จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2554

SMASH TOUR BY G-SHOCK ที่โรบินสัน จังซีลอน



เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 54 ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาจังซีลอน ป่าตอง เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (ซีเอ็มจี) ผู้ผลิตและนำเข้าสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำของประเทศ และผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และจัดจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นาฬิกา “คาสิโอ จี-ช็อค” (CASIO G-SHOCK) จัดกิจกรรมโรดโชว์ ภายใต้ชื่อ SMASH TOUR BY G-SHOCK โดยได้รับเกียรติจากนางสาวเยาวลักษณ์ กิจทวีสินพูน ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัลเทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (ซีเอ็มจี) เป็นประธานเปิด นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากนางสาวนิสา ชาภู่พวง ผู้จัดการห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาจังซีลอน ป่าตองและผู้บริหาร ร่วมงานด้วย ทั้งนี้ได้รับความสนใจจากลูกค้าของ G-SHOCK และนักท่องเที่ยวที่ซื้อหาสินค้าภายในห้างฯ จำนวนมาก
สำหรับกิจกรรมภายในงานนอกจากจะมีกิจกรรม MEET&GREET และมินิคอนเสิร์ต “เต๋อ ฉันทวิทย์ ธนะเสวี นักแสดงชื่อดังจากภาพยนตร์เรื่อง กวนมึนโฮ แล้ว ยังได้มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า G-SHOCK และ Baby G รับ gift voucher ส่วนลด 20% เมื่อซื้อนาฬิกาทุกรุ่น และรับ gift voucher ส่วนลด 20% รวมทั้ง smash tour t-shirt ที่ ออกแบบได้ด้วยตัวเอง เมื่อซื้อนาฬิกาครบ 5,000 บาท (100 ท่านแรกที่นำใบเสร็จที่ซื้อ มารับเสื้อยืดและสกรีนภายในงาน) และพิเศษสุดในงาน มีการจำหน่าย G-SHOCKรุ่นลิมิเต็ดอิดิทชั่น Baby-G รุ่นล่าสุด BG-5600 KS-7DR ที่ออกแบบโดย KE$HA นักร้องซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกที่มีเพียง 20 เรือนเท่านั้น
นางสาวเยาวลักษณ์ กิจทวีสินพูน ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัลเทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (ซีเอ็มจี) กล่าวว่า หลังจากการจัดงานโรดโชว์ G-SHOCK ON THE MOVE ในปีที่แล้ว และในปีนี้ก็ได้จัด SMASH TOUR BY G-SHOCK ซึ่งตะเวนจัดไปตามหัวเมืองท่องเที่ยวต่างๆ มาแล้ว 3 ครั้ง ได้แก่ เชียงใหม่ พัทยาและขอนแก่น โดยภูเก็ตเป็นจังหวัดสุดท้าย เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแบรนด์ ซึ่งประสบความสำเร็จเกินคาด ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจาก G-SHOCK เป็นนาฬิกาที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นด้านดนตรี กีฬา แฟชั่น และศิลปะ 


รมช.คมนาคมตามคืบหน้าท่าเทียบเรือ อ่าวฉลอง



เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2554 ที่บริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง จังหวัดภูเก็ต นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ฟังบรรยายสรุปโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญกีฬา จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยมีนายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายศุภชัย โพชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต และคณะ ร่วมให้การต้อนรับ
นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญกีฬา (มารีน่า) พร้อมอาคารส่วนประกอบอ่าวฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต จะประกอบด้วย 1.อาคารอเนกประสงค์ เพื่อรองรับการให้บริการในด้านต่างๆ ของหน่วยงานราชการในลักษณะวันสต็อปเซอร์วิส ในการตรวจลงตราและแจ้งเข้า-ออก และ 2.ช่องจอดเรือจำนวน 44 ลำ รวมใช้งบดำเนินการประมาณ 70 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการจัดระเบียบการจราจรของเรือบริเวณอ่าวฉลอง ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการทิ้งสมอ หน่วยงานภาครัฐสามารถจัดเก็บรายได้ได้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งยังสามารถควบคุมดูแลด้านความมั่นคงได้ด้วย เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นจุดแจ้งเข้า-ออกเรือสำราญกีฬาหรือเรือยอช์ทต่างๆ ขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้าประมาณ 90 % คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณต้นปี 2555 จากนั้นจะส่งมอบให้กับกรมธนารักษ์เพื่อมอบต่อให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้บริหารจัดการต่อไป
นอกจากนี้นายภูริพัฒน์ ยังได้กล่าวถึงการจัดทำระบบจีพีเอสติดตามเรือยอร์ชด้วยว่า ขณะนี้ทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต ได้ของบประมาณจากทางจังหวัดภูเก็ต ประมาณ 18 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2556 เพื่อทำระบบจีพีเอสติดตามเรือยอร์ช ซึ่งจะทำให้ทราบความเคลื่อนไหวของเรือแต่ละลำที่อยู่ในน่านน้ำจังหวัดภูเก็ต และสามารถใช้ในเรื่องของการดูแลด้านความปลอดภัยและความมั่นคงด้วย
ขณะที่นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า นโยบายที่ทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จะดำเนินการโดยด่วน คือการโอนทรัพย์สินท่าเรือแห่งใหม่นี้ให้กับ อบจ.ภูเก็ต ซึ่งเดิมที จะโอนให้กรมธนารักษ์ ก็คิดว่าถ้าโอนให้ อบจ.ภูเก็ต ประมาณ 5 ปี โดยไม่ต้องแบ่งรายได้ให้กับกรมธนารักษ์เราสามารถดำเนินการให้ได้ เพราะว่าระเบียบกรมธนารักษ์กล่าวไว้ว่าต้องแบ่งรายได้ให้กรมธนารักษ์ไว้ครึ่งหนึ่ง นั่นคือปัญหาของท้องถิ่นเรา
นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รมช.กระทวงคมนาคม กล่าวภายหลังการฟังบรรยายสรุปว่า การก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญกีฬาดังกล่าว ขณะนี้ก็มีความคืบหน้าไปมากแล้ว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2555 ทั้งนี้หลังก่อสร้างแล้วเสร็จจะมอบให้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตเข้ามาดูแลต่อไป

“คอนเสิร์ตเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์”


นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เทศบาลตำบลกะรน แฟชั่นทีวีและอีลิทเอ็นเตอร์เทนเม้น จัดเทศกาลคอนเสิร์ตสุดยอดแนวเพลงอิเล็กทรอนิกส์ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ปี 2011 หรือ Phuket Electronic Music and Dance Festival 2011 และงาน Count Down 2012 ระหว่างวันที่ 30-31 ธันวาคม 2554 ที่บริเวณชายหาดกะรน อ.เมืองภูเก็ต เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยเป็น ศูนย์กลางแนวดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียนที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ทั้งชาวไทยและต่าง ประเทศให้เข้ามาร่วมงานและมาท่องเที่ยวในประเทศ ไทย ได้เป็นอย่างดี เป็นการสร้างชื่อเสียงให้ภูเก็ตเป็นเมืองที่จัดเทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่ยิ่งใหญ่ในระดับโลก ปลุกกระแสเศรษฐกิจ นักท่องเที่ยว แฟนเพลง ทั้งในเมืองไทยและจากต่างประเทศให้ตื่นตัวด้วย

“ภายในงานจะเป็นคอนเสิร์ตแนวเพลงอิเล็กทรอนิกส์ 2 เวที โดยศิลปิน แนวอิเล็กทรอนิกส์ที่มีชื่อเสียงทั้งชาวไทยและต่างประเทศ หลากหลายแนวเพลง เริ่มแสดงตั้งแต่เวลา 19.00 น.เป็นต้นไป มีดีเจกว่า 20 คนจาก 10 คลับชั้นนำเข้าร่วมแสดง อาทิ Seduction, Sanook Club, White Room, Tiger Group เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีศิลปินชั้นนำจากต่างประเทศที่จะมาร่วมแสดงเป็นไฮไลท์ของงาน อาทิ Mark Brain, Slick, Domination Winner of Asia เป็นต้น และศิลปิน ดีเจชั้นนำของประเทศไทย อาทิ โดม ปกรณ์ ลัม,เจ มณฑล เป็นต้น”
นางบังอรรัตน์ กล่าวด้วยว่า นอกจากที่กล่าวมาแล้วยังจะมีการจัดการประกวดค้นหาสุดยอด ศิลปินแนวเพลงอิเล็กทรอนิกส์ IP DJ Hunt 2011 ภาคใต้ เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนเกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และเป็นการสร้างสรรค์บุคลากรเพื่อการเรียนรู้และส่งเสริมภูมิปัญญาชาวไทยด้านแนวเพลงอิเล็กทรอนิกส์ โดยเพลงดัง กล่าวยังสามารถจดเป็นลิขสิทธิ์ ทรัพย์สินทางปัญญาอีกด้วย โดยกำหนดแข่งขันรอบคัดเลือกและรอบตัดสินในวันที่ 30 ธันวาคม 2554
อย่างไรก็ตามกิจกรรมในครั้งนี้จะถูกถ่ายทอดผ่านเครือข่ายของ Fashion TV ช่องโทรทัศน์ซึ่งมีเครือข่ายอันดับ 1 ของโลก โดยจะสามารถช่วยสร้างชื่อเสียงและทำให้ประเทศไทยอยู่ในกระแสนิยมของโลกด้านแนวเพลงอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทุกกิจกรรมสามารถเข้าชมฟรี นางบังอรรัตน์กล่าว



รมช.คมนาคม ช่วยดันปรับปรุงท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต



ที่บริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึกภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมติดตามและรับฟังบรรยายสรุปการพัฒนาท่าเทียบเรือน้ำลึกภูเก็ต โดยมีนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธ์ หัวหน้าเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนนายวัฒนชัย เรืองเลิศปัญญากุล ผู้อำนวยการท่าเรือสงขลา-ภูเก็ต บริษัท เจ้าพระยาท่าเรือสากล จำกัด และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับนำเยี่ยมชมบริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึกภูเก็ต และบรรยายสรุปรายละเอียดเกี่ยวกับท่าเทียบเรือน้ำลึกภูเก็ต
นายวัฒนชัย เรืองเลิศปัญญากุล ผู้อำนวยการท่าเรือสงขลา-ภูเก็ต บริษัท เจ้าพระยาท่าเรือสากล จำกัด กล่าวว่า ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตสร้างขึ้นโดยรัฐบาลเพื่อเอื้ออำนวยในการส่งออกสินค้าหลักของภาคใต้ อาทิ ยางพารา แร่ เป็นต้น และนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ โดยมีความยาวร่องน้ำท่าเรือ 1.5 กม. กว้าง 120 ม.ลึก 9 ม.แอ่งกลับลำเรือกว้าง 360 ม. ส่วนของหน้าท่ามีความยาว 360 ม. ขนาดเรือใหญ่สุดที่รับได้ยาวไม่เกิน 210 ม. กว้างไม่เกิน 27.5 ม.ซึ่งนอกจากรับเรือสินค้าแล้วปัจจุบันยังรับเรือโดยสารท่องเที่ยวขนาดใหญ่ด้วย แต่ประสบกับปัญหา คือ ความยาวหน้าท่าไม่เพียงพอในการจอดเรือพร้อมกัน 2 ลำ ทำให้เมื่อมีเรือท่องเที่ยวโดยสารขนาดใหญ่เข้ามา เรือขนส่งสินค้าก็ต้องออกไปทอดสมอรอ เกิดปัญหาค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากค่าเสียเวลาระหว่าง 20,000-30,000 เหรียญสหรัฐฯต่อวัน ตลอดจนปัญหาความปลอดภัย เนื่องจากท่าเรือเดิมออกแบบเพื่อรองรับสินค้าไม่ใช่ท่าเรือท่องเที่ยวจึงไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมารองรับ
เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงได้มีการเสนอโครงการปรับปรุงท่าเรือ โดยขยายเพื่อให้สามารถรองรับเรือขนส่งสินค้าและเรือโดยสารท่องเที่ยว โดยสร้างหลักผูกเรือ (Berth Dolphins) จำนวน 2 ตัวพร้อมสะพานเชื่อม (Access Bridge) สร้างอาคารที่พักผู้โดยสาร ปรับปรุงถนนทางเข้าสู่อาคารที่พักผู้โดยสารและที่จอดรถ ทำการขุดลอกบริเวณหลักผูกเรือใหม่ จัดทำพื้นที่สีเขียว และระบบสาธารณูปโภคให้มีการแบ่งพื้นที่อย่างชัดเจน ใช้งบดำเนินการ ประมาณ 130 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้การออกแบบต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ในขั้นตอนการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม นายวัฒนชัยกล่าว
ขณะที่นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า พร้อมที่จะสนับสนุนโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์และทำรายได้ให้กับคนภูเก็ต ในส่วนของปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ รับจะไปประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ เพื่อให้โครงการเดินทางต่อไปได้ เพราะเท่าที่ฟังข้อมูลหากมีการปรับปรุงแล้วก็จะเกิดประโยชน์ทั้งในเรื่องของการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยวด้วย 

ธรรมะสัญจรเพื่อสอบธรรมศึกษา



เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2554 ที่อาคารเอนกประสงค์ โรงเรียนกะทู้วิทยา ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการสอบ “โครงการธรรมะสัญจรเพื่อสอบธรรมศึกษา” ประจำปีงบประมาณ 2554 โดยมี พระครูวิชิตสังฆไพโรจน์ เจ้าอาวาสวัดอนุภาษกฤษฎาราม (วัดเก็ตโฮ่) อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต นายขันตี ศิลปะ นายอำเภอกะทู้ พร้อมด้วย ผู้อำนวยการโรงเรียนกะทู้วิทยา คณาจารย์ และนักเรียน เข้าร่วม
สำหรับโครงการธรรมะสัญจรเพื่อสอบธรรมศึกษา ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกับ ศพอ.วัดอนุภาษกฤษฎาราม (วัดเก็ตโฮ่) สำนักงานพระพุทธศาสนา และโรงเรียนกะทู้วิทยา จัดขึ้นในระหว่างเดือนตุลาคม 2554 – กันยายน 2555 ณ วัดอนุภาษกฤษฎาราม (วัดเก็ตโฮ่) อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม และศีลธรรมให้เยาวชนในวัยเรียน ซึ่งสอนให้นำหลักธรรมมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้อยู่ในสังคมอย่างมีความสุขโดยยึดหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา ซึ่งในปีนี้ มีนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมโครงการดังกล่าว จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 6,000 คน
นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า เมืองน่าอยู่ คู่คุณธรรม จะเกิดขึ้นมาได้ เนื่องด้วยทุกคนนำศาสนา นำหน้าการดำรงชีวิต ซึ่งศาสนาทุกศาสนาได้สอนให้คนเป็นคนดี ผู้ใดที่รู้ศาสนาโดยถึงแก่นแท้จะมีคุณธรรมอยู่ในชีวิตจิตใจ ฉะนั้น ในการสอบธรรมศึกษาครั้งนี้ นักเรียนจะได้วัดความรู้ความสามารถของตนเองในเรื่องศาสนา และจะรู้ซึ้งในเรื่องพุทธศาสนาอย่างแน่นอน จึงมั่นใจว่าเมื่อเรารู้ศาสนาแล้ว ก็จะสามารถนำไปปฏิบัติในการดำรงชีวิตได้ ไม่ใช่เป็นศาสนาเพียงทฤษฎีเท่านั้น ในการนี้ ต้องขอขอบคุณพระคุณเจ้าที่สอนทั้งองค์ความรู้เรื่องธรรมศึกษา และวิธีการปฏิบัติ ขอให้นักเรียนทุกคนโชคดีในการสอบ ขอให้มีความมั่นใจและนำธรรมศึกษาไปปฏิบัติ แล้วศาสนาก็จะดำรงคงอยู่ตลอดไป

กมธ.คมนาคมรับประสานสร้างสะพานคลองเกาะผี



นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน ใน จ.ภูเก็ต ประกอบด้วย นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต แขวงการทางจังหวัดภูเก็ต เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เป็นต้น เพื่อติดตามสภาพปัญหาถนนชำรุดเสียหายจากอุทกภัยและภาพรวมปัญหาการคมนาคมขนส่งในจังหวัดภูเก็ต
โดยมีคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา นายวิชัย ไพรสงบ สมาชิกวุฒิสภาสรรหา อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนางธันยรัศมิ์ อัจฉริยะฉาย สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานกรรมาธิการท่องเที่ยววุฒิสภา ร่วมด้วย ว่า จากที่ได้รับฟังรายงานสรุปจากทางแขวงการทางจังหวัดภูเก็ต เกี่ยวกับการแก้ปัญหาจราจร พบว่าขณะนี้มีหนึ่งโครงการที่ได้รับงบประมาณแล้ว 600 ล้านบาท คือ โครงการอุโมงค์ทางลอดแยกไทนาน และทางผู้แทนภาคเอกชนก็ขอให้เพิ่มโครงการอุโมงค์ทางลอดแยกสามกอง (โลตัส) ด้วย เพราะเป็นจุดที่เชื่อมต่อกันและมีปัญหาค่อนข้างมาก พร้อมทั้งให้ช่วยผลักดันโครงการที่ดำเนินการไว้แล้วแต่ยังค้างอยู่ อาทิ โครงการสะพานเชื่อมคลองเกาะผีระหว่างถนนศักดิเดชกับสะพานหิน ซึ่งติดขัดการอนุญาตขอใช้พื้นที่ป่าชายเลนจากกรมป่าไม้ โครงการศึกษาถนนเลียบเสาไฟฟ้าแรงสูงซึ่งดำเนินการในสมัยที่นายวิชัย ไพรสงบ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, การสร้างถนนสายวัดหลวงปู่สุภาเชื่อม- ป่าตอง
นอกจากนี้ยังได้มีการสะท้อนปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบนถนนเทพกระษัตรี โดยเฉพาะบริเวณโค้งคอเอน ต.ไม้ขาว อ.ถลาง ซึ่งเกิดเหตุค่อนข้างบ่อย ปัญหาการติดตั้งป้ายโฆษณาริมถนนสายหลักที่ไม่เป็นระเบียบ ปัญหาถนนช่วงขึ้นเขานาคเกิดทางไปกะตะ –กะรนซึ่งไม่มีเส้นแบ่งช่องจราจร เช่นเดียวกับถนนบนเขาป่าตองที่จะเกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และปัญหาร่องน้ำที่ตื้นเขินส่งผลกระทบต่อการนำเรือเข้าออกของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเรือสำราญกีฬาหรือเรือยอช์ท ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพกลุ่มหนึ่งของภูเก็ตที่มีกำลังซื้อสูง
อย่างไรก็ตามนายเกชา กล่าวว่า ปัญหาการคมนาคมส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเมืองท่องเที่ยว ซึ่งตนจะไปประสานกับกระทรวงคมนาคมเพื่อผลักดันโครงการต่างๆ ให้ทันในปีงบประมาณ 2555 และ 2556 อาทิ ทางลอดอุโมงค์แยกสามกอง การขอใช้พื้นที่ป่าโครงการสะพานเชื่อมคลองเกาะผี คาดว่าจะเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2556 โครงการถนนเลียบใต้เสาไฟฟ้าแรงสูงที่จะต้องประสานหาเจ้าภาพว่าจะเป็นกรมทางหลวง หรือกรมทางหลวงชนบท อีกทั้งขอเพิ่มเสาไฟฟ้าส่องสว่าง 2 ต้น ที่โค้งคอเอนเพื่อแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุ ส่วนปัญหาถนนไม่มีเส้นจราจรทางกรมทางหลวงจะเร่งจัดหางบมาแก้ไข
ขณะที่นางธันยรัศมิ์ อัจฉริยะฉาย สมาชิกวุฒิจังหวัดภูเก็ตและประธานกรรมาธิการท่องเที่ยววุฒิสภากล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวในปัญหาด้านต่างๆ เยอะมาก ทั้งความแออัดที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสนามบินภูเก็ต ปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดกับนักท่องเที่ยว รวมไปถึงปัญหาด้านการจราจรที่ในฐานะเป็นสมาชิกวุฒิสภาพของจังหวัดภูเก็ต จะต้องนำผู้ที่จะสามารถไปประสานกับรัฐบาลได้ลงมาดูเพื่อผลักดันโครงการด้านการคมนาคมให้เกิดขึ้นต่อไป 


รมช.คมนาคมตรวจท่าเรือน้ำลึก



เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2554 ที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ต. วิชิต อ. เมือง จ. ภูเก็ต นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมพร้อมรับฟังบรรยายสรุป การควบคุมการเดินเรือและอุปสรรคในการควบคุม การจัดระเบียบร่องน้ำและเขตการเดินเรือ การจัดระเบียบการเดินเรือและยานพาหนะทางทะเล และแนวทางการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตและอุปสรรคปัญหา โดยมีนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายวัฒนชัย เรืองเลิศปัญญากุล ผู้อำนวยการท่าเรือสงขลา-ภูเก็ต บริษัท เจ้าพระยาท่าเรือสากล จำกัด เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
ซึ่งนายกิตติศักดิ์ ได้กล่าวภายหลังลงพื้นที่ ถึงมาตรการการดูแลความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยทางเรือและใช้บริการท่าเทียบเรือต่างๆในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวจังหวัดภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวเดินทางโดยทางเรือเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้สั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าดูแล ความปลอดภัยการเดินทางโดยทางเรืออย่างเข้มงวด ซึ่งจะต้องดูแลทั้งเรื่องของเรือ เรืองของเสื้อชูชีพ คนขับเรือ รวมทั้งท่าเทียบเรือต่างให้มีความพร้อมตลอดเวลา นอกจากนั้น ยังได้สั่งการให้เรือตรวจการเฝ้าดูแลความปลอดภัยตลอดเวลา รวมทั้งเรือนำร่องเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุทางเรือขึ้น หากเรือหรืออุปกรณ์ไม่เพียงพอก็สามารถขอสนับสนุนเพิ่มเติมได้ 

วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Hard Rock ลดราคาครั้งยิ่งใหญ่


Hard Rock ลดราคาครั้งยิ่งใหญ่

Hard Rock Café Phuket เปิดจำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษ สำหรับคนไทย และชาวต่างชาติ ที่แสดงใบอนุญาตขับขี่ไทยเท่านั้น โดยลดราคาตั้งแต่ 50 – 90 % เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการทั้งนี้ บริษัทจำกัดจำนวนสินค้าต่อบุคคล ในวันเสาร์ที่ 17 – วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 12.00 – 20.00 น. ที่ ฮาร์ดร็อค คาเฟ่ ภูเก็ต ตรงข้ามตลาดโอท็อป ป่าตอง กะทู้ ภูเก็ต โทร 076-366381

เปิดนิทรรศการ “กตัญญูรู้คุณหลวงปู่เทสก์”




เมื่อเย็นวันที่ 15 ธันวาคม 2554 ที่ ศาลาหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดเจริญสมณกิจ (วัดหลังศาล) อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายอรรถการ ฟูเจริญ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนจังหวัดภูเก็ต รักษาการผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ร่วมเปิดนิทรรศการ “กตัญญูรู้คุณหลวงปู่เทสก์” โดยมี เลขานุการศาลอุทธรณ์ ภาค 8 นายสมชาย ดวงแข ที่ปรึกษานายก อบจ.ภูเก็ต นายสาโรจน์ อังคณาพิลาส สมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต และผู้มีเกียรติ พุทธศาสนิกชน เข้าร่วม
นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า “การทำความดี หรือการทำบุญเป็นเรื่องยาก การเกิดเป็นมนุษย์นั้นยาก และเป็นมนุษย์ที่สามารถสร้างบุญสร้างกุศลถือว่าเป็นผู้มีบุญเป็นอย่างยิ่ง สำหรับคนที่มีความกตัญญูรู้คุณจะเป็นเครื่องหมายแห่งความดี ในวันนี้เราได้มาจัดนิทรรศการกตัญญูรู้คุณหลวงปู่เทสก์ ซึ่งท่านได้วางรากฐานพระกรรมฐานสายธรรมยุคิกนิกายใน 3 จังหวัด คือ กระบี่ พังงา และภูเก็ต เมื่อ 60 ปีก่อนที่ผ่านมา โดยท่านอยู่ที่นี่ประมาณ 20 กว่าปี ทั้งนี้ ผมคิดว่ารุ่นคุณพ่อแม่ของพวกเราทุกคนที่อยู่ในที่นี้ได้มีโอกาสสร้างคุณงามความดีร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม การทำตัวอย่างแห่งความดีนั้น เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่คนรุ่นหลังจะได้ทำตาม เช่นเดียวกันกับทางครอบครัวจิรายุส ที่ได้บริจาคที่ดินจำนวน 3 ไร่ 17 ตารางเมตร ให้กับวัดเจริญสมณกิจ ในการนี้ จึงคิดว่าทุกท่านที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ถือว่าเป็นผู้มีบุญอย่างแท้จริง ซึ่งมีโอกาสได้มากราบไหว้แสดงความกตัญญูรู้คุณต่อหลวงปู่เทสก์ และได้มาร่วมบุญในการพัฒนาวัดเจริญสมณกิจ จึงมั่นใจว่าพวกเราทั้งหลายจะได้รับบุญกุศลร่วมกันอย่างแน่นอน” นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าว
สำหรับงาน “กตัญญูรู้คุณหลวงปู่เทสก์” จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 15 – 17 ธันวาคม 2554 ณ วัดเจริญสมณกิจ (วัดหลังศาล) เนื่องในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันมรณภาพของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูรำลึกถึงพระคุณต่อหลวงปู่เทสก์ ผู้ซึ่งมีพระคุณต่อพระพุทธศาสนิกชนทั้งหลายในภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชาวภูเก็ต ทางคณะกรรมการจัดงานฯ วัดเจริญสมณกิจ (วัดหลังศาล) จึงได้จัดกิจกรรมทางธรรมขึ้นเพื่อเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่านเข้าร่วมงานบุญ ซึ่งมีกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วย กิจกรรมการปฏิบัติธรรม การแสดงนิทรรศการประวัติหลวงปูเทสก์ เทสรังสี กิจกรรมแสดงธรรม กิจกรรมตักบาตรข้าวสวย และกิจกรรมร่วมบุญออกโรงทาน

เปิดงาน“ดอกไม้แห่งอันดามัน สีสันเกาะภูเก็ต”



เมื่อคืนวันที่ 15 ธันวาคม 2554 ที่บริเวณลานบางลา หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายตรี อัครดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน เปิดงานเทศกาลเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 26 ภายใต้ชื่อ ดอกไม้แห่งอันดามัน สีสันเกาะภูเก็ต ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเทศบาลเมืองป่าตอง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดขึ้น ในระหว่างวันที่ 15-20 ธันวาคมนี้ ที่บริเวณชายหาดป่าตอง ทั้งนี้ก่อนพิธีเปิดได้มีขบวนพาเหรด Patong Carnival ของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน กลุ่มอาชีพและสถานศึกษาต่างๆ ร่วมกว่า 30 ขบวน ซึ่งสร้างสีสันและความสนใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เฝ้าชมขบวนตลอดสองข้างถนนทวีวงศ์ (ถนนสายหน้า หาด) เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ภายในงานยังมีการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง อาทิ ต่าย อรทัย, วงไอน้ำ, หญิง ธิติกานต์, เอิร์น เดอะสตาร์, เอกชัย ศรีวิชัย เป็นต้น การเปิดร้านจำหน่ายสินค้าต่างๆ และการแข่งขันดำน้ำเก็บขยะ ภายใต้โครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชายหาด รวมทั้งกิจกรรมที่สร้างความสนุกสนานอื่นๆ อีกมากมาย
นายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เปิดเผยว่า สำหรับการจัดงานเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวนั้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้กับหาดป่าตอง โดยการจัดรูปขบวนพาเหรด การแสดงประเพณีวัฒนธรรม ประกอบด้วย การแต่งกายที่หลากหลาย มีสีสันดูสวยงามตระการตา สร้างกิจกรรมซึ่งเพิ่มรายได้และช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับจังหวัดภูเก็ต เป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวหาดป่าตองให้ เป็นที่รู้จักในวงกว้างของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ส่งเสริมและรักษาประเพณีวัฒนธรรม ท้องถิ่น ตลอดจนเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนด้วย โดยใช้งบประมาณดำเนินการประมาณ 7 ล้านบาทเศษ หากรวมกิจกรรมในส่วนของภาคเอกชนด้วยมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในช่วงดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 100,000 คน