จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

พบศพนิรนามขึ้นอืดอยู่กลางป่าตรงข้ามหมู่บ้านหรู


เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 54 ร.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง ร้อยเวรสภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งว่ามีคนพบศพผู้เสียชีวิตอยู่ในป่าละเมาะใกล้หมู่บ้านหยี่เต้ง ถนนใสยวน ซอยสามัคคี ม.7 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้งก็ได้รายงงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นก็ได้เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.ท.สุธรรม รัตนสว่างวงศ์ สวป.สภ.ฉลอง เจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลตำบลราไวย์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจกู้ภัย

ที่เกิดเหตุเป็นป่าละเมาะอยู่เยื้องกับหมู่บ้านหยี่เต้ง ซึ่งเป็นหมู่บ้านหรูราคาหลังละกว่า 10 ล้านบาท พบศพชายไม่ทราบชื่อ สูงประมาณ 165 เซนติเมตร รูปร่างอ้วน สวมเสื้อเชิ้ต สวมกางเกงขายาว ที่ข้อมือด้านซ้ายมีนาฬิกา 1 เรือน ตาทั้ง 2 ข้าง ถลนออกมาด้านนอก ใบหน้าเละ ตามร่างกายมีหนอนไต่ยั๊วเยี๊ยะ ส่งกลิ่นเหม็นทั่วบริเวณ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10 วัน นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบห่างจากศพประมาณ 10 เมตร พบธูปจำนวน 8 ดอก รองเท้า 1 ข้าง บริเวณกระเป๋ากางเกงพบบุหรี่ยี่ห้อกรองทิพย์จำนวน 8 ตัว แต่ไม่พบหลักฐานว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานก่อนนำศพตรวจสอบที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตต่อไป

จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้มีชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้กลิ่นเหม็นคล้ายศพผู้เสียชีวิต จึงเดินทางตรวจสอบพบศพดังกล่าวนอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพที่มีหนอนไต่ทั่วร่าง จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถฟันธงว่าผู้ตายเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ เนื่องจากสภาพศพเน่ายุ่ย จนไม่เหลือเค้าโครงเดิม ซึ่งหลังจากนี้จะออกประชาสัมพันธ์ไปตามสถานีตำรวจต่างๆ ทั่วจังหวัดว่ามีพื้นที่ใดแจ้งคนหายไว้บ้างและหากผู้ใดที่เคยแจ้งคนหายให้มาดูหลักฐานได้ที่สภ.ฉลอง เพื่อจะได้สอบสวนและดำเนินการต่อไป

นทท.ต่างชาติฝืนธงแดงลงเล่นน้ำทะเลคลื่นซัดตาย


เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 54 ร.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง ร้อยเวรสภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล (บีชการ์ด) บริเวณหาดกะรน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่ามีนักท่องเที่ยวจมน้ำ เหตุเกิดบริเวณชายหาดตรงข้ามสนามกีฬาเทศบาลตำบลกะรน ต.กะรน หลังรับแจ้งก็ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นชายหาดที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นรองมาจากชายหาดป่าตอง เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางถึง ก็พบว่าเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ออกไปทำการค้นหาอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็สามารถช่วยเหลือกลับขึ้นฝั่งได้ แต่นักท่องเที่ยวอาการสาหัส เจ้าหน้าที่รีบนำตัวส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งทีมแพทย์ได้ช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถช่วยได้ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนทราบชื่อคือนาย เวียง ฟู ตัง (Wei Fuo Thang) สัญชาติจีน อายุ 32 ปี ได้เดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต โดยได้เข้าพักที่โรงแรมเมอเวนพิค ต.กะรน ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้เดินจากโรงแรม เพื่อไปเล่นน้ำทะเล ซึ่งบริเวณหาดกะรน ในขณะนี้มีธงแดงปักอยู่ตลอดแนวชายหาด ซึ่งเป็นการเตือนห้ามลงเล่นน้ำเด็ดขาดเพราะคลื่นลมแรง ขณะที่ผู้ตายเล่นได้สักประมาณ 10 นาที ก็ถูกคลื่นลูกใหญ่ซัดออกไปกลางทะเล เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล (บีชการ์ด) ก็ได้เข้าไปช่วยเหลือ แต่ผู้ตายมีอาการหมดสติ จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลและแต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้แจ้งเจ้าหน้าที่สถานทูตเพื่อแจ้งให้ญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลศพต่อไป

ปิดการฝึก SEXEX THAMAL ครั้งที่ 51/2011



เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 ที่บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต พลเรือตรี รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วย FADM.Muhammad Abdul Basar Bin Taji ตัวแทนจากกองทัพเรือมาเลเซีย ร่วมกันเป็นประธานในพิธีการปิดการฝึกผสม SEXEX THAMAL ครั้งที่ 51/2001 โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารเรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำของประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ทหารเรือ และเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศมาเลเซียเข้าร่วมในพิธี

ทั้งนี้พลเรือตรี รังสฤษดิ์ ได้กล่าวว่า ตามที่กองทัพเรือ ได้จัดให้มีการฝึกผสมของหมู่เรือระหว่างประเทศ ในส่วนของกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือมาเลเซีย ภายใต้ชื่อการฝึก SEXEX THAMAL ครั้งที่ 51/2011 ด้านสตูล – เปอร์ลิส นั้นทางกองทัพเรือเรือไทย และกองทัพมาเลเซีย ได้ดำเนินการฝึกผสม SEXEX THAMAL ระหว่างวันที่ 9 – 14 พฤษภาคม 2554 โดยมีวัตถุประสงค์ของการฝึก SEXEX THAMAL เพื่อการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทหารเรือและตำรวจน้ำของทั้ง 2 ประเทศ เหมือนกับทุกๆ ปีที่ผ่านมา โดยพิธีเปิดดังกล่าว จัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 ที่ผ่านมา ณ เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย

จากนั้นก็ได้มีการฝึกซ้อมมาจากประเทศมาเลเซีย โดยการฝึกซ้อมในครั้งนี้จะเน้นการฝึกซ่อมในด้านการสื่อสาร การแปรสัญญาณการสื่อสาร และยุทธวิธีการทางทะเล และการฝึกซ้อมก็จะมาสิ้นสุดที่ประเทศไทย ก่อนที่จะมีพิธีปิดการฝึกซ้อมในครั้งนี้

วางศิลาฤกษ์ โรงเรียนหัวเฉียวภูเก็ตไทย


เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 54 ที่บริเวณก่อสร้างโรงเรียนหัวเฉียวภูเก็ตไทยหัวอินเตอร์ ถนนวิรัชหงษ์หยก อ.เมือง ภูเก็ต พระครูปลัดพิศาล ปุรินทโก หรือ (พระอาจารย์ชัย) จากวัดบางโทง จ.พังงา ได้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสมบัติ อธิเศรษฐ์ ประธานมูลนิธิกุศลสงเคราะห์จังหวัดภูเก็ต นายลีจีมิน รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยหัวเฉียวแห่งประเทศจีน ได้ร่วมกันประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เพื่อเตรียมก่อสร้างโรงเรียนหัวเฉียวภูเก็ตไทยหัวอินเตอร์ โดยมีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมในพิธี

นายสมบัติ อธิเศรษฐ์ ประธานมูลนิธิกุศลสงเคราะห์จังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวว่า สำหรับการก่อสร้างโรงเรียนหัวเฉียวภูเก็ตไทยหัวอินเตอร์ เกิดจากความร่วมมือของ มูลนิธิกุศลสงเคราะห์ภูเก็ต มหาวิทยาลัยหัวเฉียวแห่งประเทศจีนและโรงเรียนภูเก็ตไทยหัว เพื่อจัดการเรียนการสอนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มุ่งเน้นการศึกษาภาษาจีน ให้นักเรียนที่จบออกไปสามารถเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยในประเทศจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำภาษาที่ได้มาใช้ประโยชน์ต่อจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทยต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเปิดโรงเรียนได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2556

นายสมบัติ ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันภาษาจีนถือว่ามีความสำคัญอีกภาษาหนึ่ง ประกอบกับจังหวัดภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศทั่วโลก นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยนักท่อเที่ยวชาวจีนก็นิยมมาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต และมีแนวโน้มที่เดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับทางโรงเรียนหัวเฉียวภูเก็ตไทยหัวอินเตอร์ ได้เน้นการเรียนการสอนภาษาจีนเป็นหลัก เพื่อรองรับการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทย

ส่วนการบริหารการเรียนการสอนนั้นทางมูลนิธิกุศลสงเคราะห์จังหวัดภูเก็ตและมหาวิทยาลัยหัวเฉียว จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทั้งสองฝ่ายเพื่อบริหารจัดการร่วมกัน โดยมหาวิทยาลัยหัวเฉียวได้ทำการวางแผนและออกแบบการก่อสร้างโรงเรียน จัดสร้างหลักสูตรการสอน จัดหาครูผู้สอน ส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาจากรัฐบาลจีนให้ อาทิ ช่วยเหลือการศึกษาต่อในประเทศจีน จัดหาทุนแก่นักเรียนที่มีผลการเรียนยอดเยี่ยม ส่วนทางโรงเรียนภูเก็ตไทยหัว ได้จัดหาที่ดินและเงินทุนในการก่อสร้างโรงเรียน โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ตพร้อมเลือกตั้ง 3 กรกฎาคมนี้


นายตรี อัครเดชา ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดภูเก็ต ที่ห้องประชุมสำนักงานการเลือกตั้งจังหวัดภูเก็ต ว่า จากการที่มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ซึ่งขณะนี้สำหรับจังหวัดภูเก็ต ได้มีการเตรียมความพร้อมในส่วนของเขตเลือกตั้ง ซึ่งแบ่งเป็น 2 เขต ได้แก่เขตเลือกตั้งที่ 1 อ.เมืองภูเก็ต ยกเว้น ตำบลรัษฎากับตำบลเกาะแก้ว ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 2 ได้แก่ อ.กะทู้ อ.ถลาง และตำบลรัษฎากับตำบลเกาะแก้ว โดยมีหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 337 หน่วย แบ่งเป็นเขตเลือกตั้งที่ 1 จำนวน 151 หน่วย และเขตเลือกตั้งที่ 2 จำนวน 186 หน่วย โดยตั้งเป้าหมายของผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งไว้ 70 % เพิ่มจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาซึ่งมีผู้มาใช้สิทธิ 60 %
ส่วนของสถานที่รับสมัครผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ภูเก็ต ทั้งเขตเลือกตั้งที่ 1และเขตเลือกตั้งที่ 2 กำหนดไว้ที่ศาลาประชาคมจังหวัดภูเก็ต ในระหว่างวันที่ 24-29 พฤษภาคม 2554 นี้ ระหว่างวันที่เวลา 08.30-16.30 น. พร้อมทั้งได้กำหนดสถานที่ในลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในเขตและนอกเขตเลือกตั้งในวันที่ 26 มิถุนายน 2554โดยเขตเลือกตั้งที่ 1 เบื้องต้นกำหนดไว้ที่เป็นหอประชุมเทศบาลนครภูเก็ต และเขตเลือกตั้งที่ 2 กำหนดไว้ที่โรงเรียนถลางพระนางสร้าง โดยผู้ที่ต้องการจะลงคะแนนเสียงตั้งล่วงหน้าจะต้องไปลงทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า ส่วนและวันเวลาจะมีการกำหนดจาก กกต.กลางอีกครั้ง
นายตรี กล่าวเพิ่มว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมด้านอื่นๆ ทั้งการจัดทำรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งได้มีการประสานไปยังฝ่ายทะเบียนราษฎรอำเภอ และสำนักงานทะเบียนแต่ละท้องถิ่นให้จัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งพร้อมทั้งประกาศตามที่กฎหมายกำหนด และได้มีการแต่งตั้งผู้อำนวยการพร้อมคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตามคาดว่าการใช้สิทธิ์เลือกตั้งในครั้งนี้ จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากประชาชนมีความตื่นตัว และพรรคการเมืองต่างๆ มีการเคลื่อนไหวส่งผู้ลงสมัครเป็นจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่าเขตละ 2 พรรคการเมือง และทาง กกต.เองได้เตรียมที่จะประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งออกมาใช้สิทธิ์ทุกรูปแบบนายตรีกล่าว

ผู้การภูเก็ตเตรียมซัดเขาทราย


พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึง การจัดกิจกรรมเพื่อหารายได้ช่วยเหลือข้าราชการตำรวจ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมและดินถล่มในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และกระบี่ ว่า ในช่วงที่มีเหตุการณ์น้ำท่วมและดินถล่มในพื้นที่จังหวัดทางภาคใต้ โดยเฉพาะที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และกระบี่ นอกจากบ้านเรือนของประชาชนจะได้รับความเสียหายแล้วในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งจากการประเมินความเสียหายพบว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นประมาณ 39 ล้านบาท
ฉะนั้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือข้าราชการที่ได้รับความเดือดร้อนทางสถานีตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตจึงได้ร่วมกับคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ จะจัดกิจกรรมเพื่อหารายได้ส่งไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังได้รับความเดือดร้อน โดยจัดชกมวยการกุศล “ศึกวันโล่เงิน รวมน้ำใจสู่ภัยน้ำท่วม” ขึ้นในวันที่ 24 พฤษภาคม 54 ที่สนามมวยชั่วคราวโรงยิมสนามกีฬาสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตั้งแต่เวลา 19.00น.เป็นต้นไป โดยเปิดให้ชมฟรี โดยผู้ที่เข้าชมสามารถบริจาคได้ตามศรัทธา
โดยการชกมวยในวันดังกล่าว มีคู่มวยขึ้นชกจำนวนมาก โดยคู่เอกเป็นการพบกันของ รุ่งศิริ ว.สุนทรนันท์ และเพชรทักษิณ ส.สมหมาย ส่วนคู่รองเป็นการพบกันระหว่างเพชรใหม่ ส.กิ่งรัตน์ และศิษย์รัก อบต.ไพโรจน์ นอกจากนั้น ยังมีคู่มวยเกียรติยศ ซึ่งเป็นการพบกันระหว่างเขาทราย กาแล๊คซี่ ชกกับ พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ โดยคู่นี้จะมีนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นกรรมการห้ามบนเวที จึงขอเรียนเชิญทุกท่านเข้าร่วมชมและเชียร์ พร้อมทั้งช่วยกันทำบุญในครั้งนี้ด้วย

เสริมความรู้ผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวภูเก็ต

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2554 ที่ห้องยูงทอง โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) เป็นประธานโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต หลักสูตร ความปลอดภัยในการทำงาน อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.) ซึ่งทางชมรมบริหารงานบุคคลจังหวัดภูเก็ตจัดขึ้น ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจาก อบจ.ภูเก็ต โดยมีนายกิตติพงษ์ เหล่านิพนธ์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดภูเก็ต คณะผู้บริหาร,สมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต นายประเสริฐ มนต์ประสิทธิ์ ประธานชมรมบริหารงานบุคคลจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนผู้บริหาร หัวหน้างานหรือพนักงานระดับปฏิบัติการที่กำลังจะได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.) ในสถานประกอบการด้านการท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 60 คน
นายประเสริฐ มนต์ประสิทธิ์ ประธานชมรมบริหารงานบุคคลจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต มีความประสงค์ให้นำรายได้ที่ได้รับจากการนำส่งค่าธรรมเนียมบำรุง อบจ.ภูเก็ต จากผู้เข้าพักในโรงแรมกลับไปสู่ผู้ที่มีส่วนในการจ่ายค่าธรรมเนียมให้ อบจ.ภูเก็ต เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต จึงได้สนับสนุนงบประมาณให้ทางชมรมฯ จัดสัมมนาทางวิชาการ หลักสูตรความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ บทบาทหน้าที่ในการบริหาร การจัดการของคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน หรือ คปอ.แนวทางในการป้องกันการประสบอันตรายจากการทำงาน การกำหนดนโยบาย กำหนดแผนการดำเนินงาน การติดตามผลและการประเมินผลการดำเนินงานของ คปอ.ประกอบกับกฎหมายความปลอดภัยฉบับใหม่ พ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2554 ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2554 เป็นต้นไป กำหนดให้ทุกสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป จะต้องจัดตั้งคณะกรรมการคปอ.ในสถานประกอบการ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้เข้ารับการอบรมนำความรู้ความเข้าใจและทักษะต่างๆ ไปประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้รับการรับรองตามที่กฎหมาย และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกำหนด
ขณะที่นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตนอกจากเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรมและประเพณีแล้ว การบริการที่ดีก็เป็นจุดขายที่มีความสำคัญและมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในตลาดท่องเที่ยวโลก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องได้รับการบริการที่ดี เพื่อสร้างความประทับใจและเกิดแรงจูงใจในเดินทางกลับมาท่องเที่ยวยังจังหวัดภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบุคลากรทางด้านการท่องเที่ยวมีบทบาทสำคัญในการให้บริการและสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว แต่การให้บริการที่มีประสิทธิภาพนั้น นอกจากการบริหารจัดการที่ดีจะมีความสำคัญในการบริการแล้ว ความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมของสถานประกอบการในภาคธุรกิจท่องเที่ยวก็มีความสำคัญมากเช่นกัน

อบรมอาสาสมัครนำเที่ยวชุมชน

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2554 ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุนทร นายบัวยัญ สุวรรณมณี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการ ฝึกอบรมอาสาสมัครนำเที่ยวชุมชน ประเภทการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ รุ่นที่ 1 โดยมี นายธำรง ตันติวิรัชกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุนทร นางสาวรัชาภรณ์ พัฒนา หัวหน้าฝ่ายท่องเที่ยว สนง.ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนเจ้าหน้าและผู้เข้ารับการอบรมร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดในครั้งนี้
นายบัวยัญ สุวรรณมณี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจัดการฝึกอบรมในครั้งนี้เพื่อให้เยาวชนรู้จักการและสามารถแนะนำแหล่งท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่นได้อย่างคล่องแคล่วและถูกต้องเป็นการสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนมีความรู้สึกรักและห่วงแหนทรัพยากรธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรมในท้องถิ่นอีกทั้งยังเป็นการสร้างเยาวชนเป็นกลุ่มอาสาสมัครนำเที่ยวให้กับชุมชนอีกด้วย
นายบัวยัญ สุวรรณมณี กล่าวต่ออีกว่า รูปแบบในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นั้นมีทั้งการบรรยายให้ความรู้ในส่วนของภาคทฤษฎี ในการจัดการท่องเที่ยวชุมชน การเป็นเจ้าบ้านที่ดี และฝึกภาคปฏิบัติตามแนวเส้นตรงทางแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ณ สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาพระแทว โดยมีผู้เข้าร่วมการอรรมทั้งสิ้น 70 คน ซึ้งเยาวชนที่การเข้าร่วมการฝึกอบรมในครั้งนี้เป็นกลุ่มเยาวชนในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุนทร ในส่วนของการอบรมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก องค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุนทร มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต การท่องเทียวแห่งประเทศไทยสำนักงานภูเก็ต สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพจังหวัดภูเก็ต และสถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาพระแทว

“ผลิตเชื้อเห็ดในถุงพลาสติก รุ่นที่ 5”

“ผลิตเชื้อเห็ดในถุงพลาสติก รุ่นที่ 5”

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2554 ที่ห้องประชุมชั้นล่าง ศาลาประชาคม อบจ.ภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพ ประจำปี 2554 หลักสูตรการผลิตเชื้อเห็ดในถุงพลาสติก รุ่นที่ 5 โดยมี นายมานพ ลีลาสุธานนท์ ปลัด อบจ.ภูเก็ต นายวัชรินทร์ ปฐมวัฒนพงศ์ รองปลัด อบจ.ภูเก็ต นายเสถียร แก้วพระปราบ ผู้อำนวยการกองแผน และงบประมาณ อบจ.ภูเก็ต ตลอดจน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ อบจ.ภูเก็ต และประชาชนผู้ให้ความสนใจจำนวน 30 คน เข้าร่วม

สำหรับโครงการฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพ ประจำปี 2554 หลักสูตรการผลิตเชื้อเห็ดในถุงพลาสติก ได้รับความสนใจสมัครเข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 7 รุ่น รุ่นละ 30 คน รวม 210 คน และในการฝึกอบรม รุ่นที่ 5 ในระหว่างวันที่ 12 – 13 พฤษภาคม 2554 มีผู้สมัครเข้ารับการฝึกอบรมจากตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โดยอบรมภาคทฤษฎี ณ ศาลาประชาคม อบจ.ภูเก็ต และอบรมภาคปฏิบัติ ณ ศูนย์การเรียนรู้กลุ่มเพาะเห็ด บ้านโคกโตนด หมู่ที่ 9 ตำบลฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมี นายวิชัย พฤติสืบ เป็นวิทยากรให้ความรู้ในการฝึกอบรม

นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้ให้ความสำคัญกับโครงการฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพ หลักสูตรการผลิตเชื้อเห็ดในถุงพลาสติก เนื่องจาก ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก สามารถทำได้ เป็นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ในครัวเรือน สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประกอบเป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักก็ได้ อีกทั้งต้นทุนน้อย รายได้ดีเป็นที่ต้องการของตลาด เช่น เห็ดนางฟ้า เห็ดโคนญี่ปุ่น และเห็ดแครง ซึ่งในการฝึกอบรมได้วิทยากรที่มีความรู้ ความสามารถสูง เป็นเจ้าของกิจการฟาร์มเห็ด เต็มใจที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ตรงให้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรม จึงขอให้ผู้ทุกท่านได้ตั้งใจศึกษาทั้งเพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นการเพิ่มรายได้แก่ตนเอง ครอบครัว ชุมชน ตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงต่อไป

ปลุกพลังสร้างสรรค์ ต่อยอดธุรกิจและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ


ปลุกพลังสร้างสรรค์ ต่อยอดธุรกิจและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ขอเชิญนักธุรกิจพร้อมทั้งประชาชนทั่วไป ร่วมการสัมมนาและประชุมเชิงปฏิบัติการเศรษฐ์กิจสร้างสรรค์ ระดับประเทศ ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ปลุกพลังสร้างสรรค์ ต่อยอดธุรกิจและเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในวันพุธที่ 25 พฤษภาคม 2554 ณ ห้องภูเก็ต แกรนต์ บอลรูม โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ จ.ภูเก็ต โดยวิทยากรซึ่งเป็นนักวิชาการ และนักการตลาด พร้อมทั้งรับหนังสือ “ทำไมต้องเศรษฐกิจสร้างสรรค์” เขียนโดย 6 นักคิดชื่อดัง ลงทะเบียนตั้งแต่ 08.00 น.เป็นต้นไป สำหรับผู้ที่สนใจขะเข้ารน่วมสัมมนา สามารถลงทะเบียนเพื่อสำรองที่นั่งได้ที่ www.ipthailand.go.th/seminars/ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บมจ.ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ โทรศัพท์หมายเลข 02 559 0505 คุณพัชรัตน์ จันทร์วศิน ต่อ 323 หรือ patcgharat@cm.co.th

วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

รวบเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติที่สนามบินภูเก็ต


เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 54 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.เมือง ภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงษ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.โกมล วัตรากรณ์รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.ชำนาญ แป้นนาบอน รอง.ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย, พ.ต.อ.ธีระยุทธ บุตรน้ำเพชร ผกก.ด่าน ตม.ทอ.ภูเก็ต, ว่าที่ ร.ท.ภาสกร สุระพิพิธ ผอ.การท่าอากาศยานภูเก็ต, นายอนันต์ ศรีประเสริฐ นักวิชาการชำนาญการพิเศษ ด่านศุลกากรภูเก็ต, พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน สวป.สภ.เมืองภูเก็ต/ ชปส.สภ.เมือง และชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม 1. นายปีเตอร์ บัลเมอร์ (PETER BALMER) อายุ 47 ปี สัญชาติ สวิสเซอร์แลนด์ ถือหนังสือเดินทางหมายเลข F0705216 พร้อมด้วยของกลาง โคเคน มีลักษณะเป็นยางดำ จำนวน 2 แผ่น น้ำหนัก ประมาณ 4 กิโลกรัม, กระเป๋าเดินทาง (ใช้ซุกซ่อนยาเสพติด โคเคน จำนวน 1 ใบ) 2. นางสาวพิมพิศา เพียงโยธา อายุ 39 ปี อยู่ 55 หมู่ 4 ต.แซร์ออ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) เป็นผงสีขาว น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม โดยกล่าวหาว่า นำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) และมียาเสพติดให้โทษประเภท 2(โคเคน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ที่ ท่าอากาศยานภูเก็ต ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ ทางพ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ได้แจ้งจากสายลับว่า จะมีกลุ่มนักค้ายาเสพติด จะมีการลำเลียงยาเสพติดจากประเทศแถบโซน อเมริกาใต้ เข้ามาในราชอาณาจักร ผ่านทางท่าอากาศยานภูเก็ต จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และวางแผนทำการจับกุม โดยได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย ด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานภูเก็ต การท่าอากาศยานภูเก็ต ด่านศุลการกรท่าอากาศยานภูเก็ต สภ.ท่าฉัตรไชย และวางแผนทำการจับกุม จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น ของวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมก็ได้พบนายปีเตอร์ บัลเมอร์ (PETER BALMER) ซึ่งเป็นบุคคลที่สายได้แจ้งไว้ว่าจะเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ในการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร ได้เดินทางเข้ามาถึงท่าอากาศยานภูเก็ต และผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นได้เดินทางไปหยิบกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ ที่สายพานที่ 6 แล้วรีบเดินออกมาผ่านยังจุดตรวจของด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบกระเป๋าโดยเอากระเป๋าดังกล่าวผ่านเครื่องเอกซ์เรย์ พบว่ามีสิ่งผิดปกติ จึงขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นกระเป๋าพบว่าที่ขอบของกระเป๋าดังกล่าว 2 ด้าน ได้มีการซุกซ่อนยาเสติด(โคเคน) ไว้โดยทำเป็นแผ่นบางๆ อย่างแนบเนียน หนักแผ่นละประมาณ 2 กิโลกรัม รวม ทั้งสิ้น 4 กิโลกรัม ซึ่งจากการตรวจสอบเป็นชนิดสีดำ ซึ่งเป็นการตรวจพบครั้งแรกในเมืองไทย โดยโคเคนดังกล่าวนี้หากหลุดเข้าไปจำหน่ายในตลาดในประเทศไทย แล้ว หากขายส่งแล้ว จะมีราคาประมาณ กิโลกรัมละ 3 ,000,000 บาท (4 กิโลกรัม ประมาณ 12,000,000 บาท) แต่หากแบ่งจำหน่ายในลักษณะที่เป็นรายย่อยแล้ว สามารถทำรายได้ให้กับผู้ค้าได้ถึง 5 ล้านบาท ต่อกิโลกรัม จากนั้นทางเจข้าหน้าที่ก็ได้นำตัวนายปีเตอร์ไปทำการสอบสวนเพิ่มเติม

จากการสอบสวนก็ทราบว่า นายปีเตอร์ บัลเมอร์ อยู่ในประเทศไทยมาประมาณ 4 – 5 ปี โดยสามารถพูดและฟังภาษาไทยได้บ้าง โดยได้มีภรรยาอยู่ที่ อ.ครบุรี จ.นครราชศรีมา ก่อนถูกจับกุมตนได้รับการว่าจ้างให้เดินทางไปรับยาเสพติดมาจากเมืองซานตาครูซ ประเทศโบลิเวีย และมาแวะที่เมืองโดฮา เพื่อเปลี่ยนเครื่องเดินทางตรงมายังจังหวัดภูเก็ต โดยทางกลุ่มนักค้าจะเป็นผู้ออกค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด จากนั้นเมื่อรับยาเสพติดมาแล้วก็จะเดินทางเข้าประเทศไทย ทางท่าอากาศยานภูเก็ต โดยในครั้งนี้ตนจะได้รับค่าจ้างประมาณ 6,000 US หรือประมาณ 2 แสนบาท หลังจากที่ส่งมอบกระเป๋าซึ่งซุกซ่อนยาเสพติดไว้ให้กับกลุ่มผู้ว่าจ้างเรียบร้อยแล้ว ภายหลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหานี้ พร้อมด้วยของกลาง นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าฉัตรไชย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากนั้นในวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมชุดเดิมได้พบ นางสาวพิมพิสา เพียงโยธา ซึ่งเป็นอีกบุคคลที่ทางสายได้แจ้งว่าเป็นผู้ที่เดินทางไปรับเอายาเสพติดที่ประเทศบราซิล นำเข้ามาในราชอาณาจักร ผ่านทางท่าอากาศยานภูเก็ต และจะเดินทางต่อไปที่กรุงเทพมหานคร หลังจากได้ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ได้เดินไปรอเอากระเป๋าที่สายพานหมายเลข 6 เมื่อรับกระเป๋า ก็ได้เดินทางผ่านยังจุดตรวจของด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบกระเป๋าโดยเอากระเป๋าดังกล่าวผ่านเครื่องเอกซ์เรย์ พบว่ามีสิ่งผิดปกติ จึงขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋า จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมตัว พร้อมทั้งนำไปไปทำการสอบสวน

จากการสอบสวนนางสาวพิมพิศา ให้การว่า ก็ทราบว่า ก่อนเดินทางไปประเทศบราซิลในครั้งนี้ ก็ได้มีชาวต่างชาติชื่อว่า นาย ไมท์ (MIKE) ได้มายื่นข้อเสนอไปเที่ยวประเทศบราซิล โดยนายไมท์ฯ จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ เมื่อเดินทางไปถึงประเทศบราซิล จะมีคนนำกระเป๋ามาให้ แล้วเดินทางกลับ โดยมาเปลี่ยนเครื่องที่เมืองโดฮา จากนั้นเดินทางเข้ามาเมืองไทยที่จังหวัดภูเก็ต และจะเดินทางต่อไปที่กรุงเทพมหานคร และมีกลุ่มเครือข่ายของนายไมท์ มารับเอากระเป๋าไปเรียบร้อย โดยจะได้ค่าตอบแทนเมื่อเดินกลับมากรุงเทพฯพร้อมด้วยกระเป๋าเดินทาง อนึ่ง ยาเสพติดดังกล่าวนี้สามารถนำไปเสพเข้าสู่ร่างกายได้โดยทันที โดยราคาข่ายส่งเป็นกิโลกรัมในกรุงเทพมหานคร อยู่ที่ กิโลกรัมละประมาณ 3.5 – 4 ล้านบาท แต่หากนำแบ่งขายรายย่อย สามารถทำรายได้ถึงกิโลกรัมละประมาณ 6.5 ล้านบาท

สำหรับกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ชนิดที่เป็นสีดำ จำนวน 4 กิโลกรัม ราคาขายส่งประมาณ 12 ล้านบาท (กก.ละ 3 ล้าน) หากนำไปจำหน่ายเป็นรายย่อย จะทำรายได้ประมาณ 20 ล้านบาท ( กก.ละ 5 ล้าน) ส่วนชนิดผงสีขาว จำนวน 2 กิโลกรัม ราคาขายส่งประมาณ 8 ล้านบาท (กก.ละ 4 บาท) หากนำไปจำหน่ายเป็นรายย่อย จะทำรายได้ประมาณ 13 ล้าน บาท (กก.ละ 6.5 ล้าน) รวมยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) จำนวน 6 กก. ราคาประมาณ 20 ล้านบาท หรือขายในรายย่อย มีมูลค่าประมาณ 33 ล้านบาท

รพ.อบจ.เตรียมเข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพ


เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นพ.ศักดิ์ แท่นชัยกุล นพ.สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมประชุมการเข้าสู่โครงการระบบหลักประกันสุขภาพของโรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต โดยมี คณะผู้บริหารโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต คณะแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ตลอดจนทีมงานโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการรับทราบ ถึงการเปิดโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นโรงพยาบาลระดับทุติยภูมิ 2.2 มีเตียงให้บริการ 129 เตียง โดยในระยะแรกจะเปิดให้บริการผู้ป่วยนอกในวันที่ 31 พฤษภาคม 54 จากนั้นประมาณเดือนกรกฎาคม ทางโรงพยาบาลก็จะเปิดเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการบริการด้านการผ่าตัด การตรวจรักษาเฉพาะทาง เช่น โรคหัวใจ โรคทางเดินอาหาร ฯลฯ รวมทั้งกรณีอุบัติเหตุฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังมีการแจ้งความประสงค์ขอเข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และแบ่งประชากรสิทธิบัตรทอง ประมาณ 10,000 คน จากเครือข่ายโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต มาดูแลแบบองค์รวม ทั้งด้านรักษาพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพ และฟื้นฟูสุขภาพ เสนอแนวทางการขอขึ้นทะเบียนหน่วยบริการ(ใหม่) ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า พร้อมทั้งแจ้งเพื่อทราบในเรื่องการส่งต่อและอัตราการชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ กรณีผู้ป่วยนอกระหว่างหน่วยบริการใหม่และนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช

เนื่องจากโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต อยู่ในพื้นที่เทศบาลนครภูเก็ต และใกล้กับ ม.7 เทศบาลตำบลรัษฎา ดังนั้นการแบ่งพื้นที่และประชากร จึงควรเป็นพื้นที่รอบๆ โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต เพื่อให้บริการในลักษณะบ้านใกล้ โดยเฉพาะงานด้านส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้ประชาชนในพื้นที่ ส่วนระบบการส่งต่อระหว่างหน่วยบริการสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต มีข้อตกลงของหน่วยบริการภาครัฐสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่โครงการประกันสุขภาพ 500 บาท ให้ประชาชนสามารถรับบริการได้ทุกหน่วยบริการในจังหวัด โดยไม่ต้องขอใบส่งตัวจากหน่วยบริการที่ลงทะเบียนสิทธิไว้ โดยให้ สสจ.เป็นหน่วย clearing house ซึ่งในปี 2553 สสจ.ภูเก็ต ได้จ่ายค่าชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ให้หน่วยบริการเฉลี่ย 55.36 บาท/ครั้ง (ไม่รวมค่าตรวจพิเศษ เช่น อัลตราซาวด์, MRI, CT ค่าตรวจ Lab, เซรุ่มพิเศษสุนัขบ้า สำหรับหน่วยบริการสังกัดกระทรวงสาธารณสุขภาครัฐในจังหวัดภูเก็ต ได้มีข้อตกลงกำหนดให้อัตราการตามจ่ายผู้ป่วยนอกต่อครั้งตามน้ำหนัก รพท. : รพช. : รพ.สต. เป็น 300 : 200 : 100 ซึ่ง รพ.สต. ที่มีแพทย์ประจำอย่างน้อย 10 ชั่วโมง/สัปดาห์ ให้มีน้ำหนัก 120 ตามวงเงินที่ สสจ.กันไว้

ตรวจยึดลักลอบตัดไม้บนเขานางพันธุรัตน์


เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 54 เจ้าหน้าที่อำเภอเมืองภูเก็ต พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจป่าไม้ภูเก็ต ภายใต้การสั่งการของนายศุภชัย โพชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.โชติ ชิดไชย ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต และนายทวี อยู่สุข เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ ภก.2 ได้เข้าตรวจสอบและจับกุมการลักลอบตัดไม้บริเวณเทือกเขานางพันธุรัตน์ ต.รัษฎา อ.เมือง จ. ภูเก็ต หลังจากมีชาวบ้านร้องเรียนว่ามีการลักลอบตัดต้นไม้ขนาดใหญ่บนเทือกเขาดังกล่าว

สำหรับการเดินทางขึ้นไปตรวจสอบในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าขึ้นเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงจะถึงบริเวณที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่พบมีการลักลอบตัดต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวน 9 ต้น มีทั้งต้นตะเคียนไม้ตีนเป็ด ไม้จิกเขา ไม้หนุนปาน อายุประมาณ 50 – 60 ปี คิดมูลค่าความเสียหายจำนวนหลายแสนบาท โดยกลุ่มบุคคลที่ลักลอบตัดไม้ได้หลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางไปถึงพื้นที่ จึงทำได้เพียงตรวจยึดไม้ดังกล่าวไว้ตรวจสอบ ทั้งนี้ปัจจุบันเทือกเขาดังกล่าวมีกลุ่มนายทุนและชาวบ้านแผ้วถางไม้จำนวนหลายจุด ซึ่งส่วนใหญ่จะนำพื้นที่ไปปลูกยางพารา


วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

“เพื่อไทย” เปิดตัวผู้สมัครเขต 2 ภูเก็ต

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 ที่อาคารเลขที่ 123/10 หมู่ 1 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายพิเชษฐ สถิรชวาล ประธานผู้อำนวยการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ฝั่งอันดามัน ประกอบด้วย ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และระนอง เป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย จังหวัดภูเก็ต เขต 2 พร้อมเปิดตัวนายสมาน เก็บทรัพย์ เป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้เทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย จังหวัดภูเก็ต เขต 2 โอกาสเดียวกันนี้ก็ได้มีการชี้แจงนโยบายในการหาเสียงสำหรับจังหวัดภูเก็ต และเปิดตัวผู้สมัครในพื้นที่ฝั่งอันดามัน โดยมีผู้ให้การสนับสนุนมาร่วมเป็นจำนวนมาก

นายพิเชษฐ กล่าวว่า สำหรับภูเก็ตมีสองเขตเลือกตั้งทางพรรคฯ ได้ก็ส่งผู้ลงสมัคร ส.ส.ทั้งสองเขต โดยเขตเลือกตั้งที่ 1 ได้แก่ นายวิศิษฐ์ ใจอาจ นักธุรกิจด้านการขนส่งทางทะเล ซึ่งจะมีการเปิดตัวในเร็วๆ นี้ ขณะที่เขตเลือกตั้งที่ 2 ได้แก่นายสมาน เก็บทรัพย์ นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ จากคุณสมบัติของผู้สมัครทั้งสองมีความมั่นใจค่อนข้างมาก ประกอบกับนโยบายของพรรคฯ ตั้งแต่เป็นพรรคไทยรักไทย จนปัจจุบันซึ่งเป็นพรรคเพื่อไทยยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

สำหรับนโยบายของพรรคเพื่อไทยจะเน้นการต่อยอดนโยบายของพรรคไทยรักไทยในอดีต เช่น กองทุนหมู่บ้าน โครงการเอสเอ็มแอล โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค โครงการพักชำระหนี้เกษตรกร เป็นต้น ส่วนของนโยบายที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดภูเก็ตจะเน้นในสองเรื่องหลัก คือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค การจัดทำโครงการขนส่งมวลชน การขยายเส้นทางการขยายการจราจร เป็นสี่ช่องจราจรโดยจะเชื่อมโยงกับจังหวัดใกล้เคียงด้วย เป็นต้น โดยเน้นให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางในฝั่งอันดามัน เพราะเมื่อภูเก็ตมีการเจริญเติบโตแล้วก็จะสามารถขยายไปยังจังหวัดใกล้เคียงด้วย

อีกนโยบายที่สำคัญ คือ การทำให้ภูเก็ตเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง โดยการยกเว้นภาษีซึ่งจะไม่เฉพาะในส่วนของดิวตี้ฟรีเท่านั้น แต่จะมีการจัดทำเป็นร้านค้าปลอดภาษีและกระจายไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งในเรื่องได้มีการศึกษารายละเอียดไว้แล้ว และเชื่อว่านโยบายนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจต่างๆ นายพิเชษฐกล่าว

นายพิเชษฐ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ในส่วนของการคัดเลือกผู้สมัครฯ ในพื้นที่รับผิดชอบค่อนข้างที่จะมีความสมบูรณ์แล้ว และอยู่ระหว่างการทยอยเปิดตัว ซึ่งในแต่ละพื้นที่ที่มีการส่งผู้สมัครฯ จะมีความมั่นใจค่อนข้างสูง แต่ที่กังวลอยู่บ้างจะเป็นที่ จ.ตรัง ส่วนจังหัดอื่นๆ ไม่น่าจะมีปัญหา

ดึงเครือข่ายศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน

ดึงเครือข่ายศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 ที่ห้องประชุมโรงแรมคาทีน่า อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ให้กับคณะทำงานศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 และให้สามารถนำความรู้ดังกล่าวไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับตนเอง ครอบครัว ชุมชน รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย คณะทำงานศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน จำนวน 120 คน


นายกิตติ อินทรกุล รักษาราชการแทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต (พมจ.ภูเก็ต) กล่าวว่า พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2551 มีการบังคับใช้อย่างเคร่งครัดตลอดมาในการปฏิบัติดังกล่าว กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ตได้ดำเนินการจัดทำแผนป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยเผยแพร่สาระสำคัญเกี่ยวกับพระราชบัญญัติดังกล่าว เพื่อสร้างความร่วมมือให้เครือข่ายทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และท้องถิ่น ได้รับรู้และร่วมกันป้องกันแก้ไขปัญหาการล่อลวง และการค้ามนุษย์มาโดยตลอด

ขณะที่นายสมเกียรติ กล่าวว่า ปัญหาการค้ามนุษย์ เป็นประเด็นปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ร้ายแรง และเป็นที่สนใจของสังคมทั้งในระดับพื้นที่ระดับชาติ และระดับสากล ที่ทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญ และร่วมกันแก้ไขให้ลุล่วงให้ได้ ซึ่งจังหวัดภูเก็ตได้ให้ความสำคัญในการดำเนินการพิทักษ์คุ้มครองป้องกันและแก้ไขปัญหาทางสังคม ซึ่งมีความซับซ้อนมากในปัจจุบันให้บรรเทาเบาบางลง การที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ตได้หยิบยก และตระหนักถึงความสำคัญกับปัญหาการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะหญิงและเด็ก ให้พ้นจากสภาพที่ถูกกดขี่ ถูกแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การบังคับค้าประเวณี การบังคับใช้แรงงาน ซึ่งปัจจุบันกระบวนการค้ามนุษย์มีความสลับซับซ้อนยากที่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งจะทำโดยลำพังได้ จึงจำเป็นจะต้องทำงานในลักษณะประสานการทำงานเชิงเครือข่ายมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาจังหวัดภูเก็ต โดยสำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต ในฐานะเป็นเลขานุการคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดภูเก็ต ได้ขับเคลื่อนการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 เป็นไปด้วยความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวมีประสิทธิภาพ และให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการดำเนินการอย่างจริงจังทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชน โดยใช้กลไกเครือข่ายทางสังคม คือ ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนระดับตำบลเป็นตัวขับเคลื่อน จึงจำเป็นต้องเพิ่มพูนความรู้ในการป้องกันแก้ไขในระดับชุมชนให้เพิ่มมากขึ้น นายสมเกียรติกล่าว

รณรงค์รักโลก รักสิ่งแวดล้อม รักประชาธิปไตย


เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 ที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ (หาดในยาง) อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ “รักโลก รักสิ่งแวดล้อม รักประชาธิปไตย” โดยมีนายสุรพงษ์ ปัญญาไวย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสาคู อ.ถลาง นางศิริพร อารีรอบ ประธานเครือข่ายผู้นำด้านประชาธิปไตย จังหวัดภูเก็ต และคณะกรรมการอำเภอถลาง และ ประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกว่า 150 คน

นางศิริพร กล่าวว่า สืบเนื่องจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนผ่านกรมพัฒนาชุมชนโดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด ได้จัดกิจกรรมพัฒนาเครือข่ายผู้นำด้านประชาธิปไตย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมทางการเมืองของภาคประชาชน ตลอดจนพัฒนาเพิ่มพูน ศักยภาพและทักษะบทบาทผู้นำ ที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางเชื่อมโยงพัฒนาเครือข่ายให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น จึงได้จัดให้มีการเลือกคณะกรรมการเครือข่าย ฯ ของจังหวัดต่าง ๆ ขึ้นทั่วประเทศ เพื่อให้ดำเนินการภารกิจข้างต้นให้บรรลุ ตามวัตถุประสงค์ ซึ่ง ปัจจุบันมีสมาชิกคณะกรรมการเครือข่ายฯ ทั้งอำเภอเมืองภูเก็ต ถลางและกะทู้ ประมาณ 200 คน

สืบเนื่องจากปัจจุบันสภาพแวดล้อมถูกเปลี่ยนแปลงด้วยภัยธรรมชาติเป็นอย่างมาก เห็นได้จากภัยพิบัติน้ำท่วมภาคใต้ แผ่นดินไหวซึ่งเกิดใกล้จังหวัดภูเก็ตเข้ามาทุกที ทางเครือข่าย ฯ จึงได้ร่วมกันจัดทำกิจกรรม “รักโลก รักสิ่งแวดล้อม รักประชาธิปไตยขึ้น เพื่อให้ความรู้และจิตสำนึกที่ดีเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม สิทธิ หน้าที่ ตลอดจนการมีส่วนร่วมด้านประชาธิปไตยในภาคประชาชน โดยกำหนดจัดขึ้นทั้ง 3 อำเภอในจังหวัดภูเก็ต โดยครั้งต่อไป จัดขึ้นที่อำเภอกะทู้ ในวันที่ 7 มิถุนายน 2554 ที่หาดกมลา มีเป้าหมายประชาชนในพื้นที่ 100 ราย ส่วนอำเภอเมืองภูเก็ต จัดขึ้นในวันที่ 8 กรกฎาคม 2554 ที่หาดราไวย์ เป้าหมายประชาชนในพื้นที่ 150 คน” นางศิริพร กล่าว

ขณะที่นายสมเกียรติ กล่าวฝากกับสมาชิกคณะกรรมการเครือข่าย ว่า เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงของการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ซึ่งจะมีผู้สมัครไปหาเสียงตามหมู่บ้านต่างๆ จึงฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่าการเลือกตั้งเป็นเรื่องสำคัญอยากเห็นพี่น้องประชาชนตัดสินใจโดยการไม่ถูกครอบงำใดๆ หรือตัดสินใจเพราะเขาเอาเงินมาให้ แต่ให้มีเหตุผลเลือกคนดีเข้าไปเป็นตัวแทนของเราในการบริหารประเทศ เพราะบางท่านเข้าไปแล้วอาจจะได้ไปเป็นรัฐมนตรี หรือบางท่านอาจจะมีตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ ที่สำคัญหากเราไม่เลือกคนดีเข้าไปบริหารประเทศ ประเทศของเราก็จะเกิดความเสียหาย แต่หากเลือกคนดีเข้าไปบริหารประเทศ ประเทศก็จะเจริญงอกงาม และร่วมกันทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรมและโปร่งใส