จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553

อบจ.ภูเก็ตจัดงานส่งตะวัน


เมื่อเวลา 18.20 น.ของวันที่ 31 ธันวาคม 53 ที่บริเวณสนามชัย อ.เมือง ภูเก็ต นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการชังหวัดภูเก็ต เป็นประธานปล่อยนกพิราบจำนวน 10 ตัว และลูกโป่งหลากสี เพื่อส่งพระอาทิตย์สุดท้ายของปี 2553 ในงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ “COLORFUL COUNTDOWN 2011” ที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตจัดขึ้น โดยมีนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต คณะผู้บริหาร นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ข้าราชการ แขกผู้มีเกียรติ และศิลปินดัง AF (ตุ้ย AF 3, พัดชา AF 2, พะแพง AF 4, ตี๋ AF 4) และประชาชนชาวภูเก็ต ร่วมงาน

สำหรับการจัดพิธีส่งตะวันในครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตโดยการนำเสนอผ่านการจัดงานเฉลิมฉลองประเพณีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งเป็นเทศกาลสากลที่ทุกชาติได้ร่วมเฉลิมฉลองไปพร้อมๆ กันทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมของไทยให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักภาพลักษณ์ที่ดีงามด้านวิถีชีวิตและประเพณีวัฒนธรรมของไทย และจารึกความประทับใจสู่จังหวัดภูเก็ตร่วมกัน

อย่างไรก็ตามในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 มีกิจกรรม การแสดงคอนเสิร์ตของศิลปิน AF (ตุ้ย AF 3, พัดชา AF 2, พะแพง AF 4, ตี๋ AF 4) รวมถึงการเล่นเกมส์ลุ้นของรางวัลมากมาย พร้อมร่วมกันนับถอยหลัง (COUNTDOWN) จุดพลุ และร่วมร้องเพลงต้อนรับปีใหม่ 2554 ด้วย


สสจ.ภูเก็ตยันความพร้อมทางการแพทย์ในช่วงปีใหม่


เมื่อคืนวันที่ 30 ธันวาคม 53 ที่ผ่านมา นายแพทย์ศักดิ์ แท่นชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม พร้อมทั้งให้กำลังกับแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งผู้ป่วยที่ได้เข้ารับการรักษาตัวในห้องฉุกเฉิน ตามโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต ที่ได้เข้าเวรและเตรียมความพร้อมในการรับผู้ป่วยฉุกเฉินในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2553 – วันที่ 4 มกราคม 2554 หรือ 7 วันอันตราย

ภายหลังการตรวจเยี่ยม นายแพทย์ศักดิ์ แท่นชัยกุล ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต (สสจ.ภูเก็ต) ได้ร่วมกับทางโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลถลาง และโรงพยาบาลป่าตอง ได้มีการเตรียมความพร้อมในการรับผู้ป่วยอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มารับบริการในทุกด้าน และเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความปลอดภัยอย่างเต็มขีดความสามารถโดยมีการเตรียมอุปกรณ์ทางการแพทย์ รถรับส่ง ตลอดจนทีมบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข

“ยืนยันว่าในส่วนของทีมแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่วิชาชีพฝ่ายต่างๆ มีความพร้อมเต็มที่ในการรับมือกับผู้ป่วย หรืออุบัติเหตุฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้น รวมไปถึงในส่วนของอุปกรณ์ในการรักษาและภัณฑ์ต่างๆ โดยจะมีการจัดเวรเจ้าหน้าที่ไว้ประจำในแต่ละวันตามแผนงานที่วางไว้” นายแพทย์ศักดิ์กล่าว


ทุกภาคส่วนร่วมยืนยันความพร้อมรับมือหากเกิดสึนามิ


เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 ที่บริเวณเวทีต้นซอยบางลาหาดป่าตองอ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายต่อศักดิ์ วานิชขจร อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา นาวาเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ นายศิริพัฒ พัฒกุล นายกอำเภอกะทู้ นายชัยรัตน์ สุขบาล รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ดร.ภูเวียง ประคำมินทร์ โฆษกประจำกรมอุตุนิยมวิทยาและนายวีระพงษ์ ไวทยะวงษ์สกุล ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ป่าตองบริเวณริมชายหาดและซอยบางลาซึ่งเป็นแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนที่มีชื่อเสียง และนักท่องเที่ยวนิยมเลือกเป็นสถานที่พักผ่อน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวกรณีที่มีข่าวลือเกี่ยวกับการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ

โดยบรรยากาศของชายหาดป่าตองและซอยบางลาต่างคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ออกมารับประทานอาหารและพักผ่อนเป็นจำนวนมาก โดยไม่มีความกังวลกับข่าวลือที่เกิดขึ้น ส่งผลให้การส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในพื้นที่ป่าตองคึกคักเป็นอย่างมาก แม้ว่าเมื่อเทียบกับช่วงปีก่อนจำนวนนักท่องเที่ยวอาจจะลดลงบ้าง เนื่องจากระยะนี้เป็นช่วงไฮซีซันซึ่งนักท่องเที่ยวหลักจะเป็นกลุ่มยุโรป แต่ปรากฏว่าในหลายประเทศประสบกับปัญหาเศรษฐกิจและปัยหาสภาพอากาศทำให้การเดินทางไม่สะดวก

ด้านนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวยืนยันความพร้อมของจังหวัดภูเก็ตว่าหากเกิดภัยสึนามิขึ้นจะสามารถอพยพประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ทัน เพราะที่ผ่านมาได้มีการฝึกซ้อมแผนการอพยพหนีภัยมาอย่างต่อเนื่องปีละ 2 ครั้ง และที่สำคัญคือในพื้นที่เสี่ยงภัยต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ตได้มีการติดตั้งหอสัญญาณเตือนภัยครอบคลุมทั้งเกาะจำนวน 19 จุด และมีสัญญาณเสียงถึง 5 ภาษา ได้แก่ ไทย จีน อังกฤษ เยอรมันและญี่ปุ่น สำคัญคือ ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่าได้เชื่อข่าวลือที่เกิดขึ้น

ขณะที่นายต่อศักดิ์ วานิชขจร อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวยืนยันด้วยว่า หากเกิดแผ่นดินไหวและมีโอกาสที่จะเกิดสึนามิ ทางกรมอุตุฯ สามารถที่จะแจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับทราบก่อนเวลาที่คลื่นจะพัดเข้าฝั่งได้ 100% และขอยืนยันซ้ำอีกครั้งว่าปัจจุบันยังไม่มีประเทศใดแม้แต่กระทั่งประเทศที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่จะสามารถทำนายได้ว่าจะเกิดสึนามิขึ้นในเวลาใด เนื่องจากการที่จะบอกได้ว่าสึนามิเกิดขึ้นหรือไม่นั้นอยู่ที่การตรวจจับความสั่นสะเทือนของการเกิดแผ่นดินไหวเท่านั้น และปัจจุบันประเทศไทยมีอุปกรณ์ในการตรวจจับแผ่นดินไหวที่ทันสมัยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ภายใน 5 นาที และสามารถแจ้งเตือนให้ทราบได้ภายในเวลา 15 นาที เพื่อหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่เสี่ยงภัยจะได้มีเวลาในการเตรียมความพร้อมและอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นถึงศักยภาพของระบบเตือนภัยที่ประเทศไทยมีอยู่

“ที่ผ่านมาเราได้มีการ ติดตั้งทุ่นตรวจวัดแผ่นดินไหวในทะเลทุ่นแรกในช่วงหลังจากเกิดสึนามิ และล่าสุดเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีการติดตั้งเพิ่มอีก 2 ทุ่น นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งหอสัญญาณเตือนภัในพื้นที่ต่างๆ นอกจากการแจ้งเตืนในส่วนของสึนามิแล้ว ยังสามารถแจ้งเตือนในส่วนของแผ่นดินไหว ดินถล่ม พายุ และภัยอื่นๆ ได้ด้วย รวมทั้งยังมีการพัฒนาระบบการแจ้งเตือนภัยเพื่อให้แต่ละพื้นที่สามารถแจ้งเตือนประชาชนได้เองในกรณีที่เกิดภัยไม่ใหญ่มากนัก เช่น น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก เป็นต้น” นายต่อศักดิ์ กล่าวและว่า ในปีงบประมาณ 2555 จะมีการติดตั้งหอเตือนภัยเพิ่มเติมอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่เสียงภัยเร่งด่วน และในพื้นที่ฝั่งอันดามันก็จะมีการติดตั้งเพิ่มเช่นกัน ส่วนจะได้มากน้อยเพียงใดต้องขึ้นอยู่กับงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร ทั้งนี้จากการสำรวจข้อมูลพบว่าในอันดามันมีพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งสึนามิ พายุ และดินถล่ม ประมาณ 100-200 จุด

ส่วนของนาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวยืนยันเช่นเดียวกันว่า หากเกิดแผ่นดินไหวและมีโอกาสที่จะเกิดคลื่นสึนามิ หอเตือนภัยที่ติดตั้งอยู่ทั้งหมดในฝั่งอันดามันสามารถที่จะส่งสัญญาณเตือนภัยได้อย่างแน่นอน โดยขณะนี้ได้มีการทดสอบทุกวันที่ 1 และ วันที่ 15 ของทุกเดือน ส่วนที่ผ่านมาซึ่งมีข่าวว่าหอเตือนภัยดังขึ้นโดยไม่มีการกดสัญญาณแจ้งเตือนนั้นยืนยันว่าเป็นเพียงข่าวลือ และในเรื่องการทำนายว่าจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิในวันที่ 30 ธันวาคมนั้น จากการที่ได้ตรวจสอบข้อมูลเป็นระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา และก่อนหน้านั้น ไม่พบการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ระดับ 8 ริกเตอร์ ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิมีน้อยมากจนเกือบเป็นศูนย์ก็ว่าได้

เริ่มแล้วงานเทศกาลของดี-กาชาด ปี 54


เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 ที่เวทีกลางสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงานเทศกาลของดีภูเก็ตและงานกาดชาดจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2554 และมอบทุนการศึกษา จำนวน 80 ทุนให้แก่นักเรียน นักศึกษาใน จ.ภูเก็ต โดยมีนายนิวิทย์ อรุณรัตน์,นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต นายศุภชัย โพชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นางนลินี อัครเดชา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยสมาชิกเหล่ากาชาด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการเกี่ยวข้อง และประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

นางนลินี อัครเดชา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า งานเทศกาลของดีภูเก็ต และงานกาชาดจังหวัดภูเก็ตประจำปี 2554 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม2553 – วันที่ 9 มกราคม 2554 ที่บริเวณเวทีกลางสะพานหิน ซึ่งปีนี้รางวัลที่จะนำมาออกสลากกาชาดรางวัลที่ 1 เป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นพร้อมโฉนดที่ดิน เนื้อที่ 21 ตารางวา ในโครงการพนาสนธิ์ วิลล่า บ่อแร่ มูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาท จำนวน 1 รางวัล รางวัลที่ 2 เป็นรถยนต์กระบะตอนเดียว จำนวน 1 รางวัล รางวัลที่ 3 รถจักรยานยนต์ จำนวน 5 รางวัล รางวัลที่ 4 โทรทัศน์สี LCD 32 นิ้ว จำนวน 5 รางวัล รางวัลที่ 5 ตู้เย็น ไม่น้อยกว่า 6 คิว 5 รางวัล รางวัลที่ 6 โทรทัศน์สี 21 นิ้ว จำนวน 5 รางวัล และรางวัลเลขท้าย 3 ตัว พัดลม จำนวน 60 รางวัล รวมทั้งหมด 82 รางวัล นอกจากนี้ภายในงานยังจัดให้มีการตักมัจฉากาชาด ที่มีรางวัลมากมายที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และประชาชนชาวภูเก็ต และในการตักมัจฉากาชาดจะได้ลุ้นรถจักรยานยนต์ทุกคืน

อย่างไรก็ตามการออกร้านกาชาดและการจำหน่ายสลากกาชาดดังกล่าว เพื่อนำรายได้สมทบเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ใช้ในกิจกรรมสาธารณประโยชน์และบรรเทาทุกข์แก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จึงอยากจะเชิญชวนประชาชนชาวภูเก็ตร่วมกันตักมัจฉากาชาดและซื้อสลากกาชาดได้บริเวณหน้างาน ซึ่งขณะนี้สลากดังกล่าวเหลือจำนวนน้อยมาก จากที่พิมพ์ทั้งหมด 6,000 ฉบับ ทั้งนี้เพราะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากชาวภูเก็ต นางนลินี กล่าว

ตรวจสถานีขนส่ง ยันไม่มีผู้โดยสารตกค้าง


เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2553 ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดภูเก็ต เทศบาลนครภูเก็ต นายตรี อัครเดชาผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายกนก ศิริพานิชกร ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต นายสันติ์ จันทรวงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต นพ.วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นายถาวร จิรพัฒนโสภณ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจเยี่ยมความพร้อมศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารสถานีขนส่งจังหวัดภูเก็ต ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์พนักงานขับรถที่จะขับรถนำผู้โดยสายเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ตไปยังจุดหมายปลายทางในที่ต่างๆ ซึ่งมีประชาชนที่รอเดินทางด้วยรถโดยสารเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวที่มีการใช้บริการรถโดยสารประจำทางเป็นจำนวนมากเช่นกัน โอกาสเดียวกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตพร้อมคณะได้ทักทายผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวที่รอขึ้นรถพร้อมแจกของที่ระลึกให้ด้วย

ทั้งนี้นายตรี กล่าวว่า ในส่วนของศูนย์ฯ ที่จัดตั้งขึ้นนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก ส่วนรถโดยสารที่จะออกจากสถานีขนส่งฯ ก็จะต้องผ่านการตรวจสภาพรถ ขณะที่ในส่วนของพนักงานขับรถก็จะต้องมีการตรวจระดับแอลกอฮอล์ก่อนขึ้นขับรถ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสาร และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

อย่างไรก็ตามนายตรี กล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 8-28 ธันวาคมที่ผ่านมา มีรถโดยสารเข้าออกภูเก็ตทุกเส้นทางจำนวน 8,000 เที่ยว และในแต่ละวันจะมีรถโดยสารเข้าออกประมาณ 400-450 เที่ยว รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 5,000 คน โดยในส่วนของผู้ประกอบการเองก็ได้มีการเตรียมรถสำรองไว้แล้วเช่นกันเพื่อป้องกันปัญหาผู้โดยสารตกค้าง แต่เชื่อว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาดังกล่าวอย่างแน่นอน

ขณะที่นายกนก ศิริพานิชกร ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต กล่าวยืนยันว่า ในส่วนของสำนักงานขนส่งฯ ได้มีการตรวจความพร้อมของรถโดยสารประจำทางขนาดใหญ่มาแล้วก่อนหน้า และได้สั่งการให้ผู้ประกอบการเตรียมรถสำรองไว้แล้ว 5% ของจำนวนรถทั้งหมด แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีผู้โดยสารเกินจำนวนรถที่ให้บริการ เนื่องจากว่าส่วนใหญ่จะทราบวันเดินทางล่วงหน้า และมีการกระจายการเดินทางไปบ้างแล้ว ทำให้ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง เห็นได้จากปีที่ผ่านมามีการเพิ่มเที่ยวรถสำรองเพียง 3 เที่ยวเท่านั้นซึ่งถือว่าน้อยมาก

วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ตร.ภูเก็ตกวาดล้างยาเสพติด


เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 53 ที่ห้องประชุมชั้น 3 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผวจ.ภูเก็ตพร้อมด้วย พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.พ.ต.อ.โกมล วัตรากรณ์ รอง.ผบก.ภ.จ.ภูเก็ตและ ผกก.แต่ละสถานีใน จ.ภูเก็ต ได้ร่วมกันแถลงข่าวการผลการกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ช่วงเทศกาลปีใหม่ประจำปี 2554 ในพื้นที่ห้วงวันที่ 27 – 29 ธันวาคม 53 ตามคำสั่งของ ผบช.ภ.8 เพื่อกวาดล้างยาเสพติดและอาชญากรรมก่อนเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

ผลการกวาดล้างในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างได้จำนวน 20 ราย ของกลางจำนวนหลายรายการ ส่วนใหญ่เป็นยาเสพติดประเภทต่างๆ ทั้งยาไอซ์ ยาบ้า โคเคน โซแลม เฮโรอีน กัญชา นอกจากนั้น ยังตรวจยึดของกลางที่เป็นรถยนต์จำนวน 4 คัน รถจักยานยนต์ โทรศัพท์มือถือ สมุดบัญชีธนาคารและอื่นๆอีกหลายรายการ รวมมูลค่าหลายล้านบาท

นายตรี กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญที่ทางจังหวัดภูเก็ตให้ความสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังกวาดล้างจับกุมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลการกวาดล้างเป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะต้องเร่งดำเนินการกวาดล้างกันอย่างเข้มงวดต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.โกมล วัตรากรณ์ รอง.ผบก.ภ.จ.ภูเก็ตดูแลงานป้องกันปราบปรามกล่าวว่า การปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายสำคัญที่เชื่อว่าอาจเป็นแหล่งค้าหรือซุกซ่อนยาเสพติดและอาชญากรรม แต่ละ สภ.ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่บรรลุหรือเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ จากนี้ไปแต่ละ สภ.จะต้องเร่งระดมกำลังออกปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายสำคัญในพื้นที่เพื่อจับกุมและตรวจยึดยาเสพติด-อาวุธปืนให้ได้มากที่สุด มิฉะนั้นหลังจากวันที่ 5 ม.ค.45 ถ้า สภ.ใดไม่สามารถตรวจค้นและจับกุมผู้กระทำความผิดในคดีต่างๆ ได้ตามเป้า อาจมีการปรับเปลี่ยนหัวหน้าโรงพัก

คืนพื้นที่จอดรถให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว


เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 53 ที่บริเวณปากซอยบางลา หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง นายกนก ศิริพาณิชกร ผู้อำนวยสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว ผกก.สภ.กะทู้ นายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น ประธานสมาพันธ์รถบริการป่าตองสัมพันธ์ นายอาหมัด หล้าวหลัง ประธานชมรมรถเช่าป่าตอง และหน่วยงานที่เกี่ยวทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันแถลงข่าวความสำเร็จการจัดระเบียบที่จอดรถสาธารณะบริเวณถนนทวีวงศ์ เลียบชายหาดป่าตองระหว่างพื้นที่สำหรับจอดรถบริการเช่า และรถของประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วไป หลังจากมีการร้องเรียนปัญหาระหว่างการจอดรถเช่ากับรถประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยว

นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภายหลังจากที่คณะทำงานจัดระเบียบการจราจรเขตพื้นที่เทศบาลเมืองป่าตองได้มีการหารือร่วมกัน และเลือกพื้นที่จอดรถสาธารณะบริเวณถนนทวีวงศ์นำร่องในการจัดระเบียบการจอดรถระหว่างรถบริการให้เช่ากับรถของประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยว และได้ข้อสรุปโดยจัดพื้นที่สำหรับรถของนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป 76% ของที่จอดรถทั้งหมด ส่วนพื้นที่ที่เหลือ 24 % สำหรับรถบริการเช่า โดยเทศบาลเมืองป่าตองได้ดำเนินการจัดแบ่งพื้นที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ด้วยการตีเส้นจอดรถใหม่ และทำป้ายแสดงพื้นที่รถเช่าให้เห็นอย่างชัดเจน ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะชมรมรถเช่าป่าตอง


อย่างไรก็ตามนอกจากนี้เพื่อให้แก้ปัญหาการจราจรทั้งระบบในพื้นที่ป่าตอง ก็จะได้มีการกำหนดการจอดรถในส่วนของถนนพระบารมี ซึ่งมีปัญหาการจราจรติดขัดอย่างมากในช่วงเวลาเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็นเนื่องจากเป็นเส้นทางหลักเข้าออกป่าตอง โดยกำหนดวันคู่วันคี่ ตั้งแต่โค้งวัดสุวรรณคีรีวงศ์ไปจนถึงทางแยกหาดกะหลิม ในช่วงเวลา 07.00-09.00 น. และเวลา 16.00-19.00 น. และจัดระเบียบการเดินรถทางเดียว (วันเวย์) ที่ถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี และถนนสวัสดิรักษ์ ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2554 เป็นต้นไป นายตรีกล่าว และว่า ขณะเดียวกันก็ได้มีการตั้งอนุกรรมการคณะทำงานเพื่อกำหนดอัตราค่าโดยสารรถบริการสาธารณะเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันด้วย
ด้านนายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวว่า นับเป็นนิมิตรหมายที่ดี เพราะที่ผ่านมาได้มีความพยายามในการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่ต้องการเห็นความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง เนื่องจากป่าตองเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมีผู้คนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

นทท.ไม่หวั่นกระแสข่าวลือสึนามิ


เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 53 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตท่ามกลางกระแสข่าวลือการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ จากการสำรวจพื้นที่บริเวณชายหาดซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณชายหาดป่าตอง ปรากฏว่ายังคงมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศลงเล่นน้ำทะเล นอนอาบแดดและทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เจ็ทสกี เรือลากร่ม บานาน่าโบ๊ท เป็นต้น เป็นจำนวนมากโดยไม่ได้เกรงกลัวต่อกระแสข่าวลือที่เกิดขึ้น

ทางด้านนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการที่ลงพื้นที่พร้อมด้วยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เทศบาลเมืองป่าตอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนพูดคุยกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งยืนยันตรงกันว่าไม่กลัวสึนามิ เพราะเป็นเรื่องของภัยธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่สามารถที่จะมีการพยากรณ์ล่วงหน้าได้ แต่กลับในเรื่องของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

“ได้มีการชี้แจงเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของทางจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมรับมือกับภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะการฝึกซ้อมแผนอพยพหนีภัยซึ่งได้จำให้มีขึ้นอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ทั้งกรณีเกิดเหตุในช่วงกลางวันและช่วงกลางคืน”

นายตรี กล่าวด้วยว่า จากข่าวลือที่เกิดขึ้นได้มีคำตำหนิจากผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากส่งผลกระทบทำให้นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ซึ่งในส่วนของจังหวัดก็ได้ทำหนังสือชี้แจงและประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวผ่านทางสถานกงสุลประเทศต่างๆ 10 ลำดับแรกที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต โดยคืนนี้ (30 ธ.ค.) จะร่วมกับอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาและผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ร่วมกันยืนยันความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมถึงอวยพรปีใหม่ 2554 นี้ที่บริเวณชายหาดป่าตองด้วย

อย่างไรก็ตามจากการสอบถามผู้ประกอบการต่างๆ บริเวณชายหาดป่าตอง ต่างบอกว่าไม่กลัวกับภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากมีความเคยชินแล้ว และเชื่อมั่นในระบบการเตือนภัยที่มีอยู่

“COLORFUL COUNTDOWN 2011”


เมื่อคืนวันที่ 29 ธันวาคม 2553 ที่บริเวณสนามชัย ตรงข้ามศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการสืบสานประเพณีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ “COLORFUL COUNTDOWN 2011” ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) จัดขึ้นโดยมีนายสรธรรม จินดา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต สมาชิกสภา อบจ.ข้าราชการ พนักงาน ตลอดจนประชาชนร่วมชมกิจกรรมภายในงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโคมซึ่งมีการประดิษฐ์เป็นสัตว์ทะเลนานาชนิด รวมทั้งการประดับตกแต่งไฟหลากสีสัน

นายสรธรรม จินดา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งการจัดงานสืบสานประเพณีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ “COLORFUL COUNTDOWN 2011” นั้นก็เป็นการเปิดโอกาสและเพิ่มทางเลือกในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังจังหวัดภูเก็ต และได้ร่วมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในงานนี้ด้วย

นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตโดยการนำเสนอผ่านการจัดงานเฉลิมฉลองประเพณีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งเป็นเทศกาลสากลที่ทุกชาติได้ร่วมเฉลิมฉลองไปพร้อมๆ กันทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมของไทยให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักภาพลักษณ์ที่ดีงามด้านวิถีชีวิตและประเพณีวัฒนธรรมของไทย และจารึกความประทับใจสู่จังหวัดภูเก็ตร่วมกัน นายสรธรรมกล่าว

สำหรับการจัดงานดังกล่าวกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 – 31 ธันวาคม 2553 ภายในงานมีกิจกรรมบนเวที การแสดงคอนเสิร์ตของศิลปิน อาทิ วงคาราบาว, ตั๊กแตนชลดา, จินตหรา พูนลาภ, ขนมจีน ศิลปิน AFเป็นต้น การจัดแสดงโคมไฟประดิษฐ์นานาชนิด การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนี้ยังจะได้ร่วมเล่นเกมส์ลุ้นของรางวัลมากมาย พร้อมร่วมส่งพระอาทิตย์สุดท้ายของปี 2553 และการนับถอยหลัง (COUNTDOWN) ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ด้วย

วันพุธที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ตำรวจทางหลวงเปิดจุดปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่


เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2553 ที่หน่วยบริการทางหลวงภูเก็ต อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.เทอดเกียรติ วิริยสถิตกุล ผู้กำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เป็นประธานเปิดโครงการตั้งจุดปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนเทศกาลปีใหม่ 2554 พร้อมปล่อยขบวนรถตรวจการณ์ตำรวจทางหลวง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 และลดอุบัติเหตุบนถนน ซึ่งตำรวจทางหลวงภูเก็ตได้บูรณาการความร่วมมือกับวิทยาลัยเทคนิคถลาง และภาคเอกชน ในการจัดบริการที่พัก ห้องน้ำ เครื่องดื่ม ชา กาแฟ ผ้าเย็น ตรวจเช็คสภาพรถ นวดฝ่าเท้า สปา และรถยกในการสำรวจปริมาณการจราจรทั้งขาเข้าและขาออกภูเก็ตในช่วงระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2553- วันที่ 4 มกราคม 2554

พ.ต.อ.เทอดเกียรติ วิริยสถิตกุล ผู้กำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง กล่าวว่า กองกำกับการ 7 ตำรวจทางหลวง รับผิดชอบพื้นที่ 11 จังหวัดในภาคใต้ ยกเว้น สุราษฎร์ธานี ระนองและชุมพร ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายทางที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ส่งผลให้มีผู้ใช้รถใช้ถนนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะผู้ที่ขับขี่รถมาเอง ประกอบกับการเดินทางระยะไกลจึงมักจะมีอาการเหนื่อยล้า ซึ่งในส่วนของตำรวจทางหลวง ได้มีจุดตรวจในพื้นที่รับผิดชอบจำนวน 29 แห่ง โดยแต่ละจุดตรวจพร้อมอำนวยความสะดวกให้กับผู้เดินทางทั้งบริการที่พัก เครื่องดื่ม ชากาแฟ ผ้าเย็น ห้องน้ำห้องสุขา และจุดผ่อนคลายต่างๆ เพื่อให้ผู้ขับขี่รถยนต์ได้พักผ่อนก่อนที่จะขับรถออกเดินทางไปยังเป้าหมาย รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงดูแลความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้หากเกิดอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางสามารถแจ้งได้ที่หมายเลข 1193

แขวงการทางภูเก็ต เลือกถนนวิเศษทำโครงการถนนสีขาว


เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2553 ที่บริเวณหลังที่ทำการแขวงการทางภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายกนก ศิริพานิชกร ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานปล่อยขบวนรถรณรงค์ตามโครงการถนนสีขาว ถนนแห่งความปลอดภัย และบริการเทศกาลปีใหม่ 2554 โดยมีนายอรุณ เสน่ห์ ผู้อำนวยการแขวงการทางภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคม ประกอบด้วย ขนส่งทางน้ำ ขนส่งทางบก ทางหลวงชนบท การท่าอากาศยานภูเก็ต ศูนย์ควบคุมการบินและตำรวจทางหลวง เข้าร่วม ทั้งนี้เส้นทางของขบวนการรถเคลื่อนออกจากแขวงการทางภูเก็ต ไปตามถนนนริศร ถึงสามแยกเลี้ยวขวา ถึงหน้าเรือนจำ เลี้ยวซ้ายผ่านสี่แยกโรงเรียนสตรีภูเก็ต ตรงไปผ่านสี่แยกหน้าอำเภอเมืองภูเก็ต เข้าถนนแม่หลวน ผ่านสี่แยกเขาลังถึงสามแยกโรงเรียนภูเก็ตไทยหัว เลี้ยวขวาเข้าถนนวิชิต ถึงหน้าสนามกีฬาสุระกุล เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจ้าฟ้าตะวันตกไปถึงห้าแยกฉลอง

นายอรุณ เสน่ห์ ผู้อำนวยการแขวงการทางภูเก็ต กล่าวว่า การจัดกิจกรรมปล่อยขบวนรถรณรงค์ดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่จะจัดให้มีการบริการในช่วงเทศกาลปีใหม่ และจัดให้มีถนนสีขาวทุกจังหวัด เพื่อเป็นโครงนำร่องด้านปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทางโดยให้มีพิธีเปิดพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตได้พิจารณาคัดเลือกถนนวิเศษ (ทางหลวงหมายเลข 4024 ตอนห้าแยกฉลอง - ราไวย์) เป็นโครงการถนนสีขาว ถนนแห่งความปลอดภัย และจัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยช่วงเทศบาลปีใหม่ ในระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2553 – วันที่ 4 มกราคม 2554

ทางด้านนายกนก ศิริพานิชกร ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล กระทรวงคมนาคม ซึ่งได้จัดโครงการถนนสีขาว ถนนแห่งความปลอดภัย โดยมีวัตถุประสงค์ว่า ถนนที่อยู่ในโครงการจะเป็นถนนที่มีป้ายบอกทางและป้ายเตือนผู้ขับขี่อย่างชัดเจน เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางเพิ่มความระมัดระวังและจะต้องไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น ด้วยกระทรวงคมนาคมได้ตระหนักว่าความปลอดภัยของประชาชนเป็นเป้าหมายที่สำคัญอันดับแรก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องบูรณาการร่วมกัน เพื่อลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน

วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ตุ๊กๆ ใจงามเก็บของได้ ตามหาเจ้าของ


เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 53 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายประทุม ยอดแก้ว สมาชิกสภาเทศบาลตำบลกะรน และเป็นเลขาของกลุ่มรถตุ๊กๆ และแท๊กซี่ KT กะตะ กะรน ต.กะรน อ.เมือง ภูเก็ต ว่าได้รับแจ้งจากนายธงชัย เพิ่มพูล อายุ 39 ปี อาชีพขับรถยนต์รับจ้างตุ๊ก ตุ๊ก รับจ้างสีแดง หมายเลขทะเบียน 30 – 2422 ภูเก็ต หมายเลขข้าง B 515 คิวหน้าโรงแรมไดมอนค๊อดเทจกะตะ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้เก็บกล่องวีดีโอของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ที่ได้ทำตกอยู่ในรถ เพื่อจะได้ติดตามหาเจ้าของ

ทั้งนี้นายธงชัย ได้กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.ได้มีผู้ว่าจ้าง ทราบภายหลังชื่อนาง Cathanna อายุ 48 ปี พร้อมสามี สัญชาติ สวีเดน ให้ขับรถยนต์ตุ๊กๆ นำไปเที่ยวภายในตัวเมืองจังหวัดภูเก็ต จนกระทั่งเวลา 21.00 น. ก็เดินทางกลับที่พัก หลังจากส่งนักท่องเที่ยวแล้ว ตนเองก็ได้ตระเวณรับผู้โดยสารรายอื่นๆ อีก จนกระทั่งเวลา 23.00 น. ก็เดินทางกลับเข้าบ้าน เมื่อกลับถึงบ้าน ก็ได้ทำความสะอาดภายในรถ ก็ได้พบกล้องวิดีโอ ยี่ห้อ โซนี ตกอยู่บริเวณที่นั่งท้ายรถ จึงได้โทรศัพท์แจ้งนายประทุม ซึ่งเป็นเลานุการของกลุ่มรถตุ๊กๆ เพื่อให้ได้รับทราบ

จนกระทั่งเช้า ตนก็ได้ขับรถออกมากจากบ้าน มาพบกับนายประทุม ได้เดินทางไปติดต่อกับท่างเจ้าหน้าที่ของโรงแรมไดมอนค๊อดเทจ กะตะ เพื่อติดต่อขอพบกับเจ้าของกล้องวีดีโอดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ประจำห้องอาหาร และแม่บ้านภายในโรงแรม จนกระทั่งพบกับเจ้าของกล้องดังกล่าว ทางนายธงชัยก็ได้ส่งมอบให้กับเจ้าของกล้องวีดีโอ ซึ่งทางเจ้าของก็ประทับใจพร้อมทั้งขอบคุณนายธงชัยเป็นอย่างมาก กับการนำสิ่งของที่ทำตกในรถมาส่งคืนให้เจ้าของดังกล่าว