จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2562

น้ำดิบเขื่อนภูเก็ตเหลือน้อย เตรียมขอใช้ขุมน้ำเอกขน

น้ำดิบเขื่อนภูเก็ตเหลือน้อย เตรียมขอใช้ขุมน้ำเอกขน 


เป็นประจำทุกหน้าแล้งของจังหวัดภูเก็ตที่จะประสบกับปัญหาน้ำดิบในการผลิตน้ำประปาลดน้อยลง ทำให้ประชาชนในหลายพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำประปาไม่ไหล โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ทำให้บางส่วนต้องซื้อน้ำจากรถน้ำเอกชนซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง และบางส่วนได้รับการช่วยเหลือจากทางการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดภูเก็ต เทศบาลตำบลรัษฎา และองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ในการจัดหารถน้ำแจกจ่ายให้กับประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน 


นายสมสวัสดิ์ ฉายสินสอน ผู้อำนวยการโครงการชลประทานภูเก็ต กล่าวถึงปริมาณน้ำดิบในเขื่อนเก็บน้ำในความดูแลรับผิดชอบของโครงการชลประทานภูเก็ต ว่า ณ วันที่ 10 เมษายน 2562 ปริมาณน้ำทั้ง 3 เขื่อนเก็บน้ำถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างน้อย โดยมีปริมาณน้ำในเขื่อนเก็บน้ำบางวาด อ.กะทู้ เหลืออยู่ประมาณ 1.32 ลูกบาศก์เมตร หรือประมาณร้อยละ 13 ของความจุในการเก็บกักซึ่งอยู่ที่ 10.2 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนเก็บน้ำบางเหนียวดำ อ.ถลาง มีปริมาณน้ำเหลืออยู่ประมาณ 1.14 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณร้อยละ 16 ของความจุในการเก็บกักที่ 7.2 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนเก็บน้ำคลองกะทะ อ.เมืองภูเก็ต มีปริมาณน้ำ 1.17 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณร้อยละ 27 ของความจุในการกักเก็บที่ 4.32 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยน้ำดิบจากทั้ง 3 เขื่อนเก็บน้ำ ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคเพียงอย่างเดียว 


“ที่ผ่านมาได้มีการประชุมหารือร่วมกับทางจังหวัดภูเก็ต, การประปาส่วนภูมิภาค จ.ภูเก็ต, การประปาเทศบาลนครภูเก็ต รวมถึงประปาของท้องถิ่นต่างๆ อีก 6 ท้องถิ่น เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ ตลอดจนแนวทางในการแก้ปัญหา ซึ่งในส่วนของโครงการชลประทานภูเก็ตได้มีการวางแผนบริหารจัดการการใช้น้ำดิบในเขื่อนเก็บน้ำทั้ง 3 แห่ง 


เพื่อให้สามารถใช้ไปได้จนถึงสิ้นฤดูแล้งในปลายเดือนพฤษภาคมนี้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการปรับลดปริมาณการจ่ายน้ำของแต่ละเขื่อนเก็บน้ำ ในส่วนของเขื่อนเก็บน้ำบางวาดจากเดิมที่เคยจัดสรรให้วันละ 50,000 -60,000 ลูกบาศก์เมตร ปรับลดลงเหลือไม่เกิน 26,000 ลูกบาศก์เมตร ส่วนของเขื่อนเก็บน้ำบางเหนียวดำ จากเดิมวันละ 25,000 ลูกบาศก์เมตร เหลือวันละไม่เกิน 16,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อช่วยให้สามารถมีน้ำใช้ไปได้ตลอดฤดูแล้ง” 


นายสมสวัสดิ์ กล่าวถึงแนวทางการลดผลกระทบจากการปรับลดการจ่ายน้ำ ว่า ได้มีการหารือร่วมกันระหว่างจังหวัดภูเก็ต การประปาส่วนภูมิภาคและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในการหาแหล่งน้ำสำรอง ได้แก่ขุมน้ำหรือขุมเหมืองเดิม ซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ จ.ภูเก็ต ประมาณ 109 แห่ง และมีปริมาณน้ำค่อนข้างมาก หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเจรจากับเจ้าของแหล่งน้ำดังกล่าวเพื่อนำน้ำมาใช้จะทำผลกระทบลดน้อยลง ส่วนระยะกลางและระยะยาว 


ทางโครงการชลประทานภูเก็ตได้มีการทบทวนข้อมูลที่มีอยู่ พบว่ามีการสร้างความมั่นคงในเรื่องของน้ำเพื่ออุปโภคและบริโภคหรือน้ำเพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตได้ เพราะน้ำถือเป็นปัจจัยสำคัญภูเก็ตในสัดส่วนที่ใช้จากอ่างเก็บน้ำของชลประทานซึ่งสูงถึงร้อยละ 70 ของปริมาณน้ำที่ใช้ทั้งหมดของจังหวัด โดยได้มองไปที่ลุ่มน้ำในพื้นที่ อ.ถลาง ซึ่งมีปริมาณน้ำค่อนข้างมาก ประมาณ 70 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อไปแต่ส่วนใหญ่จะไหลลงทะเลทั้งหมดโดยไม่มีการนำมาใช้ประโยชน์เลย
 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น