จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ผู้บริหารเอ็มเมอรัลแถลงยืนยันยังคงเดินหน้าสร้างต่อ

ผู้บริหารเอ็มเมอรัลแถลงยืนยันยังคงเดินหน้าสร้างต่อ 


เมื่อวันที่ 19 พ.ค.61 ที่โรงแรมดารา อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสาวิตร เกตุโรจน์ ผู้บริหารบริษัท เอ็มเมอรัลด์ ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด พร้อมด้วยผู้บริหารฝ่ายก่อสร้างโครงการฯ ร่วมกันแถลงชี้แจงการพัฒนาโครงการภายใต้การบริหารของเอ็มเมอรัลด์ ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กลุ่มลูกค้าซึ่งตัดสินใจซื้ออาคารชุดของทางบริษัทฯ หลังจากเมื่อเร็วๆ ถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าบางส่วนร้องเรียนว่า ไม่สามารถสร้างคอนโดมิเนียมในโครงการที่บริเวณหาดกะหลิม ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ได้แล้วเสร็จตามกำหนดในสัญญาซื้อขาย โดยมีลูกค้าของโครงการฯ ตัวแทนขาย และสื่อมวลชนเข้าร่วม 


นายสาวิตร เกตุโรจน์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท ภูเก็ตฟิวเจอร์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเอ็มเมอรัลด์ กรุ๊ปฯ ตั้งอยู่ในพื้นที่กะหลิม ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ประกอบด้วย โครงการเอ็มเมอรัลด์ เนอร์วาน่า 1 และ 2 , โครงการเนอร์วานา ลักซ์ และโครงการเจดวิลล่า ไปตามสื่อต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์โครงการอสังหาฯ ของบริษัทในเครือเป็นอย่างมาก รวมถึงยังกระทบกับธุรกิจอสังหาฯ ในจังหวัดภูเก็ตอีกด้วย 


“ขอชี้แจงว่า ตลอด 8 ปี ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ตนและพนักงานของบริษัทฯ ได้ร่วมกันดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่น ชื่อตรง และยึดหลักธรรมาภิบาล เพื่อส่งมอบที่พัก คอนโดมิเนียมที่ดีที่สุดให้ลูกค้า โดยปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 บริษัท ลงทุนคอนโดมีเนียมและอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 6,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการกะทู้กอล์ฟคอนโด โดยบริษัท เอ็มเมอรัลด์ ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด และโครงการดิ เอ็มเมอรัลด์ เทอเรซ คอนโด ป่าตอง โดยบริษัท ภูเก็ตฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว โครงการ ดิ เอ็มเมอรัลด์ - เซ็นทรัล โดย บริษัท ภูเก็ต แคปปิตอล เรียลเอสเตท จำกัด และโครงการ ดิเอ็มเมอรัลด์ ซิตี้ไลฟ์ คอนโด ป่าตอง โดยบริษัท เอ็มเมอรัลด์ ฯ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง, โครงการเอ็มเมอรัลด์ เนอร์วาน่า 1 และ 2 โครงการเนอร์วานา ลักซ์ และโครงการ เจดวิลล่า อยู่ระหว่างการก่อสร้างและรอใบอนุญาตก่อสร้าง นอกจากนี้ยังมีโครงการที่เตรียมดำเนินการ ได้แก่ โรงแรมและรีสอร์ท 5 ดาว” 


นายสาวิตร กล่าวด้วยว่า โครงการอื่นๆ ที่อยู่ในความดูแลนั้นไม่ได้มีปัญหายังคงดำเนินธุรกิจไปได้ แต่ที่มีปัญหาเฉพาะโครงการที่บริหารงานโดยบริษัท ภูเก็ต ฟิวเจอร์ กรุ๊ปฯ ซึ่งเปิดโครงการพร้อมเปิดขายตั้งแต่ปี 2557 ประกอบด้วย โครงการเอ็มเมอรัลด์ เนอร์วาน่า 1 และ 2 โครงการเนอร์วานา ลักซ์ และโครงการ เจดวิลล่า รวมมูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท มียอดขายทั้งโครงการ 941 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 70 ลูกค้าชำระเงินแล้ว 359 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างและทยอยดำเนินการ โดยค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่ชำระแล้ว ได้แก่ ค่าที่ดิน 117 ล้านบาท ค่านายหน้า 56.60 ล้านบาท ค่าก่อสร้างทั้งส่วนการพัฒนาที่ดิน 110 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าบริหาร 68.34 ล้านบาท ไม่รวมเงินลงทุนเพิ่มเติม และชำระภาษีถูกต้องต่อเนื่อง 7.61 ล้านบาท 


“บริษัทมีการลงทุนจริง มีหลักฐานทางบัญชีที่สามารถตรวจสอบได้ แต่ที่ยังไม่สามารถสร้างได้ตามกำหนดที่วางไว้ตั้งแต่เปิดตัวโครงการ แม้ว่าบริษัทจะได้รับใบอนุญาตบางส่วนไปแล้ว ทั้งรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม และใบอนุญาตก่อสร้าง เนื่องจากพื้นที่ก่อสร้าง 36 ไร่ อยู่บนเนินเขาลาดเอียง ต้องใช้ความระมัดระวังทางวิศวกรและสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะงานด้านวิศวกรรมที่บริษัทฯ เน้นความปลอดภัยสูงสุด ทำให้เกิดความล่าช้า จากที่วางแผนให้แล้วเสร็จในปี 60 ได้ปรับเปลี่ยนครั้งที่ 2 ในเรื่องของ EIA และคาดว่าสร้างเสร็จปลายปี 61 แต่ก็ต้องเลื่อนออกไปเป็นครั้งที่ 3 เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายควบคุมสิ่งแวดล้อมฉบับใหม่ และวางแผนว่าจะก่อสร้างให้เสร็จในปลายปี 2562 นี้” 


นายสาวิตร ยังกล่าวด้วยว่า ปัญหาความล่าช้าที่เกิดขึ้นนั้น บริษัทฯ ได้แจ้งให้ลูกค้ารับทราบตลอด โดยมีลูกค้าที่ซื้อโครงการมีทั้งหมด 185 ราย เป็นลูกค้าที่เชื่อมั่นและไว้วางใจ มีลูกค้าที่ขอยกเลิกสัญญา 98 ราย ซึ่งบริษัทฯ ได้ทำแผนชำระเงินคืนและทยอยจ่ายไปแล้วบางส่วน เพื่อดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด และมั่นใจว่าจะดำเนินธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะในระยะนี้เราไม่ได้มีปัญหาสภาพคล่องแล้ว และกำลังมีพันธมิตรใหม่ในการร่วมลงทุนจากต่างประเทศ ส่วนกรณีที่ระบุว่า บริษัทขายห้องคอนโดฯ ซ้ำนั้น ไม่เป็นความจริง โดยห้องจะถูกนำไปขายให้กับลูกค้าคนใหม่ก็ต่อเมื่อลูกค้าคนเดิมยกเลิกสัญญาเท่านั้น เพียงแต่ยังมีข้อมูลยังอยู่ในระบบ ซึ่งที่ผ่านมาเราก็พยายามทำความเข้าใจกับลูกค้ามาโดยตลอด


“กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะทุกอย่างเราทำตามขั้นตอน ซึ่งก็จะได้นำเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นไปประมวลผลหาสาเหตุ และหาแนวทางแก้ไข ขอให้ทางลูกค้ามั่นใจได้ว่า ทุกโครงการที่ทางบริษัทดำเนินการอยู่นั้นจะแล้วเสร็จตามแผนงานที่วางไว้อย่างแน่นอน ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม ที่อ่าวนาง จ.กระบี่ ซึ่งเป็นโครงการที่เกิดจากการร่วมลงทุนระหว่างบริษัทฯ กับเจ้าของที่ดิน แต่เมื่อดำเนินการมาถึงขั้นการก่อสร้างเกิดความคิดที่แตกต่างกัน จึงได้ถอยออกมาและยกเลิกการร่วมลงทุน โดยทางเจ้าของที่ดินได้ดำเนินโครงการต่อแล้ว” นายสาวิตรกล่าว
 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น