จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ตร.ถลางรวบยาบ้ากว่า 7,000 เม็ด และอาวุธปืนอาก้า




เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.ถลาง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว รอง.ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิศิษฐ์ ชื่นเพ็ชร รอง.ผกก.สส. สภ.ถลาง พ.ต.ท.อำนวย ไกรวุฒิอนันต์ รอง.ผกก.ป.สภ.ถลาง พ.ต.ท.ยงยุทธ กรองมาลัย พนักงานสอบสวนชำนาญการ สภ.ถลาง และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวการกวาดล้างจับกุมยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ 



โดยได้จับกุมนายศรันยู สาลี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/11 หมู่ 4 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 7,455 เม็ด อาวุธปืนยาวชนิด เอเค 47 (อาก้า) จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนสั้นแบบไทยประดิษฐ์จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 6 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 (เอ็ม 16) จำนวน 5 นัด อุปกรณ์เสพยาบ้า 1 ชุด โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง รถจักรยานยนต์ 1 คัน และเงินสด 4,600 บาท หลังชุดสืบสวน สภ.ถลาง 


สำหรับการจับกุมครั้งนี้ ด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า มีการลักลอบนำยาบ้าเป็นจำนวนมากเข้ามาซุกซ่อนอยู่ที่ขนำไม่มีเลขที่ริมป่าชายเลน บ้านพารา หมู่ 4 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง พร้อมอาวุธปืนสงคราม โดยมีการลำเลียงยาเสพติดมาทางเรือหางยาวจากพื้นที่ จ.พังงา เข้ามายังบ้านพารา ต.ป่าคลอก อ.ถลาง เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบและการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณด่านตรวจภูเก็ต บ้านไม้ขาว อ.ถลาง จึงนำกำลังเข้าดักซุ่มและติดตามพฤติกรรมที่บริเวณดังกล่าว 


และเมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา พบรถจักรยานยนต์ ต้องสงสัยว่า อาจเป็นรถที่มีส่วนเกี่ยวข้องขี่เข้าไปจอดบริเวณหน้าขนำ ทราบภายหลังคนขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวคือ นายกฤษฎา และคนซ้อนท้ายคือ นายอดิศักดิ์ ไม่ทราบนามสกุลและอายุ ชุดสืบสวนที่ดักซุ่มอยู่ จึงเข้าปิดล้อมและแสดงตัวเข้าตรวจค้น แต่ทั้งสองคนวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าชายเลนและหายตัวไป โดยภายในขนำพบนายศรันยูอยู่เพียงลำพัง ตรวจค้นพบยาบ้าและอาวุธปืนสงคราม-อาวุธปืนและเครื่องกระสุนดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ในขนำ 


ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง อันเป็นความผิดฐาน ร่วมกับพวกที่หลบหนีมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมายและร่วมกับพวกที่หลบหนีมีเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 


เบื้องต้นนายศรันยูให้การปฏิเสธไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับยาบ้าและอาวุธปืนที่พบ แต่ยอมรับว่าได้เข้ามาซื้อยาบ้ากับนายดำ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าตรวจค้นและถูกจับกุมในที่สุด อย่างไรก็ดีจากการตรวจสอบประวัติย้อนหลังนายศรันยู พบว่าเคยถูกจับกุมครอบครองยาบ้าจำนวน 90 เม็ดและถูกศาลตัดสินจำคุกจนกระทั่งเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น