จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553

เครือข่ายประชาชนฯภูเก็ตกว่าพันคนให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล



เมื่อเวลา 15.30 น.ของวันที่ 19 เมษายน 2553 ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลาง จ.ภูเก็ต เครือข่ายประชาชน คนรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จังหวัดภูเก็ต จำนวนกว่า 1,000 คน นำโดยนายมนู เขียวคราม และนายมงคล รัตนะ พร้อมด้วยพระบรมสาธิตลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ ธงชาติไทย ธงตราสัญลักษณ์ และแผ่นป้ายผ้าข้อความต่างๆ เช่น ชาวภูเก็ตจะร่วมปกป้องชาติ สถาบัน เราคนไทยสีเดียวกัน, เชื่อมั่นประเทศไทย เชื่อมั่นอภิสิทธิ์, หยุดการเนรคุณแผ่นดินเกิด หยุดล้างสมองผู้ชุมนุมที่บริสุทธิ์ หยุดเอาผู้ชุมนุมเป็นโล่ห์มนุษย์, ชาวภูเก็ตไม่ต้องการยุบสภา, หยุดทำร้าย ทำลายบ้านเมือง, ชาวภูเก็ตจะร่วมปกป้องชาติ สถาบัน เราคนไทยสีเดียวกัน เป็นต้น ได้อ่านแถลงการณ์และยื่นแถลงการณ์ให้กำลังใจและสนับสนุนนายกรัฐมนตรีไม่ให้ยุบสภาฯ และไม่ให้ลาออก ผ่านทางนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

ทั้งนี้นายมนู เขียวคราม แกนนำอ่านแถลงการณ์ ความว่า เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่ากลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งได้รวมตัวเรียกร้องกดดันให้นายกรัฐมนตรียุบสภาหรือลาออกจากการบริหารประเทศ โดยได้ยกเหตุผลในการเรียกร้อง ว่า เป็นรัฐบาลที่มาจากเผด็จการทหาร ทั้งๆ ที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ตามวิถีทางประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการเสนอชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีก็มีคู่แข่งตามครรลองประชาธิปไตยในสภาผู้แทนราษฎร และผ่านการลงคะแนนเสียงของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจนได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี แต่กลุ่มคนเสื้อแดง โดยการนำของสามเกลอภายใต้การบงการของ นช.ทักษิณ ชินวัตร ได้พยายามใส่ร้ายป้ายสี ขัดขวางการบริหารประเทศของนายกฯ และรัฐบาลมาโดยตลอด ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จจนทำให้ประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าใจผิดเกลียดชัง มุ่งทำร้ายและทำลายตลอดเวลา

นอกจากนี้ในการชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดงกว่าหนึ่งเดือนได้ข่มขู่ คุกคาม มาดร้าย ต่อตัวนายกฯ และพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ จนกลายเป็นกลุ่มอันธพาลครองเมือง สร้างความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นอย่างมาก ประชาชนชาวไทยและชาวจังหวัดภูเก็ตที่ได้ติดตามข่าวจากสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ สรุปได้ว่าการชุมนุมเรียกร้องกดดันให้ นายกฯ ยุบสภาทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข ได้ใช้มาตรการต่างๆ ไม่สอดคล้องกับกฎหมายที่ให้สิทธิกับประชาชนในการเรียกร้องหรือตรวจสอบการบริหารประเทศของรัฐบาล อีกทั้งข้อเรียกร้องไม่ได้ทำเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่ทำเพื่อ นช.ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียวเท่านั้นและได้จาบจ้วงสถาบันสูงสุดของประเทศอย่างไม่ยำเกรงกฎหมายของบ้านเมืองแต่ประการใด

“ท่ามกลางสถานการณ์ที่เกิดความแตกแยกอย่างรุนแรงนี้ เราขอให้กำลังใจ นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้บริหารประเทศต่อไป อย่าได้ยุบสภาหรือลาออกโดยเด็ดขาด เรามีความเชื่อว่าประชาชนชาวไทยทั้งประเทศมีความเข้าใจเห็นใจนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพราะท่านได้ทำหน้าที่ นายกฯ ของประชาชนคนไทยทั้งประเทศอย่างแท้จริง เราพร้อมจะยืนเคียงข้างท่านและพร้อมจะสนับสนุนท่านในการแก้ไขปัญหาวิกฤตชาติให้ผ่านพ้นให้ได้ เราเชื่อใจ มั่นใจ ในตัวท่าน นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น