จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2553

สโมสรไลออนส์ภูเก็ตจัดหุ่นละครเล็กโจหลุยส์


ที่ห้องประชุมอาเขต โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน นายมงคล นิตยมล ประธานจัดงาน พร้อมด้วยนายสุเทพ เทพสกุล ประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์สโมสรไลออนส์ภูเก็ต พร้อมด้วยสมาชิกสโมสรไลออนส์ภูเก็ต ได้ร่วมกันแถลงข่าว การแสดงหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 24 เมษายน 53 ณ ห้องประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต ตั้งแต่เวลา 19.30 น. เป็นต้นไป

ทั้งนี้นายสุเทพ ได้กล่าวว่า หุ่นละครเล็กโจหลุยส์ เป็นการแสดงหุ่นด้านศิลปวัฒนธรรมไทย โดยใช้เรื่องราวทางวรรณกรรมไทย เช่น เรื่องรามเกียรติ์ อีกทั้งหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ได้ไปแสดงในต่างประเทศและเข้าร่วมแสดงการแข่งขันหุ่นละครกับประเทศต่าง ๆ ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับโลก มากมาย ซึ่งได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน สโมสรไลออนส์ภูเก็ตได้เล็งเห็นคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมดังกล่าว จึงได้ส่งเสริมให้มีการแสดงหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ประชาชนภูเก็ตได้ซึมซับกับวัฒนธรรมของไทยที่เคลื่อนไหวอย่างมีชีวิตชีวาในตัวหุ่น รวมถึงเพื่อสร้างจิตสำนึกในการช่วยกันอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่ต่อไป อีกทั้งเพื่อจัดหารายได้สนับสนุนโครงการสารานุกรมไทย สำหรับเยาวชนและกิจกรรมสาธารณกุศลที่สโมสรไลออนส์ภูเก็ตได้ดำเนินการมาแล้วอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายมงคล ได้กล่าวว่า สำหรับการจัดการแสดงหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ ในครั้งนี้ได้เอาเรื่อง รามเกียรติ์ มาแสดง ซึ่งในเรื่องนี้จะมีความยาวมาก จึงได้เอาตอน นางลอย มาแสดง ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 70 นาที โดยการแสดงจะเริ่มในเวลา 19.30 น. ของวันที่ 24 เมษายน 2553 เป็นต้นไป ที่ห้องประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต ผู้สนใจสามารถหาซื้อบัตรได้ในราคา 500 บาท 300 บาท และ 100 บาท (สำหรับนักเรียน) ส่วนบัตรสามารถหาซื้อได้ที่ สำนักงานสโมสรไลออนส์ภูเก็ต ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างโรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน หรือที่ ร้าน โกปี้ ภูเก็ต ประธานจัดงานนายมงคล นิตยวิมล หรือที่นายพรหม สุขศิริสัมพันธ์ และที่หน้างาน โดยทางฝ่ายจัดสถานที่ได้เตรียมที่นั่งเอาไว้จำนวน 1,000 ที่นั่ง


 

มินิมาราธอน อัยการเขต 8 – สสส. ครั้งที่ 1 ที่ภูเก็ต


ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ นายพิชัย ศรีจำนอง อัยการจังหวัดภูเก็ต นายเชษฐวิทย์ ตันติพันธุ์วดี นายกสมาคมกีฬาจังหวัดภูเก็ต นายคำนึง สิงห์เอี่ยม ประธานชมรมผู้ตัดสินจังหวัดภูเก็ต นายอิทธิโชติ กุลรัตนโชติ อัยการจังหวัดผู้ช่วย ร่วมกันแถลงข่าวการจัดการแข่งขันวิ่งมินิมาราธอน อัยการเขต 8 – สสส. ครั้งที่ 1

นายพิชัย กล่าวว่า สำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สมาคมกีฬาจังหวัดภูเก็ต และการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต ร่วมมือกันจัดการแข่งขันวิ่งมินิมาราธอน อัยการเขต 8 – สสส. ครั้งที่ 1 ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสฉลองพระชนมพรรษา 83 พรรษา เพื่อจัดหารายได้มอบให้กองทุนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ตลอดจนเพื่อจัดหาทุนในการซื้อุปกรณ์ของสำนักงานอัยการเขต 8 ในการสนับสนุนให้เด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไปได้ออกกำลังกาย

การแข่งขันวิ่งมินิมาราธอน อัยการเขต 8 – สสส.ครั้งที่ 1 กำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2553 ณ สำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต มีการแข่งขัน 2 ประเภท คือ

ประเภทมินิมาราธอน 10.5 กม. ประกอบด้วย
รุ่นทั่วไป ชาย, หญิง รุ่นไม่เกิน 15 ปี ชาย, หญิง
รุ่นอายุ 30-39 ปี ชาย, หญิง
รุ่นอายุ 40-49 ปี ชาย
รุ่นอายุ 50 ปีขึ้นไป หญิง
รุ่นอายุ 50-59 ปี ชาย
และรุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไปชาย

โดยผู้เข้าเส้นชัยทุกรุ่นอายุ ลำดับที่ 1 – 5 จะได้รับถ้วยรางวัลพร้อมเงินรางวัล 2,000, 1,500, 1,000, 700 และ 500 บาท ตามลำดับ

ส่วนประเภทฟันรัน 4 กม. ประกอบด้วย
รุ่นทั่วไป ชาย,หญิง
รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ชาย, หญิง
รุ่นอายุ 40 ปีขึ้นไป ชาย, หญิง

โดยผู้เข้าเส้นชัยทุกรุ่นอายุ ลำดับที่ 1 – 3 จะได้รับถ้วยรางวัลพร้อมเงินรางวัล 700 500 และ 300 บาท ตามลำดับ

ทั้งนี้ผู้เข้าเส้นชัยรุ่นทั่วไป ประเภทชาย และหญิง ลำดับที่ 1 จะได้รับถ้วยรางวัลประทานพระจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา (ถ้วยจำลอง) พร้อมเงินรางวัล 5,000 บาท นอกจากนี้หากตรงกับรุ่นไหนในรายการแข่งขันก็จะได้รับรางวัลชนะเลิศในรุ่นนั้นด้วย

ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต โทร 076-213694 076-212279 ต่อ 206 สมาคมกีฬาจังหวัดภูเก็ต โทร 076-379001 ศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดภูเก็ต 076-250110 และสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต โทร076-217054, 076-221765



วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2553

“เทพฤทธิ์”พร้อมป้องกันแชมป์ PABA ที่ภูเก็ต



เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 25 มีนาคม 53 ที่โรงพยาบาลสิริโรจน์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีชั่งน้ำหนัก และการตรวจสภาพความพร้อมร่างกายของมวยคู่ป้องกันแชมป์ PABA รุ่นฟลายเวท 112 ปอนด์ ระหว่างนักชกชาวไทย “เทพฤทธิ์ สิงห์วังชา” กับนักชกชาวฟิลิปปินส์ “ไรอัน แทมปัส” ก่อนทำการขึ้นชก ในศึก”ปูนอินทรี สะท้านโลก” งานมหกรรมมวยโลก ส่งเสริมการท่องเที่ยวกีฬา และต่อต้านยาเสพติด ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 26 มีนาคม นี้ ณ เวทีมวยชั่วคราวหาดกมลา จ.ภูเก็ต มีนายจุฑา ดุมลักษณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา นายประเสริฐ ขาวกิจไพศาล อดีตนายกเทศมนตรีตำบลกะทู้ นายอนุรักษ์ ธารสิริโรจน์ กรรมการผู้จัดการโรงพยาบาลสิริโรจน์ พ.ญ.สุปาณี ธารสิริโรจน์ แพทย์ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลสิริโรจน์ แขกผู้มีเกียรติ และนักชกชาย แชมป์ PABA รุ่นไลท์ฟลายเวท อุ่นหมัด 110 ปอนด์ แชมป์ WBC เอเชียฯ รุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวท อุ่นหมัด 124 ปอนด์ นักชกหญิงแชมป์ OPBF อุ่นหมัด 104 ปอนด์ มวยไทยหญิง 110 ปอนด์ และคู่มวยไทยท้องถิ่น ร่วมเป็นสักขีพยาน

นายแพทย์ชาญศักดิ์ วัชรงค์ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ กล่าวภายหลังทำการชั่งน้ำหนักและตรวจสภาพความพร้อมร่างกายของนักมวยคู่ป้องกันแชมป์ ว่า ในเบื้องต้นทั้งเรื่องชีพจร ความดัน ระบบการหายใจ ปฏิกิริยาตอบสนองทั้งทางเรื่องสายตา และกำลังกล้ามเนื้อนักชกทั้งคู่ สภาพสมบูรณ์ พร้อมชกในวันพรุ่งนี้

“จากการตรวจสภาพร่างกายพบว่ามีความต่างกันบ้างคือในเรื่องของชีพจร คู่ชกชาวไทยชีพจรตัวเลขมากกว่านักชกฟิลิปปินส์เล็กน้อย ทั้งนี้จากการสอบถาม นักชกชาวไทยทราบว่า มีเหตุให้มีชีพจรสูงกว่าคู่ชกชาวฟิลิปปินส์เล็กน้อย คือมาทีหลังก็เลยรีบร้อนที่จะมายังโต๊ะตรวจสุขภาพ เลยทำให้ชีพจรสูง แต่อย่างไรก็ตามสูงเพียงเล็กน้อยไม่ได้เกินเกณฑ์ปกติ ส่วนความดันต่างๆ ปฏิกิริยาตอบสนองต่างๆ ถือว่าสมบูรณ์พอๆ กัน น้ำหนักตัวที่ชั่งผ่านตามพิกัดทั้งคู่ ผลการตรวจก็ไม่ได้มีความได้เปรียบเสียเปรียบอะไรกัน”

สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้เป็นการป้องกันแชมป์ PABA รุ่นฟลายเวท 112 ปอนด์ ระหว่างนักชกชาวไทย “เทพฤทธิ์ สิงห์วังชา กับนักชกชาวฟิลิปปินส์ “ไรอัน แทมปัส ชาวฟิลิปปินส์” นอกจากนี้ยังมีคู่มวยอุ่นเครื่องของแชมป์ PABA รุ่นไลท์ฟลายเวท 110 ปอนด์ ระหว่างนักชกไทย “ไผ่ผารบ ก่อเกียรติยิม” กับ นักชกฟิลิปปินส์ “ไมเคิล โรดิเกรช” แชมป์ WBC เอเชียฯ รุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวท 124 ปอนด์ ระหว่าง “สด ปูนอินทรี” นักชกชาวไทย กับ “เกเดรียน แอมบา” นักชกชาวฟิลิปปินส์ นักชกหญิงแชมป์ OPBF 104 ปอนด์ ระหว่าง “อมรา ก่อเกียรติยิม” กับ “บัวเงิน เกียรติสมบัติ” มวยไทยหญิง 110 ปอนด์ ระหว่างน้ำตาล ก่อเกียรติยิม กับ บัวแก้ว เกียรติสมบัติ และมวยไทยท้องถิ่น สกาวเงิน อบต.กมลา กับ เพชรใหม่ ใจเพชรการก่อสร้าง

โดยการการแข่งขันจะมีขึ้นในวันศุกร์ ที่ 26 มีนาคม 53 โดยบริษัท ก่อเกียรติ กรุ๊ปจำกัด จะทำการถ่ายทอดสดผ่านทางช่อง 3 ตั้งแต่เวลา 14.20 – 16.20 น. ณ เวทีมวยชั่วคราวหาดกมลา ตรงข้ามภูเก็ตแฟนตาซี ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมการแข่งขันได้ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวได้ฟรี


แลกเปลี่ยนข้อมูล


พล.ร.ต.เรืองทิพย์ เทียนทอง รอง ผบ.ทรภ.3 ผู้แทน ผบ.ทรภ.3 ให้การต้อนรับ พล.ต.พงศธร ฉายกำเนิด รอง จก.ชด.ทหาร และคณะ ชด.ทหาร / สล.อปป. เพื่อประชุมและแลกเปลี่ยนข้อมูลในการประสานงานในพื้นที่ ทรภ.3 ณ ห้องประชุม บก.ทรภ.3

ชั่งนน.และประชุมกติกามวยโลก


นายอนุรักษ์ ธารสิริโรจน์ กรรมการผู้จัดการโรงพยาบาลสิริโรจน์ (Phuket International Hospital) พร้อมด้วยคณะแพทย์และพยาบาล ให้การต้อนรับท่านวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในโอกาสที่ได้ให้เกียรติเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการประชุมกติกาชั่งน้ำหนักและตรวจร่างกายนักมวยที่เข้าแข่งขันในรายการมหกรรมมวยโลก ศึก อินทรีสะท้านโลก ซึ่งเป็นการชกชิงแชมป์ PABA ระหว่าง เทพฤทธิ์ สิงห์วังชา นักชกชาวไทย และ เรย์ มิเกโน่ นักชกชาวฟิลิปปินส์ ตลอดจนการชกในรุ่นอื่นๆ และการชกของนักมวยหญิง โดยมีนพ.ชาญศักดิ์ วัชรงค์ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ และผู้จัดการฝ่ายการแพทย์ เป็นแพทย์ผู้ตรวจร่างกายนักมวย ณ โรงพยาบาลสิริโรจน์


วันพุธที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2553

ผู้ว่าฯ ทุบกำแพงกีดขวางถนนเส้นเลี่ยงเมือง


เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 24 มีนาคม 53 นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ลงพื้นที่บริเวณด้านข้างสนามกีฬาสุระกุล หมู่ที่ 5 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อเปิดเส้นทางเลี่ยงการจราจร โดยการทุบทำลายสิ่งกีดขวางซึ่งเป็นบ้านอยู่อาศัยจำนวน 2 หลัง และแนวกำแพง โดยมีร้อยโทภูมิศักดิ์ หงษ์หยก สมาชิกวุฒิสภา นางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย สมาชิกวุฒิสภา และประธานคณะกรรมมาธิการการท่องเที่ยววุฒิสภา นางไทศิกา ไพรสงบ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายประดิษฐ์ แสงจันทร์ ประธานสภา อบจ.ภูเก็ต นายศุภชัย โภชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต นายกรีฑา แซ่ตัน นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต และประชาชนร่วมในการทุบทำลายสิ่งกีดขวางดังกล่าวด้วย

นายกรีฑา แซ่ตัน นายกเทศมนตรี ต.วิชิต กล่าวถึงการทุบทำลายสิ่งกีดขวางเพื่อเปิดเส้นทางเลี่ยงการจราจรในครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากเทศบาลตำบลวิชิตได้ตั้งงบประมาณรายจ่ายโครงการก่อสร้างถนนลาดยางแอสฟัลท์ติกคอนกรีต พร้อมก่อสร้างคูระบายน้ำ คสล.แบบรางเปิด บริเวณถนนเอกวานิชอุทิศ หมู่ที่ 5 เป็นเงิน 4,870,000 บาทเพื่อลดปัญหาการจราจรบริเวณสี่แยกโรงเรียนดาราสมุทรหรือสี่แยกไทนาน โดยทำการก่อสร้างถนนลาดยางแอสฟัลท์ติก คอนกรีต ขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 510 เมตร พร้อมก่อสร้างคูระบายน้ำ คสล.แบบรางเปิดขนาดกว้าง 0.80 เมตร ยาว 1,020 เมตร ซึ่งที่ดินที่ใช้ในการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ได้รับการบริจาคจากนายโสภณ เอกวานิช และโรงเรียนดาราสมุทร

สำหรับโครงการก่อสร้างถนนดังกล่าวแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2552 แต่ยังไม่สามารถเปิดใช้เป็นเส้นทางจราจรได้เนื่องจากบริเวณช่วงปลายถนนที่เชื่อมต่อถนนหลังสนามสุระกุลความยาวประมาณ 65 เมตร ติดบ้านเรือนประชาชนที่ก่อสร้างล้ำที่สาธารณะกีดขวางทางอยู่ จำนวน 2 หลัง เทศบาลตำบลวิชิต จึงได้เจรจาขอให้เคลื่อนย้ายออกให้พ้นแนวก่อสร้างถนนโดยได้ดำเนินการก่อสร้างบ้านใหม่ให้แก่บุคคลดังกล่าว โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณและวัสดุอุปกรณ์จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาและให้ถนนสามารถเปิดใช้เป็นเส้นทางจราจรให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการได้ ซึ่งหลังจากทำการทุบบ้านหลังดังกล่าวแล้วก็จะได้ก่อสร้างถนนลาดยางแอสฟัลท์ติกคอนกรีต พร้อมก่อสร้างคูระบายน้ำ คสล.แบบรางเปิด เชื่อมต่อจากถนนดังกล่าว เป็นเงิน 800,000 บาท เพื่อให้การจราจรบริเวณสี่แยกโรงเรียนดาราสมุทรให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น นายกรีฑากล่าว

ขณะที่นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตประสบกับปัญหาการจราจรติดขัดค่อนข้างมาก ประกอบกับถนนดังกล่าวเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (ถนนบายพาส) กับสนามสุระกุล ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อเข้าซอยฮ่องเหล็งอุทิศไปสู่ถนนวิชิตสงคราม และเส้นทางเชื่อมต่อไปถนนเอกวานิช เพื่อออกไปสู่ชุมชนบ้านสามกองได้ นอกจากนี้ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนดาราสมุทรยังใช้เป็นเส้นทางในการรับ-ส่ง บุตรหลานได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณดังกล่าวได้เป็นอย่างดี

ชาวบ้านป่าคลอกโวย นากุ้งปล่อยน้ำเสียทำให้ปลาตาย


เมื่อเวลา 08.00 น.ของวันที่ 24 มีนาคม 2553 นายสังข์ ปอดมี ประธานและสมาชิกชมรมประมงพื้นบ้านหมู่ที่ 8 บ้านบางลา ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยนายอธิพงษ์ คงนาม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าคลอก อ.ถลาง ได้เข้าตรวจพื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือคลองบางกา ต.ป่าคลอก อ.ถลาง ภูเก็ต ภายหลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีสัตว์ทะเลเช่น กุ้งทะเล ปลากระบอก ปลาบู่ ปลาดุกทะเล หอย เป็นต้น ซึ่งอาศัยอยู่ในลำคลองดังกล่าวลอยตายเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่า เป็นช่วงที่น้ำทะเลลง ทำให้เห็นน้ำมีสีดำและมีกลิ่นเหม็น

ทั้งนี้นายสังข์ ปอดมี ประธานชมรมชาวประมงพื้นบ้านหมู่ที่ 8 บ้านบางลา กล่าวว่า ปัญหาการปล่อยน้ำเสียลงคลองบางกา เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ปีละอย่างน้อยละ 2 ครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านได้ร้องเรียนปัญหาที่เกิดขึ้นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด เพื่อให้เข้ามาดูแลและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง แต่ที่ผ่านมาไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร และเป็นปัญหาเรื้อรังมาเป็นเวลานับ 10 ปีแล้ว เพราะนอกจากจะเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรชายฝั่งทางทะเลอย่างร้ายแรงแล้ว การปล่อยน้ำเสียลงมาในแต่ละครั้งจะมีสัตว์น้ำวัยอ่อนตายเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบกับการประกอบอาชีพของชาวประมงพื้นบ้านด้วย ซึ่งในส่วนของชาวบ้านไม่ได้ขัดขวางในการทำนากุ้ง เพียงแต่อยากให้ผู้ประกอบการหาแนวทางป้องกันและจะต้องไม่ปล่อยน้ำเสียลงในลำคลอง

“ที่ผ่านมามีชาวบ้านประมงพื้นบ้านที่ประกอบอาชีพทำการประมงชายฝั่ง และเลี้ยงปลาในกระชังบริเวณในคลองบางกา จำนวนประมาณ 30 ราย แต่จากปัญหาน้ำเสียที่เกิดขึ้นทำให้ปัจจุบันนี้ไม่สามารถที่จะเลี้ยงปลาในกระชังได้ เนื่องจากทุกๆ 6 เดือน จะมีการปล่อยน้ำเสียจากบ่อกุ้งลงมา รวมทั้งการทำประมงชายฝั่งต้องนำเรือออกไปจับปลาในทะเลไกลมากขึ้น” นายสังข์กล่าว

ขณะที่นายอธิพงษ์ คงนาม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าคลอก กล่าวว่า เหตุที่น้ำทะเลในคลองบางกาเน่าเสียน่าจะเกิดจากการลักลอบปล่อยน้ำเสียของนากุ้งในพื้นที่ใกล้เคียง ส่งผลให้สัตว์ทะเลที่อาศัยอยู่ในคลองบางกาตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่เป็นปัญหานี้ได้เกิดขึ้นต่อเนื่องมาแล้วหลายปี และที่ผ่านมาได้เคยมีการหารือและขอความร่วมมือไม่ให้มีการปล่อยน้ำเสียจากบ่อเลี้ยงกุ้งลงในคลองดังกล่าวมาแล้ว เพราะน้ำในคลองจะไหลลงสู่ทะเล ที่สำคัญน้ำที่ปล่อยลงมาได้ส่งผลให้ปลาที่อาศัยอยู่ตายเป็นจำนวนมาก หลังจากนี้คงจะต้องไปแจ้งความไว้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้สอบสวนหาผู้กระทำความผิดต่อไป



ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ


โรงพยาบาลสิริโรจน์ (Phuket International Hospital) ส่งทีมพยาบาลวิชาชีพออกให้บริการตรวจวัดความดันโลหิตเบื้องต้น พร้อมทั้งให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ ในโครงการปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ เพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์ และโครงการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน ณ โรงเรียนบ้างสะปำมงคลวิทยา


ดูแลนักกีฬา


โรงพยาบาลสิริโรจน์ (Phuket International Hospital) ได้รับความไว้วางใจจากคณะผู้จัดงาน ACCOR RACE TO SURVIVE FOR YIMKIDS THAILAND ให้จัดทีมพยาบาลพร้อมรถฉุกเฉินให้การดูแล และปฐมพยาบาลแก่ผู้เข้าร่วมแข่งขันการวิ่งระยะไกล ว่ายน้ำ และพายเรือแคนนู ตลอดระยะเวลาการจัดการแข่งขันในระหว่างวันที่ 22 – 25 มีนาคม 2553


มูลนิธิเวชดุสิตฯ มอบทุนการศึกษา


นพ.ก้องเกียรติ เกษเพ็ชร์ ผู้อำนวยการ รพ.กรุงเทพภูเก็ต เป็นตัวแทนในการมอบทุนการศึกษาของมูลนิธิเวชดุสิตในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ แก่บุตรพนักงานจำนวน 12 ทุน ซึ่งมีคุณสมบัติตรงตามที่มูลนิธิเวชดุสิตฯ ได้กำหนดไว้ ณ ห้องประชุมคิง คาร์ล กุสตาฟ รพ.กรุงเทพภูเก็ตโดยมูลนิธิเวชดุสิตฯ ให้การช่วยเหลือคนไข้ พร้อมทั้งสนับสนุนทางด้านการแพทย์ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงกิจกรรม เพื่อสาธารณประโยชน์ มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ.2527


ทหารเรือสิงคโปร์ยกพลขึ้นบก



พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงษ์ ผบ.ทรภ.3 ให้การรับเยี่ยมคำนับจาก CCL CHEONG JOO LENG JOE หน.คณะเรือฝึกนักเรียนนายเรือสาธารณรัฐสิงคโปร์ ในโอกาสเดินทางเข้าเยี่ยมประเทศไทย เพื่อรับการส่งกำลังบำรุงและให้กำลังพลประจำเรือพักผ่อนภายหลังจากการปฏิบัติภารกิจในทะเล ณ ห้องรับรอง บก.ทรภ.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต


วันอังคารที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2553

อบจ.ภูเก็ตหนุน 5.6 ล.สร้างปะการังเทียม


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 มีนาคม 2553 บนแพบรรทุกแท่งคอนกรีตทำปะการังเทียมกลางทะเล ห่างจากชายหาดในยาง อุทยานสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ประมาณ 2 กิโลเมตร นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) เป็นประธานเปิดโครงการวางปะการังเทียมเฉลิมพระเกียรติ เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่งจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง อบจ.ภูเก็ต ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 (จ.ภูเก็ต) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อุทยานแห่งชาติสิรินาถ(หากในยาง) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าแลพันธุ์พืช ทัพเรือภาคที่ 3 กรมประมง กรมขนส่งทางน้ำและนาวี ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่

นายนนทวิธ จตุราบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ กล่าวว่า ด้วยพื้นที่ชายฝั่งตะวันตกของเกาะภูเก็ตมีทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่ง โดยเฉพาะแนวปะการัง แนวชายหาด และระบบนิเวศชายฝั่งทะเล 3,000 เมตร ซึ่งมีความสำคัญทั้งต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย หลบภัย วางไข่ เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำวัยอ่อนนานาชนิด รวมถึงแหล่งขึ้นวางไข่ของเต่าทะเล นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวและมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชน

“ปัจจุบันระบบนิเวศแนวปะการังและชายฝั่งมีสภาพเสื่อมโทรม ส่งให้ปริมาณสัตว์น้ำ ซึ่งเกิดจากปัจจัยหลายอย่างทั้งปัญหาสภาพแวดล้อมภัยธรรมชาติ ปัญหาการลักลอบทำประมงผิดกฎหมาย โดยใช้เครื่องมือทำลายล้าง เช่น อวนลาก อวนปั่นไฟ เป็นต้น ซึ่งแนวทางการป้องกันและฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่ง สามารถดำเนินการได้ด้วยการจัดสร้างปะการังเทียม เพื่อเป็นสิ่งกีดขวางป้องกันถาวรในแนว 3,000 เมตร เป็นการเพิ่มพื้นที่สำหรับเกาะของตัวอ่อนปะการังธรรมชาติ ที่มีความเหมาะสมในแง่พื้นที่ ความลึกและความใสของน้ำทะเล แก้ปัญหาเครื่องมือประมงพื้นบ้านถูกทำลาย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำและแหล่งการทำประมงพื้นบ้านในอนาคตด้วย” นายนนทวิธกล่าว

นายมานพ ลีลาสุธานนท์ ปลัด อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า ทาง อบจ.ภูเก็ตได้ให้การสนับสนุนงบประมาณปี 2552 จำนวน 5,694,000 บาท เพื่อดำเนินการจัดสร้างแท่งคอนกรีต จำนวน 1,310 แท่ง เพื่อจัดวางในพื้นที่2 ตำบล คือ องค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาวกับองค์การบริหารส่วนตำบลสาคู ในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ตั้งแต่ปากช่องพระสะพานสารสินจนถึงอ่าวในยางด้านใต้ คลุมพื้นที่ 20 ตารางกิโลเมตร จำนวน 20 กอง เพื่อร่วมป้องกันและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ลดความเสียหายระบบนิเวศชายฝั่งจากอวนลาก อวนปั่นไฟ และเป็นการฟื้นฟูแนวปะการัง เพิ่มพื้นที่สำหรับเกาะตัวอ่อนของปะการัง ส่งผลให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งประกอบอาชีพประมง อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวดำน้ำในอนาคต พร้อมกันนี้ได้เสนอให้เป็นโครงการปะการังเทียมเฉลิมพระเกียรติ ตามแนวพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถด้วย

ขณะที่นายไพบูลย์ กล่าวว่า แนวคิดในการจัดสร้างปะการังเทียมเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่ง จ.ภูเก็ต ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยว แหล่งการทำประมง อีกทั้งยังเป็นอีกแนวทางในการช่วยยืดระยะเวลาการใช้ประโยชน์ทางทะเลและชายฝั่ง นำไปสู่การรักษาความสมดุลทางธรรมชาติและได้ใช้ประโยชน์ทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังเป็นการดำเนินการตามนโยบายที่เสนอต่อสภา อบจ.ในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โยมีเป้าหมายดำเนินการครอบคลุมพื้นที่ทั้งเกาะภูเก็ต



อบรมการใช้น้ำจุลินทรีย์



คุณปารียา จุลพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจสาธารณะโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต อบรมการใช้จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ (EM) กับสิ่งแวดล้อม ให้แก่พนักงานและแม่บ้าน บริษัท พีซีเอส จำกัด โดยอธิบายหลักการทำงานของจุลินทรีย์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจก่อนให้แม่บ้านทุกคนได้ทดลองผสมน้ำ EM ขยายด้วยตัวเอง เพื่อตอบรับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของโรงพยาบาลฯ ที่เน้นให้ทุกหน่วยงานช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมในชุมชน โดยเริ่มจากแผนกแม่บ้านที่สามารถช่วยลดการใช้สารเคมีได้ด้วยการใช้จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ (EM) ทำความสะอาดพื้นและรดน้ำต้นไม้



ติดตามผลหลังการโยนอีเอ็มบอล


คุณปารียา จุลพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจสาธารณะโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต พร้อมด้วยคุณนนทลี มรรคาวาณิช ประธานมูลนิธิมรรคาวาณิช และคณะ ได้ร่วมเก็บตัวอย่างหญ้าทะเลครั้งที่ 4 ซึ่งนับเป็นครั้งสุดท้ายของการสุ่มเก็บตัวอย่างหญ้าทะเลบริเวณบ้านป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการวิจัยและสรุปผลของการใช้จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ (EM) ฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเล โดยนายภูเบศ จอมพล นักวิชาการประมง จากสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน จะทำการรวบรวมและสรุปผลการวิจัยตัวอย่างหญ้าทะเลทั้ง 4 ครั้ง เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการจัดกิจกรรมอนุรักษ์หญ้าทะเล จ.ภูเก็ต ต่อไป


แลกเปลี่ยนประสบการณ์


พญ.กัญญา เต็มเกียรติวิเศษ อายุรแพทย์ประสาทและสมอง ประจำคลินิกสมอง และ ทีมงานจาก รพ.กรุงเทพภูเก็ต เข้าบรรยายเรื่อง Stroke Fast Track หรือ การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแตก ตีบ ตัน เฉียบพลัน ให้กลุ่มแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ รพ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วย ที่ผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐานความปลอดภัยของผู้ป่วย (JCI) จากประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ได้รับดูแลรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต



 


แสดงความขอบคุณ



นพ.ก้องเกียรติ เกษเพ็ชร์ ผู้อำนวยการ รพ.กรุงเทพภูเก็ต รับมอบของที่ระลึกจากประภา เหมมินทร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ลากูน่า ภูเก็ต ในโอกาสเข้าขอบคุณรพ.กรุงเทพภูเก็ต ที่ให้การสนับสนุนการบริการทางแพทย์ ในการแข่งขันไตรกีฬาอย่างดีเสมอมา


วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2553

อบจ.ภูเก็ต เตรียมเพิ่มห้องเรียนอนุบาล


เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 22 มีนาคม 2553 ที่ศาลาประชาคมจังหวัดภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) เป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตรให้กับนักเรียนที่จบการศึกษาชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียน อบจ.สาธิตร่วมพัฒนา ประจำปีการศึกษา 2552 ซึ่งมีนักเรียนเข้ารับวุฒิบัตร จำนวน 19 คน โดยมีคณะผู้บริหาร อบจ.ภูเก็ต ข้าราชการ พนักงาน คณะครู คณาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียนร่วมเป็นเกียรติ

นายไพบูลย์ กล่าวว่า อบจ.ภูเก็ตมีความมุ่งมั่นพัฒนาพัฒนาจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพและคุณภาพสูงสุด เพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนให้ก้าวไปสู่ปรัชญาการศึกษาชาติ คือ ให้เป็นคนเก่ง คนดี มีคุณธรรมจริยธรรม และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจัดการศึกษาในระดับชั้นยอนุบาลเป็นการจัดการศึกษาอีกระดับหนึ่งที่ อบจ.ภูเก็ตได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และได้มีความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ตในการจัดการศึกษาเพื่อให้เป็นต้นแบบของโรงเรียนในระดับชั้นอนุบาลต่อไปในอนาคต

“การมอบวุฒิบัตรดังกล่าวเป็นกิจกรรมหนึ่งในการเติมเต็มให้กับการจัดการศึกษาของ อบจ.ภูเก็ตให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนและผู้ปกครองเห็นคุณค่าของการศึกษาในระดับชั้นอนุบาล ให้นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาเกิดความภาคภูมิใจและเป็นเกียรติประวัติแก่ตนเอง มีความรักเคารพและศรัทธาในสถาบันการศึกษา รวมทั้งคุณค่าของคุณครูและ อบจ.ภูเก็ต สร้างโอกาสให้นักเรียน คณะครูในระดับชั้นอนุบาลของโรงเรียน อบจ.สาธิตร่วมพัฒนา ได้มีโอกาสมาพบปะทำกิจกรรมร่วมกันอันจะก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคี พลังทางสังคม พลังของ อบจ.ภูเก็ต และประเทศชาติโดยรวม ตลอดจนเผยแพร่ประชาสัมพันธ์รูปแบบการจัดการศึกษาให้เป็นที่รู้จักต่อสังคมโดยรวม”

นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันโรงเรียน อบจ.สาธิตร่วมพัฒนา ได้เปิดสอนในระดับชั้นอนุบาล 1 และ 2 มีจำนวนนักเรียนประมาณ 40- 50 คน โดยมีเป้าหมายเพื่อเตรียมความพร้อมขั้นพื้นฐานทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อศึกษาต่อในระดับชั้นที่สูงขึ้น มุ่งเน้นให้เป็นคนดีมีความรู้ความสามารถ ผลจากความสำเร็จที่ผ่านมาประกอบ ซึ่งสามารถเข้าสู่ระดับชั้นประถมศึกษา กับการขยายตัวของชุมชน ซึ่งมีผู้สนใจที่จะส่งบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียน อบจ.สาธิตร่วมพัฒนามากขึ้น ทำให้ในปีการศึกษาหน้าจะมีการเพิ่มจำนวนห้องเรียนอีก 1-2 ห้องเรียน เพื่อรองรับความต้องการดังกล่าวด้วย

“ภูเก็ตไบค์วีค 2010” เงินสะพัด 700 ล.


นายวิทยา สิงห์ฆาฬะ ผู้ดูแลประสานงานและดำเนินการจัดงาน “ภูเก็ตไบค์วีค 2010 ครั้งที่ 16” กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต เทศบาลเมืองป่าตอง ชมรมผู้รักการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ใหญ่หรือภูเก็ตไรเดอร์คลับ ฮีโรเอ็นและนิตยสารไรด์ไทยแลนด์ กำหนดจัดงานรวมพลนักขับขี่มอเตอร์ไซค์ใหญ่ หรือ ภูเก็ตไบค์วีค 2010 ครั้งที่ 16 ปี ขึ้น ในระหว่างวันที่ 9-13 เมษายน นี้ ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหนึ่งของผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ใหญ่ที่ได้รับการบันทึกว่าเป็นปฏิทินการท่องเที่ยวของเหล่าไบค์เกอร์ที่มีการรวมตัวกันเป็นจำนวนมากทั้งจากในและนอกประเทศ เพื่อพบปะสังสรรค์และทำกิจกรรมเพื่อสังคมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของไทย โดยในครั้งนี้มีผู้ตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมแล้วจำนวนประมาณ 3,000 คัน

“การจัดงานครั้งนี้ เพื่อเป็นการพบปะสังสรรค์ของผู้รักการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ใหญ่ ทั้งชาวไทยและต่างประเทศจากทั่วโลก ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทย ด้วยการขับขี่มอเตอร์ไซค์พร้อมทั้งรณรงค์การขับขี่ปลอดภัยตามกฎจราจรในช่วงประเพณีสงกรานต์ ตลอดจนเผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ดีของ จ.ภูเก็ตสู่สายตาชาวโลก”

นายวิทยา กล่าวด้วยว่า กิจกรรมของงานในครั้งนี้จะยิ่งใหญ่กว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา โดยมีกิจกรรมพิเศษ คือ ในวันที่ 10 เมษายน จะมีการแปรอักษรคำว่า Phuket 2010 ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ใหญ่จำนวน 2,010 คัน บริเวณสนามฟุตบอลหน้าชายหาดป่าตอง นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย กิจกรรมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว การจัดกิจกรรมเพื่อสังคม การจัดมอเตอร์โชว์ซึ่งจะนำนวัตกรรมรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2010 มาจัดแสดงจากหลายค่าย ไม่ว่าจะเป็นฮาร์เลย์ เดวิดสัน, ดูคาติ, ยามาฮ่า, คาวาซากิ, ซูซูกิและไทรอัมพ์ รวมทั้งรถคัสตอมไบค์ ฝีมือคนไทย การจัดขบวนพาเหรดของชาวมอเตอร์ไซค์ใหญ่จากทั่วโลกซึ่งจะรวมตัวกันที่ซอยบางลา หาดป่าตอง ในรูปแบบงานภูเก็ตไบค์วีค 2010 บีชปาร์ตี้ และมหกรรมดนตรี การอบรมอาสาสมัครบิ๊กไบค์เตือนภัย ร่วมใจตำรวจทางหลวง รุ่นที่ 5 และการจัดกิจกรรมรดน้ำดำหัวให้กับผู้สูงอายุเนื่องในวันสงกรานต์ รวมทั้งการปลูกต้นไม้เพื่อรณรงค์ลดภาวะโลกร้อนตามเส้นทางสายหาดป่าตอง –หาดกมลา ซึ่งเงินรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดงานจะนำไปมอบให้กับเด็กนักเรียนที่ยากจนและขาดแคลนทุนทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ตด้วย

ทางด้านนางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า การจัดงานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามนโยบายของ ททท. ในการส่งเสริมกลุ่มตลาดพิเศษเฉพาะที่มีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งคาดว่าในช่วงของการจัดงานดังกล่าวจะมีเงินสะพัดในจังหวัดภูเก็ตไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท และยังจะเป็นการช่วยสร้างสีสันต์ของเทศกาลสงกรานต์ให้มีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น