 47 บาท เป็นต้น โดยมีประชาชนและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ตมาหาซื้ออย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของชาวต่างชาตินั้นจะซื้อน้ำมันรำข้าวซึ่งมีราคาที่ค่อนข้างสูงอยู่ที่ลิตรละประมาณ 114 บาท โดยไม่สนใจซื้อน้ำมันปาล์ม นอกจากนี้ทางคณะฯ ยังได้ไปตรวจสอบสินค้าอุปโภคบริโภคในห้างสรรพสินค้าอื่นๆ ด้วย เช่น ห้างชุปเปอร์ชิป เป็นต้น

นายสมเกียรติ กล่าวว่า การออกตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคในห้างสรรพสินค้าต่างๆ เป็นการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล และนโยบายของทางจังหวัด เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้มีการกักตุนสินค้าซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะขณะนี้มีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องกรณีของการกักตุนสินค้าในห้างสรรพสินค้าต่างๆ พร้อมกันนี้ได้มีการเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการนำสินค้ามาวางจำหน่ายให้ครบถ้วนและอย่าได้กักตุนสินค้า และให้ประชาชนสามารถที่จะซื้อได้ตามความต้องการ โดยจะต้องไม่มีการจำกัดจำนวนเพราะหากมีการตรวจพบก็จะมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

“เท่าที่มีการตรวจสอบพบว่าไม่มีปัญหายังคงมีสินค้าที่มีความกังวลว่าจะขาดตลาดวางจำหน่ายอยู่ และราคาก็เป็นไปตามที่กำหนดไว้ ซึ่งก็จะได้มีการสั่งการให้กับทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่รับผิดชอบออกตรวจตราเป็นระยะๆ เพื่อให้ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ในระดับจังหวัดไม่ได้มีการปล่อยปละละเลย และมีการติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง” นายสมเกียรติกล่าว

ขณะที่นางสาวส้ม ลูกจ้างร้านเบเกอรรี่ในตัวเมืองภูเก็ต ซึ่งมาซื้อน้ำมันปาล์มเพื่อใช้ในการทำขนม กล่าวว่า ปกติจะซื้อน้ำมันเป็นปี๊บแต่ทางเจ้าของร้านให้มาซื้อเป็นขวดแทน ซึ่งก็ไม่ทราบเหตุผลเหมือนกันว่าทำไม ซึ่งก็สามารถที่จะซื้อได้หลายขวดไม่ได้มีการจำกัดแต่อย่างใด

วางศิลาฤกษ์สถานปฏิบัติธรรมนานาชาติ


เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2554 ที่บริเวณวัดท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้มีการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์สถานปฏิบัติธรรมนานาชาติท่าฉัตรไชย ซึ่งทางองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.) ร่วมกับสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พุทธสมาคมจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดภูเก็ต จัดสร้างขึ้น โดยมีสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ และมีนายแผน วรรณเมธี ประธาน องค์การ พ.ส.ล. นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานฝ่ายฆารวาส ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดภูเก็ต ผู้บริหารองค์การ พ.ส.ล. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และประชาชนผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก

นายแผน วรรณเมธี ประธาน องค์การ พ.ส.ล.กล่าวว่า การจัดสร้างสถานปฏิบัติธรรมนานาชาติท่าฉัตรไชยนั้น เพื่อให้ชาวพุทธทั่วโลกได้ร่วมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 84 พรรษา ในปี 2554 เป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ แสดงความจงรักภักดี และเผยแพร่พระเกียรติคุณ น้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ทั้งนี้เหตุที่องค์การ พ.ส.ล.สร้างสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าวขึ้นที่ จ.ภูเก็ต เนื่องจากเห็นว่าจังหวัดภูเก็ตไม่มีสถานปฏิบัติธรรมสำหรับชาวต่างชาติที่สนใจจะศึกษาเกี่ยวกับพุทธศาสนาเลย ทั้งๆ ที่ จ.ภูเก็ตเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวสูง เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวปีละ 4 – 5 ล้านคน ชาวต่างชาติจากนานาประเทศจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวพุทธในประเทศไทย และเป็นการเรียนรู้พระพุทธศาสนาตามหลักที่ถูกต้อง เพื่อเอื้อต่อการศึกษา และปฏิบัติธรรมอันเป็นพื้นฐานการเข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงต่อไป

ในส่วนของการสอนการปฏิบัติธรรมนั้น ทางองค์การ พ.ส.ล.ได้ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พระพรหมเมธี วัดสัมพันธวงศาราม พระธรรมบัณฑิต วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก ตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อพิจารณาวางแผนการอบรมและการสอนปฏิบัติธรรมให้แก่ชาวต่างชาติเป็นประจำตลอดทั้งปี

อย่างไรก็ตามสำหรับอาคารที่ก่อสร้างนั้น เป็นอาคารโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก 3 ชั้น ผนังภายนอกก่ออิฐโชว์ทั้งหลัง เป็นลักษณะอาคาร 2 หลังประกอบกัน มีทางเชื่อมชั้นบนอาคารเป็นสถาปัตยกรรมร่วมระหว่างตะวันตกกับตะวันออก คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 1 ปีเศษ

พบเต่ามะเฟืองตายติดอยู่ในป่าชายเลน


เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 54 ทางเจ้าหน้าที่สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านซอยโหนทรายทอง คลองท่าจีน ม.3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่าพบซากเต่าขนาดใหญ่ ตายติดอยู่บริเวณป่าชายเลน ขอให้มาตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้งก็ทางเจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์หายาก นำโดยนางสาววรรณษา เรืองแก้ว เจ้าพนักงานประมงชำนาญการประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน ภูเก็ต ก็ได้เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว เมื่อเดินทางถึงชาวบ้านก็ได้ช่วยกันนำซากเต่าตัวดังกล่าวมาอยู่บริเวณชายหาด จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก้ได้นำเต่าตัวดังกล่าวขึ้นรถ เพื่อนำกลับไปนำผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่สถาบันต่อไป

จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเต่ามะเฟือง เพศเมีย น้ำหนัก 196 กิโลกรัม ความกว้างรอบลำตัว 295 เซนติเมตร อายุประมาณ 15 ปี มีบาดแผลที่บริเวณลำตัวด้านขาหน้าทั้ง 2 ขา และขาด้านหลังซ้ายพิการ ส่วนบริเวณอื่นๆ ไม่พบบาดแผลแต่อย่างใด คาดว่าน่าจะตายมาแล้วไม่เกิน 2 วัน ในเบื้องต้นนำซากเก็บไว้ในห้องเย็นเพื่อรอเจ้าหน้าที่มาผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงอีกครั้ง

ด้านนายวรรณเกียรติ ทับทิมแสง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวว่า เต่ามะเฟืองตัวดังกล่าวอยู่ในวัยผสมพันธ์และน่าจะว่ายน้ำเข้ามาเพื่อผสมพันธ์และวางไข่ที่บริเวณชายหาด แต่จุดที่พบเต่าตังกล่าวไม่ใช้จุดที่เต่าวางไข่ ในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะโดนเครื่องมือการทำประมง หรือเกิดจากการป่วยของอวัยวะภายใน จนทำให้ตายก่อนที่จะว่ายน้ำไปยังจุดที่ผสมพันธ์และวางไข่ได้ อย่างไรก็ตามคงจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงอีกครั้ง ส่วนสถานการณ์การวางไข่ของเต่าทะเลในปี อยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ในส่วนของเต่ามะเฟืองในปีนี้ยังไม่พบขึ้นมาวางไข่บริเวณชายฝั่งอันดามันแม้แต่รังเดียว


วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554

ศภว.สะตอ’24 จัดงานชุมนุมฟ้าขาว ครั้งที่ 49


เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2554 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต (อาคารหลังใหม่) นายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ จังหวัดภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานจัดงานชุมนุมฟ้าขาว ครั้งที่ 49 ประจำปี 2554 โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย หรือ ศภว.สะตอ’24 พร้อมด้วยคณะกรรมการจัดงาน ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานชุมนุมฟ้าขาว ครั้งที่ 49

ทั้งนี้นายเรวัต ได้กล่าวว่า สำหรับการจัดงานชุมนุมฟ้าขาว ครั้งที่ 49 ประจำปี 2554 หรืองานชุมนุมศิษย์เก่าภูเก็ตวิทยาลัย ซึ่งจะมีการคัดเลือกศิษย์เก่ารุ่นต่างๆ หมุนเวียนกันเป็นคณะกรรมการจัดงาน มีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้จากการจัดงาน จัดกิจกรรม หรือจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับงาน รวมถึงรายได้จากการสนับสนุนของภาคส่วนต่างๆ หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วมอบให้กับทางโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนา ส่งเสริมการศึกษาและการกีฬาของโรงเรียนภูเก็ตวิทยา ซึ่งครั้งนี้กำหนดว่า ส่วนหนึ่งจะมอบให้กับทางสมาคมฯ ภูเก็ตวิทยาลัย และนำไปใช้ในการสร้างห้องเรียนวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ยังเพื่อเป็นการให้ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันได้กลับมาพบปะและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 2 เมษายน 2554 ที่ลานฟ้าขาว โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย งารนจะเริ่มตั้งแต่เวลา 18.30 น.เป็นต้นไป

นายเววัต ยังได้กล่าวอีกว่า บัตรร่วมงาน ซึ่งปีนี้ถูกออกแบบมาในรูปแบบของบัตรพลาสติกขนาดเท่ากับบัตรเอทีเอ็ม โดยด้านหน้าบัตรเป็นโลโก้สัญลักษณ์การจัดงาน พร้อมระบุวันเวลาและสถานที่การจัดงาน มีโลโก้ของสมาคมนักเรียนเก่าภูเก็ตวิทยาลัย และ ศภว.สะตอ24 ส่วนด้านหลังจะเป็นเนื้อร้องเพลงมาร์ชภูเก็ตวิทยาลัย และหมายเลขบัตรสำหรับการกำกับบัตรและยืนยันสิทธิในการรับรางวัลจากการจับสลากรางวัล ซึ่งจะมีการแนบคูปองอาหารและเครื่องดื่มภายในงาน

พิเศษสำหรับปีนี้ในการซื้อบัตรยังมีริชแบนด์สีฟ้าสัญลักษณ์ของโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย พร้อมสลักคำขวัญประจำโรงเรียนและริชแบนด์ทุกเส้นจะมีหมายเลขกำกับตรงกับบัตรที่นั่ง นอกจากนี้บัตรดังกล่าวยังสามารถใช้เป็นส่วนลดตามร้านค้าที่ร่วมรายการตามเงื่อนไขของแต่ละร้านค้า โดยบัตรจัดจำหน่ายในราคา 300 บาท สามารถหาซื้อได้ที่โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย สมาคมนักเรียนเก่าภูเก็ตวิทยาลัย ร้านโกต้าข้าวมันไก่ ร้านสมายล์ไอศกรีมสามกอง หรือ โทร. 081 5353618,089 4707111 รวมทั้งยังมีตุ๊กตากระต่าย BLUE& WHITE มัตคอสงานชุมนุมฟ้าขาวครั้งที่ 49 เป็นสินค้าที่ระลึกสำหรับจำหน่ายในงาน ราคาคู่ละ 200 บาท

"นี้เป็นงานที่พวกเราคงได้มีโอกาสจัดแค่ครั้งเดียวในชีวิต เพราะสมาคมนักเรียนเก่าจะคัดเลือก ศภว.จากรุ่นต่างๆ มาหมุนเวียนกันทุกปีตลอดไป จากครั้งนี้ไปแล้วคงเป็นรุ่นน้องต่อจากพวกเราที่จะรับหน้าที่ต่อไป รุ่นพี่ของพวกเราบางรุ่นยังไม่มีโอกาสได้จัดเลย นี้จึงเป็นความภูมิใจของเรา ศภว.สะตอ’24 ที่จะร่วมใจตอบแทนสถาบันภูเก็ตวิทยาลัยของเรา เพื่อศักดิ์ศรีแห่งเลือดฟ้าขาว เพื่อให้งานครั้งนี้สำเร็จลุล่วงและตรึงอยู่ในความทรงจำของทุกคน" นายเรวัต กล่าวในที่สุด

ยืมเจ็ทสกีไปขับเล่น กลายเป็นศพ


เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 54 พ.ต.ท.เจษฎา แสงสุรีย์ สารวัตรเวรสภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบศพลอยอยู่ที่หน้าเกาะรัง ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.วิจักขณ์ ตารมณ์ สว.สส. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต

สำหรับที่พบศพนั้นอยู่ห่างจากท่าเทียบเรือบ้านแหลมหินประมาณ 3 กม. เจ้าหน้าที่จึงได้นำเรือของชาวบ้านออกไปตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางถึง พบศพลอยอยู่กลางทะเลสภาพศพคว่ำหน้า จึงได้ลากมายังฝั่งที่ท่าเทียบเรือบ้านแหลมหิน จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ทราบชื่อคือนายพากเพียร นันนวง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีษะเกษ ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมนำส่งรพ.วชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์เวรได้ทำการชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้ง

จากการสอบถามก็ทราบว่า นายพากเพียร ทำงานอยู่ที่เกาะรัง ต.เกาะแก้ว โดยวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ผู้ตายได้ยืมเจ็ทสกีของเพื่อนมาขับเล่น จากนั้นเกิดเสียหลักพลิกคว่ำ ทำให้ร่างของผู้ตายจมดิ่งลงทะเล กลุ่มเพื่อนร่วมงานและญาติๆ ก็ได้ร่วมกันหาแต่ไม่เจอ จนกระทั่งมาพบศพดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ตายน่าจะว่ายน้ำไม่แข็งแรงจนทำให้จมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ญาติมารับศพเพื่อปะกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

เมืองพี่เมืองน้องทำนักท่องเที่ยวเข้าภูเก็ตมากขึ้น


เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2554 ที่ห้องรับรอง ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนายพีระบูรณ์ ทองศิริเศรษฐ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต ได้ให้การต้อนรับ MR.Boris Gladkikh รองนายกเทศมนตรีเมืองนาคอดก้า ประเทศรัสเซีย พร้อมด้วยลูกชาย ในโอกาสที่ได้เดินทางมาท่องเที่ยวยังจังหวัดภูเก็ต และได้เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แต่เนื่องผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตติดภารกิจ จึงไม่สามารถให้การต้อนรับได้

จากนั้นนายนิวิทย์ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังให้การรับรองนายกเทศมนตรีเมืองนาคอดก้า ว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ เพื่อเยี่ยมคารวะผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หลังจากเข้ารับตำแหน่งใหม่ อีกทั้งยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ หลังจากที่ได้มีการสถาปนาเป็นเมืองพี่ เมืองน้อง มากว่า 4 – 5 ปีแล้ว

ทางรองนายกเทศมนตรีเมืองนาคอดก้า ได้พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเมืองนาคอดก้า กับเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ใกล้กัน ไปมาหาสู่สะดวก ทำให้ความสัมพันธ์เป็นไปด้วยดี ทั้งด้านการค้า การกีฬา และการศึกษา ขณะเดียวกันาก็อยากให้ภูเก็ตมีความใกล้ชิดมากขึ้นเหมือนกับญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

นายนิวิทย์ ยังได้กล่าวถึงภายหลังการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องกับนาคอดก้า ว่า ในการสถานปนาความสัมพันธ์ระหว่างกันนั้น จะมีในเรื่องการท่องเที่ยว การศึกษา และวัฒนธรรม แต่ที่เห็นผลเป็นรูปธรรมคือนักท่องเที่ยวที่เข้ามาบ้านเรามีแนวโน้มสูงขึ้น และมีสถานกงสุลรัสเซียเกิดขึ้นตามมา เพื่อดูแลนักท่องเที่ยว

สำหรับจังหวัดภูเก็ต มีการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง ที่ชัดเจน 3 เมือง ประกอบด้วย ภูเก็ต – เอี้ยนไถ, ภูเก็ต – มณฑลไหหนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และภูเก็ต – นาคาดก้า ประเทศรัสเซีย ซึ่งผลของการสถาปนาทั้งสามเมืองที่เห็นชัดเจนเป็นรูปธรรม จะเป็นการแลกเปลี่ยนด้านนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ


วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2554

วชิระเตรียมวางศิลาฤกษ์อาคารผู้ป่วยหลวงพ่อแช่ม 100 ปี


เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 54 ที่ห้องลีลาวดี โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นายแพทย์เจษฎา จงไพบูลย์พัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เป็นประธานในการแถลงข่าวประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างอาคารผู้ป่วยหลวงพ่อแช่ม 100 ปี วชิระภูเก็ต โดยมีบุคลากรของโรงพยาบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

นายแพทย์เจษฎา ได้กล่าวถึงอาคารผู้ป่วยหลวงพ่อแช่ม 100 ปี วชิระภูเก็ตว่า เป็นการดำริของคณะเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลวิชระภูเก็ตตลอดจนศิษยานุศิษย์ ประชาชนชาวภูเก็ตทุกท่าน ที่จะจัดสร้างอาคารดังกล่าวขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกในโอกาสครบ 100 ปี ในปี 2549 อีกทั้งเพื่อใช้เป็นอาคารที่พักรองรับผู้ป่วยชาวภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง ในฝั่งอันดามันตลอดจนชาวไทยและชาวต่างประเทศที่มาเยือนจังหวัดภูเก็ต โดยจัดสร้างเป็นอาคารพักผู้ป่วยพิเศษขนาด 68 ห้อง สูง 7 ชั้น มีที่จอดรถ 126 คัน โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างจำนวน 142,389,200 บาท เป็นงบบริจาค งบลงทุนเพื่อซ่อมบำรุงครุภัณฑ์/สิ่งก่อสร้าง โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าปี 2553 และเงินบำรุงโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตสมทบ

ทั้งนี้ผู้ประสงค์จะร่วมบริจาคเงินสมทบทุนสร้างอาคารผู้ป่วย “หลวงพ่อแช่ม 100 ปี วชิระภูเก็ต” สมารถร่วมบริจาคได้ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โทร.076-361234 ต่อ 1101

สำหรับพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างอาคารผู้ป่วย หลวงพ่อแช่ม 100 ปี วชิระภูเก็ต และพิธีเปิดโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต สาขาหยี่เต้ง จะมีนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธี โดยพิธีวางศิลาฤกษ์ กำหนดจัด ณ บริเวณหลังตึกสงฆ์ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ในวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 12.00 -15.00 น. ส่วนพิธีเปิดโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต สาขาหยี่เต้ง กำหนดเปิดในวันเดียวกัน (11 มีนาคม 2554) เวลา 11.00-12.00 น. ณ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต สาขาหยี่เต้ง ถ. บางกอก อ. เมือง จ. ภูเก็ต

ด่านตรวจภูเก็ต จับผู้ค้ายาไอซ์ 2 ราย ผู้ต้องหา 5 คน


เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 54 ที่ห้องประชุมสภ.ท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง ภูเก็ต พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย พร้อมด้วยพ.ต.ท.ธวัช ตันสกุล สวป.ฯ ร.ต.ต.ธรรมรัตน์ เพ็ญศรี รอง สวป. และชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายสมพิศ สิงห์สูง อายุ 41 ปี อยู่ที่ 158/2 ถ.ทวีชัย ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ และนายไพโรจน์ ศรีแช่ม อายุ 42 ปี อยู่ที่ 110/154 ซ.รามคำแหง 188 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ขณะนั่งแท็กซี่มิเตอร์ ขนยาไอซ์ หนัก 38 กรัม พร้อมอุปกรณ์การเสพผ่านด่านตรวจภูเก็ต

พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ ได้กล่าวว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตั้งด่านตรวจค้นอยู่นั้น ได้พบรถยนต์แท็กซี่มิเตอร์ สีเหลืองเขียว ทะเบียน มฉ 8054 กทม. ขับผ่านมา จึงได้เรียกตรวจค้น. จากการตรวจค้นพบนายไพโรจน์ฯ เป็นผู้ขับขี่ และนายสมพิศฯ นั่งโดยสารมา จากการตรวจค้นภายในรถเจ้าหน้าที่พบอุปกรณ์การเสพยาไอซ์จำนวน 1 ชุด และวิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง โดยนายสมพิศฯ ได้อ้างว่าเป็นวิทยุที่ใช้ติดตามยึดรถ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้นอย่างละเอียด พบยาไอซ์ถุงใหญ่น้ำหนัก 38 กรัมอยู่ในกระเป๋าสะพาย ซึ่งมีภาพถ่ายของนายสมพิศฯ ในกระเป๋าด้วย นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังพบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ จำนวน 7 เครื่อง จึงได้ควบคุมตัวมาทำการสอบสวน

จากการสอบสวนนายสมพิศฯให้การว่า ตนเคยเสพยาไอซ์ แต่ไม่รู้เรื่องยาไอซ์จำนวนมากที่อยู่ในรถแต่อย่างใด ส่วนนายไพโรจน์ฯ รับว่าตนเป็นเจ้าของรถแท็กซี่และเป็นญาติกับนายสมพิศฯ แต่ไม่รู้เรื่องยาไอซ์ดังกล่าวแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่ง พ.ต.ท.วัชรินทร์ จิรัฐิติกาลวิวัฒน์ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าฉัตรไชย เพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติมโดยะละเอียดต่อไป

ส่วนอีกรายทางเจ้าหน้าที่ยังได้จับกุมนายสุธรรม ละงู อายุ 28 ปี นายประหยัด ละงู อายุ 21 ปี และนายเกษม กล่าวเกลี้ยง อายุ 42 ปี พร้อมด้วยของกลางยาไอซ์จำนวน 5 ถุง หนัก17.29 กรัม ขณะขับรถผ่านด่านตรวจ จึงได้ควบคุมตัวไปทำการสอบสวนเพิ่มเติม และจากการาสอบสวนซึ่งทั้งสามให้การรับว่า นายเกษมฯ ได้เป็นผู้ชักชวนนายสุธรรมฯ และนายประหยัดฯ มาเป็นเพื่อนเพื่อเดินทางนำยาไอซ์จากจังหวัดตรังมาส่งที่ภูเก็ต โดยนายเกษมฯรับว่าได้ค้าจ้างเพียง 3,000 บาทเท่านั้น จึงได้ควบคุมตัวนำมาดำเนินคดีต่อไป

พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ ยังได้กล่าวว่า ในรอบเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ทางสภ.ท่าฉัตรไชย ได้เร่งกวดขันจับกุมยาเสพติดและคดีค้างเก่าอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของทางจังหวัด โดยสามารถจับกุมคดีค้างเก่าตามหมายจับ ปี 52 – 53 ได้จำนวน 3 หมาย และกวาดล้างยาเสพติดได้รวม 20 ราย ผู้ต้องหา 24 คน ได้ของกลางต่างๆ เป็นจำนวนมาก แยกเป็นครอบครองเพื่อจำหน่าย 12 คน ผลิต 1 คน ครอบครอง 11 คน นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมอาวุธปืนได้อีกจำนวน 7 ราย

วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

อบจ.ภูเก็ต จัดงานวันสตรีสากล ประจำปี 2554


เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554 ที่บริเวณสนามชัย อ.เมือง ภูเก็ต นางนลินี อัครเดชา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานงานวันสตรีสากล ประจำปี 2554 โดยมี นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย คณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต สมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ อบจ.ภูเก็ต ตลอดจนกลุ่มองค์กร และผู้นำสตรีในจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมจำนวน 1,300 คน เข้าร่วมในพิธีเปิด

นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต ได้กล่าวถึงความเป็นมาของการจัดงานวันสตรีสากล ประจำปี 2554 ว่า ด้วยค่านิยมและวัฒนธรรมในอดีต บทบาทของสตรีมักถูกจำกัดด้านสิทธิ เสรีภาพ รวมทั้งการเอารัดเอาเปรียบระหว่างเพศมาโดยตลอด ซึ่งได้กลายเป็นแรงผลักดันให้สตรีส่วนหนึ่งลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมและความเท่าเทียมกันในสังคม จนเป็นเหตุให้ “วันสตรีสากล” ถือกำเนิดขึ้น โดยองค์การสหประชาชาติได้เข้ามามีบทบาทในการเชิญชวนทุกประเทศในโลกให้มีส่วนร่วม จึงได้กำหนดให้วันที่ 8 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันสตรีสากล (International Women’s Day)

องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตในฐานะที่เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีขนาดใหญ่และมีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 มาตรา 17 ในการให้บริการสาธารณะและการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตถือว่ากลุ่มสตรีนั้นมีความสำคัญและจะเป็นแรงกำลังร่วมในการพัฒนาและขับเคลื่อนชุมชนให้ก้าวไปข้างหน้า จึงได้จัดงานวันสตรีสากล ประจำปี 2554 ขึ้น เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพของสตรี รวมทั้งส่งเสริมให้เครือข่ายสตรีมีบทบาทและสามารถดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การออกร้านของสตรีแต่ละตำบล การให้ความรู้ด้านกฎหมายและสิทธิสตรีจากสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดภูเก็ต สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต สำนักกฎหมายนิติสุขหรือสภาทนายความจังหวัดภูเก็ต การให้คำปรึกษาและตรวจสุขภาพเบื้องต้นจากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์เคลื่อนที่ จาก อบจ.ภูเก็ต กิจกรรมการแข่งขันกีฬาเพื่อสุขภาพ (ฮูล่าฮูป) การมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ “สตรีผู้บำเพ็ญประโยชน์ดีเด่น” ประจำปี 2554 รวมทั้งการแสดงจากตัวแทนสตรีในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต คาดว่าโครงการดังกล่าวจะมีส่วนช่วยให้กลุ่มสตรีได้เห็นถึงความสำคัญของตนเอง รวมถึงได้มีโอกาสทบทวนบทบาทและสถานภาพของสตรีในสังคม ที่จะนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพและการดำเนินงานด้านสตรีที่เหมาะสมต่อไป

ด้าน นางนลินี อัครเดชา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เป็นที่น่าชื่นชมที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตได้ให้ความสำคัญกับกลุ่มสตรี โดยจัดงานวันสตรีสากล ประจำปี 2554 ขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพของสตรี รวมทั้งส่งเสริมให้เครือข่ายสตรีมีบทบาทและสามารถดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยมีองค์กรและตัวแทนผู้นำสตรีของแต่ละตำบล จำนวน 1,300 คน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการรวมกลุ่มพลังสตรีครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง จะเห็นได้ว่าจากกิจกรรมตามโครงการดังกล่าว ช่วยเสริมความรู้ และเสริมด้านสุขภาพร่างกาย เพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาสตรีให้มีบทบาท นำไปสู่การเพิ่มโอกาสและดำเนินงานด้านสตรีที่เหมาะสม รวมทั้งสามารถยืนเคียงคู่กับบุรุษด้วยความภาคภูมิ นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าโครงการจัดงานวันสตรีสากล ประจำปี 2554 ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน ซึ่งเป็นการบูรณาการและร่วมให้บริการแก่ประชาชนได้เป็นอย่างดี และต้องขอขอบคุณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต คณะกรรมการดำเนินการจัดงาน และทุกหน่วยงานที่ได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่ดีสำหรับสตรีในครั้งนี้

สำหรับสตรีผู้บำเพ็ญประโยชน์ดีเด่น ประจำปี 2554 ที่ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย นางภู่ไหว หนูเชต จากเทศบาลเมืองป่าตอง นางสาวสมเพียร ตันประสิทธิ์ เทศบาลเมืองกะทู้ นางสาวจันทรา อยู่สุข เทศบาลตำบลกะรน นางสมพร หนูอ่อน เทศบาลตำบลราไวย์ นางปรีดา ว่องสกุล องค์การบริหารส่วนตำบลฉลอง นางสมจิต ทิพย์กำเนิด เทศบาลตำบลรัษฎา นางสำราญ เพ็ชรดี องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะแก้ว นางรัตติยา กลั่นสุรินทร์ องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล นางฐานะ วงศ์เสรี เทศบาลตำบลเชิงทะเล นางกาญจนา ต่อฑีฆะ เทศบาลตำบลเทพกระษัตรี นางอุบล สโมสร องค์การบริหารส่วนตำบลเทพกระษัตรี นางนิพา กิ่งทอง องค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุนทร นางสาวดรุณี อนันต์ องค์การบริหารส่วนตำบลป่าคลอก และนางสมศรี สำเภารัตน์ จากองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว

ส่วนผลการแข่งขันฮูล่าฮูป ประกอบเพลง รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีมชมรมรักษ์สุขภาพ เทศบาลตำบลเทพกระษัตรี ได้รับเงินรางวัล จำนวน 10,000 บาท รางวัลที่ 2 ได้แก่ ชมรมแอโรบิคเก็ตโฮ่ (กะทู้) ได้รับเงินรางวัล จำนวน 5,000 บาท และรางวัลที่ 3 ได้แก่ ทีมสตรีอาสา ตำบลราไวย์ และทีม 5 ซู่ซ่า ได้รับเงินรางวัล จำนวน 3,000 บาท และรางวัลชมเชย มี 2 รางวัล ได้แก่ ทีมวิชิตอันดามัน และสตรีตำบลศรีสุนทรได้รับเงินรางวัล จำนวน 1,000 บาท