จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2556

วางยาพนักงานโรงแรมกวาดทรัพย์สินเพียบ



เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2556 ที่ห้องประชุม ศปก. สภ.กะรน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิทูรย์ กองสุดใจ รอง ผบก.ภูเก็ต พ.ต.อ.วันชัย ปาละวัน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.ท.ภาสกร สนธิกุล รอง ผกก.ป.สภ.วิชิต รักษาการแทน รอง ผกก.ป.สภ.กะรน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 


ได้ร่วมกันประชุมหารือเพื่อติดตามความคืบหน้าคนร้ายก่อเหตุวางยาพนักงานโรงแรมกะรนเพลส ถ.ปฎัฎ ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต พร้อมงัดล็อคเกอร์ ซึ่งใช้สำหรับเก็บสิ่งของมีค่าของผู้เข้าพักจำนวน 21 ล๊อคเกอร์เอาทรัพย์ไปได้จำนวนร่วม 3 ล้านบาท และขโมยเอาเซิร์ฟเวอร์เก็บข้อมูลกล้องวงจรปิดไปด้วย เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา 


ทั้งนี้ พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวภายหลังประชุมหารือกับผู้เกี่ยวข้องว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรน ได้ลงไปตรวจสอบและเก็บรายละเอียดต่างๆ ไว้แล้ว พร้อมทั้งได้ให้นักท่องเที่ยวที่เข้าพักในโรงแรมดังกล่าวและได้นำสิ่งของไปฝากไว้ในล็อคเกอร์มาให้ข้อมูล ซึ่งขณะนี้มีนักท่องเที่ยวมาแจ้งรายละเอียดไว้แล้วส่วนหนึ่ง แต่ยังไม่ครบทุกคนเนื่องจากบางส่วนอาจจะยังไม่ทราบเรื่องเพราะเดินทางไปท่องเที่ยวนอกพื้นที่ และบางส่วนเป็นชาวรัสเซียซึ่งพูดภาษาอังกฤษไม่ได้จะต้องมีล่ามมาช่วยแปล เบื้องต้นคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวที่เสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ประมาณ 21 ราย 


“จากข้อมูลที่ได้เบื้องต้นที่ได้ข้อมูลจากนักท่องเที่ยวพบว่า ทรัพย์สินที่สูญหายส่วนใหญ่จะเป็นเอกสารหนังสือเดินทาง ตั๋วเครื่องบิน เงินสกุลต่างๆ โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูปและอื่นๆ รวมมูลค่าร่วม 3 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของมูลค่าทรัพย์สินนั้นคงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลที่นักท่องเที่ยวแจ้งรายละเอียดไว้กับพนักงานก่อนที่จะมีการนำสิ่งของไปเก็บไว้ในล็อคเกอร์” 


พ.ต.อ.อรุณ กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ก่อเหตุรายนี้ทราบเบื้องต้นว่าเป็นชาวต่างชาติซึ่งยังไม่ทราบสัญชาติ และน่าจะมีมากกว่า 1 คน ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบข้อมูลจากพยานหลักฐานต่างๆ ไม่มั่นใจว่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับคนร้ายที่เคยก่อเหตุที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานีหรือไม่ เนื่องจากมีพฤติกรรมใกล้เคียงกัน โดยการเข้ามาตีสนิทกับพนักงาน และชักชวนให้รับประทานอาหารที่เขาซื้อมา โดยอาจจะมีการใส่ยาจนทำให้มีอาการสลึมสลือ จากนั้นก็ลงมือปฏิบัติการและหลบหนีไป 


อย่างไรก็ตามมีข้อมูลจากแหล่งข่าวรายหนึ่งเพิ่มเติมด้วยว่า คนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นพวกแขกขาว หรือชาวรัสเซีย และมีมากกว่า 3 คน เข้ามาตีสนิทกับพนักงานต้อนรับชาย (กลางคืน) ของโรงแรมดังกล่าว ซึ่งตอนเกิดเหตุได้เข้าเวรอยู่เพียงคนเดียว โดยคนร้ายได้ซื้อเบียร์มา 3 ขวด และมาดื่มที่เคาน์เตอร์โรงแรม พร้อมเข้ามาตีสนิทกับพนักงานคนดังกล่าว และชวนดื่มเบียร์จนเกิดอาการสลึมสลือและสงบไป จากนั้นคนร้ายก็ได้งัดล๊อคเกอร์เก็บทรัพย์สินมีค่าของผู้เข้าพักซึ่งอยู่หลังเคาน์เตอร์พนักงานต้อนรับจำนวน 21 ล๊อคเกอร์ จากจำนวนทั้งหมด 56 ล็อคเกอร์ และได้ขโมยหน่วยบันทึกความจำของกล้องวงจรปิดไปด้วย คาดว่าทรัพย์สินที่คนร้ายขโมยไปครั้งนี้ประมาณ 3 ล้านบาท 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น