เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2557 ที่อาคาร Terminal X ท่าอากาศยานภูเก็ต นายนิรันดร์ ธีรนาทสิน กรรมการ ทอท.รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นางมนฤดี เกตุพันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญ 10 รักษาการผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) แถลงข่าวในโอกาสครบรอบ 26 ปี ในวันที่ 8 ตุลาคมนี้
พร้อมก้าวเข้าสู่ปีที่ 27 ท่าอากาศยานภูเก็ต ภายหลังได้ประกอบพิธีทำบุญ เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ผู้นำชุมชน ภาคเอกชน และตัวแทนสายการบิน ตลอดจนผู้ประกอบการภายในท่าอากาศยานภูเก็ตเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
นายนิรันดร์ กล่าวว่า ท่าอากาศยานภูเก็ตเปิดให้บริการมาครบรอบ 26 ปี และพร้อมก้าวสู่ปีที่ 27 ด้วยการเดินหน้าพัฒนาศักยภาพด้านบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกให้มีความพร้อมทุกด้าน เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบิน และเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านกิจการขนส่งทางอากาศและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน
โดยในปีงบประมาณ 2557 (ต.ค.56-ก.ย.57) ท่าอากาศยานภูเก็ตมีอัตราการเติบโตของผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีผู้โดยสารจำนวน 11,275,805 80 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.70 มีเที่ยวบิน จำนวน 74,501 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.13 และมีจำนวนสินค้า 39,644 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.92
นายนิรันดร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทอท.ได้กำหนดวิสัยทัศน์เพื่อก้าวสู่การเป็น “ผู้ดำเนินการและจัดการท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก” (AOT Operates The World’s Smartest Airports) พร้อมทั้งได้กำหนดบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ของท่าอากาศยานภูเก็ตเป็นประตูสู่อันดามัน (Gateway to the Andaman) ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามบทบาททางยุทธศาสตร์ ทาง ทอท.จึงได้กำหนดให้มีการดำเนินการตามแผนงานโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้นในอนาคตให้ได้มาตรฐานสากล เพื่อเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคต่อไป
ซึ่งการก่อสร้างดังกล่าวใช้งบประมาณ 5,146.7 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2559 ทำให้ท่าอากาศยานภูเก็ตสามารถรองรับผู้โดยสารจากเดิม 6.5 ล้านคนต่อปี เป็น 12.5 ล้านคนต่อปี ขีดความสามารถของทางวิ่งรองรับได้ 20 เที่ยวต่อชั่วโมง เพิ่มหลุมจอดอากาศยานจากเดิม 15 หลุม เป็น 25 หลุมจอด เพิ่มสะพานเทียบเครื่องบินจากเดิม 7 ชุด เป็น 11 ชุด เพิ่มพื้นที่จอดรถจาก 500 คัน เป็นประมาณ 1,500 คัน ซึ่งขณะนี้อาคารจอดรถยนต์ดังกล่าวอยู่ระหว่างเตรียมการเปิดใช้อาคารอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตามนายนิรันดร์ ยังกล่าวด้วยว่า เนื่องจากท่าอากาศยานภูเก็ตมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้น ทำให้ไม่สามารถขยายพื้นที่การให้บริการได้อีก เพราะหากมีการถมทะเลหรือตัดภูเขาก็จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยจากการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อเร็วๆ นี้ เห็นว่า ควรจะพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตให้เป็นท่าอากาศยานที่มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารระดับพรีเมี่ยมได้มากขึ้น
โดยเจาะกลุ่มตลาดเป้าหมายที่เป็นสายการบินใหญ่ๆ หรือเส้นทางบินของกลุ่มมหาเศรษฐีที่ใช้เครื่องบินส่วนตัว เพราะปัจจุบันกลุ่มนี้มีความต้องการที่จะเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา แต่เชื่อมั่นว่าภายหลังจากโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตแล้วเสร็จทั้งหมด ท่าอากาศยานภูเก็ตจะมีความพร้อมในการรองรับผู้ใช้บริการกลุ่มพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น
ขณะที่นางมนฤดี เกตุพันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญ 10 รักษาการผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวเสริมว่า ในช่วงที่มีการ่อสร้าง ได้มีการวางแผนในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการให้ได้มากที่สุดภายใต้ข้อจำกัดที่มีอยู่ เนื่องจากจะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว เช่น การให้บริการลานจอดรถ ซึ่งจะมีการเปิดใช้อาคารลานจอดรถใหม่ชั้น 2 และ 3 ให้ได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ มีการจัดทำหลังคาเชื่อมต่ออาคารที่จอดรถกับอาคารโดยสาร เป็นต้น และจะมีการสื่อสารให้ผู้โดยสารได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง และเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดก็จะทำให้เห็นภาพลักษณ์ใหม่ของสนามบินภูเก็ตอย่างแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น