เมื่อวันที่ 27 พฤษภคาคม 2557 ที่บริเวณสนามชัย หน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต อ.เมือง ภูเก็ต เครือข่ายชาวนาและประชาชนในจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ เครือข่ายการศึกษานอกโรงเรียน เครือข่ายเกษตรกรจังหวัด ตัวแทนชาวนา กลุ่มสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดน กลุ่มนักศึกษาวิชาทหาร และนิสิตนักศึกษา ข้าราชการและประชาชน จำนวนประมาณ 700 คน
นำโดยนายธนดล ยืนยงค์ นางสาวปิยวรรณี ชุมแคล้ว และนายนิโอะ นิมุ ยื่นหนังสือขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการเร่งรัดจ่ายเงินให้ชาวนาตามโครงการรับจำนำข้าวและมอบดอกไม้เป็นกำลังใจในการทำงานของทหาร
โดยมีพล.ต.พีรพล วิริยากุล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 เป็นผู้แทนรับมอบ นอกจากนี้ยังมีนาวาเอกกฤษฎา รัตนสุภา รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมคณะทหารเข้าร่วม
นายธนดล ยืนยงค์ ผู้แทนชาวนาในจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เล็งเห็นถึงความเดือดร้อน ความทุกข์ยากของชาวนา ที่ได้รับผลกระทบจากการจำนำข้าวกับรัฐ ซึ่งยังไม่ได้รับเงินค่าข้าว ทำให้ส่งผลกระทบต่อชาวนาอย่างรุนแรง ทั้งการประกอบอาชีพที่ต้องอาศัยเงินลงทุนอย่างต่อเนื่อง การทวงถามหนี้สินที่เกิดจากการกู้มาทำนา รวมทั้งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และการดำรงชีวิตประจำวันในครอบครัว เช่น ค่าใช้จ่ายของบุตรหลานในการไปโรงเรียน
ซึ่งในปัจจุบันได้มีการสั่งการจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้มีการจ่ายเงินดังกล่าวให้กับชาวนา จึงต้องขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นอย่างสูงในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวนาและขอเป็นกำลังใจให้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะทหารทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมือง ขจัดปัดเป่าปัญหาทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ประเทศชาติก้าวหน้าต่อไป
ด้านพล.ต.พีรพล วิริยากุล กล่าวว่า ในฐานะผู้แทนแม่ทัพภาคที่ 4 และหัวหน้า คสช.ต้องขอขอบคุณทุกองค์กรที่เดินทางมามอบดอกไม้ให้กำลังใจ ขณะนี้ตามความมุ่งหมายของหัวหน้า คสช. คือ ต้องการยุติความขัดแย้ง และให้ประเทศเกิดความสงบสุข จึงต้องเข้ามาดำเนินการในหลายเรื่องอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณของประเทศที่ยังติดค้าง ทำให้นโยบายต่างๆของทุกกระทรวงฯไม่เดินหน้า
จึงต้องเร่งให้เศรษฐกิจหมุนเวียนเกิดสภาพคล่อง รวมถึงเงินค้างจ่ายของชาวนา ซึ่งขณะนี้ได้อนุมัติงบประมาณและเริ่มจ่ายให้กับชาวนาแล้ว ขณะเดียวกันก็ต้องขอภัยที่พี่น้องประชาชนรู้สึกไม่ค่อยสะดวกสบายทั้งในการดำเนินชีวิต ช่วงประกาศเคอร์ฟิว การสั่งยุติการเผยแพร่ออกอากาศในบางช่องสถานีของสื่อฯต่างๆ โดยคาดว่าทาง คสช.จะทยอยยกเลิกประกาศต่างๆที่กระทบกับการใช้ชีวิตเป็นปกติในเร็วๆนี้
สำหรับในจังหวัดภูเก็ตได้สั่งการให้ทุกหน่วยไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ตำรวจ ทหาร ดูแลความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยว ถึงแม้จะมีขีดจำกัดอยู่บ้าง แต่จากการลงพื้นที่ก็พบว่าในช่วงก่อนเวลาประกาศเคอร์ฟิว 22.00 น.ทั้งประชาชนนักท่องเที่ยวมีการใช้ชีวิตกันอย่างปกติ และในเวลาตั้งแต่ 22.00 น. เป็นต้นไป
บรรดาผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามทำความเข้าใจ และยืดหยุ่นให้กับผู้ที่มีความจำเป็นต้องออกจากเคหะสถานตามประกาศของ คสช. ส่วนทางด้านการข่าวขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการเคลื่อนไหวต่อต้านหรือต้องการก่อความรุนแรงใดๆ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตามขณะนี้ที่จังหวัดภูเก็ตได้มีการส่งกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมยุทโธปกรณ์เบาเข้ามาดูแลความปลอดภัยร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองต่างๆ เช่น ที่ด่านตรวจท่าฉัตรไชย อ.ถลาง โดยมีการกำชับไม่ให้กำลังเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปดูแลความสงบในพื้นที่ชุมชน พื้นที่สาธารณะ และแหล่งท่องเที่ยว มีการพกพาหรือแสดง อาวุธ เพื่อป้องกันการแตกตื่นของประชาชนและนักท่องเที่ยว พล.ต.พีรพล กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น