จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ทัพเรือภาค 3 ปฏิบัติการ “เปิดเรือน เยือนศูนย์"

ทัพเรือภาค 3 ปฏิบัติการ “เปิดเรือน เยือนศูนย์"
เร่งทำความเข้าใจแก้ปัญหาทำประมงผิดกฎหมาย 
หวังปลดล๊อคใบเหลือง IUU เพื่อให้เกิดการยอมรับ 


เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2559 ที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมงภูเก็ต ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต พลเรือโทสุรพล คุปตะพันธ์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 หรือ ศรชล.เขต 3 พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมงภูเก็ต (Phuket Fisheries Port in-Port out Control Center) หรือศูนย์ PIPO ภูเก็ต 


ตามโครงการ “เปิดเรือน เยือนศูนย์” เพื่อรับฟังผลการปฏิบัติงานและปัญหาอุปสรรคของศูนย์ฯ รวมทั้งมอบแนวทางการปฏิบัติงาน โดยมี น.ท.ตุลรัฐ ทับทิมไทย หัวหน้าศูนย์ฯ ประมงจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนจากเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงาน 


พลเรือโทสุรพล กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและขาดการควบคุมหรือ IUU Fishing โดยได้มอบหมายให้กองทัพเรือ จัดตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขการทำประมงผิดกกหมาย หรือ ศปมผ.โดยมีผู้บัญชาการทหารเรือเป็นผู้บัญชาการ โดยมอบหมายให้ศูนย์ประสานการปฏิบัติงานในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 3 (ศรชล.เขต 3) ทำหน้าที่ประสานการปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายในพื้นที่ฝั่งทะเลฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งได้ปฏิบัติงานตั้งแต่ 1 พ.ค.2558 เป็นต้นมา 


โดยมีการจัดตั้งศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือประมงผ่านเข้า-ออกพื้นที่จังหวัดต่างๆ (ศูนย์ PIPO) และการจัดตั้งหมวดเรือเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ศรชล.เขต 3 เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบและจับกุมเรือประมงที่กระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ “การปฏิบัติงานที่ผ่านมาในพื้นที่ ศรชล.เขต 3 เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบและจับกุมเรือประมงที่กระทำผิดกฎหมายตามแนวทางที่ ศปมผ.และ ศรชล เขต.3 กำหนดจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะพี่น้องชาวประมงเป็นไปด้วยดี 


ทำให้สามารถสร้างความเชื่อมั่นและน่าเชื่อถือจากนานาประเทศ แต่ยังมีกลุ่มเรือประมงบางส่วนที่ยังคงฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและแนวทางที่กำหนด ดังนั้นทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังเพื่อให้ประเทศไทยรอดพ้นจากการได้รับใบเหลืองจากสหภาพยุโรปให้ได้เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ”


พลเรือโทสุรพล กล่าวด้วยว่า นอกจากการตรวจเยี่ยมการปฎิบัติงานของศูนยN PIPO แล้ว ยังได้ให้พี่น้องชาวประมง ทั้งผู้ประกอบการ เจ้าของเรือประมง และผู้ควบคุมเรือประมง ตลอดจนสื่อมวลชน เข้าเยี่ยมชม และรับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย และความพร้อมของ ศรชล.เขต 3 ในการเฝ้าติดตามเรือประมงที่ทำการประมงผิดกฎหมายในพื้นที่ 


โดยเฉพาะการติดตามจากระบบติดตามเรือประมง VMS หรือ Vessel Monitoring System ที่เรือประมงพาณิชย์ขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไป จะต้องติดตั้งระบบดังกล่าว และต้องเปิดสัญญาณตลอดเวลา เพื่อให้สามารถตรวจสอบตำแหน่งและพื้นที่ที่ทำการประมงได้ ดังนั้นจึงต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการร่วมมือ ร่วมใจ ร่วมกันแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย IUU ของประเทศไทยให้ประสบผลสำเร็จเกิดความยั่งยืนของทรัพยากรสัตว์น้ำและการยอมรับจากนานาประเทศ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น