จู่โจมตรวจค้นและตรวจสารเสพติดผู้ต้องขัง

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2557 ที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ต นายระพินทร์ นิชานนท์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ต และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต จำนวนกว่า 75 คน เข้าจู่โจมตรวจค้นเรือนนอนผู้ต้องขังชายและหญิง ภายในเรือนจำจังหวัดภูเก็ต พร้อมสุ่มตรวจปัสสาวะผู้ต้องขังชาย 

ซึ่งจากสุ่มตรวจปัสสาวะในครั้งนี้จำนวน 200 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 2,890 คน เพื่อหาสารเสพติดในร่างกายของผู้ต้องขัง ผลปรากฏว่า พบผู้มีสารเสพติด 1 ราย เป็นผู้ต้องหาเข้าใหม่เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังพบเข็มขัดจำนวนกว่า 10 เส้น มีดคัตเตอร์ จำนวน 2 เล่ม กรรไกร 1 อัน และเหล็กแหลม 1 อัน 

นายระพินทร์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้มีนโยบายสั่งการให้เรือนจำทุกแห่งทั่วประเทศดำเนินการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำของตัวเอง ซึ่งการจู่โจมตรวจค้นของเรือนจำจังหวัดภูเก็ตครั้งนี้ เป็นการดำเนินการโดยเรือนจำเอง โดยได้ประสานขอสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต มาทำการสุ่มตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดของผู้ต้องขังด้วย 

เนื่องจากสุดสัปดาห์นี้เป็นช่วงหยุดยาว เพื่อป้องปราบสิ่งผิดกฎหมายที่จะเข้ามาในเรือนจำ โดยผลการตรวจค้น พบผู้มีสารเสพติด 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาใหม่ และจากการสอบผู้ต้องขังชายคนดังกล่าวบอกว่า ได้เสพยาไอซ์ก่อนที่จะถูกจับกุม นอกจากนี้ยังพบเข็มขัดกว่า 10 เส้น มีดคัตเตอร์ จำนวน 2 เล่ม กรรไกร 1 อัน และเหล็กแหลม 1 อัน โดยสิ่งของทั้งหมดจะนำไปทำลายต่อไป 

“การดำเนินการจู่โจมตรวจค้นนั้น เพื่อรักษามาตรฐานเรือนจำสีขาว ซึ่งได้มีการตรวจค้นเป็นประจำเดือนละ 1 – 2 ครั้ง โดยมีเจ้าหน้าที่เรือนจำฯ เอง และร่วมกับหน่วยงานของทางจังหวัด นอกจากนี้ยังได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเวรยามตลอดจน 24 ชั่วโมง และก่อนผู้ต้องขังออกจากเรือนนอนในแต่ละวันจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราบริเวณริมกำแพงเรือนจำ 

เพื่อป้องกันการโยนสิ่งของเข้ามา พร้อมกันนี้ยังได้ชี้แจงทำความเข้าใจแก่ญาติผู้ต้องขัง เรื่องการห้ามลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายปะปนมากับสิ่งของที่นำมาเยี่ยมผู้ต้องขัง เพราะหากถูกจับกุมได้ ผู้ที่เดือดร้อนนอกจากจะเป็นญาติของผู้ต้องขังแล้ว ยังรวมถึงตัวผู้ต้องขังเองด้วย ซึ่งที่ผ่านมา ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี” นายระพินทร์กล่าว