เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2557 ที่ห้องบอลรูม โรงแรมเพิร์ลภูเก็ต นางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการ “บริจาคดวงตา อวัยวะ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 60 พรรษา” ซึ่งทางสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ตจัดขึ้น
โดยมีพระคุณเจ้าสัมปันโน ภิกขุ นางวาสนา ทิพญพงศ์ธาดา รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต นางวิภาพรรณ คูสุวรรณ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต สมาชิกกาชาดจังหวัดภูเก็ต วิทยากร คณะครู นักเรียนและนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ ใน จ.ภูเก็ตเข้าร่วม
นางวิภาพรรณ กล่าวว่า โครงการ “บริจาคดวงตา อวัยวะเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 60 พรรษา จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกา ผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา สนับสนุนและส่งเสริมให้มีการบริจาคดวงตา อวัยวะมากขึ้น
นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยเหลือผู้ป่วยที่รอปลูกถ่ายอวัยวะ สร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการบริจาคดวงตา อวัยวะ และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอดให้แก่ผู้อื่น อีกทั้งเพิ่มจำนวนผู้แสดงความจำนงบริจาคดวงตา อวัยวะ และให้ผู้เข้าร่วมโครงการตระหนักถึงความจำเป็นและความสำคัญของการบริจาคดวงตา อวัยวะ
ในปีงบประมาณ 2558 เหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต มุ่งมั่นที่จะดำเนินการประชาสัมพันธ์สรรหาผู้แสดงความจำนงบริจาคดวงตา อวัยวะ ให้ได้มากกว่า 2,000 คน ซึ่งจะดำเนินการ ในเชิงรุก คือ จัดการอบรมให้ความรู้แก่ทุกกลุ่ม เช่น กลุ่มเยาวชน บุคคลวัยทำงาน บุคคลวัยทำงาน กลุ่มอาสาสมัคร ข้าราชการ เป็นต้น
นอกจากนี้จะประชาสัมพันธ์ขอรับบริจาคดวงตา อวัยวะ ไปพร้อมๆ กับการออกหน่วยรับบริจาคโลหิตในสถานที่ต่างๆ โดยคาดว่าในปีนี้ประชาชนในจังหวัดภูเก็ตจะมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการรับบริจาคดวงตา อวัยวะมากขึ้น และจะได้จำนวนผู้แสดงความจำนงบริจาคเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน นางวิภาพรรณกล่าว
ขณะที่นางสาวสมหมาย กล่าวเพิ่มเติมว่า การปลูกถ่ายอวัยวะเป็นการรักษาเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่อวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ ปอด ตับ ตับอ่อน ไต ล้มเหลว เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง แต่การปลูกถ่ายอวัยวะจะสำเร็จได้ต้องมีอวัยวะจากผู้อื่นที่บริจาคให้ และอวัยวะบริจาคนี้มาจากผู้บริจาค 2 กลุ่ม กลุ่มผู้บริจาคที่มีชีวิต ซึ่งอวัยวะที่สามารถบริจาคได้ คือ ไตและตับ
โดยผู้บริจาคกลุ่มนี้ต้องเป็นญาติหรือคู่สมรสของผู้รับอวัยวะเท่านั้น หากผู้รออวัยวะไม่มีญาติหรือคู่สมรสที่สามารถบริจาคอวัยวะให้กันได้ เช่น อวัยวะที่เข้ากันไม่ได้ ผู้บริจาคมีสุขภาพไม่สมบูรณ์ เป็นต้น ก็ต้องรออวัยวะจากกลุ่มที่สอง คือ ผู้บริจาคที่เสียชีวิตจากสมองตาย ซึ่งผู้บริจาคสมองตายสามารถบริจาคหัวใจ ปอด ตับ ตับอ่อน ไต ให้แก่ผู้อื่นได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น