จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554

สร้างพิพิธภัณฑ์บาบ๋าภูเก็ตเฉลิมพระเกียรติฯ


เมื่อวันที่ 3 กันยายน 54 ที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต สมาคมเพอรานากันประเทศไทย ได้จัดงาน “เตี้ยมซิ้ม” พบปะสมาชิกสมาคมเพอรานากัน ครั้งที่ 2 ประจำปี 2554 โดยมีนายแพทย์โกศล แตงอุทัย นายกสมาคมฯ เป็นประธาน เพื่อชี้แจงความคืบหน้าโครงการบูรณะอาคารธนาคารชาร์ดเตอร์ และศูนย์รวมข่าวพรหมเทพ เขตเทศบาลนครภูเก็ต เพื่อจัดตั้งเป็น “พิพิธภัณฑ์บาบ๋าเมืองภูเก็ต เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” และโอกาสเดียวกันนี้ พญ.สุปาณี ธารสิริโรจน์ กุมารแพทย์ โรงพยาบาลสิริโรจน์ ได้บริจาคเงินจำนวน 1 ล้านบาท สนับสนุนการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวด้วย
นพ.โกศล กล่าวว่า การจัดตั้งพิพิธภัณฑ์บาบ๋าเมืองภูเก็ตฯ ขึ้นนั้น เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมสิ่งของ โบราณวัตถุ ข้าวของเครื่องใช้เก่าแก่ต่างๆ ที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน ตลอดจนหนังสือเรียบเรียงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงชาวภูเก็ตและชาวปีนัง ที่เดินทางติดต่อเพื่อค้าขายแร่ดีบุก จนก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนด้านอื่นๆ ตามมา เช่น การศึกษา การเมืองการปกครอง อาหารการกิน เป็นต้น ซึ่งกลายมาเป็นวัฒนธรรมบาบ๋า-เพอรานากันอันเป็นเอกลักษณ์ เพื่อการศึกษาเรียนรู้อย่างยั่งยืนแก่คนรุ่นหลัง ตลอดจนส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ตต่อไปในอนาคต
“สมาคมฯ ได้ว่าจ้างบริษัทกุฎาคาร ซึ่งรับดำเนินงานสำรวจและออกแบบพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงหลายแห่งในกรุงเทพมหานคร ให้มาศึกษาและสำรวจข้อมูลด้านประวัติศาสตร์ของอาคารธนาคารชาร์เตอร์ ทำให้ทราบสภาพดั้งเดิมสมัยแรกสร้างหลายประการ ทางสมาคมฯ มีเจตจำนงค์จะบูรณะก่อสร้างให้กลับไปเหมือนของเดิมให้มากที่สุด ได้แก่ พื้นอาคารที่ต้องรื้อปรับระดับลงกว่า 1 เมตร บานประตูหน้าต่างที่เปิดเข้าด้านใน สีอาคารที่เป็นสีเหลืองอ่อน โครงเหล็กด้านในที่สร้างจากประเทศอังกฤษ เป็นต้น”
นายแพทย์โกศล กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการออกแบบเพื่อการบูรณะ ซึ่งในบางส่วนของอาคารยังต้องพิจารณาข้อมูลเพื่อการก่อสร้างที่เหมาะสม อาทิ โครงและกระเบื้องหลังคา รางระบายน้ำฝน เป็นต้นเพราะวัสดุในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปแตกต่างจากสมัยก่อนมาก และการปรับปรุงเพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์จะต้องไม่บดบังความสวยงามทั้งสภาพภายในและภายนอก ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่อาคารในระยะยาว โดยเทศบาลนครภูเก็ตได้ผ่านงบประมาณเบื้องต้นสำหรับการปรับปรุงอาคารเป็นเงิน 12 ล้านบาท
ทางด้าน พญ.สุปาณี ธารสิริโรจน์ กุมารแพทย์ โรงพยาบาลสิริโรจน์ กล่าวว่า การบริจาคเงินดังกล่าว เป็นความประสงค์ของ นพ.อนุโรจน์ ธารสิริโรจน์ ผู้ก่อตั้ง โรงพยาบาลสิริโรจน์ ในฐานะที่เป็นชาวภูเก็ต และเป็นคนบาบ๋าจากครอบครัวที่ตั้งถิ่นฐานในภูเก็ตมาหลายช่วงอายุ นพ.อนุโรจน์ ตระหนักถึงการตอบแทนสังคมเสมอมา และท่านได้กล่าวตลอดมาว่า "เราทำงานเพื่อสังคม สิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ใจของเรา ไม่ใช่อยู่ที่ลาภยศที่จะได้ เพราะสิ่งที่เราได้จริงๆ คือ ความสบายใจ" วันนี้จึงเป็นวันที่ได้ทำหน้าที่ตามความประสงค์ของ นพ.อนุโรจน์ ธารสิริโรจน์ ผู้ก่อตั้ง โรงพยาบาลสิริโรจน์

กมธ.ตำรวจ วุฒิสภา ลุยเกาะภูเก็ต


เมื่อวันที่ 3 กันยายน 54 ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองประธานคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ คนที่สอง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการการตำรวจ ในคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา พร้อมด้วยคณะอนุกรรมาธิการการตำรวจ ได้เดินทางมาติดตามและเก็บข้อมูลภายหลังมีการร้องเรียนการเรียกรับผลประโยชน์ (ส่วย) ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมีกลุ่มผู้ประกอบการร้านเทเลอร์ (ร้านตัดเสื้อ) ชาวเนปาล เข้าให้ปากคำในครั้งนี้
ทั้งนี้พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองประธานคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ คนที่สอง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการการตำรวจ ได้กล่าวว่า เนื่องจากทางคณะกรรมาธิการฯ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ต.กะรน ว่ามีการเรียกเก็บผลประโยชน์จากกลุ่มผู้ประกอบการร้านเทเลอร์ (ร้านตัดเสื้อ) ชาวเนปาลและกลุ่มผู้ประกอบการสินค้าอื่นๆ โดยมีการอ้างว่านำไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้องและตรวจสอบข้อเท็จจริง
“ขณะนี้ได้มีการเก็บข้อมูลจากทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องไปแล้วประมาณ 80 % คาดว่าจะสามารถรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้วเสร็จประมาณสองสัปดาห์ จากนั้นก็จะได้นำเสนอต่อวุฒิสภา เพื่อเสนอต่อรัฐบาลในการดำเนินการแก้ปัญหาต่อไป ซึ่งยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย”
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีเรื่องที่ทางกรรมาธิการฯ ได้รับการร้องเรียนในส่วนของภูเก็ตเพียงเรื่องเดียว คือ เรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ดังกล่าว คิดว่าน่าจะมีความรุนแรงพอสมควร เพราะมีผู้เสียหายที่มาให้ปากคำค่อนข้างมาก ส่วนภาพรวมทั่วประเทศที่มีการร้องเรียนต่อกรรมาธิการฯ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีทั้งเรื่องที่เป็นจริงและความเข้าใจผิดกัน นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์รถบรรทุก ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการดำเนินการ
ขณะที่นายวินัย ชิดเชี่ยว กำนันตำบลกะรน อ.เมืองภูเก็ต หนึ่งในผู้ร้องกล่าวว่า เหตุที่มีการร้องเรียนเนื่องจากต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในพื้นที่ เพราะจากการตรวจสอบข้อมูลแม้ว่าได้มีการร้องเรียนไปแล้วแต่ก็ยังมีผู้ไปเรียกรับผลประโยชน์อยู่อีก
อย่างไรก็ตามหนึ่งในผู้มาให้ปากคำซึ่งเป็นเจ้าของร้านเทเลอร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้มาอ้างตัวเรียกรับเงินกับผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างที่มีคนต่างด้าวรายละประมาณ 2,000 บาท เพื่อนำไปส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งก็ไม่มั่นใจว่ามีการนำไปส่งจริงหรือไมท่อย่างไร สาเหตุที่เรียกเก็บก็อ้างว่าประกอบอาชีพผิดประเภท

ร่วมงาน Misss ThailandWorld 2011


ร่วมงาน Misss ThailandWorld 2011
คุณศรัณย์ สมรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ภูเก็ตไข่มุก จำกัด เข้าร่วมงาน ประกวด Misss ThailandWorld 2011 ณ. บางกอกคอนเว็นชั่นเซ็นเตอร์ ในครั้งนี้ทางบริษัท ได้นำผลงานชิ้นพิเศษ ในคอลลเลคชั่น Andaman Wave มูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาทให้กับ สิริรัตน์ เรืองศรี Miss ThailandWorld 2010 สวมใส่เพื่ออำลาตำแหน่งในค่ำคืนนั้นด้วย

อบจ.ภูเก็ต ต้อนรับคณะกรรมการคัดเลือก อปท.


เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2554 ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยคณะบริหาร สมาชิกสภา หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ คณะแพทย์ จากโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต และผู้มีเกียรติ ได้ให้การร่วมต้อนรับคณะกรรมการคัดเลือกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีการบริหารจัดการที่ดี ประจำปีงบประมาณ 2554 ในรอบที่ 2
นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ทางคณะกรรมการคัดเลือกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี ประจำปีงบประมาณ 2554 ได้มาตรวจเยี่ยมองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ในครั้งนี้ สำหรับ อบจ.ภูเก็ต ได้บริหารจัดการโครงการต่างๆ โดยมีผลงานเป็นที่ประจักษ์หลายด้าน อาทิ โครงการรถโดยสารประจำทางสาธารณะ (โพถ้อง) อันเป็นหนึ่งในโครงการของ อบจ.ภูเก็ต ที่ได้รับความพึงพอใจจากประชาชนมากที่สุด นอกจากนี้ มีโครงการโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต โครงการภูเก็ตแคร์ โครงการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว Life Guard โครงการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพโดยเทคนิคเต้าเต๋อซิ่นซี โครงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม โครงการทั้งหมดของ อบจ.ภูเก็ต จะเน้นการพัฒนาภูเก็ตให้เป็น “เมืองน่าอยู่ คู่คุณธรรม” ซึ่งใช้นโยบายทั้ง 8 ด้านในการบริหารงาน โดยยึดหลักความโปร่งใส จึงทำให้ อบจ.ภูเก็ต ได้รับรางวัลต่างๆ ได้แก่ รางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ด้านการป้องกันการทุจริต รางวัลพระปกเกล้า ด้านความโปร่งใส และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน รางวัลนวัตกรรมท้องถิ่นไทย “รถโพถ้อง” รางวัลองค์กรที่ส่งเสริมด้านศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และล่าสุด ได้รับรางวัลด้านการลดปัญหาอุบัติเหตุจราจร Prime Minister Road Safety Award เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นความสำเร็จของจังหวัดภูเก็ต ที่เกิดจากความร่วมมือของทุกคน

คอนเสิร์ตกีตาร์คลาสสิค เฉลิมพระเกียรติ


เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2554 ที่ โรงละครนาฏศิลป์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต นายไซมอน ฟาร์เบนบลูม อัครราชทูต สถานเอกอัครราชออสเตรเลีย พร้อมด้วยผศ.ดร.ประภา กาหยี อธิการมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต ได้เป็นประธานเปิดงาน Classical Guitar Concert by Hucky Eichelmann and Anthony Garcia Celebration of His Majesty the King’s 84 birthday เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา โดยได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว อาจารย์ นักศึกษาเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ผศ.ดร.ประภา กาหยี อธิการมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต ได้กล่าวว่า “การจัด Classical Guitar Concert by Hucky Eichelmann and Anthony Garcia Celebration of His Majesty the King’s 84 birthday”เนื่องด้วยปีนี้เป็นปีมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ในฐานะสถาบันอุดมศึกษาที่เป็น “คนของพระราชา” สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านมีต่อประเทศชาติบ้านเมืองเป็นล้นพ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่พระองค์ได้รับพระราชสมัญญา “องค์เอกอัครศิลปิน” ซึ่งเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ในวโรกาสมหามงคลยิ่ง
ในฐานะที่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในบริการทางวิชาการแก่ชุมชน ร่วมกับ สถานทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย สำนักงานเทศบาลนครภูเก็ต บริษัท เอเชีย มิวสิค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ ดร. ณรงค์ หงส์หยก บริษัทอนุภาษและบุตร จำกัด ร่วมมือกันจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการอบรมเชิงปฏิบัติแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลก ผู้มีชื่อเสียงในการบรรเลงกีตาร์คลาสสิค คือ ฮัคกี้ ไอเคิลมานน์ และแอนโทนี่ กราเซีย (Hucky and Anthony Garcia) ในโครงการ Workshop and Classical Guitar Concert by Hucky Eichelmann and Anthony Garcia Celration of his Majesty the King’s 84 irthday

ประชาพิจารณ์การโอนย้ายหน่วยบริการ


เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2554 ที่ห้องประชุมศาลาประชาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดประชุมประชาพิจารณ์ การโอนย้ายหน่วยบริการประจำของประชาชน หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 7 ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เรื่องการเปลี่ยนแปลงหน่วยบริการประจำ เป็นโรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต โดยมีคณะผู้บริหาร คณะสมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ อบจ.ภูเก็ต ตลอดจน แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต รวมถึงผู้นำชุมชนและประชาชนจำนวน 500 คน เข้าร่วม
นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้เปิดดำเนินการโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต โดยเปิดให้บริการผู้ป่วยนอกตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2554 และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแบ่งเบาภาระโรงพยาบาลของรัฐในจังหวัดภูเก็ต และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนด้านการให้บริการสาธารณสุข เนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาลของโรงพยาบาลรัฐมีไม่เพียงพอ อีกทั้งเตียงคนไข้มีจำนวนจำกัด ซึ่งหากเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลเอกชนจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายสูงมาก
การจัดประชุมประชาพิจารณ์ในครั้งนี้ เนื่องจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดจะให้พี่น้องประชาชนได้รับการบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพมาตรฐานตามโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งจากมติของผู้บริหารงานสาธารณสุขระดับจังหวัด เทศบาลนครภูเก็ต เทศบาลตำบลรัษฎา และโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในจังหวัดภูเก็ต ได้เห็นชอบให้โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต รับผิดชอบให้บริการพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 7 ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เป็นหลัก ในการนี้จึงจำเป็นต้องโอนสิทธิการเข้ารักษาพยาบาลของพี่น้องในพื้นที่ดังกล่าวจากหน่วยบริการประจำเดิม คือ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต มายังโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต แต่เนื่องจากการเลือกและเปลี่ยนแปลงหน่วยบริการที่ให้บริการรักษาพยาบาลประจำนั้นเป็นสิทธิตามกฎหมาย หากจะมีการโอนย้ายจะต้องได้รับความเห็นชอบจากพี่น้องประชาชน ผู้เป็นเจ้าของสิทธิเสียก่อน
ดังนั้น อบจ.ภูเก็ต โดยความเห็นชอบของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 11 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต จึงได้จัดทำประชาพิจารณ์ขึ้น เพื่อขอความเห็นชอบจากผู้นำชุมชนและประชาชนเจ้าของสิทธิ ว่ายินดีที่จะให้โอนย้ายสิทธิการเข้ารักษาพยาบาลจากหน่วยบริการประจำเดิม คือ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่หมู่ที่ 4 และหมู่ 7 มายังโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต หรือไม่ ซึ่งจะเป็นการโอนย้ายฐานข้อมูลทั้งหมู่บ้าน โดยมิต้องมาลงทะเบียนโอนย้ายเป็นรายคน ที่จะทำให้เกิดความล่าช้าและเสียเวลาในการประกอบอาชีพของพี่น้องทั้งหลาย ทั้งนี้เพื่อให้โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต สามารถเปิดให้บริการพี่น้องประชาชนตามโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2554 นี้ โดย อบจ.ภูเก็ต มีความตั้งใจที่จะให้โรงพยาบาลแห่งนี้ เป็นโรงพยาบาลที่ดูแลท่านด้วยหัวใจ เป็นโรงพยาบาลแห่งความรัก ความเมตตา ความมีน้ำใจไมตรี และพร้อมแล้วที่จะดูแลผู้ป่วยดุจญาติมิตร
พร้อมกันนี้ ในการประชุมดังกล่าว นพ.จักร สมณะ ผอ.โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต ได้กล่าวถึงศักยภาพและการให้บริการ อบจ.ภูเก็ต และ นพ.ภูมิวิชญ์ ขวัญเมือง ผอ.สปสช.เขต 11 สุราษฎร์ธานี ได้กล่าวถึงรายละเอียดสาระสำคัญของสิทธิการรักษาของประชาชน ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (สปสช.) สิทธิการเลือกและการเปลี่ยนแปลงหน่วยบริการให้แก่พี่น้องประชาชน ซึ่งผลสรุปการประชุมในครั้งนี้ ปรากฏว่า ได้มีมติเห็นชอบให้โอนย้ายหน่วยบริการประจำของประชาชน ม.4 และ ม.7 ต.รัษฎา มายังโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต และมีผู้ที่ไม่ประสงค์จะโอนย้ายจากหน่วยบริการประจำ จำนวนเพียง 1 ราย เท่านั้น

วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554

ทรภ. 3 ประชุมแผนความมั่นคง


 เมื่อวันที่ 2 กันยายน 54 ที่ห้องเฮนาคา โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ อ.เมือง ภูเก็ต พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในระดับพื้นที่ในเขตทัพเรือภาคที่ 3 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจาก 6 จังหวัดฝั่งอันดามัน เข้าร่วม
ทั้งนี้ ตามที่รัฐบาลโดยสภาความมั่นคงแห่งชาติได้กำหนดยุทธศาสตร์ความมั่นคงชายแดน พ.ศ. 2550 – 2554) เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นกรอบในการป้องกันเชิงรุก และแก้ไขปัญหาบริเวณพื้นที่ชายแดนให้มีความเป็นเอกภาพ โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างศักยภาพของคนและชุมชนชายแดนให้มีความเข้มแข็ง มีจิตสำนึกด้านความมั่นคงเข้ามามีส่วนร่วม และอุทิศตนป้องกันและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ โดยทัพเรือภาคที่ 3 เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักใน 6 จังหวัดฝั่งทะเลอันดามัน ภายใต้การดำเนินการของคณะกรรมการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในระดับพื้นที่ เขตทัพเรือภาคที่ 3 โดยยุทธศาสตร์ความมั่นคงชายแดน (พ.ศ. 2550 – 2554) ได้สิ้นสุดตามกรอบเวลาแล้ว
สภาความมั่นคงแห่งชาติจึงได้ดำเนินการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคงของชาติ (พ.ศ. 2554 – 2559) ขึ้นใหม่เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการดำเนินการต่อไป จึงมีการประชุมคณะกรรมการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในระดับพื้นที่ในเขตทัพเรือภาคที่ 3 ขึ้น เพื่อเป็นกรอบแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนในการดำเนินงานตามแผนพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคงของชาติทางด้านฝั่งทะเลอันดามัน ให้สามารถเชื่อมโยงนโยบายกันอย่างมีเอกภาพ ประสิทธิภาพ และดุลยภาพ เกิดการบูรณาการนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง ในอันที่จะเสริมสร้างศักยภาพของคน ชุมชนในพื้นที่ชายฝั่งทะเล และเกาะต่าง ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบของทัพเรือภาคที่ 3 มีความเข้มแข็ง สร้างสภาวะแวดล้อมที่สงบและสันติ สามารถเป็นภูมิคุ้มกันปัญหาด้านความมั่นคงที่เกิดขึ้นในภาวะปกติ และเป็นกำแพงป้องกันประเทศที่เข้มแข็งในภาวะสงครามต่อไป

เตรียมพร้อม “ประเพณีถือศีลกินผัก ประจำปี 2554”


เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2554 ห้องประชุมศาลาประชาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต อ.เมือง ภูเก็ฌตนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมจัดกิจกรรมร่วมกับศาลเจ้าตามโครงการ “ประเพณีถือศีลกินผัก ประจำปี 2554” โดยมี คณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต สมาชิกสภา ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ อบจ.ภูเก็ต พร้อมด้วย คณะกรรมการศาลเจ้าต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม
ทั้งนี้นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวว่า ด้วยประเพณีถือศีลกินผักประจำปี 2554 มีขึ้นในระหว่างวันที่ 27 กันยายน – 5 ตุลาคม 2554 ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้ให้การสนับสนุนเป็นประจำทุกปี ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว โดยนำวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณีของจังหวัดภูเก็ตมาเป็นสื่อในการนำเสนอ อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์และสืบทอดประเพณีถือศีลกินผัก ซึ่งเป็นประเพณีดั้งเดิมของจังหวัดภูเก็ต โดยทาง อบจ.ภูเก็ต ได้ร่วมกิจกรรมสนับสนุนศาลเจ้าต่างๆ เช่น สนับสนุนข้าวสารและน้ำมันปาล์มสำหรับใช้ในการประกอบอาหารร่วมกับศาลเจ้า เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ร่วมงานถือศีลกินผักได้ร่วมในพิธีกรรมโดยทั่วถึงกัน ซึ่งได้กำหนดวันส่งมอบข้าวสารและน้ำมันปาล์มให้กับศาลเจ้าต่างๆ ในระหว่างวันที่ 22 – 25 กันยายน 2554 นอกจากนี้ อบจ.ภูเก็ต จะเปิดลานน้ำพุดนตรี ที่บริเวณสะพานหิน ในวันที่ 26 กันยายน 2554 เวลา 19.45 น. ซึ่งมีกิจกรรม แสง สี เสียง เกี่ยวกับเทศกาลถือศีลกินผักอย่างตระการตา ตลอดทั้ง 9 วัน จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวภูเก็ต ร่วมชมงานโดยทั่วกัน
ทั้งนี้ อยากฝากคณะกรรมการศาลเจ้าให้ร่วมรณรงค์เรื่องการคัดแยกขยะในช่วงถือศีลกินผัก โดยประชาสัมพันธ์ให้ร้านค้าต่างๆ ช่วยกันบริหารจัดการเรื่องขยะ เพื่อทำให้จังหวัดภูเก็ตเป็นที่ประจักษ์สู่สายตานักท่องเที่ยว พร้อมทั้งฝากให้แต่ละศาลเจ้าได้จัดทำประวัติของศาลเจ้า เพื่อสืบทอดให้บุคคลรุ่นหลังได้รับรู้ และเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แก่นักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้งานถือศีลกินผักเป็นเพียงประเพณีเท่านั้น แต่อยากให้เป็นช่วงตัวอย่างแห่งการทำความดี ซึ่งจิตวิญญาณแห่งคุณธรรมได้นำสู่ลูกหลานของชาวภูเก็ต

วัยรุ่นร่วมกันฆ่ารัดคอ แล้วซ่อนศพใต้เตียง


เมื่อวันที่ 2 กันยายน 54 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.เมือง ภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.โชติ ชิดไชย ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองภูเก็ตและเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายชรินทร์ โชคเกื้อ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 ม.6 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายกิตติภูมิ จูฑังคะ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/11 ม.5 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต และนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 ม.8 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า ฟีโน่ มีชมพู-ขาว หมายเลขทะเบียน ษคย-495 กทม. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า ฟีโน่ มีส้ม-ดำ หมายเลขทะเบียน สคษ-607 กทม. อาวุธปืน ชนิดไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอกกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 1 นัด โน๊ตบุ๊ค ยี่ห้อ โตชิบ้า พร้อมกระเป๋าสีดำ จำนวน 1 เครื่อง ในข้อหาปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรและไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้กล่าวว่า ด้วยเมื่อเวลา 21.00 น.ของวันที่ 1 กันยายน 2554 พ.ต.ท.ยุงยุทธ กรองมาลัย สารวัตรเวรสภ.เมือง ภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองภูเก็ต ว่า มีคนพบศพชายถูกฆ่าตาย ภายในบ้านเลขที่ 67/268 หมู่บ้านธารทอง 5 ซอย 5/6 ถนนพัฒนาท้องถิ่น ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย จากนั้นก็ได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.อ.โชติ ชิดไชย ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่วิทยาการ แพทย์เวรรพ.วชิระภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต จากการตรวจสอบทราบชื่อ นายยูโส๊ป วัฒนารถ อายุ 35 ปี ที่อยู่ 67/268 หมู่ 1 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต บ้านเดิมอยู่ที่59 ม.6 ต.เกาะขัน อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพมีผ้าขนหนูปิดทับร่างอยู่ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เปิดผ้าขนหนูออกก็พบว่า ศพนอนหงาย ศีรษะถูกคลุมด้วยลายดอก บริเวณลำคอถูกรัดด้วยเนคไทสีทอง สวมกางเกงขาสั้นสีลายน้ำเงินเพียงตัวเดียว คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6 ชั่วโมง
ทั้งนี้จากการสืบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ ทำงานที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ป่าตอง พอจะมีฐานะ อาศัยอยู่บ้านหลังเกิดเหตุเพียงลำพัง และเคยทำงานในต่างประเทศมาหลายประเทศ และจากการสอบถามบุคคลใกล้เคียงบ้านที่เกิดเหตุทราบว่า ในช่วงกลางวัน ได้มีกลุ่มวัยรุ่นอายุประมาณ 16 – 19 ปี จำนวน 4 คน โดยหนึ่งในนั้นทราบชื่อเล่นว่า บอย ได้เข้ามาที่บ้านเกิดเหตุด้วยรถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน หมายเลขทะเบียน ษคย-495 กทม.และหมายเลขทะเบียน สคษ-607 กทม.จากนั้นในช่วงบ่ายกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวก็ได้ออกจากบ้านกับรถจักรยานยนต์ที่ขับมาในตอนแรก พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ดรีม สีดำ ทะเบียน ขจข 41 ภูเก็ต ซึ่งเป็นของผู้ตายออกไปด้วย จนกระทั่งในช่วงเย็น เพื่อนของผู้ตายได้โทรศัพท์มาหา แต่ก็ไม่มีใครรับสาย จึงได้ขับรถมาหาผู้ตายที่บ้าน และก็ได้พบว่าผู้ตายกลายเป็นศพเสียแล้ว
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการสืบสวนโดยการออกตระเวนติดตามหากลุ่มวัยรุ่นและรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย และรถของผู้ตาย จนกระทั่งกลางดึกของวันเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ก็พบรถจักรยานยนต์ ทั้ง 2 คันและรถของผู้ตายจอดอยู่บริเวณถนนเลียบคลองมุดง ถนนพัฒนาท้องถิ่น หมู่ 6 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต และพบเห็นกลุ่มวัยรุ่นนั่งอยู่ใกล้รถจักรยานยนต์ จึงได้ทำการตรวจสอบโดยได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ก็ได้หลบหนีพร้อมรถจักรยานยนต์ และทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมตัวได้จำนวน 2 คน ประกอบด้วยนายชรินทร์ โชคเกื้อ และนายกิตติภูมิ จูฑังคะ จึงได้ทำการตรวจค้น ของกลางบางชิ้นอยู่ในตัวผู้ตายหา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาทำการสอบสวน และจากการสอบสอวทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายภานุวัฒน์ หรือบอย ที่กำลังหลบหนีอยู่ และนายเอ (นามสมมุติ) ได้ร่วมกันก่อเหตุฆ่าผู้ตายโดยการรัดคอ และช่วยกันรื้อค้นเอาทรัพย์สินและรถจักรยานยนต์ของผู้ตายหลบหนีออกมาจากบ้านที่เกิดเหตุจริง
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำตัวทั้ง 2 ได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยังบ้านพักของ นายเอ (นามสมมุติ) ที่แฟลตเทศบาล ม.1 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ก็พบนายเอ (นามสมมุติ) ยืนอยู่หน้าห้องพักที่ 2 แฟลตเทศบาลฯ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายเอ (นามสมมุติ) ได้วิ่งลงมาทางบันไดและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามสามารถควบคุมตัวไว้ได้ จึงได้ทำการตรวจค้นตัวนายเอ (นามสมมุติ) พบ อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 (ไทยประดิษฐ์) จำนวน 1 กระบอก จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวไปสอบสวน พร้อมทั้งนำตัวส่งสถานพินิจฯ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ติดตามจับกุมตัวนายบอยต่อไป

อบจ.ภูเก็ต ประชุมทบทวนแผน (พ.ศ.2555-2558)


เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2554 ที่ห้องประชุมศาลาประชาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต อ.เมือง ภูเก็ตนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (พ.ศ.2555-2558) โดยมีคณะผู้บริหาร สมาชิกสภา หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม
โดยการการประชุมในครั้งนี้ ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกับศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เสนอหัวข้อต่างๆ เพื่อทบทวนแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาได้แก่ กรอบแนวคิดหลักในการทบทวนแผนฯ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการบริหารราชการแบบมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์เชิงยุทธศาสตร์ โดยมีหลักการสำคัญประกอบด้วย จุดมุ่งหมายการพัฒนาที่ชัดเจน ในรูปแบบของวิสัยทัศน์และเป้าประสงค์ พร้อมกำหนดตัวชี้วัด (KPI) ในระดับเป้าประสงค์ วิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอก โดยใช้ข้อมูลจริงสนับสนุน เพื่อให้เข้าใจถึงสถานการณ์ปัจจุบัน และแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในอนาคต กำหนดกลยุทธ์และโครงการพัฒนา เพื่อให้สามารถบรรลุจุดมุ่งหมาย โดยใช้ประโยชน์จากผลวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค ประเมินทรัพยากรที่จำเป็น ทั้งด้านงบประมาณ อัตรากำลัง เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามกลยุทธ์ และจัดให้มีการติดตามและประเมินผล ตลอดจนกลไกการสื่อสารและจูงใจ เพื่อให้มั่นใจในการบรรลุผลสัมฤทธิ์ นอกจากนี้ได้มีการสรุปสาระสำคัญจากแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต
พร้อมทั้งรายงานผลการประเมินความคิดเห็นระดับความพึงพอใจต่อนโยบายและยุทธศาสตร์ที่ผ่านมา สำหรับความพึงพอใจซึ่งอยู่ในระดับปานกลาง และระดับมาก ได้แก่ ด้านสาธารณสุข (ค่าเฉลี่ย 2.85 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.947) ด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว 2.43 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.987) ด้านการศึกษา (ค่าเฉลี่ย 2.53 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.976) ด้านคุณภาพชีวิต (ค่าเฉลี่ย 2.26 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.985) ด้านโครงสร้างพื้นฐาน (ค่าเฉลี่ย 2.10 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.970) ด้านทรัพยากรธรรมชาติ (ค่าเฉลี่ย 2.42 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2.504) ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ค่าเฉลี่ย 2.11 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.07) ด้านการบริหาร การเมือง การปกครอง (ค่าเฉลี่ย 2.25 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.981)
ซึ่งผลสรุปการประเมินระดับความพึงพอใจต่อนโยบายและยุทธศาสตร์ที่ผ่านมา ในทุกด้านปรากฏว่าอยู่ในระดับปานกลาง และระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ย 2.34 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.173

สภ.เมืองภูเก็ตปล่อยแถวกวาดล้างยาเสพติด


เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 54 ที่บริเวณด้านหน้าสภ.เมืองภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้เป็นประธานปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัคร กว่า 100 นาย ออกระดมกวาดล้างยาเสพติด อาวุธปืน และอาชญากรรมอื่นๆ ในพื้นที่ สภ.เมืองภูเก็ต ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้เน้นย้ำให้มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างเร่งด่วน ที่จะต้องดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้ค้าและผู้เสพจริงจัง จึงได้กำหนดให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงที่ 1 ในวันที่ 19 – 31 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา ส่วนช่วงที่ 2 ในวันที่ 1 – 15 กันยายน 2554 แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือช่วงระยะ วันที่ 1 – 7 กันยายน และวันที่ 8 – 15 กันยายน 2554
ทั้งนี้พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้กล่าวว่า ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้สั่งการให้ทุกสถานีตำรวจระดมกำลังกวาดล้างในเรื่องยาเสพติด ถึงแม้ว่าเราจะทำมาโดยตลอด มีการจับกุมกันอย่างเต็มที่ สถิติการจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ตยังคงมีสูงมาก การแพร่ระบาดยังไม่หยุดยั้ง ยังมีอยู่ เพราะฉะนั้นในช่วงรัฐบาลประกาศนโยบายเร่งด่วนเรื่องการปราบปรามยาเสพติด เราก็ดำเนินการอย่างชัดเจน นอกจากใช้กำลังระดมออกปราบปรามจับกุมแล้ว ยังดำเนินการตามแผนที่ได้วางไว้ คือทุกสถานีตำรวจขณะนี้มีบัญชีรายชื่อผู้ค้าและผู้เสพอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นเราก็ดำเนินการตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งเราวางแผนร่วมกับทางจังหวัดและนายอำเภอคู่กัน ก็ดำเนินการไปตามเป้าหมาย โดยจัดตำรวจประจำหมู่บ้าน ชุมชนทุกชุมชน
นอกจากนี้ พล.ต.ต.พิกัด ได้กล่าวถึงเส้นทางการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่เข้ามามีทั้ง 3 ทาง ทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ ซึ่งจะเห็นได้ว่าการจับกุมทางอากาศจะได้มากขึ้น เพราะว่าข้อมูลที่ได้รับ ด้วยการประสานงานกับหน่วยอื่นๆ ที่แจ้งมาก็ค่อนข้างที่จะชัดเจน เราก็จับได้มากขึ้น ผู้ขนส่งจะเปลี่ยนทางเครื่องบิน เนื่องจากทราบว่าทางสุวรรณภูมิเข้มงวดมาก ยากลำบาก จึงได้เปลี่ยนเส้นทางขนถ่ายยาเสพติดมาทางท่าอากาศยานภูเก็ตแทน เราก็ได้เพิ่มความเข้มในการดำเนินการ
ส่วนเรื่องบ่อนการพนัน พล.ต.ต.พิกัด กล่าวว่า ตรงส่วนนี้ได้ดำเนินการกวดขันมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงนี้ เมื่อมีการวางนโยบายอย่างชัดเจน เราก็ได้กวดขันทุกพื้นที่ จากที่มีการลักลอบเล่นการพนันอยู่ก็ไม่ปรากฏให้เห็น แต่เรายังคงพยายามสืบจับดูว่าไปแอบเปิด แอบเล่นการพนันกันที่ไหน แต่ก็ยังไม่ปรากฏเรื่องนี้ ก็ได้กำชับทุกสถานีให้กวดขัน อย่าให้มีเป็นอันขาด ในเรื่องการพนัน นอกจากนี้เรื่องสถานบริการก็ต้องเข้มงวด เรื่องการจำหน่ายยาเสพติดในสถานบริการ การปล่อยให้เด็กอายุไม่ถึง 20 ปี เข้าไปใช้บริการ ส่วนเรื่องการปิด เปิดเป็นเวลา ด้วยภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งจะต้องละเลยไปบ้างในเรื่องเวลา แต่เราก็ต้องเข้มงวด

วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

เทศกาลรักการอ่านและการเรียนรู้


เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2554 ที่ แกรนด์ ฮอลล์ ชั้น 1 โฮมเวิร์ค ภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการเทศกาลรักการอ่านและการเรียนรู้สู่ภูเก็ต” โดยมีนายมานพ ลีลาสุธานนท์ ปลัด อบจ.ภูเก็ต นายสมชาย ดวงแข ที่ปรึกษานายก อบจ.ภูเก็ต นายอวยพร สกุลตัน ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อบจ.ภูเก็ต ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ อบจ.ภูเก็ต ตลอดจน คณะครู อาจารย์ และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วม
โครงการเทศกาลรักการอ่านและการเรียนรู้สู่ภูเก็ต ประจำปี 2554 ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกับ บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1-3 กันยายน 2554 เพื่อ ส่งเสริมให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปได้รับความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการอ่าน การเรียนรู้ต่างๆ เพื่อนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน และนำประสบการณ์ไปพัฒนาการเรียนการสอนต่อไป โดยภายในงานได้มีการจัดฝึกอบรมครูเชิงปฏิบัติการจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ นักเรียน เยาวชน และประชาชนทั่วไป ซึ่งได้เข้าร่วมสนุกกับแรลลี่การอ่าน นิทรรศการ และสถานีความรู้ต่างๆ ตลอดจนเทคนิคการปลูกฝัง การส่งเสริมการอ่านให้แก่เด็ก เยาวชน และตนเอง
นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า “ปัจจุบันเยาวชนให้ความสนใจในการอ่านหนังสือน้อยมาก ซึ่งเห็นได้จากผู้เข้าร่วมงานในวันนี้ ฉะนั้น เราจำเป็นต้องส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป มีนิสัยรักการอ่านให้มากยิ่งขึ้น และนอกจากนั้น ต้องสอนให้เด็ก และเยาวชน เลือกที่จะอ่านหนังสือด้วย ในการนี้ ต้องขอขอบคุณทางผู้จัดงาน บริษัท นานมีบุ๊คส์ รวมถึงคณาจารย์ ทุกท่าน ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ อบจ.ภูเก็ต และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ที่ได้ให้ความร่วมมือในการจัดงานครั้งนี้ และขอให้อาจารย์ทุกท่าน จงใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ ทำให้เด็กและเยาวชนเข้าร่วมงานนี้ให้ได้ ทั้งนี้ จึงมั่นใจว่าทางเจ้าหน้าที่ทุกท่านพร้อมที่จะให้ความรู้ตลอดงานทั้ง 3 วัน และเชื่อว่าหนังสือทุกเล่มที่อ่าน จะเป็นขุมทรัพย์แห่งปัญญาสำหรับทุกท่านอย่างแน่นอน”