จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2560

สนามบินภูเก็ตใช้มาตรการความปลอดภัยสัมภาระ In-line Screening

สนามบินภูเก็ตใช้มาตรการความปลอดภัยสัมภาระ In-line Screening 


เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2560 ภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ต บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทภก.ทอท.) นางมนฤดี เกตุพันธุ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต ได้ตรวจสอบเรียบร้อยของมาตรการการรักษาความปลอดภัยสัมภาระลงทะเบียน (Hold Baggage) ของผู้โดยสารจากระบบ Terminal Screening เป็นแบบ In-line Screening ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับสนามบินสุวรรณภูมิ และได้เปิดดำเนินการเมื่อเวลา ตั้งแต่ 00.00 น.ของวันที่ 1 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา 



นางมนฤดี เกตุพันธุ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต ได้กล่าวว่า จากเดิมที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ได้ดำเนินการใช้มาตรการการรักษาความปลอดภัยสัมภาระลงทะเบียน (Hold Baggage) ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศแบบ Terminal Screening โดยมีการติดตั้งเครื่องเอ็กซ์เรย์จำนวน 9 เครื่อง บริเวณช่องทางเข้า – ออก อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทภก. 


ซึ่งผู้โดยสารจะต้องนำสัมภาระทั้งหมดผ่านการตรวจค้นด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ที่ชานชาลาขาออกก่อนเข้าไปในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ตซึ่งทำให้เกิดความคับคั่งและไม่ได้รับความสะดวกที่บริเวณชานชาลาขาออกนั้น 


และเมื่อเวลา 00.01 น.วันที่ 1 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา ทางท่าอากาศยานภูเก็ต ได้ดำเนินการเปลี่ยนมาตรการการตรวจค้นสัมภาระลงทะเบียน( Hold Baggage) เป็นแบบ In-line Screening โดยดำเนินการย้ายเครื่องเอ็กซ์เรย์ ณ บริเวณช่องทางเข้า – ออก อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ออกทั้งหมด


ซึ่งเมื่อผู้โดยสารเดินทางถึงอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทภก. ผู้โดยสารสามารถนำสัมภาระลงทะเบียน (Hold Baggage) ไปยังเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสารของสายการบินที่จองมา เพื่อเข้าสู่กระบวนการผู้โดยสารขาออกได้ทันที 


โดยกระเป๋าสัมภาระลงทะเบียนจะถูกลำเลียงผ่านระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า ซึ่งมีการติดตั้งระบบตรวจสอบความปลอดภัยไว้ตามมาตรฐานสากลที่องค์การบินพลเรือนกำหนดไว้ ซึ่งการตรวจค้นสัมภาระลงทะเบียนแบบ In-line Screening นี้จะลดปัญหาความแออัดและความคับคั่งที่บริเวณชานชาลาขาออกของอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศได้อีกทางหนึ่ง ในส่วนกระเป๋าที่จะนำติดตัวขึ้นเครื่องก็ยังสามารถนำติดตัวขึ้นไปได้ และยังต้องผ่านขั้นตอนในการตรวจสอบและตรวจค้นเหมือนเดิม 


นางมนฤดี ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่อยากจะฝากผู้โดยสารทุกคนก็คือ ที่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจพบมากก็คือ แบตเตอรี่สำรองสำหรับโทรศัพท์มือถือ หรือ (Power bank) ซึ่งเป็นวัตถุอันตราย ไม่สามารถโหลดใต้ท้องเครื่องได้ ต้องนำขึ้นไปบนเครื่องได้ทางเดียว และหากทางเจ้าหน้าที่ตรวจพบ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะแจ้งไปสายสายการบิน เพื่อติดตามเจ้าของสัมภาระนั้นมาดำเนินการเอา Power bank ออกจากสัมภาระนั้น ซึ่งจะทำให้เสียเวลาในการเดินทาง 


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น