เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2558 ที่บริเวณบ่ออนุบาลกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลอันดามัน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหาอยาก นำโดยนายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายากฯ พร้อมด้วยสัตวแพทย์หญิงพัชราภรณ์ แก้วโม่ง สัตวแพทย์ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายากฯ และเจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ร่วมกันผ่าพิสูจน์ซากพะยูนขนาดใหญ่ สภาพหัวขาด ซึ่งชาวบ้านพบตายอยู่กลางทะเลระหว่างเกาะยาวใหญ่ และเกาะยาวน้อย จ.พังงา เมื่อวานนี้ (3 พ.ย.58) เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง
นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายากฯ กล่าวว่า พะยูนตัวดังกล่าวเป็นตัวเต็มวัยเพศผู้ มีอายุมากกว่า 40 ปี น้ำหนัก 330 กิโลกรัม ยาวประมาณ 3 เมตรเศษ สภาพหัวถูกตัดออกไป เหลือเพียงส่วนลำตัวไปถึงส่วนหาง ซึ่งเป็นภาพที่หดหู่มา จากการผ่าชันพิสูจน์เบื้องต้น พบว่า สภาพบาดแผลของหัวที่ตัดออกไปเป็นการตัดหลังจากที่พะยูนตายแล้ว เนื่องจากไม่พบว่ามีเลือดไหลคั่งบริเวณบาดแผล และบริเวณกระดูกสันหลังด้านบนมีรอยหักเป็นทางยาวประมาณ 50 เซนติเมตร คล้ายถูกกระแทกอย่างแรง ซึ่งของแข็งนี้ไม่น่าจะเกิดจากคนตี เพราะไม่มีแรงมากพอกับพะยูนที่มีความยาว 3 เมตร แต่น่าจะเกิดจากการกระแทกของเรือ และยังพบรอยของการรัดด้วยเชือกใต้ครีบทั้งสอง เพื่อดึงขึ้นมาจากน้ำ
อย่างไรก็ตามในส่วนของการตัดหัวของพะยูนนั้น คาดว่าคนร้ายน่าจะต้องการเอาเขี้ยวของพะยูนไปทำเครื่องรางของขลังตามความเชื่อ ซึ่งที่ผ่านมาเคยพบซากพะยูนที่ตายในทะเลบางส่วนส่วนจะถูกเลาะเขี้ยวออกไป แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการรณรงค์กันอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้มีการฆ่าพะยูน เพื่อนำไปทำเครื่องรางของขลัง ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลที่ 6 ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐานแล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
สำหรับพะยูนตัวดังกล่าว เป็นพะยูนที่อาศัยอยู่อ่าวพังงา บริเวณเกาะยาว จ.พังงา ซึ่งฝูงนี้มีประมาณ 10-15 ตัว ก่อนหน้านี้บริเวณดังกล่าวในรอบ 15 ปี มีพะยูนตายมาแล้วประมาณ 10 ตัว สาเหตุส่วนใหญ่มาจาก โดนเรือชน ติดอวนของชาวประมง ติดโป๊ะ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น