เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2557 คณะกรรมการตรวจสอบ ควบคุมการปฏิบัติงานเกี่ยวกับช้างในจังหวัดภูเก็ต นำโดยนายวีรสิฐ พุฒิไพโรจน์ ปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายสมบูรณ์ อัยรักษ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ตัวแทนนายอำเภอกะทู้ ปศุสัตว์อำเภอกะทู้ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ป่าไม้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ภาคใต้ สาขาภาคใต้เขต 2 เป็นต้น
ร่วมตรวจสอบปางช้างนพรัตน์ ตั้งอยู่เลขที่ 18/ 325 หมู่ 6 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบกรณีปางช้างดังกล่าวนำช้างจำนวน 6 เชือก มาจากต่างจังหวัดเข้ามาให้บริการนักท่องเที่ยว โดยไม่ถูกต้องตามประกาศจังหวัดภูเก็ต ซึ่งกำหนดว่าการจะนำช้างเข้ามาในพื้นที่จะต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกำกับดูแลเกี่ยวกับช้างภูเก็ตก่อน
รวมทั้งชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงกับจุดที่มีการนำช้างไปอยู่อาศัยได้ร้องเรียนไปยังนายอำเภอกะทู้ว่า ได้รับผลกระทบจากกลิ่นและเสียงของช้างจนสร้างความเดือดร้อนรำคาญ โดยมีนายทินกร จอมเมือง และนางนพรัตน์ จอมเมือง เจ้าของปางช้าง ตลอดจนควาญช้างดังกล่าวชี้แจงรายละเอียด และนำตรวจสอบภายในบริเวณปางช้าง
จากการตรวจสอบของคณะกรรมการฯ พบว่า ทางผู้ประกอบการได้มีนำช้างจำนวน 6 เชือกดังกล่าวออกจากพื้นที่ไปแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (16 ต.ค.57) โดยนำไปพักไว้ในพื้นที่ อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ และมีหนังสือการรับรองจากหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ดังกล่าวยืนยัน หลังจากนั้นคณะกรรมการฯ ได้ตรวจสอบการให้บริการนั่งช้างของนักท่องเที่ยว ซึ่งมีพื้นที่รวมประมาณ 19 ไร่ ประกอบด้วย ที่ตั้งสำนักงาน ที่พักช้างและเส้นทางนั่งช้าง มีช้างให้บริการ 5 เชือก
เป็นช้างที่มีอยู่เดิมในจังหวัดภูเก็ต และจากการตรวจสอบไมโครชิฟที่ตัวช้างพบว่าถูกต้องตรงกับข้อมูลของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังได้มีการตรวจสอบทั้งพื้นที่พักช้าง การรักษาความสะอาดภายในปางช้าง การดูแลสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยและเส้นทางการให้บริการนั่งช้าง แต่เนื่องจากปางช้างดังกล่าวยังไม่ได้รับอนุญาตถูกต้อง ทางคณะกรรมการฯ จึงแจ้งให้ผู้ประกอบการไปดำเนินการให้ถูกต้อง
โดยนางนพรัตน์ แจ้งต่อคณะกรรมการฯ ว่า เนื่องจากไม่ทราบว่าจะต้องขออนุญาตหน่วยงานใดบ้าง แต่เบื้องต้นได้ยื่นขออนุญาตไปยังสำนักงานธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ฯ แล้ว และได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ฯ ว่าจะต้องมีหลักฐานการขออนุญาตจากเทศบาลเมืองกะทู้ด้วย เพื่อนำไปใช้ประกอบการออกใบอนุญาตธุรกิจนำเที่ยวฯ
ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยในส่วนของตนพร้อมที่จะดำเนินการทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ที่ผ่านมาไม่ทราบรายละเอียด โดยได้เปิดให้บริการมาได้ประมาณ 2 เดือนเศษ มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการเฉลี่ยวันละ 30-40 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หลังจากได้รับคำแนะนำแล้วก็จะไปดำเนินการให้ถูกต้อง เพราะในส่วนของตนก็พร้อมที่จะดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมายอยู่แล้ว
ขณะที่นายนายวีรสิฐ พุฒิไพโรจน์ ปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การมาตรวจสอบปางช้างแห่งนี้ เนื่องจากมีการนำช้างเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต และจากการประชุมของคณะกรรมการฯ ก่อนหน้านี้ได้มีมติว่าให้ทำการผลักดันช้างดังกล่าวออกจากพื้นที่ไปก่อนจึงแจ้งให้ทางผู้ประกอบการทราบ และเมื่อมาตรวจสอบก็พบว่ามีการนำช้างไปไว้ที่ อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ และทางพื้นที่ได้มีหนังสือตอบรับยืนยันมาอย่างถูกต้อง
ดังนั้นจึงขอตรวจสอบพื้นที่ให้บริการว่ามีเพียงพอในการรองรับช้างหรือไม่ รวมทั้งเรื่องสุขภาพช้าง การดูแลสิ่งแวดล้อม และตั๋วรูปพรรณ เพื่อป้องกันการลักลอบใช้ตั๋วรูปพรรณปลอม เบื้องต้นทราบว่าช้างที่ให้บริการอยู่ 5 เชือกนั้น เป็นช้างที่มีอยู่ในจังหวัดภูเก็ตอยู่แล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น