จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ไฟไหม้ห้องเก็บของศาลเจ้าแม่ย่านางภูเก็ต




เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2557 ร.ต.อ.วีระชาติ สีห์รา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ตได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในศาลเจ้าซัมส้านเที่ยนเฮากึ้ง หรือศาลเจ้าแม่ย่านาง ถ.กระบี่ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง ภูเก็ต ขอให้ประสานรถดับเพลิง เพื่อมาสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังห้องข้างๆ หลังรับแจ้งก็ได้ประสานไปยังหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต พร้อมทั้งรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ


จากนั้นก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย ร.ต.อ.วิชัช คงทาไหว รอง สวป.สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต พร้อมด้วยรถดับเพลิง จำนวน 4 คัน 


ที่เกิดเหตุเป็นศาลเจ้าซัมส้านเที่ยนเฮากึ้งหรือศาลเจ้าแม่ย่านางเป็นหนึ่งในศาลเจ้าหรืออ๊ามเก่าแก่ของ จ.ภูเก็ต โดยก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2396 ปัจจุบันมีอายุกว่า 161 ปี และในแต่ละปีศาลเจ้าแห่งนี้จะมีชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาสักการะเป็นจำนวนมาก 


เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางถึงพบกลุ่มควันและเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ภายในห้องเก็บเครื่องใช้และปะทัดด้านข้างอาคารศาลเจ้าหรืออ๊าม ประกอบกับภายในห้องเก็บของมีกระดาษทอง และประทัด ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีเป็นจำนวนมาก 


นอกจากนี้ยังมีเสียงปะทัดดังขึ้นตลอดเวลา และกำลังจะลุกลามไปยังภายในศาลเจ้า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องระดมฉีดน้ำเพื่อระงับเพลิงอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เวลากว่า 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เบื้องต้นค่าเสียหายกว่า 5 แสนบาท เนื่องจากเพลิงได้เผาไหม้ผนังและตัวอาคารภายในห้องเก็บเครื่องใช้-ปะทัดเสียหาย ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้นั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ภูเก็ต 


ทั้งนี้จากการสอบถามนางสายจนา ช่วยสงค์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/1 ม.5 ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ก่อนเกิดเหตุได้เข้าไปชงน้ำชาถวายองค์เทพอยู่ห้องประชุม และได้ยินเหมือนเสียงไฟฟ้าช๊อตดังขึ้นมา จึงได้รีบวิ่งออกมาดู เมื่อมาถึงเห็นควันพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก และเห็นไฟกำลังลุกไหม้อยู่ จึงได้วิ่งออกไปเรียกชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงมาช่วยดับ แต่ก็ไม่สามารถดับได้เนื่องจากไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาช่วยดับในที่สุด 


จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครภูเก็ตและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตมาถึงที่เกิดเหตุ และสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ มิฉะนั้นเพลิงอาจลุกลามและเผาไหม้ตัวศาลเจ้าได้รับความเสียหายได้ ส่วนสาเหตุคาดว่าอาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรภายในห้องเก็บเครื่องใช้และลุกลามไปติดปะทัดที่เก็บไว้ ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น