เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2554 ที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ต นายระพินทร์ นิชานนท์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงาน “วันพบญาติผู้ต้องขัง” เพื่อให้ญาติผู้ต้องขังได้เข้ามาเยี่ยมผู้ต้องขังอย่างใกล้ชิด โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักมีญาติของผู้ต้องขังนำอาหารและเครื่องดื่มมาเยี่ยมผู้ต้องเป็นจำนวนมาก แม้จะมีการตรวจอย่างเข้มงวด ซึ่งงานดังกล่าวมีกำหนด 3 วันระหว่างวันที่ 13-15 กันยายน 2554 และกำหนดให้เยี่ยมได้วันละ 2 รอบ รอบเช้าตั้งแต่เวลา 09.00-11.00 น. และรอบบ่ายเวลา 13.00-15.00 น. ผู้ต้องขังหนึ่งคนสามารถให้ญาติเข้ามาเยี่ยมได้ 10 คน และจะต้องเป็นญาติที่มีความสัมพันธ์ทางสายโลหิต เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง ลูก และสามี ภรรยา ที่มีทะเบียนสมรส
นายระพินทร์ กล่าวว่า ด้วยกรมราชทัณฑ์มีนโยบายในการให้ผู้ต้องขังได้พบหน้าและพูดคุยกับญาติอย่างใกล้ชิด เพื่อทำให้ผู้ต้องขังไม่รู้สึกโดดเดี่ยว แต่ยังมีคนที่คอยห่วงใยและรักใคร่อยู่ในการที่ผู้ต้องขังจะต่อสู้กับชีวิตต่อไป ซึ่งในการจัดวันพบญาติของผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดภูเก็ตครั้งนี้ มีผู้ต้องขังที่เข้าข่ายได้พบญาติจำนวนประมาณ 300 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องขังที่ความประพฤติดี ไม่เคยทำผิดกฎระเบียบของเรือนจำ ไม่มีปัญหาเรื่องยาเสพติดและเป็นผู้ต้องขังที่ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี
สำหรับผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดภูเก็ตปัจจุบันมีทั้งหมด 1,561 คน แบ่งเป็นนักโทษหญิง 205 นักโทษชาย 1,300 กว่าคน ทั้งที่เรือนจำภูเก็ตรองรับนักโทษได้เพียง 700-800 คนเท่านั้น ทำให้เกิดปัญหาแออัดมากๆ เดิมมีโครงการที่จะขยายเรือนจำไปที่บางโจ อ.ถลาง เพื่อลดความแออัด แต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้ ทำ ทั้งนี้ผู้ต้องหาส่วนใหญ่เป็นผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมากกว่า 80% และมีชาวต่างชาติประมาณ 38 คน เป็นคดีเกี่ยวกับยาเสพติดและฉ้อโกง นายระพินทร์กล่าว
จากการสอบถามผู้ต้องขังหลายรายกล่าวตรงกันว่า กิจกรรมวันนี้ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ดี และมีกำลังใจมากยิ่งขึ้น และพร้อมที่จะเป็นคนดีกลับคืนสู่สังคม และยอมรับว่าคิดถึงคนที่บ้านไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ภรรยา บุตร ตลอดจนเพื่อนๆ จะยังคงให้ความใยและเอาใจใส่อยู่ โดยทางญาติๆ ได้นำอาหารซึ่งผ่านการตรวจของเจ้าหน้าที่แล้วมารับประทานร่วมกันด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น