ผู้ว่าฯ ภูเก็ตและชาวภูเก็ตน้ำตานองหน้าถวายอาลัย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2559 บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานนำหัวส่วนราชการ ข้าราชการ และพสกนิกรชาวจังหวัดภูเก็ตทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมกล่าวถวายอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีประชาชนชาวภูเก็ตทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมกิจกรรมท่ามกลางความเศร้าโศกเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ด้วยกระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ เชิญชวนพี่น้องประชาชน ใน 12 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดสุราษฏร์ธานี จังหวัดสงขลา จังหวัดจันทบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดภูเก็ต จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดตรัง และจังหวัดยะลา พร้อมกัน ณ ศาลากลางจังหวัดเพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณถวายอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี และถวายอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
โอกาสนี้นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถวายอาลัยตอนหนึ่งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เสด็จประพาสจังหวัดภูเก็ตรวม 4 ครั้ง ครั้งที่ 1 ในวันที่ 8 -11 มีนาคม 2502 ทรงเยี่ยมราษฎร อ.ถลาง ต.ป่าตอง อ.กระทู้ และประทับแรม ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, ครั้งที่ 2 ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2510 เสด็จประกอบพิธีเปิดอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าว-ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
ครั้งที่ 3 วันที่ 23 กรกฎาคม 2511 เยี่ยมราษฎรที่หน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต และทรงพระราชทานพระพุทธนวราชบพิตร เพื่อเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดภูเก็ต และครั้งที่ 4 วันที่ 16 เมษายน 2516 ทรงวางพวงมาลาที่อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และเยี่ยมราษฎร ณ เกาะนาคาน้อย อ.ถลาง
ทั้งนี้ตลอดเวลาที่พระองค์ทรงครองราชย์พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวจังหวัดภูเก็ตมาโดยตลอด นำมาซึ่งความปลาบปลื้มปิติของพสกนิกรชาวจังหวัดภูเก็ตอย่างหาที่สุดมิได้ ในนาม ของข้าราชการและพสกนิกรชาวจังหวัดภูเก็ต ขอแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและถวายอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
โดยขอให้สัตย์ปฏิญาณว่าพสกนิกรชาวจังหวัดภูเก็ตทุกหมู่เหล่า จะตั้งมั่นเจริญรอยตามพระยุคลบาท สืบสานพระราชปณิธาน ที่จะรักษาบ้านเมืองให้เป็นแผ่นดินทอง มีความรักความสามัคคีสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้บ้านเมือง
ตลอดจนจะน้อมนำพระบรมราโชวาท และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ได้พระราชทานไว้มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตตราบจนชีวิตจะหาไม่ และพระองค์จะสถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ นายโชคชัยกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น