จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2553

งานสื่อสารมวลชนแห่งชาติ


เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 5 มีนาคม 2553 ที่ ห้องจามจุรี โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางไทศิกา ไพรสงบ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูร จังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ เนื่องในวันสื่อมวลชนแห่งชาติ ที่ก้าวสู่ปีที่ 20 ของสื่อมวลชนจังหวัดภูเก็ต ด้วยสโลแกนที่ว่า Phuket Clean Phuket Green โดยมีนายสรธรรม จินดา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายประดิษฐ์ แสงจันทร์ ประธานสภาองค์การบริหารสว่นจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการต่างๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างกันเอง นอกจากนี้ยังมีการแสดงบนเวที ซึ่งมีนักแสดงจากสมาชิกชมรมผู้สื่อข่างภูเก็ต และผู้สื่ข่าว ที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกันแสดง นอกจากนี้ยังมีการเล่นเกมส์ต่างๆ สร้างความประทับใจให้กับแขกที่มาร่วมงานเป็นอย่างมาก

ทำรายการ “เมืองไทย เมืองยิ้ม”


นายอุกฤษฎ์ ปันทวธานนท์ ผู้จัดการปาร์ค บริษัท ภูเก็ตแฟนตาซี จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ “แบงค์” ปวริศร์ มงคลพิสิฐ ในโอกาสที่เดินทางมาจังหวัดภูเก็ต และ ภูเก็ตแฟนตาซี เพื่อถ่ายทำรายการ “เมืองไทย เมืองยิ้ม” พร้อมทั้งร่วมรับประทานอาหารค่ำบุฟเฟ่ต์นานาชาติที่ภัตตาคารมโนห์ราทอง จากนั้นท่องทะเลอันดามันที่เต็มไปด้วยความสนุกสุดหรรษาใน “สิมิลัน เอนเตอร์เทนเม้นท์ เซ็นเตอร์” ก่อนเข้าชมสุดยอดการแสดง “มหัศจรรย์กมลา” ณ โรงละคร วังไอยรา ภูเก็ตแฟนตาซี


วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2553

งานวันสถาปนาไทยอาสาป้องกันชาติ ปี 53


เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 4 มีนาคม 53 พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีสวนสนามทางบกและทางเรือไทยอาสาป้องกันชาติ (ทสปช.) เนื่องในวันสถาปนาไทยอาสาป้องกันชาติ ปี 2553 ที่ฐานทัพเรือพังงา ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา โดยมีนายเยี่ยมสุริยา พาลุสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พล.ร.ท.ชุมนุม อาจวงค์ ผู้บัญชาการกองเรือภาคที่ 3 และตัวแทนสมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติจากทั่วประเทศประมาณ 500 คนร่วมให้การตอนรับ จากนั้นตัวแทนไทยอาสาป้องกันชาติ (ทสปช.) ได้กล่าวปฏิญาณตนเกี่ยวกับการทำหน้าที่รักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จากนั้นพล.ร.อ.กำธร มอบรางวัลให้กับบรรดาครูฝึกและไทยอาสาป้องกันชาติ (ทสปช.) ที่มีผลงานดีเด่น

พล.ร.อ.กำธร กล่าวกับตัวแทนไทยอาสาป้องกันชาติ (ทสปช.) ว่า นับเป็นที่น่ายินดีที่ทุกคนได้ร่วมกันเสียสละช่วยเหลือทางราชการในการดูแลทรัพยากรของชาติทางทะเลและเป็นหูเป็นตาให้กับทางราชการในการแจ้งข่าวต่างๆทางทะเล เช่นพบเห็นเรือต่างชาติในรูปแบบการหลบหนีเข้าเมือง เบาะแสยาเสพติด และรวมไปถึงการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ที่ผ่านมานับว่าไทยอาสาป้องกันชาติ (ทสปช.) ได้ให้ความร่วมมือกับทางราชการด้วยดีตลอดมา ในโอกาสวันสถาปนาตัวแทนไทยอาสาป้องกันชาติ (ทสปช.) จึงอยากขอบคุณทุกคนที่เสียสละเวลาเพื่อตนเองสู่ส่วนรวม

จากนั้นได้มีการสวนสนามของตัวแทนไทยอาสาป้องกันชาติ(ทสปช.)ทั้งทางบกและทางทะเลโดยทางทะเลนั้นได้มีเรือประมงประมาณ 100 ลำแล่นออกจากคลองทับละมุผ่านหน้าประธานไปยังปากอ่างทับละมุพร้อมกดแตรให้การเคารพประธาน ส่วนบนทุ่นลอยน้ำนั้นตัวแทนไทยอาสาป้องกันชาติ(ทสปช.)ได้ตั้งแถวเดินพาเหรดเพื่อแสดงถึงความพร้อมในการทำงาน

งานวันสตรีสากล ประจำปี 2553


เมื่อเวลา 18.30 น.ของวันที่ 4 มีนาคม 53 ที่สนามชัย ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง ภูเก็ต องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการเปิดงานวันสตรีสากล ประจำปี 2553 โดยมีคณะบริหาร นายประดิษฐ์ แสงจันทร์ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นางไทศิกา ไพรสงบ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต นางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย รท.ภูมิศักดิ์ หงษ์หยก สมาชิกวุฒิสภา นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต คุณณัฐพร เดชาวุธ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดภูเก็ตหัวหน้าส่วนราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และ เข้าร่วมเป็นเกียติในงานด้วย

ทั้งนี้นายมานพ ลีลาสุธานนท์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวว่า ด้วยทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้เห็นความสำคัญถึงสิทธิมนุษยชนของสตรีภูเก็ตและพร้อมที่จะสร้างความเข็มแข็งให้กับเครือข่ายสตรี จึงได้จัดงานวันสตรีสากลประจำปี 2553 ขึ้น เพื่อตระหนักและให้ความสำคัญในเรื่องของสิทธิ หน้าที่ของสตรี พร้องทั้งพัฒนาศักยภาพและเสริมสร้างความรู้ให้กับกลุ่มสตรีในจังหวัดภูเก็ต

ด้านนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวว่า ในสภาพปัจจุบัน สตรีได้รับโอกาสทางสังคมเพิ่มมากยิ่งขึ้น เทียบเท่ากับผู้ชาย มีบทบาทหน้าที่ในสังคมสำคัญๆ มากมาย ทั้งด้านการเมือง การบริหาร แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีซอกมุมหนึ่งที่สตรีต้องถูกกระทำย่ำยี เพื่อเป็นแรงผลักดันให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักในเรื่องนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้เห็นความสำคัญของวันนี้ในทุกๆปี ในปีนี้ได้จัดตรงกับวันที่ 4 มีนาคม 2553 มีวัตถุประสงค์เพื่อได้ตระหนักถึงความสำคัญของตนเอง ครอบครัว สังคม จะได้มีโอกาสทบทวนบทบาท และสถานภาพของสตรี เพื่อนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพและการดำเนินงานด้านต่างๆของสตรีที่เหมาะสมให้มีสตรีมีบทบาทและความสำคัญอย่างเท่าเทียมกันในสังคมและชุมชน

สำหรับบรรยากาศภายในงานมีการจัดกิจกรรม การบรรยายให้ความรู้เรื่องกฎหมายที่ควรรู้สำหรับสตรีในหัวข้อ กฎหมายสตรีและกฎหมายครอบครัว โดยคุณณัฐพร เดชาวุธ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดภูเก็ต การมอบรางวัล สตรีผู้บำเพ็ญประโยชน์ดีเด่น ประจำปี 2553 การแสดงความรู้สึกต่อบทบาทสตรีเนื่องในวันสตรีสากล คุณธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย สมาชิกวุฒิสภา นางไทศิกา ไพรสงบ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต
นอกจากนี้ยังมีการจัดการแสดงบนเวที จากองค์กรสตรีทุกตำบล การจัดกิจกรรมสัมทนาการ ในการแลกเปลี่ยนความรู้ และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย


วันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2553

ภูเก็ตสั่งทำโครงการแก้ปัญหาภัยแล้ง


นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาเพื่อดูแลและแก้ปัญหาน้ำอย่างยั่งยืน และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำการสำรวจแหล่งน้ำในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการแก้ปัญหาและเกิดความยั่งยืนก็ได้กำหนดให้มีการจัดทำโครงการ 1 ท้องถิ่น 1 แหล่งน้ำไปด้วย ซึ่งมีพื้นที่นำร่อง คือ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กมลา อ.กะทู้ ได้ทำการปรับปรุงขุมน้ำเก็ตหนีบนเทือกเขากมลา เพื่อให้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนนี้

“หากพิจารณาจากปริมาณน้ำฝนของภูเก็ตเฉลี่ยปีละประมาณ 900 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่มีการนำมาใช้จริงเพียงปีละประมาณ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนที่เหลือจะไหลลงสู่ทะเลทั้งหมด ดังนั้นหากเราสามารถที่จะบริหารจัดการอย่างเป็นระบบแล้วก็จะทำให้เรามีน้ำใช้อย่างเพียงพอ โดยจำเป็นที่จะนำน้ำจากที่อื่นมาใช้”

นายวิชัย กล่าวด้วยว่า นอกจากแหล่งกักเก็บน้ำที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น อ่างเก็บน้ำบางวาด อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ เป็นต้น ก็ยังมีขุมน้ำที่เกิดจากการทำแร่ในอดีตทั้งของรัฐและเอกชนอีกเป็นจำนวนมาก และยังอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำอีกหนึ่งแห่ง คือ อ่างเก็บน้ำคลองกระทะ ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งขณะนี้ได้รับการจัดสรรงบประมาณมาแล้ว จำนวน 600 ล้านบาท แต่ยังติดขัดในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากผ่านไปได้ก็จะเกิดประโยชน์อย่างมาก

ขณะที่นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) กล่าวว่า ขณะนี้ทาง อบจ.ภูเก็ตได้รับการประสานจากท้องถิ่น 2 – 3 แห่ง ได้แก่ อบต.ไม้ขาว อบต.สาคู และเทศบาลตำบลราไวย์ ในการขอรถน้ำเพื่อนำไปบรรทุกน้ำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมกันนี้ทาง อบจ.ภูเก็ตก็ได้รับเป็นเจ้าภาพหลักในการรับฟังและแก้ปัญหาน้ำในภาพรวมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย 1 อบจ. 19 อบต.และ 19 เทศบาล โดยจัดตั้งเป็นคลินิกเซ็นเตอร์เพื่อรวมรวมและสรุปหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา

อย่างไรก็ตามขณะนี้ทาง อบจ.ภูเก็ตได้อนุมัติงบประมาณปี 2554 ในการจัดทำประปาหมู่บ้านให้กับ อบต.สาคู อ.ถลาง และอยู่ระหว่างการจัดสรรงบประมาณสำหรับทำประปาหมู่บ้านให้กับ อบต.ไม้ขาว อ.ถลาง ซึ่งได้พื้นที่แล้ว คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในเร็วๆ นี้ รวมถึงการรวมรวบปัญหาต่างๆ เพื่อจัดทำแผนงานโครงการและงบประมาณแก้ปัญหาในภาพรวม นายไพบูลย์ กล่าว

ลูกหนี้นอกระบบเมืองภูเก็ตร่วมรับทราบแนวทางเจรจา


เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 มีนาคม 2553 ที่ห้องประชุมอาคารกาญจนาภิเษก อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายศุภชัย โพชนุกูล นายอำเภอเมืองภูเก็ต ร่วมกับ พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิญช์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนผู้ลงทะเบียนเป็นลูกหนี้นอกระบบ ตามโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาล เพื่อรับทราบและหาแนวทางในการนัดเจรจาไกล่เกลี่ยกับผู้เป็นเจ้าหนี้ โดยมีผู้ที่ขึ้นทะเบียนตามโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบเข้าร่วมจำนวนประมาณ 1,000 คน

นายศุภชัย โพชนุกูล นายกอำเภอเมืองภูเก็ต กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างทางอำเภอเมืองภูเก็ต สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต และธนาคารของรัฐ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ธนาคารเอสเอ็มอี ธนาคารอิสลาม และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งในส่วนของอำเภอเมืองภูเก็ตมีผู้มาขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ตามรายชื่อที่มีในทะเบียนราษฎรจำนวนประมาณ 1,022 ราย มูลค่าหนี้ประมาณ 300 ล้านบาท โดยเป็นผู้ที่มีหนี้จำนวนระหว่าง 50,000 บาท - 200,000 บาท ซึ่งนอกจากการให้ทางลูกหนี้มาแจ้งรายชื่อของเจ้าหนี้ เพื่อทางเจ้าหน้าที่ฯจะได้เชิญตัวมาทำการเจรจาไกล่เกลี่ยประนอมหนี้กันแล้ว ยังได้เชิญเจ้าหน้าที่ของธนาคารชี้แจงแนวทางการดำเนินการกู้ยืมเพื่อนำเงินไปใช้หนี้นอกระบบ และการส่งคืนเงินให้กับทางธนาคารด้วย

ขณะที่พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิญช์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า ที่ผ่านมาทาง สภ.เมืองภูเก็ตก็ได้มีการกวดขันในเรื่องการกู้ยืมนอกระบบ โดยเฉพาะในรายที่มีการข่มขู่หรือทำร้ายร่างกายลูกหนี้มาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว โดยเป็นตามนโยบายของรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และกองบังคับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ซึ่งภายหลังจากที่รัฐบาลจัดทำโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบทำให้ปัญหาการแจ้งความดำเนินคดีเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายกรณีของการทวงหนี้นอกระบบไม่เกิดขึ้นอีกเลย

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.วันไชย กล่าวว่า โครงการนี้เป็นประโยชน์ทั้งในส่วนของเจ้าหนี้ซึ่งก็จะได้เงินที่ให้กู้ยืมไปกลับคืนมา ในขณะที่ส่วนของลูกหนี้ก็สามารถที่จะใช้หนี้ได้ตามกำลังความสามารถของตัวเอง และไม่ต้องเจอกับการถูกทวงถามด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การทำร้ายร่างกาย เป็นต้น ดังนั้นหากมีการชี้แจงทำความเข้าใจให้ถึงกลุ่มเป้าหมายก็จะไม่เกิดปัญหา เพราะเจ้าหนี้ย่อมต้องการเงินคืนอยู่แล้ว

ส่วนของนางอัมพา ก่อสุข อาชีพค้าขาย เล่าว่า เป็นหนี้อยู่ประมาณ 200,000 บาท มีเจ้าหนี้ 3 ราย โดยจะต้องจ่ายหนี้เฉพาะดอกเบี้ยเดือนละประมาณ 30,000 บาท เนื่องจากเจ้าหนี้เป็นชาวบ้านทั่วไป จึงไม่มีปัญหาเรื่องของการทวงหนี้ ทั้งนี้ก่อนที่จะมาขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้มีการพูดคุยกับเจ้าหนี้ทั้ง 3 รายแล้วก็ไม่ขัดข้อง และคิดว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้เป็นอย่างมาก เพราะการกู้ยืมของตนนั้นนำมาใช้ในการประกอบอาชีพ แต่เนื่องจากการค้าขายในระยะที่ผ่านมาไม่สู้ดีนัก จึงทำให้มีปัญหาไม่สามารถที่จะส่งคืนดอกเบี้ยหรือเงินต้นได้

นอกจากนี้นางอัมพา เล่าด้วยว่า มีเพื่อนแม่ค้าด้วยกันซึ่งไปกู้ยืมเงินมาและต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 60 ต่อเดือน ประกอบกับประสบปัญหาภาวะการท่องเที่ยวไม่ดีทำให้ไม่มีเงินไปส่งดอกเบี้ย ทางเจ้าหนี้ได้ส่งคนมาทำร้ายและทำลายข้าวของ ซึ่งน่ากลัวมาก และขณะนี้เขาก็ต้องหนีไปอยู่ที่อื่น



อุตสาหกรรมภูเก็ตติวเข้มผู้ประกอบการในพื้นที่


เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 4 มีนาคม 53 ที่ห้องยูงทอง โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายอดิศร นภาวรานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดการสัมมนาโครงการส่งเสริมพัฒนาอุตสาหกรรมในส่วนภูมิภาค เรื่อง กฎหมาย ข้อระเบียบที่กำหนดตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ซึ่งทางอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ตและสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต จัดขึ้น เพื่อพัฒนาให้ผู้ประกอบการมีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายและระเบียบที่จะต้องดำเนินการควบคู่กับการกำกับดูแลตามกฎหมาย ตลอดจนระเบียบที่เกี่ยวข้องได้อย่างถูกต้อง

ทั้งนายอภิชัย อมรพิสุทธิ์ อุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การสัมมนา เรื่อง กฎหมาย ข้อระเบียบ ที่กำหนดตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2553 เพื่อพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมในระดับจังหวัดให้สอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ของรัฐบาล กระทรวงอุตสาหกรรมและจังหวัด เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในจังหวัดให้เกิดความรู้ ความเข้าใจปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบได้อย่างถูกต้อง และส่งเสริมให้เกิดการบูรณาการระหว่างผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่ของรัฐในการกำกับดูแลการประกอบการตามกฎหมาย

ขณะที่นายอดิศร นภาวรานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การส่งเสริมพัฒนาอุตสาหกรรมในส่วนภูมิภาค เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะหน่วยงานภาครัฐ ที่มีบทบาทหน้าที่ในการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และมีหน้าที่ในการดำเนินงานส่งเสริมสนับสนุน ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการและบุคลากรภาคอุตสาหกรรม ด้านการผลิต การบริหารจัดการ รวมทั้งการให้ความรู้ด้านวิชาการกฎหมาย และระเบียบต่างๆ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบการสามารถนำไปพัฒนาด้านการประกอบการให้ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบด้วย


ปลูกปัญญามินิมาราธอน ครั้งที่ 10


นายธีรพนธ์ ลิ่มชูเชื้อ ประธานชมรมผู้ปกครองนักเรียน โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ ได้กล่าวถึงการจัดการแข่งเดิน – วิ่ง ปลูกปัญญามินิมาราธอน ครั้งที่ 10 ด้วยภารกิจของคณะกรรมการบริหารชมรมผู้ปกครองฯ ตามข้อบังคับของชมรมผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ พ.ศ. 2543 และจากการประชุมคณะกรรมการบริหารชมรมผู้ปกครองฯ ปีการศึกษา 2552 ครั้งที่ 10/2552 ในวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2552 ณ ห้องประชุมโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา โดยที่ประชุมได้มีมติให้ดำเนินการ จัดกิจกรรมการแข่งขันเดิน – วิ่ง “ปลูกปัญญามินิมาราธอน ครั้งที่ 10” ขึ้น เพื่อสนองพระราชปณิธาน ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ให้พสกนิกรของพระองค์ มีร่างกายและพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงด้วนการวิ่ง ออกกำลังกาย รวมทั้งส่งเสริมให้นักเรียน เยาวชนและประชาชนใช้เวลาว่าง ในการเล่นกีฬาหลีกเลี่ยงยาเสพติด และมีนิสัยรักการออกกำลังกาย พร้อมทั้งเสริมสร้างความสามัคคี ทั้งในภาครัฐและเอกชน ในจังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียง และจะเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่างผู้ปกครองกับผู้ปกครอง และนักเรียนกับนักเรียน รวมทั้งหารายได้สนับสนุนกิจกรรม การเรียนการสอน และกิจกรรมหลักสูตรหลังเลิกเรียนของโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ และยังเป็นการฉลองครบรอบ 1 ทศวรรษ ชมรมผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ

โดยการแข่งขันในครั้งนี้ จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 53 แบ่งการแข่งขันออกเป็น ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร และระยะทาง 10.5 กิโลเมตร จะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม 53 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 19.00 น.ที่โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ ณ ที่ทำการชมรมผู้ปกครอง ฯ (ห้องสมุดโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ) และในวันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2553 เวลา 04.30 – 05.30 น.ที่บริเวณสถานแข่งขัน ส่วนค่าสมัครนั้น เป็นแบ่งเป็นระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ค่าสมัคร 100 บาท ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร ค่าสมัคร 200 บาท พร้อมเสื้อที่ระลึกการแข่งขัน ส่วนประเภทครอบครัว ค่าสมัคร 300 บาท รับเหรียญทั้ง 3 คน และประเภท VIP ค่าสมัคร 1,000 บาท รับเสื้อ, เหรียญ, ถ้วยรางวัล

สำหรับเส้นทางการแข่งขันจะใช้เส้นทางเดิมของปีที่ผ่านมา โดยจะปล่อยตัวในเวลา 06.00 น.ของวันที่ 7 มีนาคม 53 ทางชมรมฯ ก็ต้องขอขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ที่ให้การสนับสนุนการแข่งขันในครั้งนี้ รวมทั้งก็ต้องอภัยกับผู้ใช้เส้นทางการแข่งขันในการสัญจร ซึ่งในบางครั้งทางเจ้าหน้าที่จะต้องมีการปิดเส้นทางการจราจรบ้างในบางช่วงเวลา



มีงานมาฝาก...ครับ

รพ.กรุงเทพภูเก็ตรับสมัครงาน



วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553

กาชาดใส่ใจ เพื่อดวงตาใส



นางไทศิกา ไพรสงบ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยสมาชิกเหล่ากาชาดภูเก็ต ได้จัดทำโครงการ เหล่ากาชาดจังหวัดใส่ใจ เพื่อดวงตาสดใส แก่ผู้สูงวัย ได้นำแว่นสายตา ไปมอบแก่ผู้สูงอายุของ อบต.เชิงทะเล จำนวน 500 อัน ทั้งนี้ในโครงการดังกล่าว ได้ตั้งเป้าหมายที่จะมอบแว่นสายตาให้แก่ผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านสายตายาวทั่วทั้งในจังหวัดภูเก็ตจำนวนประมาณ 5,000 อัน




เรือรบสหรัฐฯ เข้าเยี่ยมคำนับ ผบ.ทรภ.3



น.อ.วุฒิศักดิ์ คงนาวัง ผอ.ขว.ทรภ.3 เป็นผู้แทน ผบ.ทรภ.3 ให้การรับเยี่ยมคำนับจาก ผบ.เรือรบสหรัฐ ฯ จำนวน 2 ลำ โดยมี CAPD KEVIN J.COUCH USS CLEVELAND LPD-7 ในโอกาสเดินทางเข้าเยี่ยมประเทศไทย เพื่อรับการส่งกำลังบำรุงและให้กำลังพลประจำเรือพักผ่อนภายหลังจากการปฏิบัติภารกิจในทะเล ณ ห้องรับรอง บก.ทรภ.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต



ทต.เทพกระษัตรี ใช้งบ 97 ล้านบาทสร้างตลาดสดหลังใหม่


นายประสงค์ ไตรรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลเทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้กล่าวถึงการจัดสร้างตลาดสดแห่งใหม่ ว่า ตามที่ทางเทศบาลฯ ได้มีการก่อสร้างตลาดสดแห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ถนนสายบ้านดอน – เชิงทะเล หมู่ที่ 1 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง ภูเก็ต เพื่อทดแทนตลาดเดิมซึ่งมีความคับแคบและใช้งานมาเป็นเวลานาน แม้ว่าจะมีการปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่เพียงพอ รวมทั้งเพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณดังกล่าวซึ่งใกล้กับสี่แยก เนื่องจากตลาดสดแห่งนี้ถือเป็นตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่อำเภอถลาง โดยได้รับการบริจาคที่ดินเยื้องกับตลาดสดเดิมไปประมาณ 50 เมตร จากนายปรีชา และนางนิทรา ปิยะธำรงโรจนา จำนวน 5 ไร่ 3 งานเศษ และได้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งขณะนี้ได้เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้งบในการก่อสร้างประมาณ 97 ล้านบาท


“อาคารตลาดสดหลังใหม่ เป็นอาคาร คสล.3 ชั้น ประกอบด้วยชั้นใต้ดิน เป็นลานจอดรถสามารถจอดได้กว่า 100 คัน ส่วนชั้นที่ 1 เป็นสถานที่ในการจำหน่ายสินค้ามีจำนวน 182 แผง แบ่งเป็น 3 โซน ได้แก่โซนอาหารทั่วไป จำนวน 33 แผง โซนอาหารประเภทเนื้อสัตว์ชำแหละ จำนวน 33 แผง และโซนผักผลไม้ตลอดจนของชำเบ็ดเตล็ด จำนวน 116 แผง รวมสินค้าต่างๆ ที่ให้บริการไม่ต่ำกว่า 2,000 ชนิด กับชั้นที่ 2 เป็นห้องอเนกประสงค์ สามารถใช้เป็นห้องประชุมใหญ่ซึ่งจุผู้เข้าร่วมได้ประมาณ 1,000 คน หรือจะแบ่งเป็นห้องประชุมเล็กได้ 2 ห้อง เพื่อให้ผู้ค้าในตลาดสดหรือคนในชุมชนสามารถใช้เป็นสถานที่ในการประชุมหารือต่างๆ ได้ นอกจากนี้ยังได้มีการจัดทะระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบการคัดแยกไขมัน และมีพื้นที่ในการจัดเก็บขยะมูลฝอยที่แยกจากตัวอาคารตลาดสด เพื่อลดป้องกันและแก้ปัญหาแมลงและสัตว์ซึ่งเป็นพาหะนำโรคติดต่อต่างๆ ”


นายประสงค์ กล่าวด้วยว่า การสร้างตลาดสดแห่งใหม่ขึ้นมานั้น นอกจากแก้ปัญหาเรื่องความคับแคบและการใช้งานมาเป็นเวลานานแล้ว ยังจะเพื่อแก้ภาพลักษณ์ของตลาดสดเดิมๆ ที่มักจะถูกมองว่าไม่ถูกสุขลักษณะ สกปรก มีกลิ่นเหม็น เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของบรรดาแมลงวัน แมลงสาบ หรือหนู รวมถึงปัญหาขยะ ทั้งๆ ที่ตลาดสดถือเป็นศูนย์รวมของวิถีชุมชุม ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ดังนั้นเพื่อเป็นการลบภาพเดิมๆ จึงได้สร้างตลาดสดให้แห่งใหม่ขึ้นดังกล่าว โดยมุ่งเน้นในการปรับปรุงการให้บริการ ให้ได้มาตรฐานอาหารสะอาดปลอดภัย มีสุขลักษณะที่ดี เป็นไปตามมาตรฐานของตลาดสดน่าซื้อและตลาดสดดีมีมาตรฐาน เป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน รวมทั้งยังสามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในบริเวณนี้ได้สามารถมาใช้ตลาดสดได้ด้วย นอกเหนือจากประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาอาชีพและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน


เยี่ยมชมมิชชั่นภูเก็ต


นางสาวสุจิตรา เสมอมิตร ผอ.รพ.มิชชั่นภูเก็ต พร้อมด้วยนายอธิคม ศรีรัตนประภาส และ Mr.Peter Weekes ที่ปรึกษาอาวุโส ให้การต้อนรับ Mr.Ken Bacon CEO Littleton Adventist Hospital Colorado USA.และ Mr.Steven King President International Medical Mission จากสหรัฐอเมริกา ในการเข้าเยี่ยมชมโรงพยาบาลมิชชั่นภูเก็ต ในเครือ Worldwide SDA Healthcare



แผนปฏิบัติการ CLEAN & SEAL



ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรม ศตส. จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญ ประกอบด้วย การเพิ่มความเข้มข้มมหาดไทย CLEAN & SEAL ทำความดีเพื่อแผ่นดิน กวาดล้างให้สิ้นยาเสพติด การปรับปรุงกฎหมายเพื่อป้องกันปราบปรามยาเสพติด การดำเนินโครงการบรรพชา 5 รั้วร่วมใจเฉลิมพระเกียรติ การจัดทำข้อมูลยาเสพติดจังหวัดรองรับแผนปฏิบัติราชการปี 2553 และการสรุปผลการปฏิบัติงานของอนุกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
นายวิชัย กล่าวว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ. ปรับปรุงกฎหมายเพื่อป้องกันปราบปรามยาเสพติด แก้ไข เพิ่มอัตราผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้เสพติดให้สูงขึ้น ทาง ศตส.จังหวัด ได้มอบหมายให้แต่ละอำเภอดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบ พร้อมกับการทำประชาคมหมู่บ้าน ชุมชน ตามแผนปฏิบัติการ CLEAN & SEAL ซึ่งขณะนี้บางอำเภอได้ดำเนินการไปแล้ว แต่ละอำเภอเร่งดำเนินการให้ครบตามเป้าหมาย พร้อมทั้งรายงานมายังจังหวัด เพื่อทางศูนย์ ศตส.จังหวัดได้รายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบต่อไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวอีกว่า ในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมา ทางจังหวัดสามารถจับกุมยาบ้าได้ 57 ราย ของกลาง 20,162 เม็ด ส่วนผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดพร้อมใจเข้าร่วมบำบัด 15 ราย แบบบังคับบำบัด 536 ราย ด้านสถิติคดีผู้ต้องโทษในเรือนจำพบว่าคดีเกี่ยวกับยาเสพติดลดลง คดีเกี่ยวกับทรัพย์เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทาง ศตส.จังหวัด ต้องฝากให้ทุกหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบการป้องกัน แก้ไขปัญหายาเสพติดให้เข้ม การเฝ้าระวังยาเสพติดเข้าในพื้นที่โดยเฉพาะด่านท่าฉัตรไชย และการเฝ้าระวังเส้นทางทะเล ด้านยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกันของรัฐบาลให้แต่ละหน่วยดำเนินการให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายและรายงานผลการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง


The Best Team for Best Practices



โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตจัดกิจกรรม "The Best Team for Best Practices" เพิ่มทักษะในการพัฒนาตนเอง การพัฒนางานบริการ รวมทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ปฏิบัติงานในการทำงานเป็นทีมให้แก่บุคลากรทางการพยาบาล เพื่อให้การบริการพยาบาลมีคุณภาพได้มาตรฐานระดับสากล และสร้างความประทับใจอันดีให้แก่ผู้เข้ารับบริการ


ท้องถิ่นภูเก็ตระดมงบ 7.8 ล.สดุดีย่ามุก – ย่าจัน วีรชนถลาง


เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 2 มีนาคม 53 ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการแถลางข่าวการจัดงานเชิดชูเกียรติท้าวเทพกระษัตรี – ท้าวศรีสุนทร ประจำปี 2553 โดยมีนายทวิชาติ อินทรฤทธิ์ วัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ อัปติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนักแสดงละครอิงประวัติศาสตร์ เข้าร่วมการแถลงข่าวในครั้งนี้

ทั้งนี้ นายวิชัย ได้กล่าวว่า สำหรับการจัดงานวัฒนธรรมท้าวเทพกระษัตรี – ท้าวศรีสุนทร ประจำปี 2553 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 6 – 20 มีนาคม 2553 เพื่อเชิดชูเกียรติประวัติท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร และให้อนุชนรุ่นหลังได้ตระหนักถึงวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของบรรพชนที่ได้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิต ในการปกป้องรักษาแผ่นดินให้เป็นที่ประจักษ์แก่ลูกหลานและประชาชนทั่วไป เพิ่มศักยภาพด้านทรัพยากรการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดภูเก็ต เป็นการปรับภูมิทัศน์ในการรองรับการพัฒนาให้เป็นสถานที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งเป็นการบูรณาการความหลากหลายทางวัฒนธรรม เพื่อให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่น โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการจาดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานต่างๆ ประมาณ 7.8 ล้านบาท


สำหรับกิจกรรมของโครงการงานวัฒนธรรมท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ประกอบด้วย การจัดอุปสมบทหมู่ อุทิศส่วนกุศลแด่บรรพชนผู้กล้าเมืองถลาง เป็นเวลา 15 วัน ระหว่างวัน 6 – 20 มีนาคม 2553 ที่วัดลัฎฐิวนาราม (วัดใต้), การจัดทัวร์แหล่งประวัติศาสตร์, การแข่งขันกีฬาบนเส้นทางประวัติศาสตร์ถลาง, การจัดกิจกรรมเทิดทูนเกียรติวีรชนผู้กล้าเมืองถลางในวันที่ 12 มีนาคม 2553 โดยช่วงเช้าจะมีการประกอบพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศล และช่วงเย็นประกอบพิธีบวงสรวงปู่ย่า ตายาย ที่วัดม่วงโกมารภัจจ์, ประกอบพิธีวางพวงมาลา ในวันที่ 13 มีนาคม 2553 ที่บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวสุนทร
นายวิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดกิจกรรมต่างๆ นั้นโดยในส่วนของการอุปสมบทหมู่พระภิกษุ เพื่อเป็นการบำเพ็ญบุญกุศลแด่บรรพชนผู้กล้าเมืองถลาง ส่วนกิจกรรมอื่นๆ นั้น ก็เพื่อรณรงค์ให้คนภูเก็ตตื่นตัวไปเที่ยวชมพื้นที่ประวัติศาสตร์ เกิดความภาคภูมิใจ ความรักในแผ่นดินและผู้มีพระคุณ

ด้านนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ ได้กล่าวว่า สำหรับการจัดละครอิงประวัติศาสตร์ประกอบแสง สี เสียง ระหว่างวันที่ 13 – 15 มีนาคม 2553 ณ บริเวณอนุสรณ์สถานถลางชนะศึก ซึ่งอยู่ในการรับชอบของทางอบจ.ภูเก็ต นั้น โดยทางอบจ.ภูเก็ตก็ได้มอบหมายให้กับ ดร.สาวิตร พงษ์วัตร ผอ.ศูนย์วัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎ ภูเก็ต เข้ามาดูแลในการแสดง โดยนักแสดงจะมาจากหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมทั้งภาคเอกชน และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต กว่า 100 คน ร่วมแสดงในครั้งนี้ โดยได้มีการเปลี่ยนฉากใหม่หมด ส่วนตัวนักแสดงได้มีการซ้อมอยู่ทุกวัน และพร้อมแล้วที่จะทำการแสดง นอกจากยังมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง (โอทอป) อาหารอร่อยจังหวัดภูเก็ต สำหรับการเลือกจัดงานแสดงแสงสีเสียงในบริเวณอุทยานและแหล่งประวัติศาสตร์ เพื่อให้ประชาชนเกิดความสำนึกรัก หวงแหนมรดกท้องถิ่นด้วย



ชวนเพื่อนทำดี...เดือนเกิด


นพ.บดินทร์ ละเอียด รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ร่วมบริจาคโลหิตในโครงการ “ชวนเพื่อนทำดี...เดือนเกิด” ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน โดยมีกิจกรรมที่แตกต่างกัน เช่น การทำบุญตักบาตร การบริจาคโลหิต การเก็บขยะบริเวณชายหาด และการมอบเครื่องอุปโภค บริโภคที่จำเป็นให้แก่ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม เป็นต้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและเปิดโอกาสให้แพทย์ พยาบาล และพนักงานที่มีวันคล้ายวันเกิดในเดือนนั้นๆ และผู้ที่มีจิตศรัทธาได้มีอีกหนึ่งช่องทางในการแบ่งปันน้ำใจให้แก่สังคม



วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ถ่ายทอดประสบการณ์สู่เยาวชน


สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ร่วมเป็นวิทยากรอบรมให้ความรู้ในการจัดค่ายศิลปะเพื่อชีวิต “Art for life” แก่นักเรียนในเครือข่ายสถานศึกษาตะกั่วทุ่ง 4 (หล่อยูง) สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อให้นักเรียนได้รับการปลูกฝังอารมณ์ศิลปะด้านการแสดงออกประเภทเพลงรำวงมาตรฐานและการปักลายผ้าปาเต๊ะ อนุรักษ์เอกลักษณ์ความเป็นไทยให้กับนักเรียน ในการนี้ ดร.สาวิตร พงศ์วัชร์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม ให้การต้อนรับ พร้อมด้วย นายสมพล ศักดาศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดนากลางมิตรภาพที่ 163 นายพงษ์สวรรค์ สกาธรรม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหล่อยูง และคณะอาจารย์ เจ้าหน้าที่ เป็นวิทยากรในการให้ความรู้ตลอดการจัดค่ายในครั้งนี้ ณ สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต


ดร.สาวิตร กล่าวว่า “ องค์การบริหารส่วนตำบลหล่อยูง ได้จัดค่ายศิลปะเพื่อชีวิต “Art for life” ให้กับนักเรียนในเครือข่ายสถานศึกษาตะกั่วทุ่ง 4 (หล่อยูง) ซึ่งจัดค่ายระหว่างวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ 2553 เป็นเวลา 3 วัน ทั้งนี้เราได้จัดให้คณะอาจารย์ เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ซึ่งมีความชำนาญการในศาสตร์นั้นๆ เป็นอย่างดี มาร่วมกันถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจด้านศาสตร์และศิลป์ให้กับนักเรียนที่มาเข้าค่าย ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนได้รับการปลูกฝังอารมณ์ด้านการแสดงออกประเภทเพลงรำวงมาตรฐานและการปักลายผ้าปาเต๊ะ เป็นการสืบสาน อนุรักษ์สิ่งดีงามของท้องถิ่น สู่เยาวชนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี และเยาวชนเหล่านี้สามารถที่จะสืบทอดความเป็นภูเก็ต ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคมโดยกว้างได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงการจัดกิจกรรมนี้ ยังทำให้นักเรียนได้มีความรัก ความภูมิใจในศิลปะด้านต่างๆ เพื่อสร้างความเป็นเอกลักษณ์ในความเป็นไทยให้กับนักเรียน ประการสำคัญที่ผู้เข้าค่ายจะได้รับคือ การได้รับการฝึกฝน ทักษะเพิ่มเติม ได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติควบคู่กับไปอย่างครบวงจร การเรียนรู้ลักษณะนี้ นับเป็นการบูรณาการการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี นักเรียนได้รับโดยตรง”